ตอนที่แล้วบทที่ 5 สุขสันต์วันเกิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 7 ตั้งตารอการแสดงของนาย

บทที่ 6 ขอบคุณครับคุณพ่อ


บทที่ 6 ขอบคุณครับคุณพ่อ

เศษกระดาษปลิวว่อนไปทั่ว กระทบสายตาของทุกคน

ไม่มีใครคาดคิดว่า ในขณะที่พวกเขากำลังถกเถียงกันอย่างดุเดือด ฉู่เฉินกลับฉีกเอกสารการหย่าทิ้งทันใด แถมยังพูดว่า สุขสันต์วันเกิด

หรือว่า เขาคิดว่าการฉีกเอกสารครั้งนี้ เป็นของขวัญวันเกิดให้ซ่งเหยียน?

ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ไม่มีพันธนาการของเอกสารการหย่า ให้ซ่งเหยียนเป็นคนตัดสินใจ นี่คือของขวัญวันเกิดจากฉู่เฉิน

ซ่งเหยียนมองไปที่ฉู่เฉินผ่านช่องว่างของเศษกระดาษที่กำลังปลิวว่อน ใบหน้าที่คุ้นเคยแต่ก็ดูแปลกตา

เธอคือคนที่รู้จักฉู่เฉินดีที่สุดในตระกูลซ่ง เธอรู้สึกว่า ฉู่เฉินในวันนี้ แตกต่างจากปกติ

ปัง!

ซ่งชิวทุบโต๊ะอย่างแรง ลุกขึ้นยืน จ้องไปที่ฉู่เฉินด้วยความโกรธ “ฉู่เฉิน นายรู้ไหมว่านายกำลังทำอะไรอยู่?”

ตอนที่พวกเขากำลังชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย ฉู่เฉินกลับฉีกเอกสารการหย่าทิ้งโดยตรง นั่นก็เท่ากับว่าเขาตัดสินใจแทนตระกูลซ่งแล้ว

อย่างน้อย ในคืนนี้ ในงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบ 23 ปีของซ่งเหยียน ฉู่เฉินก็ยังคงเป็นลูกเขยของตระกูลซ่ง

ทุกคนต่างก็จ้องไปที่ฉู่เฉินด้วยความโกรธ

“คุณชายเย่รู้เรื่องเอกสารการหย่าฉบับนี้” ซูเยว่เซียนมีโทสะอย่างเห็นได้ชัด “พ่อของลูกก็สัญญากับคุณชายเย่แล้วว่า จะประกาศเรื่องการเซ็นชื่อในเอกสารการหย่าฉบับนี้ต่อหน้าสาธารณชนในงานเลี้ยงคืนนี้ ให้คนในทุกวงการของเมืองฉานรู้ว่าลูกกลับมาเป็นโสดแล้ว แต่ตอนนี้...” ซูเยว่เซียนชี้ไปที่ซ่งเหยียน นิ้วของเธอสั่นเทาด้วยความโกรธ “เหยียนเหยียน ลูกสอนฉู่เฉินมายังไง?”

ซ่งเหยียนมองไปที่ฉู่เฉินอย่างตกตะลึง

ครู่หนึ่งต่อมา

ซ่งเหยียนพยักหน้า “ขอบคุณ”

ห้าปี

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่เฉินพูดว่า ‘สุขสันต์วันเกิด’ กับเธอ

ดวงตาของซ่งเหยียนมีน้ำตาคลอ ความรู้สึกน้อยใจในใจของเธอพลุ่งพล่านออกมาทันที

เพิ่งอายุครบ 18 ปี ที่บ้านก็หาลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านให้เธอ แถมยังเป็นคนปัญญาอ่อนอีก

เธอไม่มีสิทธิ์เลือก

วันนี้ เมื่อครบกำหนดห้าปี ที่บ้านก็เร่งให้เธอไปเอาใจคุณชายตระกูลเย่

“ฉันเป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งในบ้านนี้งั้นเหรอ?” ซ่งเหยียนพยายามอย่างหนักที่จะไม่ร้องไห้ ดวงตาของเธอกวาดมองทุกคน สุดท้ายก็จับจ้องไปที่ซ่งเสียหยาง “คุณพ่อ ห้าปีก่อน คุณพ่อพูดกับหนูว่ายังไง?”

ร่างกายของซ่งเสียหยางสั่นสะท้านราวกับถูกไฟฟ้าช็อต เขาไม่กล้าสบตากับลูกสาว

“เหยียนเหยียน” ซูเยว่เซียนเห็นว่าดวงตาของซ่งเหยียนแดงก่ำ ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ถอนหายใจเบาๆ กล่าวว่า “จริงๆ แล้ว แม้ว่าตระกูลซ่งจะผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ก็ไม่ค่อยดี น้องชายของลูกยังเด็ก ตระกูลซ่ง ยังต้องพึ่งพาลูกสาวสามคน ช่วยกันออกแรง”

“ในเมืองฉาน ตระกูลที่สามารถเทียบกับตระกูลเย่ได้ นับนิ้วได้เลย” หลินซิ่นผิงกล่าว “เย่เส้าหวงยิ่งเป็นบุคคลสำคัญในหมู่คนรุ่นใหม่ของวงการธุรกิจเมืองฉาน โอกาสแบบนี้ต้องคว้าเอาไว้ให้ได้”

“คนหนึ่งเป็นคนปัญญาอ่อน อีกคนหนึ่งคือเย่เส้าหวง ทางเลือกนี้ ยากจริงๆ เหรอ?” ซ่งหยุน พี่สาวคนโตของตระกูลซ่ง อดไม่ได้ที่จะพูด

“ถ้าอีกฝั่งของคนปัญญาอ่อน เปลี่ยนเป็นตระกูลเซี่ย และอิสระภาพของซ่งเหยียนล่ะ?” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาทันที

เป็นฉู่เฉินอีกแล้ว

คนตระกูลซ่งรู้สึกว่า วันนี้ฉู่เฉินพูดมากกว่าห้าปีที่ผ่านมารวมกันซะอีก

ปกติเขายอมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ได้แต่ยืนยิ้มโง่ๆ อยู่ข้างหลังซ่งเหยียน

“ฉู่เฉิน ที่นี่ไม่มีสิทธิ์ให้นายพูด” โจวเจี้ยน พี่เขยคนที่สอง หลุดปากพูดออกมา

พี่สาวคนที่สองของตระกูลซ่งก็ขมวดคิ้ว “วันนี้ไอ้ปัญญาอ่อนคนนี้เป็นอะไรไปเนี่ย”

ซ่งเหยียนก็มองไปที่ฉู่เฉินเช่นกัน

ฉู่เฉินยิ้มให้ซ่งเหยียน จากนั้นก็ก้าวไปข้างหน้า

บังซ่งเหยียนเอาไว้ข้างหลัง

เมื่อเห็นฉากนี้ ซ่งเหยียนก็รู้สึกสับสน

ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่มีคนรังแก หรือแกล้งฉู่เฉิน เธอจะเป็นฝ่ายยืนอยู่ข้างหน้าฉู่เฉินเพื่อปกป้องเขา

วันนี้ มันกลับตรงกันข้าม

ฉู่เฉินกำลังปกป้องเธองั้นเหรอ?

