ตอนที่แล้วบทที่ 2 น้ำลายร้อยตระกูล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 4 คนที่คุณชายตระกูลเซี่ยต้องการพบ

บทที่ 3 ลูกเขยที่ถูกทอดทิ้ง


บทที่ 3 ลูกเขยที่ถูกทอดทิ้ง

ทุกคนตกตะลึง ยืนนิ่งกลายเป็นหินในทันที

ไม่มีใครคาดคิดว่า ฉู่เฉินจะเอาคำพูดเยาะเย้ยประโยคสุดท้ายของซ่งชิ่งเผิงมาใช้จริงๆ

ความสามารถในการเข้าใจของคนปัญญาอ่อนนั้นมีจำกัดจริงๆ

ยิ่งไปกว่านั้น คนปัญญาอ่อนยังมีพละกำลังมหาศาล เทไวน์ทั้งแก้วลงไป ซ่งชิ่งเผิงไม่มีโอกาสได้ต่อต้านเลย

ภายใต้สายตาของทุกคน ใบหน้าของซ่งชิ่งเผิงซีดเผือด ท้องไส้ปั่นป่วน รีบทรุดตัวลงอาเจียนออกมา

ยกหินขึ้นมาทุ่มใส่เท้าตัวเอง!

แม้แต่หญิงสาวที่ควงแขนซ่งชิ่งเผิงอยู่เมื่อกี้ ในตอนนี้ก็ถอยหลังไปหลายก้าวด้วยความรังเกียจ

ซ่งชิ่งเผิงที่ดื่มน้ำลายร้อยตระกูลเข้าไป หญิงสาวคิดดูแล้ว เธอก็รู้สึกขยะแขยงจริงๆ

ในตอนนี้ เพื่อนๆ ของซ่งชิ่งเผิงเดินเข้ามา ล้อมฉู่เฉินเอาไว้

พวกเขารู้ดีว่า ซ่งชิ่งเผิงไม่มีทางปล่อยไอ้ปัญญาอ่อนคนนี้ไปแน่

ต่อให้เป็นในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าไม่ได้ซ้อมไอ้ปัญญาอ่อนคนนี้สักหน่อย ซ่งชิ่งเผิงไม่มีทางหายแค้น

ซ่งชิ่งเผิงยืนขึ้น ดวงตาของเขาเปล่งประกายโหดเหี้ยม จ้องไปที่ฉู่เฉินอย่างเอาเป็นเอาตาย

ฉู่เฉินมีสีหน้าซื่อๆ จริงใจ ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มโง่ๆ ราวกับไม่รู้สึกถึงอันตรายที่กำลังจะมาถึง

ซ่งชิ่งเผิงเดินเข้าไปหาฉู่เฉิน

รอบๆ มีคนมามุงดูมากขึ้นเรื่อยๆ

ชายหนุ่มที่เพิ่งดื่มไวน์กับฉู่เฉินไปสองแก้ว ก็ยังเผลอเหลือบมองไป

“ฉู่เฉิน มึงรนหาที่ตาย” สีหน้าของซ่งชิ่งเผิงเย็นชาถึงขีดสุด เขาไม่คิดเลยว่า ความอัปยศอดสูครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา จะมาจากคนปัญญาอ่อน ซ่งชิ่งเผิงอยู่ในชุดสูทสีขาว เปื้อนไวน์แดงอยู่หลายจุด ดูแล้วน่าเกลียดและน่าสมเพช

“เกิดอะไรขึ้น?” ในตอนนี้ มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง ทันใดนั้นฝูงชนก็แยกออก หลายคนเดินเข้ามา คนที่เพิ่งพูดเมื่อกี้คือผู้จัดการผางของโรงแรมหวงถิง เย่เส้าหวงเดินนำหน้า

“คุณชายเย่” หลายคนเอ่ยปาก

เย่เส้าหวงเดินเข้ามา ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ฉู่เฉิน มุมปากมีรอยยิ้มจางๆ

ผู้จัดการผางเดินเข้าไป ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้น?”

ซ่งชิ่งเผิงสูดหายใจเข้าลึกๆ สงบสติอารมณ์ มองไปที่เย่เส้าหวง จากนั้นก็ชี้ไปที่ฉู่เฉิน พูดด้วยความเคียดแค้น “คุณชายเย่ เขา กำลังหาเรื่องผม”

“คืนนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณหนูสามตระกูลซ่ง จะปล่อยให้เรื่องใดๆ มาทำลายอารมณ์ของคุณหนูสามไม่ได้” เย่เส้าหวงเอ่ยปาก มองไปที่ฉู่เฉิน พูดอย่างเรียบๆ “ในเมื่อเรื่องนี้เป็นฉู่เฉินก่อขึ้น งั้นก็ให้ฉู่เฉินขอโทษ เรื่องก็จบ ถือว่าให้เกียรติฉัน”

เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของซ่งชิ่งเผิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

ฉู่เฉินทำให้เขาต้องขายหน้าต่อหน้าคนมากมาย สุดท้ายกลับแค่ขอโทษเบาๆ ซ่งชิ่งเผิงรับไม่ได้

แต่ว่า คนในเมืองฉานมีไม่กี่คนที่จะไม่ให้เกียรติเย่เส้าหวง

ซ่งชิ่งเผิงเงยหน้าขึ้นสบตากับเย่เส้าหวง เย่เส้าหวงหรี่ตาลงเล็กน้อย สีหน้าดูสนุกสนาน

รูม่านตาของซ่งชิ่งเผิงหดเล็กลง

ด้วยความสามารถของเขา ไม่มีสิทธิ์เทียบกับเย่เส้าหวง ไม่สามารถเข้าไปอยู่ในแวดวงของเย่เส้าหวงได้ ทว่า เมื่อไม่นานมานี้ ตระกูลเย่กับตระกูลซ่งมีโปรเจ็กต์ร่วมกัน พอดีเย่เส้าหวงเป็นคนรับผิดชอบ ซ่งชิ่งเผิงเคยพบกับเย่เส้าหวงหลายครั้ง แถมโดยพื้นฐานแล้ว เย่เส้าหวงก็เป็นฝ่ายถามเขาเกี่ยวกับเรื่องราวของตระกูลซ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...คุณหนูสาม

ฉู่เฉินคือสามีของคุณหนูสาม

เย่เส้าหวงไม่มีเหตุผลที่จะช่วยฉู่เฉิน งั้นก็มีแค่ความเป็นไปได้เดียว เย่เส้าหวงก็หวังที่จะใช้คำขอโทษนี้ ทำให้อับอายเช่นกัน

คุณชายเย่กำลังยืมมือเขา!

ซ่งชิ่งเผิงหันไปมองฉู่เฉิน เขาเข้าใจแล้ว

เขาก้าวเดินไปหาฉู่เฉิน พูดอย่างช้าๆ ว่า “ฉู่เฉิน ได้ยินไหม? วันนี้ให้เกียรติคุณชายเย่ เข้ามา คุกเข่าขอโทษซะ”

ทันทีที่พูดจบ สายตาของคนที่มามุงดูก็จับจ้องไปที่ฉู่เฉินอีกครั้ง

คุกเข่าขอโทษ...

ลูกเขยปัญญาอ่อนของตระกูลซ่งคนนี้ จะยอมเชื่อฟังไหม?

ใบหน้าของฉู่เฉินมีรอยยิ้มจางๆ เดินไปข้างหน้าสองก้าว “ฉันต้องคุกเข่าเหรอ?”

ซ่งชิ่งเผิงแค่นเสียง “หรือเป็นฉันที่ต้องคุกเข่าเองเหรอไง?”

ในชั่วพริบตาที่ซ่งชิ่งเผิงสบตากับฉู่เฉิน ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงภาพที่ตัวเองดื่มน้ำลายร้อยตระกูล สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที ถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว

เมื่อเขาตั้งสติกลับมา หลายคนก็มองมาที่เขาด้วยความสงสัย

ซ่งชิ่งเผิงยิ่งรู้สึกโกรธ เขาถูกคนปัญญาอ่อนทำให้กลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ

ซ่งชิ่งเผิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ดวงตาของเขาเปล่งประกายโหดเหี้ยมออกมา “คุกเข่า!”

“ซ่งชิ่งเผิง นายมีสิทธิ์อะไรให้เขาคุกเข่า”

เสียงใสกังวานหนึ่งดังขึ้น

ทุกคนหันไปมอง

ดวงตาของพวกเขาเป็นประกายขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

หญิงสาวที่มีความงามราวนางฟ้า สวมชุดกระโปรงยาวที่เผยให้เห็นรูปร่างอันงดงาม เดินออกมาจากฝูงชน เหมือนกับดอกไม้วิเศษที่ผลิบาน เปล่งประกายอันน่าหลงใหล

คุณหนูสามตระกูลซ่ง ซ่งเหยียน

ซ่งเหยียนเดินเข้ามา ซ่งชิวเดินตามหลังมา

ซ่งชิวเหลือบมองซ่งชิ่งเผิง ชุดสูทสีขาวมีรอยเปื้อนสีแดงอยู่ ตกตะลึงเล็กน้อย

เขาคิดว่าซ่งชิ่งเผิงกำลังรังแกฉู่เฉิน แต่ฉากตรงหน้ากลับเหมือนกับว่าฉู่เฉินเป็นฝ่ายรังแกซ่งชิ่งเผิง

ซ่งชิ่งเผิงเห็นซ่งเหยียน ใจของเขาก็เต้นไม่เป็นจังหวะ เสียความมั่นใจ

คนตระกูลซ่งต่างก็รู้ดีว่า ฉู่เฉินเป็นคนปัญญาอ่อน ปกติคนตระกูลซ่งชอบเอาลูกเขยปัญญาอ่อนคนนี้มาหาความสนุก ทว่า ไม่มีใครกล้ารังแกฉู่เฉินอย่างโจ่งแจ้งต่อหน้าซ่งเหยียน ท้ายที่สุดแล้ว ฉู่เฉินกับซ่งเหยียนเป็นสามีภรรยากันในนาม แถมซ่งเหยียนก็ปกป้องฉู่เฉินมาโดยตลอด

ตอนนี้ก็เช่นกัน

ซ่งเหยียนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉู่เฉิน

เธอไม่ได้ถามอะไรฉู่เฉิน ห้าปีมานี้ ไม่มีใครรู้จักฉู่เฉินดีไปกว่าเธอ เขาพูดไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ซ่งเหยียนมั่นใจว่า ต้องเป็นซ่งชิ่งเผิงกับพวก รังแกฉู่เฉินอีกแล้ว

สีหน้าของซ่งชิ่งเผิงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา มองไปที่เย่เส้าหวงด้วยสายตาที่ต้องการความช่วยเหลือ

เย่เส้าหวงมีสีหน้าที่สงบนิ่ง พยักหน้าให้ซ่งเหยียนพร้อมกับรอยยิ้ม “คุณหนูซ่ง พวกเราพบกันอีกแล้ว”

ซ่งเหยียนพยักหน้าตอบ

“ชิ่งเผิง เกิดอะไรขึ้น?” ซ่งชิวถาม

ซ่งชิ่งเผิงจ้องไปที่ฉู่เฉิน “เขาฉวยโอกาสตอนที่ฉันไม่ทันระวังตัว บังคับให้ฉันดื่มไวน์” ตอนที่ซ่งชิ่งเผิงพูดประโยคนี้ เขายังรู้สึกว่าท้องไส้ของตัวเองปั่นป่วน

แม้แต่ซ่งเหยียนก็หันไปมองฉู่เฉินด้วยความประหลาดใจ

ตลอดห้าปีมานี้ ฉู่เฉินไม่เคยโต้ตอบ ไม่เคยตอบโต้เลยสักครั้ง!

คืนนี้กลับลงมือกับซ่งชิ่งเผิง?

เมื่อมองไปที่รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่เฉิน ซ่งเหยียนขมวดคิ้ว มองไปที่ซ่งชิ่งเผิงด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ เธอยังคงไม่เชื่อว่าฉู่เฉินจะลงมือกับซ่งชิ่งเผิง “เขาเป็นพี่เขยของนาย ทำไมนายถึงดื่มไวน์ให้เขาสักแก้วไม่ได้?”

ซ่งชิ่งเผิงพูดไม่ออก

เขาไม่กล้าพูดเรื่องน้ำลายร้อยตระกูลต่อหน้าซ่งเหยียน

“ฉู่เฉิน ตามฉันมา” ซ่งเหยียนไม่ได้พูดอะไรอีก เป็นคนตระกูลซ่งเหมือนกัน ถูกคนอื่นมามุงดูในสถานการณ์แบบนี้ น่าอับอายเกินไป

ฉู่เฉินเดินตามซ่งเหยียนออกไปจากห้องโถงจัดเลี้ยง

สายตาหลายคู่จับจ้องไปที่แผ่นหลังของทั้งสองคนที่กำลังจากไป สีหน้าของพวกเขาแตกต่างกันไป

แววตาของซ่งชิ่งเผิงเต็มไปด้วยความไม่ยอมแพ้

ความอัปยศอดสูในคืนนี้ จะไม่จบลงแค่นี้แน่

“คุณชายเผิง ใจเย็นๆ” คนหนึ่งเดินไปข้างๆ ซ่งชิ่งเผิง พูดเบาๆ ว่า “ซ่งเหยียนจะไม่ปกป้องไอ้ปัญญาอ่อนคนนี้อยู่ตลอดหรอก”

ซ่งเหยียนพาฉู่เฉินมาที่ห้องประชุมขนาดเล็กบนชั้นสองของโรงแรม

ฉู่เฉินกวาดตามอง บวกกับซ่งชิวที่ตามขึ้นมา สมาชิกในครอบครัวของซ่งเหยียนมากันครบแล้ว

ซ่งเสียหยางผู้เป็นพ่อ ซูเยว่เซียนผู้เป็นแม่

ซ่งเหยียนเป็นลูกสาวคนที่สามของตระกูลซ่ง พี่สาวสองคนของเธอนั่งอยู่ข้างๆ ซูเยว่เซียน ชายสองคนที่อยู่ในชุดสูท ผูกเนคไท ดูสง่างามที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม พวกเขาคือพี่เขยสองคนของซ่งเหยียน พวกเขาเป็นลูกชายของนักธุรกิจในเมืองฉาน ฐานะเหมาะสมกัน

ซ่งชิวเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลซ่ง เขานั่งลงข้างๆ ซ่งเสียหยาง แค่นเสียง มองไปที่ฉู่เฉิน “คืนนี้ได้หน้าเลยนะ รู้จักยกไวน์ให้ชิ่งเผิงด้วย ยังทำต่อหน้าคุณชายเย่อีก”

“เย่เส้าหวง?” ซ่งเสียหยางขมวดคิ้ว มองไป ครู่หนึ่งต่อมาก็พูดว่า “เหยียนเหยียน ลูกนั่งลงก่อน”

ฉู่เฉินยืนอยู่ข้างหลังซ่งเหยียน

เขาก็ชินแล้ว

ตลอดห้าปีมานี้ ทุกครั้งที่มีการประชุมครอบครัวแบบนี้ เขาได้แต่นั่งอยู่ข้างหลังซ่งเหยียน

“ฉู่เฉิน นายก็นั่งลง” ซ่งเสียหยางพูด

ซ่งเหยียนมีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย

นี่เป็นการปฏิบัติที่ไม่เคยมีมาก่อนตลอดห้าปีมานี้

ฉู่เฉินไม่ได้คิดอะไรมาก ดึงเก้าอี้ข้างๆ ซ่งเหยียนออกมานั่งลง

ซ่งเสียหยางโยนแฟ้มเอกสารที่อยู่ตรงหน้าไปให้ฉู่เฉิน

“ยังเขียนชื่อตัวเองเป็นอยู่ใช่ไหม?”

ซ่งเหยียนเปิดแฟ้มเอกสารออก ด้านในมีกระดาษแผ่นหนึ่ง เอกสารการหย่า

ใบหน้าของซ่งเหยียนซีดเผือดลงโดยไม่รู้ตัว รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมากระทบใจเธอ

ห้าปีก่อน เธอต่อต้านมาก แต่ทุกอย่างก็เพื่อตระกูล

ตลอดห้าปีมานี้ เธอและฉู่เฉินใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แม้ว่าจะไม่ค่อยได้พูดคุยกัน แต่การมีอยู่ของฉู่เฉินค่อยๆ กลายเป็นความเคยชินสำหรับซ่งเหยียน ทันใดนั้นเมื่อเห็นเอกสารการหย่าฉบับนี้ ซ่งเหยียนก็รู้สึกบอกไม่ถูก

เธอควรจะตั้งตารอวันที่มันมาถึง ยังจำได้ว่าห้าปีก่อน พ่อบอกกับเธอว่า ห้าปีนั้นผ่านไปเร็วมาก

พริบตาเดียว วันนี้ก็มาถึงแล้ว

ในใจของเธอกลับรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

แต่แน่นอนว่าซ่งเหยียนรู้ดีว่า เธอไม่มีทางใช้ชีวิตอยู่กับฉู่เฉินไปตลอดชีวิต

เส้นทางชีวิตยังอีกยาวไกล ต่อให้เสียดาย ก็ต้องตัดใจ

ซ่งเหยียนเหลือบมองฉู่เฉิน ใบหน้าของฉู่เฉินยังคงมีรอยยิ้ม

บางที ใช้ชีวิตอย่างงุนงง ไม่รู้อะไรเลย อาจจะดีก็ได้

ซ่งเสียหยางมองดูเวลา “อีกหนึ่งชั่วโมง เมื่อถึงเวลาแล้ว ก็ให้ฉู่เฉินเซ็นชื่อ”

ในตอนนี้ มีเสียงเคาะประตูห้องประชุม ซ่งหรูไห่เดินเข้ามา “ท่านหัวหน้าตระกูล แขกคนสำคัญจากเมืองหยางมาถึงแล้วครับ”

“ดี” ซ่งเสียหยางลุกขึ้นยืนเป็นคนแรก ใบหน้ามีรอยยิ้ม “พวกเราไปเดี๋ยวนี้แหละ”

ซ่งเสียหยางรีบออกไป เห็นได้ชัดว่า แขกคนสำคัญจากเมืองหยางที่ซ่งหรูไห่พูดถึง สำคัญกับเขามาก

สายตาของฉู่เฉินจับจ้องไปที่เอกสารฉบับนั้น

ถูกยันต์สะกดวิญญาณผนึกไว้ห้าปี ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองมีภรรยาเพิ่มขึ้นมา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาระหว่างเขากับซ่งเหยียน เหลือเวลาอีกแค่หนึ่งชั่วโมงแล้ว

ตระกูลซ่ง ต้องการทอดทิ้งลูกเขยสินะ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด