บทที่ 2 น้ำลายร้อยตระกูล
บทที่ 2 น้ำลายร้อยตระกูล
เย่เส้าหวงหันกลับไป ทุกคนที่อยู่หน้าโรงแรมต่างก็มองไปที่ฉู่เฉิน
สีหน้าของพวกเขาแปลกประหลาด
เย่เส้าหวงกำลังจะจากไปอยู่แล้ว ฉู่เฉินกลับตื่นขึ้นมาทักทายเย่เส้าหวง ในสายตาของทุกคน การกระทำของฉู่เฉินครั้งนี้เป็นการดูถูกตัวเองชัดๆ
ฉู่เฉิน ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านซึ่งมีภูมิหลังไม่ชัดเจน ในสายตาของเย่เส้าหวง เขาเป็นเพียงแค่คนตัวเล็กตัวน้อยเท่านั้น
“นายคือฉู่เฉิน”
เย่เส้าหวงเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ดวงตามีประกาย มองไปที่ฉู่เฉิน ครู่หนึ่งต่อมา ใบหน้าของเขาก็มีรอยยิ้ม “ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว”
ทันทีที่พูดจบ เสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ชื่อเสียงของลูกเขยปัญญาอ่อน ดังจริงๆ
ใบหน้าของฉู่เฉินก็มีรอยยิ้มเช่นกัน
ในสายตาของทุกคน นี่คือรอยยิ้มโง่ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้รัศมีอันเจิดจ้าของเย่เส้าหวง เขายิ่งดูต่ำต้อย
เย่เส้าหวงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉู่เฉิน ห่างกันเพียงก้าวเดียว เย่เส้าหวงยื่นมือออกไป จัดปกเสื้อของฉู่เฉินที่ยับยู่ยี่เบาๆ ในขณะเดียวกันก็พูดด้วยรอยยิ้มจางๆ เสียงเบา “ฉันได้ยินคุณซ่งพูดว่า ตั้งแต่นายแต่งเข้าตระกูลซ่งมา ยังไม่เคยพูดประโยคที่สมบูรณ์เลยสักครั้ง เมื่อกี้นี้ถือว่านายทำได้เกินความสามารถแล้วสินะ”
เย่เส้าหวงพึมพำกับตัวเอง ไม่สนใจสีหน้าของฉู่เฉินเลย “ต่อให้พูดมากกว่านี้นายก็ฟังไม่รู้เรื่องอยู่ดี สถานะลูกเขยตระกูลซ่งของนาย คืนนี้ก็จะจบลงแล้ว คุณหนูสามตระกูลซ่งจะกลายเป็นผู้หญิงของฉัน เหยื่อที่ฉัน เย่เส้าหวงหมายตาไว้ ยังไม่มีใครหนีรอดไปได้ เข้าใจไหม? ไอ้ปัญญาอ่อน”
เย่เส้าหวงตบไหล่ของฉู่เฉินเบาๆ ถอยหลังไปสองก้าว พยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม เสียงหนักแน่น “ยินดีต้อนรับสู่โรงแรมหวงถิง”
พูดจบ เย่เส้าหวงไม่รอให้ฉู่เฉินตอบสนอง หันหลังเดินเข้าไปในโรงแรมหวงถิง
ฉู่เฉินมองไปที่แผ่นหลังของเย่เส้าหวง ยื่นมือออกไปปัดปกเสื้อเบาๆ
ราวกับรังเกียจว่ามือเขาสกปรก
“เมืองฉาน ตระกูลซ่ง โรงแรมหวงถิง” ฉู่เฉินพึมพำกับตัวเอง
ในสายตาของคนนอก ลูกเขยปัญญาอ่อนของตระกูลซ่งคนนี้เริ่มอาการกำเริบอีกแล้ว
ยืนอยู่หน้าโรงแรม พูดพึมพำคนเดียว
“ในช่วงที่ตระกูลซ่งรุ่งเรืองที่สุด ในเมืองฉานก็สามารถกุมอำนาจได้ ตอนนี้กลับตกต่ำถึงขั้นต้องรับลูกเขยปัญญาอ่อนเข้าบ้านเลยเหรอ?”
“น่าอับอายจริงๆ”
หลายคนส่ายหน้า เดินเข้าไปในโรงแรม
ไม่มีใครรู้ว่า ในตอนนี้ ความทรงจำตลอดห้าปีที่ผ่านมาฉายซ้ำอยู่ในหัวของฉู่เฉินอย่างรวดเร็ว
ห้าปีก่อน ฉู่เฉินเรียนจบกลับมา เขาอารมณ์ดี เดินไปบนถนนของเมืองฉาน จินตนาการว่าจะใช้ความสามารถของตัวเองกุมอำนาจ
ไม่รู้เลยว่า ในขณะที่ฉู่เฉินกำลังหยิบยันต์สะกดวิญญาณออกมาศึกษานั้น เขาถูกรถชนกระเด็น
จู่ๆ ยันต์สะกดวิญญาณดันไม่สามารถควบคุมได้ มันผนึกวิญญาณทั้งสองส่วนของฉู่เฉินไว้ แล้วผนึกไว้ในจี้หยกบนหน้าอกของฉู่เฉิน
(ตามความเชื่อของเต๋า ร่างกายเราจะแบ่งวิญญาณออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่เป็นหยางก็คือ 'หุน魂 ' หรือ 'วิญญาณจิต' และ ส่วนที่เป็นหยินก็คือ 'พั่ว 魄' หรือ 'วิญญาณกาย' รวมเป็น 3 จิต 7 วิญญาณ 'ซานหุนชีพั่ว')
ผนึกไว้อย่างนี้เป็นเวลาห้าปี ไม่มีพลังจากภายนอกเข้าไปรบกวน ได้แต่รอให้ยันต์สะกดวิญญาณหมดพลังลงเอง
โชคดีที่ยังเหลือจิตวิญญาณไว้เสี้ยวหนึ่ง ทำให้ฉู่เฉินตลอดห้าปีมานี้ใช้ชีวิตอย่างงุนงง เหมือนกับคนปัญญาอ่อน
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับฉู่เฉินตลอดห้าปีมานี้ เขายังจำได้อย่างชัดเจน
“อยู่ดีๆ ก็มีภรรยาเพิ่มขึ้นมา?” ฉู่เฉินพึมพำกับตัวเอง ตั้งสติกลับมา “แต่ดูเหมือนว่าคืนนี้จะมีแผนจะหย่ากับสามี”
ฉู่เฉินส่ายหน้า เดินเข้าไปในโรงแรม
ห้าปีมานี้ เขาถูกคนอื่นปฏิบัติเหมือนคนปัญญาอ่อนมาโดยตลอด
คืนนี้ เขายิ่งจะกลายเป็นคนปัญญาอ่อนที่ถูกทอดทิ้ง กลายเป็นตัวตลกของคนทั้งเมือง
“เพียงแต่ จุดจบอาจจะไม่เป็นอย่างที่พวกเขาต้องการ”
ห้องโถงจัดเลี้ยงชั้นหนึ่งของโรงแรมหวงถิง
ฉู่เฉินเดินเข้ามาอย่างเงียบๆ ไม่มีใครสังเกตเห็น
นั่งลงในมุมที่ค่อนข้างเงียบสงบ ฉู่เฉินยังคงทำความเข้าใจกับความทรงจำตลอดห้าปีที่ผ่านมา
ใบหน้าที่งดงามผุดขึ้นมาในหัวของฉู่เฉินอย่างชัดเจน ไม่สามารถลบเลือนได้
“บางที เธออาจจะเป็นคนเดียวที่ไม่เคยเยาะเย้ยฉันตลอดห้าปีมานี้” แววตาของฉู่เฉินเผยความอ่อนโยนออกมาโดยไม่รู้ตัว
ภรรยาของเขา คุณหนูสามตระกูลซ่ง ซ่งเหยียน
ภายในห้องโถงจัดเลี้ยง บุคคลสำคัญจากทุกวงการมารวมตัวกัน งานเลี้ยงวันเกิดของคุณหนูสามตระกูลซ่งครั้งนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่
ผู้คนจากทุกวงการต่างก็ใช้โอกาสนี้ในการพูดคุยกัน ไม่มีใครสังเกตเห็นฉู่เฉินที่อยู่ในมุม
ภายในห้อง
มีคนผลักประตูเข้ามา
“ได้ยินว่าฉู่เฉินนอนหลับอยู่ในรถ คุณชายใหญ่เย่ไปปลุกเขา แล้วเขาก็หายตัวไป” ซ่งหรูไห่ตั้งใจจะลงไปรับฉู่เฉินขึ้นมา ท้ายที่สุดแล้ว ในงานเลี้ยงคืนนี้ ฉู่เฉินก็เป็น ‘ตัวเอก’ เช่นกัน
“หายตัวไป?” ซ่งเสียหยางขมวดคิ้ว ใบหน้ามีโทสะ “ส่งคนออกไปตามหา ต้องหาตัวเขอให้เจอภายในหนึ่งชั่วโมง”
“คุณพ่อ ไม่ต้องเป็นห่วงเขาหรอก ด้วยระดับสติปัญญาของฉู่เฉิน จะหนีไปได้ไกลแค่ไหนกันเชียว?” ซ่งชิว ลูกชายคนเล็กของซ่งเสียหยางพูดพลางหัวเราะเยาะ
ในตระกูลซ่ง ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าการแต่งงานระหว่างซ่งเหยียนกับฉู่เฉิน เป็นเพียงแค่แผนการที่จางเต้าซื่อวางไว้เพื่อช่วยให้ตระกูลซ่งฝ่าฟันวิกฤตเท่านั้น ตลอดห้าปีมานี้ ซ่งเหยียนกับฉู่เฉินก็เป็นสามีภรรยากันแค่ในนาม
แน่นอนว่าซ่งชิวยิ่งไม่สนใจฉู่เฉิน
ซ่งเสียหยางมองไปที่ซ่งเหยียน “เหยียนเหยียน พ่อรู้ว่าลูกคิดอะไรอยู่ แต่คืนนี้มันเกี่ยวกับชื่อเสียงของลูก ลูกยิ่งรู้ดีว่า สำหรับฉู่เฉินแล้ว การที่เราให้เขาไปเงียบๆ กับการขับไล่เขาออกจากตระกูลซ่งต่อหน้าทุกคน ไม่มีความแตกต่างกันเลย แม้ว่าเขาจะเป็นตัวตลกในสายตาของทุกคน แต่เขาจะรู้ตัวไหมว่าตัวเองเป็นตัวตลก?”