“ฉันไม่รู้ว่าตระกูลเซี่ยกับตระกูลเย่ ใครแข็งแกร่งกว่ากัน แต่ฉันรู้ว่า สำหรับตระกูลซ่งแล้ว ตระกูลเซี่ยสำคัญกว่า” ฉู่เฉินพูดอย่างเรียบๆ “ตระกูลเย่ ก็แค่เย่เส้าหวงสนใจซ่งเหยียน นอกจากนั้นแล้ว เขาจะสามารถมอบผลประโยชน์ที่แท้จริงอะไรให้กับตระกูลซ่งได้? ต่อให้มี ก็คงไม่ใช่ตอนนี้ ส่วนตระกูลเซี่ย เพราะตระกูลซ่งต้องการลองทำธุรกิจยา ถ้าสามารถร่วมมือกับตระกูลเซี่ยได้ ก็จะสามารถเข้าสู่เส้นทางที่ถูกต้อง เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตระกูลซ่งได้อย่างรวดเร็ว”

ซ่งชิวขมวดคิ้ว “ฉู่เฉิน นายกำลังพูดจาไร้สาระอะไร”

“ฉันกำลังพูดว่า...” ฉู่เฉินสบตากับซ่งเสียหยางอย่างไม่เกรงกลัว “สิ่งที่ตระกูลซ่งต้องการในท้ายที่สุด คือพึ่งพาคนอื่น หรือการทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น?”

รูม่านตาของซ่งเสียหยางหดเล็กลงโดยไม่รู้ตัว

คำถามนี้ของฉู่เฉิน เหมือนกับปัดเป่าม่านหมอกจนเห็นท้องฟ้า เขาพูดได้ตรงประเด็น

พลังที่อยู่เบื้องหลังเย่เส้าหวงหมายถึงการพึ่งพาคนอื่น ส่วนตระกูลเซี่ย ถ้าร่วมมือกันสำเร็จ ความแข็งแกร่งของตระกูลซ่งก็จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

เพียงแต่ สิ่งที่ซ่งเสียหยางรับไม่ได้คือ คำพูดเหล่านี้กลับออกมาจากปากของฉู่เฉิน

ไม่ใช่แค่ซ่งเสียหยาง ในตอนนี้ คนอื่นๆ ก็รู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

ในความคิดของพวกเขา คำพูดเหล่านี้ไม่มีทางออกมาจากปากของฉู่เฉิน

“หรือว่าเป็นคุณชายเซี่ย” หลินซิ่นผิงหลุดปากพูดออกมา

แววตาของทุกคนเป็นประกาย

ใช่แล้ว

คำพูดเหล่านี้ ต้องเป็นคุณชายเซี่ยสอนให้ฉู่เฉินพูดแน่ๆ

“คุณชายตระกูลเซี่ยก็มีความสามารถอยู่เหมือนกัน สามารถทำให้ฉู่เฉินจำคำพูดพวกนี้ได้” ซ่งหยุนพูดอย่างประชดประชัน

อย่างไรก็ตาม ทุกคนต่างก็รู้ดีว่า คำพูดของฉู่เฉิน ทำให้ความคิดของซ่งเสียหยางสั่นคลอนแล้ว

ต้องการพึ่งพาคนอื่น หรือต้องการทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ถ้าเลือกได้แค่หนึ่งอย่าง ซ่งเสียหยางจะเลือกอย่างหลังโดยไม่ลังเล

“หนึ่งวัน” ฉู่เฉินเอ่ยปากอีกครั้ง “พรุ่งนี้เวลานี้ ถ้าฉันสามารถบรรลุข้อตกลงความร่วมมือกับตระกูลเซี่ยได้ งั้นก็ขอให้เคารพซ่งเหยียนสักครั้ง ให้เธอเป็นคนตัดสินใจด้วยตัวเองสักครั้ง ถ้าฉันทำไม่ได้ ฉันจะออกจากตระกูลซ่งไปทันที”

ทุกคนต่างก็ตกตะลึง

ไอ้ปัญญาอ่อนคนนี้ เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

คืนนี้เกิดอะไรขึ้น?

