บทที่ 34 สมกับที่เป็นเทพแห่งการลงทุน!
วันนี้ลง 34 - 38
บทที่ 34 สมกับที่เป็นเทพแห่งการลงทุน!
นั่นคือทั้งหมด
หลินเป่ยฝานสยบทุกเสียงคัดค้าน สนับสนุนตัวเอกเย่ซิงเฉินอย่างแข็งขัน
ทุกคนเกิดความไม่พอใจ แต่ไม่รู้จะห้ามยังไง แม้แต่หลิวรู่เหมยก็ถอนหายใจ
นี่เป็นการตัดสินใจครั้งแรกของหลินเป่ยฝาน ดังนั้นไม่ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะไร้สาระแค่ไหนก็ตาม ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่มีใครกล้าท้าทายอำนาจของผู้นำ นี่คือ 'กฎ' ของสถานที่ทำงานที่ไม่สามารถพูดออกมาได้
เมื่ออีกฝ่ายทำผิดเท่านั้น พวกเขาจึงสามารถยกเรื่องนี้ขึ้นมาโต้แย้งและใช้เป็นตัวอย่างในการคัดค้านครั้งต่อไป
หลังจากนั้น พนักงานแต่ละคนแต่ละกลุ่มแยกย้ายกันไปทำตามแผนการลงทุนของหลินเป่ยฝาน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 580 ล้านหยวน โดยแบ่งเป็น 30 ล้านหยวนที่สงวนไว้เป็นเงินหมุนเวียน 50 ล้านให้กับตัวเอกเย่ซิงเฉิน และเงินที่เหลืออีก 500 ล้านหยวนถูกโยนเข้าตลาดหุ้นทั้งหมด
หลังจบเรื่อง หลินเป่ยฝานอธิษฐานอย่างเงียบๆ
‘ฉันขอพร ให้วันนี้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่า 8% !’
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่านี้ แต่เป็นเพราะช่วงความผันผวนของตลาดหุ้นโดยเฉลี่ยแล้วขึ้นลงแค่ราวๆวันละ 10% เท่านั้น แถมยังต้องใช้เวลาอีกสักหน่อยในการซื้อหุ้น ดังนั้นเราจึงไม่สามารถบรรลุอัตราผลตอบแทนเกิน 10% ได้
[ติ๊ง! คำขอประสบความสำเร็จ!]
หลินเป่ยฝานยิ้ม ต่อไปก็ถึงเวลากอบโกยผลประโยชน์ และเฝ้ารอเรื่องเซอร์ไพรส์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
อีกด้านหนึ่ง
ตัวเอกเย่ซิงเฉินกลับมาด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“ฉันควรทำอย่างไรดี? ทำยังไงให้เขาเสียเงินให้เยอะที่สุด”
“ทางที่ดีควรเสียเงินทันทีหลังจากใส่เข้าไป และมันต้องเป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง จะได้แก้ปัญหาไม่ทัน!”
เย่ซิงเฉินคิดอย่างรอบคอบอยู่ครู่หนึ่ง ตลาดหุ้นและพันธบัตรไม่สามารถทำอย่างที่กล่าวมาได้ เพราะราคาหุ้นที่ตกในแต่ละวันมีขีดจำกัด อย่างมากก็ไม่เกิน 10% ต่อวัน ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าพวกเขาจะรู้ตัวและตอบโต้ได้ทันการณ์ บังคับหยุดบัญชีซื้อขายเพื่อตัดขาดทุน
“ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจสูง เช่น ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ ทองคำ น้ำมันดิบ และก็ต้องแทงสวนกับตลาดหุ้นด้วย ลงเงินทีเดียวเต็มจำนวน ให้พวกเขาไม่มีเวลาตอบโต้!”
“ตัดสินใจแล้ว เริ่มจากลงเงินในทองคำ! ฉันจะเลือกแทงลง”
เศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะซบเซา ดังนั้นทองคำจึงสามารถรักษามูลค่าของมันไว้ได้เป็นอย่างดี นี่คือเหตุผลที่ช่วงนี้ราคาทองคำขึ้นสูงตลอดทาง! มีแนวโน้มขาขึ้นชัดเจนมาก!
ฉะนั้นเวลานี้ การเลือกทุ่มเงินโดยการ ‘แทงว่าทองคำจะลง’ จึงเท่ากับเป็นการแส่หาที่ตาย!
คิดได้แบบนี้ เย่ซิงเฉินก็รีบเข้าสู่ระบบบัญชีปฏิบัติการที่บริษัทมอบให้เขาทันที ใช้เงินทุน 50 ล้านในบัญชีตัวเองเพื่อแทงว่าราคาทองคำจะลง
ซึ่งในโลกนิยายหรือในโลกจริงต่างก็จะมีรูปแบบการลงทุนหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือการใช้มาร์จิ้นของธนาคาร แล้วสามารถลงทุนได้ด้วยเงินที่เพิ่มเป็นสิบเท่า
อธิบายสั้นๆคือ หากวางเงินมัดจำให้ธนาคาร 50 ล้าน จะสามารถนำเงินไปลงทุนในจำนวน 500 ล้านได้ ขยายผลตอบแทนเป็น 10 เท่า!
ทว่าถ้าเมื่อไหร่ที่เราขาดทุนไป 10% ของ 500 ล้าน หรือก็คือถ้าขาดทุนครบ 50 ล้านตามเงินที่วางมัดจำไว้เมื่อไหร่ ผู้ลงทุนก็จะถูกบังคับขาย และสูญเสียเงินทั้งหมดไป
นี่คือเสน่ห์ของมาร์จิ้น! หากคุณเก่ง ก็จะสามารถทำเงินได้มาก! แต่ถ้าคุณกาก เลือกลงทุนผิดทางพริบตาเดียวก็เสียหมดตัว!
“มาดูกันว่าฉันจะทำให้แกขาดทุนหนักขนาดไหน!” เย่ซิงเฉินกล่าวอย่างชั่วร้ายในใจ
ต่อมา เขาแยกตัวไปหาที่สงบๆ
ตัวเองเป็นบอดี้การ์ดและคนขับรถ ดังนั้นตราบใดที่รองประธานหลินไม่ออกไปข้างนอก เขาสามารถไปอยู่ที่ไหนของบริษัทก็ได้ตามอิสระ
ช่วงเวลานี้ เจ้าหน้าที่แผนกของหลินเป่ยฝานกำลังจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างประหม่า ให้ความสนใจกับการไหลเวียนของเงินทุน รวมไปถึงผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นในหุ้นที่พวกเขาลงทุนเป็นต้น
และในตอนนั้นเอง จู่ๆ พวกเขาก็ส่งเสียงฮือฮาขึ้นมา
“พวกนายดู! หุ้นของฉวนเหนิงไบโอเทคขยับแล้ว มันเพิ่มขึ้นถึง 3%! ดูจากปริมาณซื้อขายตอนนี้ที่จู่ๆก็มีเม็ดเงินมหาศาลไหลเข้ามา สามารถประมาณการได้ว่าวันนี้น่าจะราคาขึ้นทะลุเกิน 5%!”
“ราคาของหุ้นบริษัทว่านจวงก็เพิ่มขึ้นเหมือนกัน และตอนนี้พุ่งทะลุ 5% ไปแล้ว! ฉันตรวจสอบมาและพบว่ามีสถาบันหลายแห่งได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัทว่านจวง พวกเขาบอกว่าบริษัทว่านจวงมีแนวโน้มสดใส!”
“บริษัทอสังหาโต้วหยุนก็ราคาดีดขึ้นเหมือนกัน ตอนนี้เพิ่มขึ้น 4% แล้ว! ข่าวเพิ่งออกว่าพวกเขาเพิ่งประกาศข่าวดี!”
……
ข่าวดีทยอยกันประกาศออกมา หุ้นแต่ละตัวที่ทุกคนนำเงินไปลงทุน จู่ๆราคาก็พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ! ทุกคนตื่นเต้นกันมาก!
เพราะนี่นับเป็นการเริ่มต้นที่ดี! และมันแพร่มาถึงหูของหลินเป่ยฝานอย่างรวดเร็ว
หลินเป่ยฝานที่รู้สถานการณ์อยู่แล้วก็มีความสุขมากเช่นกัน “อย่างนั้นหรือ? ดูท่าวันนี้จะเป็นวันเริ่มต้นที่ดีนะ”
หลิวรู่เหมยพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “อื้ม!”
ผู้จัดการการลงทุนอุทานอย่างตื่นเต้น “รองประธานหลิน คุณช่างน่าทึ่งจริงๆ! หุ้นทั้งหมดที่คุณเลือกพุ่งสูงขึ้น คุณมันเทพหุ้นที่จุติลงมาบนโลกชัดๆ! ความสามารถของคุณช่างเหมือนกับแม่น้ำฮวงเหอที่ไหลบ่าต่อเนื่อง ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้ ...”
“เอาล่ะๆ เลิกประจบซักที ผมก็แค่รับหน้าที่ควบคุมทิศทางการลงทุนโดยรวม ส่วนผลงานที่เกิดขึ้นนั้นมาจากทุกคน ฉะนั้นขอยกเครดิตให้ทุกคน!” หลินเป่ยฝานโบกมืออย่างถ่อมตัว
ผู้จัดการการลงทุนยิ่งประทับใจมากขึ้นไปอีก แม้แต่หลิวรู่เหมยก็เผยสีสันอันงดงามในดวงตา
รับเครดิตแต่ไม่โอหังโอ้อวด และไม่ลืมชมเชยผู้ใต้บังคับบัญชาเสมอ ผู้นำแบบนี้คือผู้นำที่ดี!
ณ ขณะนี้ หลินเป่ยฝานฉุกคิดได้อีกเรื่อง “ยังไงก็เถอะ แล้วสหายเย่ของเราล่ะ? ฝั่งเขาเป็นยังไงบ้าง?”
หลิวรู่เหมยทำหน้าบูดบึ้งและพูดว่า “เขาน่ะเหรอ? แค่ทำให้ไม่ขาดทุนก็ดีเท่าไหร่แล้ว!”
จนถึงตอนนี้ เธอยังคงไม่ชอบเย่ซิงเฉิน เพราะเขาประพฤติตัวไม่เหมือนบอดี้การ์ด กระทั่งสำนึกในตัวเองก็ยังมีน้อย
หากไม่ใช่เพราะหลินเป่ยฝานให้ความสำคัญ เธอนี่แหละจะเป็นคนไล่เขาออกไปด้วยตัวเอง
“มาดูกัน บางทีเขาอาจจะทำให้เราประหลาดใจอย่างไม่คาดคิดก็ได้!” หลินเป่ยฝานยิ้มลึกลับ