“พี่สามใจดีเกินไปแล้ว” ซ่งชิวพูด “ถ้าห้าปีก่อนตระกูลซ่งของเราไม่ช่วยเขาไว้ ไอ้ปัญญาอ่อนคนนี้จะรอดมาถึงวันนี้ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้”
ซ่งเหยียนลุกขึ้นยืน “ฉันออกไปตามหาเขาด้วยดีกว่า”
“ฉันไปเป็นเพื่อน” ซ่งชิวพูดพลางแค่นเสียง “นอนหลับอยู่หน้าโรงแรมหวงถิง ยังทำให้คุณชายใหญ่เย่ตกใจ ฉันว่าพลังแห่งโชคชะตาของเขาหมดลงแล้วจริงๆ”
ห้องโถงจัดเลี้ยง
ฉู่เฉินนั่งนิ่งๆ มือถือแก้วไวน์แดง
แสงไฟค่อนข้างสลัว
หลังจากหลุดออกมาจากความทรงจำ ฉู่เฉินก็ยืดตัว เงยหน้าขึ้นมอง ตกตะลึงเล็กน้อย ที่ที่เขานั่งอยู่มันเป็นมุมอับในงานแบบนี้ โดยพื้นฐานแล้วจะไม่มีใครเต็มใจมานั่งตรงนี้ แต่ตอนนี้ ข้างๆ เขากลับมีคนนั่งอยู่โดยไม่รู้ตัว
ชายคนนี้เพิ่งเงยหน้าขึ้นมองฉู่เฉินเช่นกัน ยกแก้วไวน์ขึ้นเบาๆ เผยรอยยิ้มที่สุภาพ
ฉู่เฉินยกแก้วตอบ ดื่มไวน์แดงในแก้วจนหมดในรวดเดียว
ชายคนนี้ตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็ดื่มไวน์ในแก้วจนหมดเช่นกัน
ทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยกัน
แววตาของชายหนุ่มผู้นี้เผยความเศร้าออกมาอย่างเห็นได้ชัด เขารินไวน์แดงใส่แก้วอีกครั้ง มองดูอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้น มองไปที่ฉู่เฉิน “ระหว่างประเทศกับหญิงงาม นายจะเลือกอะไร?”
ฉู่เฉินตกตะลึง
ในตอนนี้ พนักงานเสิร์ฟเดินเข้ามา รินไวน์ให้ฉู่เฉิน
หลังจากพนักงานเสิร์ฟเดินจากไป ฉู่เฉินก็ยกแก้วไวน์ขึ้น ในครั้งนี้เขาชนแก้วกับอีกฝ่าย พูดในขณะเดียวกันว่า “ฉันจะเลือก กุมอำนาจปกครองแผ่นดินอย่างตื่นตัว เอนกายลงนอนบนตักของหญิงงามอย่างเมามาย”
แววตาของชายหนุ่มเป็นประกายขึ้นมาทันใด แล้วก็หายไปอย่างรวดเร็ว “ทั้งสองอย่าง สามารถคว้ามาได้พร้อมกันหรือ?”
ฉู่เฉินไม่ได้ตอบอีก เขาลุกขึ้นยืน จู่ๆ สนทนาเรื่องประเทศและหญิงงามกับคนแปลกหน้าโดยไม่มีเหตุผล ฉู่เฉินรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นคนปัญญาอ่อนจริงๆ แล้ว
ฉู่เฉินเพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เสียงแหลมหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากด้านข้าง “ที่แท้ไอ้ปัญญาอ่อนคนนี้ก็ซ่อนตัวอยู่ที่นี่เอง”
ก่อนที่ฉู่เฉินจะทันได้หยุดฝีเท้า ร่างหลายร่างก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ขวางทางของฉู่เฉินเอาไว้
“พี่เขย ไม่ได้ยินที่ฉันเรียกเหรอ?” ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสูทสีขาวพูดพร้อมกับรอยยิ้ม ยืนอยู่ตรงหน้าฉู่เฉิน “แนะนำให้ทุกคนรู้จักหน่อย นี่คือฉู่เฉิน ลูกเขยของตระกูลซ่งของพวกเรา ฉันคิดว่าทุกคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของเขามาแล้ว”
ฉู่เฉินมองไปที่คนตรงหน้า ซ่งชิ่งเผิง ลูกพี่ลูกน้องของซ่งเหยียน
ตลอดห้าปีมานี้ ไม่มีใครในตระกูลซ่งสนใจลูกเขยปัญญาอ่อนคนนี้เลย ในความทรงจำของฉู่เฉิน ซ่งชิ่งเผิงยิ่งชอบแกล้งเขาเป็นพิเศษ
คนหลายคนที่อยู่ข้างๆ ซ่งชิ่งเผิงต่างก็หัวเราะออกมา
“เคยได้ยินสิ คืนนี้ข่าวแพร่สะพัดไปทั่ว ลูกเขยตระกูลซ่งนอนหลับเหมือนหมูตายอยู่หน้าโรงแรมหวงถิง แถมเมื่อกี้ยังบังเอิญเจอคุณชายใหญ่เย่ ถูกคุณชายใหญ่เย่ปลุกให้ตื่นอีก”
หญิงสาวคนหนึ่งที่ควงแขนซ่งชิ่งเผิงอยู่ กวาดตามองฉู่เฉิน “ดูภายนอกก็หล่อเหลาดี ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนปัญญาอ่อน”
“ลองดูก็รู้แล้ว” ซ่งชิ่งเผิงหัวเราะเยาะ เดินไปด้านข้าง หยิบแก้วไวน์แดงใบหนึ่งขึ้นมา ให้พนักงานเสิร์ฟรินไวน์แดงใส่แก้วจนเต็ม จากนั้นก็ถ่มน้ำลายลงไป ในตอนนี้ คนที่สังเกตเห็นเหตุการณ์ตรงนี้บางคนอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงเบาๆ
“นี่ มันจะเกินไปหน่อยไหม?”
“อย่าพูดมาก พวกเขาเป็นคนตระกูลซ่ง นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวของพวกเขา”
ซ่งชิ่งเผิงชะงักไปครู่หนึ่ง ยกแก้วไวน์ขึ้น ส่งสัญญาณให้เพื่อนๆ ของเขา
ทุกคนต่างก็หัวเราะเสียงดัง ถ่มน้ำลายลงไปในแก้วไวน์
“ดื่มน้ำลายร้อยตระกูลนี้เข้าไป รับรองว่าอายุยืนหมื่นปี” ซ่งชิ่งเผิงเดินไปหาฉู่เฉินพร้อมกับรอยยิ้ม “พี่เขย ดื่มมันเข้าไป วันนี้จะไม่ตีนาย” ซ่งชิ่งเผิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดายตัวเอง ทำไมเมื่อก่อนตัวเองถึงได้ชอบใช้ความรุนแรง ไม่คิดหาวิธีที่น่าสนใจแบบนี้มาแกล้งไอ้ปัญญาอ่อนคนนี้
ภายใต้สายตาของทุกคน ฉู่เฉินรับแก้วไวน์มา มองไปที่ซ่งชิ่งเผิง สีหน้ามึนงง “ให้ฉันดื่ม?”
ซ่งชิ่งเผิงหัวเราะ ถามกลับอย่างเยาะเย้ย “หรือให้ฉันดื่มเอง?”
ฉู่เฉินพยักหน้า “อ้อ”
ก้าวไปข้างหน้า
ทันใดนั้นฉู่เฉินก็ยื่นมือออกไป บีบปากของซ่งชิ่งเผิง อีกมือหนึ่งเทน้ำลายร้อยตระกูลในแก้วใส่ปากของซ่งชิ่งเผิง
การเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว และฉับไว
ทุกคนยังไม่ทันได้ตั้งตัว ซ่งชิ่งเผิงก็กลืนน้ำลายร้อยตระกูลในแก้วลงไปจนหมดแล้ว