“หรือว่าคนโง่ถึงจะมีโชคจริงๆ? ตอนที่พลังแห่งโชคชะตาของฉู่เฉินหมดลง เขาก็ไม่โง่แล้ว” ซ่งชิ่งมองไปที่ฉู่เฉิน ทันใดนั้นก็หัวเราะเยาะออกมา “แต่ทำเป็นฉลาด ในสายตาของคนอื่น ยิ่งโง่เข้าไปใหญ่”

ความร่วมมือกับตระกูลเซี่ย ตระกูลซ่งเตรียมการมาอย่างยากลำบาก สุดท้ายก็ต้องให้คุณปู่เป็นคนออกหน้า ถึงจะได้โอกาสพบปะพูดคุยที่ได้มาอย่างยากลำบาก

เห็นได้ชัดว่าตระกูลเซี่ยไม่สนใจ

แต่ฉู่เฉินกลับพูดออกมาเต็มปากว่า จะบรรลุข้อตกลงความร่วมมือกับตระกูลเซี่ยภายในหนึ่งวัน

“นายจะทำได้ยังไง?” หลินซิ่นผิงอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย “พึ่งความโง่เง่าของนายเหรอ?” หลินซิ่นผิงรู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก ทำไมคนที่คุณชายเซี่ยต้องการพบ ถึงเป็นฉู่เฉิน ไม่ใช่เขา

หนึ่งวัน!

ซ่งเหยียนยืนอยู่ข้างหลังฉู่เฉิน กำชายเสื้อตัวเองโดยไม่รู้ตัว

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ถูกปกป้อง

แม้ว่าจะไม่ได้รู้สึกปลอดภัยมากนัก แต่ในใจของเธอก็ยังคงอบอุ่น

“ฉันให้เวลาเธอหนึ่งวัน” ซ่งเสียหยางจ้องไปที่ฉู่เฉิน ตัดสินใจ

“คุณพ่อ!” คนอื่นๆ อดไม่ได้ที่จะร้องอุทาน

ซ่งเสียหยางโบกมือ ทุกคนก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก

ในตระกูลซ่ง ซ่งเสียหยางมีอำนาจเด็ดขาด

ซ่งเสียหยางจ้องไปที่ฉู่เฉิน ส่ายหน้าเบาๆ “ฉันตอบตกลง ไม่ใช่เพราะเชื่อใจเธอ แต่เป็นเพราะ เธอไม่สามารถมอบของขวัญวันเกิดให้เหยียนเหยียนได้ งั้นก็ให้ฉันในฐานะพ่อมอบให้ก็แล้วกัน”

บรรลุข้อตกลงความร่วมมือกับตระกูลเซี่ยภายในหนึ่งวัน มันคือฝันลมๆ แล้งๆ

แบบนี้ก็ดี

ตัวเองให้โอกาสฉู่เฉิน ใจของเหยียนเหยียนก็จะสบายขึ้นบ้าง ความรู้สึกต่อต้านในใจของเธอ อาจจะน้อยลงบ้าง

ซ่งเสียหยางมองไปที่ฉู่เฉินพร้อมกับรอยยิ้มเหมือนจิ้งจอกเฒ่า

ฉู่เฉินก็ยิ้มเช่นกัน ดวงตาของเขาดูไร้เดียงสา “ขอบคุณครับคุณพ่อ”

ใบหน้าของซ่งเสียหยางแข็งค้างไปชั่วขณะ

ฉู่เฉินไม่ได้เรียกผิด

เอกสารการหย่ายังไม่ได้เซ็น เขายังคงเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านของตระกูลซ่ง

แต่ในสายตาของซ่งเสียหยาง ไม่เคยมีสักวินาทีที่เขาคิดว่าฉู่เฉินเป็นลูกเขยของเขา

การเรียกแบบนี้ของฉู่เฉิน ทำให้เขารู้สึกอึดอัด บรรยากาศที่กดดันของเขาเมื่อกี้ หายไปในพริบตา

ทุกคนยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็มีเสียงเคาะประตูห้องประชุม

ซ่งหรูไห่เดินเข้ามา “ท่านหัวหน้าตระกูล คุณชายเย่มาถึงแล้วครับ บอกว่า...เตรียมของขวัญวันเกิดมาให้คุณหนูสาม”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด