ตอนที่แล้วบทที่ 431 : หนึ่งเหรียญทอง (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 433 : หนึ่งเหรียญทอง (3)

บทที่ 432 : หนึ่งเหรียญทอง (2)


บทที่ 432 : หนึ่งเหรียญทอง (2)

“ฮานแล้วที่นั้นมีกี่คนล่ะ?”

ณ สถานที่นัดพบบริเวณรอบนอกป่า

เจนน่าเดินเข้ามาหาฉันแล้วถาม

“เยอะมาก นับไม่ไหว”

“มีมากมายขนาดนั้นเลยเหรอ?!”

“มันแย่มากที่ฉันหายใจไม่ออก ป่าทั้งป่าเต็มไปด้วยกลิ่นสาบสัตว์แปลกๆ”

คิชาช่าย่นจมูกของเธอ

คาทีโอที่กำลังตรวจสอบวงกลมเวทย์มนตร์ค้นหาที่ตั้งตรงมุมห้องก็เปิดปากของเขาพูดบางอย่างออกมา

“บางทีกองทัพของคริสตจักรก็อยู่ในป่าเช่นกัน ถ้ารวมสัตว์ประหลาดและกองทัพของคริสตจักรเข้าด้วยกัน กองกำลังมันจะไม่เกินหมื่นคนเลยเหรอ?”

"หมื่นคน? นั่นมันค่อนข้าง…รุนแรงมาก”

“ฉันมาอยู่ในสถานที่แบบนี้ได้ยังไง? ฉันถูกหลอกให้มาที่นี้”

คาทีโอพูดด้วยสีหน้าสิ้นหวัง

เฟรียซิสปิดปากเธอแน่นด้วยสีหน้ามืดมน

ทุกคนมีท่าทีการแสดงออกที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

"ฉันควรทำอย่างไรดี? มีวิธีที่ดีกว่านี้ไหม? เราพยายามทำให้อะเซนิสเปลี่ยนใจ ดังนั้นฉันเดาว่ามันก็มรโอกาสที่พวกเขาจะช่วยเราใช่ไหม?”

หากเขาช่วยเราหากเป็นเช่นนั้นเราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้

แม้ว่าผู้สืบทอดและกองกำลังจะถูกกำจัดออกไป แต่พลังตระกูลอะเซนิสจะไม่ถูกทำลาย

จากคำบอกเล่าของเฟรียซิสพวกเขายังคงมีกองกำลังจำนวนมาก

พวกเขาแค่ไม่ต้องการช่วยเรา

"ฉันเสียใจ ถ้าเพียงแค่ฉันโน้มน้าวได้ดีขึ้น….”

เฟรียซิสก้มศีรษะของเธอต่ำลงกว่าเดิม

“มันไม่ใช่ความผิดของเธอ สิ่งที่ผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ”

ในสถานการณ์แรกของทาวน์เนีย เราจะดำเนินภารกิจต่อไปพร้อมกับกองทัพที่แข็งแกร่งของอะเซนิส

อย่างไรก็ตามสิ่งต่าง ๆ ผิดพลาดเมื่อเดลฟีนเสียชีวิตบนชั้นที่ 45

ฉันคาดหวังว่าประวัติศาสตร์จะได้รับการแก้ไข และเดลฟีนจะกลับมามีชีวิตอีกครั้งเมื่อฉันเดินผ่านชั้นต่างๆ แต่นั่นไม่ได้เกิดขึ้น

เรื่องราวของกองกำลังอะเซนิสที่ถูกกวาดล้างยังคงเหมือนเดิม และเดิมทีอะเซนิสซึ่งปฏิบัติตามคำพูดของเฟรียซิส แต่เมื่อพวกเขาสูญเสียผู้สืบทอดไปพวกเขาก็กลับไม่ไว้วางใจเธออีกแล้ว

“สถานที่ที่เราจะเข้าไปทำภารกิจ…มันเต็มไปด้วยศัตรูไม่ใช่เหรอ?”

คาติโอมองกลับมาที่ฉัน

ฉันพยักหน้า

พวกนั้นเป็นคนของจักรวรรดิ

สามในสี่ตระกูลหลักตั้งตนเป็นศัตรูตั้งแต่แรกเริ่ม

ราชองครักษ์ของจักรวรรดิและกองกำลังของคริสตจักรต่างก็เป็นศัตรูกัน และอะเซนิสซึ่งเป็นคนเดียวที่เป็นกลางเพียงคนเดียวก็หันหลังให้ความวุ่นวายนั้น

ราวกับว่ากลุ่มติดอาวุธขนาดใหญ่ทุกกลุ่มบนทาวน์เนียหันมาต่อต้านเรา

“นี่ทำให้ฉันเป็นบ้า ฉันควรทำยังไงดี?”

คาทีโอเกาหัวอย่างประหม่าและสับสน

“เราควรจะสงบสติอารมณ์ก่อนใช่ไหม? สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นสักครั้งหรือสองครั้งซะหน่อย ถูกต้องไหม?”

“นั่นสินะ แต่ว่า….”

“ถ้าเราตั้งสติและมองหาทางออกมันทีละน้อย เราก็จะพบหนทาง เราเตรียมตัวมาอย่างหนักแต่ฉันแน่ใจว่าเราจะไม่แพ้”

“ฉันต้องวิเคราะห์สถานการณ์อีกครั้ง มาดูกันเถอะ...”

สมาชิกในปาร์ตี้ที่ 1 กำลังถกเถียงกันอย่างดุเดือด

ฉันถอยหลังหนึ่งก้าวแล้วรีบถอยออกไปข้างนอก

"นายกำลังจะไปไหน?"

เจนน่าถาม

“ไปสูดอากาศ”

ฉันตอบเธอสั้นๆแล้วเดินออกไปนอกป่าทันที

ต่อให้เอาแต่ถกเถียงกันไปก็ไม่ได้รับคำตอบ

และปกติตอนอยู่บนบนโลกฉันก็จะออกไปเดินเล่นทุกครั้งที่สมองฉันไม่ปลอดโปร่งและติดขัด

'มันดีขึ้นนิดหน่อย'

ในป่ามืด แต่ข้างนอกก็ยังโอเค

แสงแดดส่องเข้ามา ต้นไม้และใบไม้ก็เขียวขจี

อย่างน้อยก็รู้สึกเหมือนกำลังเดินผ่านป่าจริงๆ

บริเวณรอบนอกของป่าถูกแบ่งออกเป็นสถานที่ที่สามารถไปได้และสถานที่ที่ไม่สามารถไปได้

ฉันเดินออกไปข้างนอก เดินผ่านรากและพุ่มไม้ของต้นไม้ที่สวยงามแห่งนี้ไปเรื่อยๆ

ยังไม่มีวี่แววว่าภารกิจจะสิ้นสุด ฉันวางแผนที่จะย้ายไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้จากที่นี่

'มีสัตว์ประหลาดอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?'

ฉันหยุดเดิน

มีร่างบางร่างเดินอยู่ไกลๆ

ร่างนั้นค่อยๆ เข้ามาใกล้จุดที่ฉันอยู่

มันไม่ใช่สัตว์ประหลาด

เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ฉันก็ซ่อนตัวอยู่ในโพรงหญ้า

หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที เจ้าของร่างนั้นปรากฏตัวก็เปิดเผยตัวตนของเขา

'พวกนั้นเป็นคนเหรอ?'

ชายสองคนกำลังเดินไปตามถนน

พวกเขากำลังเคลื่อนตัวออกไปนอกกำแพงโปร่งใสซึ่งฉันไม่สามารถไปได้

ไม่ใช่คนจากกลุ่มคริสตจักร

พวกเขาแต่งกายด้วยชุดเกราะหุ่มหนังที่ตัดเย็บอย่างดีและมีอาวุธคาดไว้กับเข็มขัด

ผู้ชายที่เดินทางซ้ายน่าจะอายุ 20 ต้นๆ

ชายที่อยู่ทางขวาดูเหมือนเขาจะแข็งแกร่งกว่าอีกคนมาก

“ทำไมเราถึงมาอยู่ในสถานที่แบบนี้? มีเรื่องให้ทำมากมาย”

ชายผู้มีหน้าตาหยาบกร้านบ่น

มันเป็นเสียงและน้ำเสียงที่ไม่เข้ากับใบหน้าของเขา

“มันน่าสงสัยตั้งแต่แรกเห็น ไข่หน้าตาประหลาดนั่นสามารถนำมาซึ่งความสงบสุขได้ ใครจะเชื่อได้”

“นั่นคือสิ่งที่คริสตจักรพูดไม่ใช่เหรอ? คนอย่างเราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำตาม และถ้านายต้องการสืบเรื่องนี้จริงๆ แค่ส่งลูกน้องไปไม่ได้เหรอ?”

“เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ใครเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา?”

“เอาล่ะๆๆ ฉันเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายก็ได้”

“ฉันอายุมากกว่านายสิบปีนะ พูดจาดีๆหน่อย!”

ชายหนุ่มทั้งสองคนเดินไปตามเส้นทางป่าทะเลาะกันตลอดเวลา

ฉันมองไปทางชายหนุ่ม ผู้ชายหน้าบูดบึ้งเรียกน่าจะเป็นพี่

ร่างกายมีความสมดุลดี และท่าเดินก็มั่นคง

'ค่อนข้างแข็งแกร่งมาเลยทีเดียว'

เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้ฝึกฝนมาเป็นเวลานาน

นอกจากนี้……มันมีกลิ่นบางอย่างที่คุ้นเคยแต่ไม่แน่ใจ

ฉันไม่สามารถอธิบายได้

เปรี้ยะ

ฉันมองที่แขนซ้ายของฉัน

สายฟ้าสีแดงเข้มแล้วหายไป

ผมหางม้าสีน้ำตาล

ชายหนุ่มที่มีท่าทางร่าเริงมองไปทั่วป่าแล้วพูดว่า

“มีสัตว์ประหลาดมากมาย ฉันไม่สามารถนับจำนวนพวกมันได้ มันดูแออัดมาก”

“ผู้บังคับบัญชาจะไปจัดการเองหรือเปล่า? ลองคิดดูสิ ทุกวันนี้มีการโจมตีของสัตว์ประหลาดน้อยมาก และผู้บังคับบัญชาเองก็ไม่ได้พยายามรวบรวมกำลังพลเลย และนั้นหมายความว่าเขาสามารถจัดการกับพวกเขาทั้งหมดในคราวเดียวหรือเปล่า? นั่นถึงจะเรียกว่าความสงบที่เท้จริง!”

“… กลิ่นนี้”

ชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้าขมวดคิ้ว

“เราจะกลับไปรวบรวมเด็ก ๆ และโจมตีพวกนั้นเหรอ?”

“การโจมตีอะไร? เราจะจัดการศัตรูจำนวนมากขนาดนี้ได้อย่างไร? มันแค่น่าสงสัย”

“ผู้บังคับบัญชาทำได้! ผู้บังคับบัญชาคือใคร? ไม่ใช่ต้นแบบที่น่าชื่นชมของทหารรับจ้างทั้งหมดในทาวน์เนียเหรอ? ผู้บังคับบัญชาพิชิตดันเจี้ยนทั่วทั้งทวีปในเวลาไม่ถึง 10 ปี… ว้าว! นั่นเป็นความสำเร็จที่ไม่มีใครเคยทำได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงปฏิบัติต่อเขาเหมือนพี่ชายของฉันด้วย เพียงคำพูดเดียวจากผู้บังคับบัญชาทหารรับจ้างหลายพันคนในทาวน์เนีย จะรุมออกมากันเหมือนผึ้ง!”

"นี้!!"

“พี่โจชัว!”

“อย่าเรียกฉันว่าพี่ชาย”

“งั้นเรียกผู้บังคับบัญชาราชาทหารรับจ้างก็ได้”

“ใครคือรผู้บังคับบัญชาาชาทหารรับจ้าง”

“จะมีใครอีกไหมนอกจากพี่ที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นราชาทหารรับจ้าง? ฮ่าฮ่าฮ่า”

ชายคนนั้นหัวเราะอย่างเต็มที่

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแค่ในThai-novelและMy-Novelเท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด