บทที่ 85 : ความตกตะลึงบรรพบุรุษเย่เจิ้น
บทที่ 85 : ความตกตะลึงบรรพบุรุษเย่เจิ้น
การยอมจํานนของราชวงศ์ต้าเสวี่ยได้บดขยี้กำลังใจของกองกําลังอีกสามราชวงศ์
เพื่อความอยู่รอดและรักษาสายเลือดของพวกเขา….พวกเขาทั้งหมดต่างก็เลือกที่จะยอมจํานนเช่นกัน
และเซี่ยจือซวนก็ซื่อสัตย์ต่อคําสัญญาของตน
เธอได้มอบดินแดนให้พวกเขา, ตราบใดที่พวกเขาไม่สร้างปัญหาเธอก็จะไม่ดําเนินการใดๆ
เเละหลังจากกลืนกองกําลังหลักของราชวงศ์ทั้งสี่
ความแข็งแกร่งของต้าเซี่ยก็พุ่งสูงขึ้นอย่างมากมายมหาศาล
ราชวงศ์ต้าเซี่ย, ได้เข้าสู่ตําแหน่งราชวงศ์ใหญ่อย่างเป็นทางการแล้ว
อย่างไรก็ตาม, ยังมีหนทางอีกยาวไกลก่อนที่จะถึงการได้เป็นราชวงศ์ของจักรพรรดิ
แม้ว่าต้าเซี่ยจะกลืนกินดินแดนไปมาก….แต่มันก็ไม่ได้ใหญ่ที่สุดในสายตาของอีกหลายราชวงศ์
นับประสาอะไรกับราชวงศ์ของจักรพรรดิ
แต่สําหรับเซี่ยจือซวน….เเค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
เเละในช่วงเวลาแห่งการก้าวไปสู่ราชวงศ์ของจักรพรรดิเช่นนี้
ฐานการฝึกตนของเธอก็พุ่งสูงขึ้นด้วยความเร็วราวกับจรวด
เธอฝ่าคอขวดของอาณาจักรพระราชวังสีม่วงโดยตรงและก้าวเข้าสู่อาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์
และนี่ไม่ใช่จุดจบการฝึกตนของเธอ, มันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งไปหยุดที่ขั้นที่สี่ของอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์
การปรับปรุงการฐานฝึกตนเช่นนี้น่าประหลาดใจมาก
เเละถ้าเธอสามารถเพิ่มโชคของราชวงศ์ได้อีกห, เธอก็จะสามารถบรรลุอาณาจักรถ้ำสวรรค์ได้ในระยะเวลาอันสั้น
นี่คือเอฟเฟกต์และความสามารถที่นํามาโดยพรสวรรค์ร่างกายจักรพรรดินี
อย่างไรก็ตาม, มันก็ยังมีความเสี่ยงอยู่บ้าง
เเละนั่นคือ ถ้าราชวงศ์ถูกทําลายลง
ไม่เพียงแต่การฝึกตนของเธอจะถดถอย….แต่โชคของเธอก็จะลดลงจนอาจจะต้องเผชิญกับอันตรายจากความตาย
เเต่ถ้าราชวงศ์ยังอยู่มันก็จะไม่มีปัญหาอะไร
นอกจากนี้, การปรับปรุงของเซี่ยจือซวนยังนํามาซึ่งการพัฒนาของอัจฉริยะในราชวงศ์ต้าเซี่ย
อัจฉริยะของราชวงศ์ต้าเซี่ยไม่มากก็น้อย….ต่างได้ทะลุผ่านอย่างน้อยหนึ่งขั้นของอาณาจักร
ทุกวันนี้อาณาจักรพระราชวังสีม่วงไม่ได้เป็นกำลังหลักในราชวงศ์อีกต่อไป…..เเต่เป็นอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์ที่เป็นกำลังหลัก
นอกจากนี้, การปรับปรุงความแข็งแกร่งของต้าเซี่ยก็ดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่อตระกูลเย่เช่นกัน
ณ ขณะนี้…..โชคของทั้งตระกูลเย่ก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน
ฐานการฝึกตนของเหล่าอัจฉริยะในตระกูลก็เริ่มทะยานขึ้นไม่เเพ้เหล่าอัจฉริยะของราชวงศ์
เย่ว์รู่ชวงและสีคงหมิงเยว่ได้บุกทะลวงเข้าสู่อาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์โดยตรง
จ้าวชิงเกอและโม่ซีจุนก็กําลังก้าวไปสู่อาณาจักรพระราชวังสีม่วง
เมื่อเทียบกับเย่ว์รู่ชวงเเล้ว, ความสามารถและพรสวรรค์ของผู้หญิงสองคนนี้ด้อยกว่าเล็กน้อย….ดังนั้นความก้าวหน้าของพวกเธอจึงช้าลงตามธรรมชาติ
อย่างไรก็ตามผู้หญิงสองทั้งคนไม่ได้ให้ความสําคัญกับการฝึกตนมากนัก
พวกเธอสนใจการดูแลเเละมีความสุขกับลูกๆมากกว่า
เเละไม่เพียงแต่ลูกๆของพวกเธอเองเท่านั้น….แต่พวกเธอยังปฏิบัติต่อลูกๆของคนอื่นอย่างเท่าเทียมกัน
สิ่งนี้ยังทําให้เด็กหลายคนใกล้ชิดกับพวกเธอมากขึ้น
ส่วนเย่หวู่ชางนั้นไม่รู้เรื่องเหล่านี้โดยธรรมชาติ
ในขณะนี้เขาอยู่ช่วงเก็บตัวฝึกตนอยู่
[ใช้คะแนนโชคลาภ 10 ล้านคะแนน …..ความเข้าใจของโฮสต์เกี่ยวกับเจตนาดาบได้มาถึงขั้นที่แปดแล้ว!]
ครืนนนนนน~~~!
ด้วยการปรากฏของพลังนี้, เย่หวู่ชาง รู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังจะระเบิด
ภายในร่างกายของเขา, เจตนาดาบที่ทรงพลังอยู่แล้วได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
จากนั้นเจตนาดาบนี้ก็เริ่มส่งผลกระทบไปทุกทิศทาง
บูมมมมม~~~!
ในที่สุด, เจตนาดาบที่เหนือกว่าเจตนาดาบขั้นที่เจ็ดก็ถูกปล่อยออกมาอย่างน่าสะพรึงกลัว
ผู้ฝึกดาบจํานวนนับไม่ถ้วนภายในรัศมีหลายล้านกิโลเมตร ต่างรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนในใจของพวกเขา…..เเละพวกเขาพบว่าพวกเขามีปัญหาในการจับดาบของตน
เเละในภูเขาด้านหลังตระกูล
เย่เจิ้นซึ่งกำลังพักผ่อนอยู่ก็รู้สึกได้ถึงเจตนาดาบที่น่าสะพรึงกลัวนี้
ทันใดนั้น, ดวงตาของเขาก็เผยให้เห็นถึงความประหลาดใจและความชื่นชม
"ฐานการฝึกตนอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์เเละเจตนาดาบขั้นที่แปดด้วยอายุเท่านี้…..ช่างเป็นอัจฉริยะที่ท้าทายสวรรค์อย่างแท้จริง!"
ณ ขณะนี้….เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
หลังจากเดินทางไกลมาหลายร้อยปี เขานั้นได้พบกับอัจฉริยะมามากมายนับไม่ถ้วนเเละเขาก็ได้เห็นผู้คนทุกประเภท
แต่คราวนี้, เย่หวู่ชางได้ทําให้เขาตกตะลึงอย่างแท้จริง
เขารู้ว่ารุ่นเยาว์คนนี้ไม่ธรรมดา….แต่เขาก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพิเศษขนาดนี้
ในขณะนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงรากฐานเต๋าที่หายไปอย่างถาวรของตัวเองและความคิดหนึ่งก็เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
"บางที การติดตามเขาอาจจะทำ
ให้ข้ามีโอกาสได้รับการฟื้นฟูรากฐานเต๋าก็ได้"
ด้วยเหตุนี้, ความหวังที่เขาสูญเสียไปแล้ว….ได้กลับมาถูกจุดประกายอีกครั้ง
ณ ขณะนี้
เย่หวู่ชางไม่ได้ทราบเลย, ว่าเขาได้รับความสนใจจากบรรพบุรุษสูงสุดของเขาแล้ว
เเละหลังจากครึ่งเดือนของการฝึกตนอย่างต่อเนื่อง….ในที่สุดเขาก็เสร็จสิ้นการรวมเจตนาดาบอันทรงพลังนี้ไว้ในร่างกายของเขาเอง
นอกจากนี้, การปรับปรุงเจตนาดาบนี้ยังทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในความแข็งแกร่งของเขา
ความจริง, ยิ่งผู้ฝึกตนก้าวหน้าในขอบเขตของเจตนาดาบมากเท่าไหร่….ขั้นต่อไปมันก็จะยิ่งยากมากขึ้นเท่านั้น
ปกติเเล้วขั้นที่เจ็ดของเจตนาดาบจะถูกเรียกว่าความเชี่ยวชาญ, ขั้นที่แปดจะถูกเรียกว่าจุดสูงสุด, ขั้นที่เก้าจะถูกเรียกว่าความสมบูรณ์แบบ, และขั้นที่สิบจะถูกเรียกว่าความสมบูรณ์เเบบขั้นสูงสุด
สี่ขั้นนี้ได้รับการยอมรับจากอัจฉริยะผู้ทรงพลังนับไม่ถ้วนว่ายากที่สุดที่จะไปถึงได้
ณ บัดนี้….เมื่อเย่หวู่ชางลืมตาขึ้นอีกครั้ง แสงอันน่าสะพรึงกลัวก็ส่องผ่านดวงตาของเขาออกมา
“หลังจากฝึกฝนมานาน, ในที่สุดแก่นแท้และจิตวิญญาณทั้งหมดของข้าก็ได้มาถึงสภาวะแห่งความสมบูรณ์แบบอันยิ่งใหญ่….ตอนนี้เป็นเวลาที่จะบุกทะลวงไปยังอาณาจักรถ้ำสวรรค์เเล้ว!”
ณ ขณะนี้, เย่หวู่ชางไม่สามารถระงับตัวเองได้อีกต่อไป
ออร่าอันน่าสะพรึงกลัวได้พุ่งออกมาจากร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง
บนร่างกายของเขาออร่าที่น่าสะพรึงกลัวได้มาบรรจบกันและลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
ณ บัดนี้….ฐานการฝึกตนของเขากําลังจะก้าวไปสู่ขั้นที่เก้าของอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์
เเละเพื่อสิ่งนั้น, เย่หวู่ชางได้ทำการกระตุ้น, กระดูกขั้นสูงสุด, ร่างกายศักดิ์สิทธิ์–ดาบสวรรค์, ดวงตาคู่พิเศษ, และเลือดมังกรที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของเขาทั้งหมดให้ปลดปล่อยพลังมาบรรจบกันและกระชากเข้าสู่ร่างกายของเขา
ตูมมมมมม~~~!!
กร๊าสสสสส~~~!!
พร้อมกับเสียงคํารามของนกศักดิ์สิทธ์คุนเผิง
ออร่าอันสง่างามนับไม่ถ้วนก็ปะทุขึ้นอย่างบ้าคลั่งออกมาจากร่างกายของเย่หวู่ชาง
ขั้นที่เก้าของอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์….เขาทะลวงสำเร็จเเล้ว
…….
หลังจากนั้น, เขาก็ใช้เวลามากกว่าสิบวันในการทําให้ฐานการฝึกตนของเขามีเสถียรภาพและเริ่มการฝึกตนครั้งต่อไป
ณ ขณะนี้, เย่หวู่ชางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ…..เขายิ้มจางๆและหยิบการ์ดทะลวงอาณาจักรออกมา
เป็นเวลานานแล้วที่เขาใช้มันครั้งล่าสุด, และคราวนี้ก็ถึงเวลาที่จะใช้มันอีกครั้ง
เย่หวู่ชางบดขยี้มันโดยตรงและการ์ดทะลวงอาณาจักรก็กลายเป็นกลุ่มพลังงานแสงสุดขั้วเเละเข้าสู่ร่างกายของเขา
การฝึกตนของเขาที่เพิ่งมีเสถียรภาพเริ่มเดือดขึ้นอีกครั้ง
ตันเถียนในร่างกายของเขาได้รับเบิดพลังออกมาอย่างยิ่งใหญ่
เส้นลมปราณขยายตัวตลอดเวลาและพรสวรรค์ทั้งสามได้มาบรรจบกันอย่างสมบูรณ์
ทันใดนั้น, แสงสีม่วงนับไม่ถ้วนพุ่งไปยังความว่างเปล่ารอบๆ….พร้อมเปล่งออร่าอันน่าสะพรึงกลัวที่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
ในขณะนี้ภายในพระชาชวังสีม่วงของเขาได้การสั่นสะเทือนครั้งใหญ่
มันราวกับว่าสวรรค์และโลกกําลังถูกพลิกคว่ำ….ราวกับว่ากำลังมีคนเปิดโลกใบใหม่
ความปั่นป่วนอันน่าสะพรึงกลัวนี้ได้กินเวลานานโดยไม่ทราบสาเหตุ
หลังจากนั้น, ลำแสงสีม่วงหลายเส้นก็ระเบิดโดยตรงจากพระราชวังสีม่วงราวกับเเสงอาทิตย์สีม่วงในยามรุ่งอรุณ
ต่อจากนั้น, ลําแสงนี้ยังคงเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆภายในพระราชวังสีม่วงเเละค่อยๆเผยให้เห็นโลกใบใหม่
โลกถ้ำสวรรค์!
นี่คือโลกถ้ำสวรรค์ที่ถูกเปิดโดยเย่หวู่ชาง
โลกถ้ำสวรรค์ภายในพระราชวังสีม่วงได้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
เเละลำเเสงสีม่วงหนาแน่นดูเหมือนจะพบช่องทางและเทลงในนั้น
ด้วยการรวมแสงสีม่วงแต่ละเส้น….โลกถ้ำสวรรค์ของเย่หวู่ชางก็ได้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจนมีขนาดหลายพันเมตร
ยิ่งกว่านั้นดูเหมือนว่ามันยังไม่มีความตั้งใจที่จะหยุด
ถ้าใครได้มาเห็นฉากนี้ก็คงต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน
สําหรับผู้ฝึกตนอาณาจักรถ้ำสวรรค์ ทั่วๆไป….โลกของถ้ำสวรรค์ของพวกเขาในตอนแรกจะมีความยาวประมาณหนึ่งพันกิโลเมตรเท่านั้นและสามพันกิโลเมตรก็ถือว่าเป็นขีดจํากัดแล้ว
แม้แต่อัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่บางคนก็สามารถเข้าถึงได้เเค่ขนาดห้าพันกิโลเมตรเท่านั้น
แต่ตอนนี้โลกถ้ำสวรรค์ของเย่หวู่ชาง ได้ขยายทะลุห้าพันกิโลเมตรและกําลังก้าวไปสู่ขนาดหมื่นกิโลเมตร
จนกระทั่งโลกถ้ำสวรรค์ของเขาทะลุขนาดหมื่นกิโลเมตร….ลำเเสงสีม่วงที่ไม่มีที่สิ้นสุดรอบโลกถ้ำสวรรค์ของเย่หวู่ชางก็ยังคงไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย
สองหมื่นกิโลเมตร!
สามหมื่นกิโลเมตร!
สี่หมื่นกิโลเมตร!
ตูมมมมม~~~!
ไม่มีใครรู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน
ในที่สุด, เมื่อลำเเสงสีม่วงเส้นสุดท้ายพุ่งเข้าไปในโลกถ้ำสวรรค์
โลกถ้ำสวรรค์ของเขาก็ขยายตัวมาถึงขนาดเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าสิบเก้ากิโลเมตร
นี่เป็นขีดจํากัดของโลกถ้ำสวรรค์ในขั้นเเรกเเล้ว
ห่างจากหลักแสนกิโลเมตรเพียงก้าวเดียว
ในขณะเดียวกันหัวใจของเย่หวู่ชางก็ยังคงเต้นอย่างรุนแรงอยู่
แต่ละจังหวะการเต้นของมันเปรียบเสมือนเสียงของกลองสวรรค์ที่เขย่าหัวใจของผู้อื่น
ในแต่ละจังหวะ, เลือดทั้งหมดในร่างกายของเขาได้ไหลเวียนผ่านโลกถ้ำสวรรค์เเละทำให้ร่างกายของเขาผ่านการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล
ในที่สุดหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง
พลังศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสะพรึงกลัวก็ปะทุออกมาจากร่างกายของเขา
ครืนนนนน~~~!
แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวของผู้ฝึกตนอาณาจักรถ้ำสวรรค์ได้เเผ่ออกไปทุกทิศทางโดยมีเขาเป็นจุดศูนย์กลาง
ตระกูลเย่ทั้งหมดรู้สึกถึงพลังกดขี่ที่แข็งแกร่ง….ราวกับว่าโลกถ้ำสวรรค์อันยิ่งใหญ่กําลังกดทับร่างกายของพวกเขา
เเละในส่วนลึกของภูเขาด้านหลัง
เย่เจิ้นค่อยๆลืมตาขึ้น, เเละการจ้องมองของเขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงอีกครั้ง
"ความกดดันอันน่าสะพรึงกลัวของอาณาจักรถ้ำสวรรค์….เเถมเพียงแค่ทะลุทะลวงขั้นเเรกก็มีพลังเหนือกว่าการดํารงอยู่ของอ๋องอาณาจักรถ้ำสวรรค์บางคนเเล้ว”
“นี่มันน่าเหลือเชื่อมาก!”
เย่เจิ้นตกตะลึงจนพูดไม่ออก
ตอนนี้ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจมากมาย
ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่เขาได้ใช้ชีวิตในตระกูลเย่….เขาได้ตระหนักว่าตระกูลเย่ในวันนี้นั้นมีความพิเศษมากเพียงใด
และทั้งหมดเป็นเพราะเย่หวู่ชาง
ในกองกําลังธรรมดา, มันเป็นเรื่องยากมากที่จะมีอัจฉริยะอย่างจ้าวชิงเกอและโม่ซีจุนปรากฏตัวขึ้นมา
เเต่สำหรับตระกูลเย่พวกเขายังมีเย่ว์รู่ชวง, สีคงหมิงเยว่ และบุคคลที่มีอํานาจอื่นๆอีกมากมาย
นอกจากนี้, เขายังได้เห็นลูกหลานของเย่หวู่ชางเเล้ว
เเละเมื่อเขาได้เห็นเด็กเหล่านั้นที่ต่างก็มีพรสวรรค์ขั้นสูงทุกคน….หัวใจของเขาก็สั่นสะท้านทันที
ปฏิกิริยาแรกของเขาคือการรีบซ่อนพลังของเด็กเหล่านี้ให้ดีที่สุด
ใครจะไปจินตนาการได้ว่าในบรรดาบุตรและธิดาของเย่หวู่ชางไม่มีใครธรรมดาแม้แต่คนเดียว
เเละในเวลานี้, เขามีแรงกระตุ้นที่อยากจะกักขังเย่หวู่ชาง
และใช้เขาเพื่อการเพาะพันธุ์เหล่าอัจฉริยะตัวน้อยให้มากขึ้น
…………………….