บทที่ 16 เขาเป็นคนปัญญาอ่อนหรือไง?
บทที่ 16 เขาเป็นคนปัญญาอ่อนหรือไง?
ห้องโถงเงียบกริบ
ฉู่เฉินในคืนนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนกับกินดีหมีหัวใจเสือมา
ในฐานะคนที่สถานะต่ำต้อยที่สุดในตระกูลซ่ง กลับกล้าพูดว่า ‘พวกคุณตาบอด’
เขามีสิทธิ์อะไร
“แก...” หลินซิ่นผิงชี้ไปที่ฉู่เฉินด้วยนิ้วที่สั่นเทา
เขาอยากจะเถียง
แต่ทุกคนต่างก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อกี้คำพูดของฉู่เฉิน ได้ช่วยชีวิตซ่งชิวเอาไว้
“ไม่อธิบายก็แสดงว่ามีปัญหา ยังจะเถียงข้างๆ คูๆ อีก” น้ำเสียงของซ่งชิ่งดูแหลมคม “น่าเสียดายที่ชิงเฟิงเต้าซื่อรีบกลับไป ถ้าไม่งั้น ให้เต้าซื่อคำนวณต่อหน้านาย อาจจะสามารถคำนวณออกมาได้ว่า ตระกูลซ่งต้องมาเจอคนแบบนาย มันซวยแค่ไหน”
“พูดให้น้อยๆ หน่อย” ทันทีที่ซ่งเสียหยางเอ่ยปาก ทุกคนก็เงียบลง
ซ่งเสียหยางมองไปที่ฉู่เฉินอย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็หันไปมองซ่งหรูไห่ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าเย็นชา
“คืนนี้ แกทำให้ฉันผิดหวังมากจริงๆ” แววตาของซ่งเสียหยางเต็มไปด้วยโทสะ
ที่โรงแรมหวงถิง เขาบอกให้ซ่งหรูไห่พาฉู่เฉินกลับบ้าน ผลลัพธ์คือ ฉู่เฉินกลับไปซ้อมลูกชายของประธานหรงซื่อกรุ๊ปที่หวงถิง
ตอนที่เขากำลังจะลงโทษซ่งชิว แส้ที่ซ่งหรูไห่ไปหยิบมา กลับมีเข็มเงินแหลมคมซ่อนอยู่
ใบหน้าของซ่งหรูไห่ซีดเผือด
“ฉันให้เวลาแกหนึ่งวัน สืบให้ชัดเจนว่า ใครเข้าไปในห้องทำงานของฉันบ้าง” ซ่งเสียหยางตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
“ผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถครับ” ซ่งหรูไห่รีบหันหลังเดินออกไป หลังของเขาเปียกชุ่ม ถ้าซ่งชิวเป็นอะไรขึ้นมา เขาคงจะรับผิดชอบไม่ไหว
ซ่งเสียหยางเงยหน้าขึ้นมองทุกคน “ซิ่นผิง โจวเจี้ยน ดึกแล้ว พวกเธอกลับไปพักผ่อนเถอะ”
ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านของตระกูลซ่ง มีแค่ฉู่เฉินคนเดียว
หลินซิ่นผิงกับโจวเจี้ยนต่างก็เผลอมองไปที่ฉู่เฉิน ในใจของพวกเขายังคงโกรธ แต่ในเมื่อซ่งเสียหยางเอ่ยปากแล้ว พวกเขาก็ไม่กล้าพูดอะไร เดินออกจากบ้านตระกูลซ่งไปด้วยกัน
ซ่งเสียหยางมีสีหน้าที่เคร่งขรึม จ้องไปที่ฉู่เฉิน “แกรู้ได้ยังไงว่าในแส้มีเข็มเงิน?”
ฉู่เฉินคิดอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าของเขาดูจริงจัง “สัมผัสที่หกของลูกผู้ชาย”
ซ่งเสียหยางกับลูกชายต่างก็มีความคิดเดียวกัน ฉู่เฉินในคืนนี้... บ้าไปแล้ว!
“กลับไปพักผ่อนกันเถอะ” ซ่งเสียหยางโบกมือ
ตลอดห้าปีมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดกับฉู่เฉินด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนแบบนี้
ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อกี้ฉู่เฉินก็ช่วยชีวิตซ่งชิวเอาไว้
“คูณพ่อคุณแม่ พี่สาม ผมไปก่อนนะ” ซ่งชิวรีบวิ่งหนีไป
“รีบไปเถอะ” ซ่งเหยียนก็เร่งฉู่เฉิน
ฉู่เฉินเดินไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆ เขาก็หันกลับมา “เข็มเงินพวกนี้เราควรเอามันไปตรวจสอบ มันอาจจะมีพิษก็ได้นะ”
รูม่านตาของซ่งเสียหยางหดเล็กลงทันที
มีพิษ!
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ นี่ไม่ใช่ต้องการให้ซ่งชิวตายงั้นเหรอ?
ต้องแค้นมากขนาดไหน ถึงจะใช้วิธีแบบนี้
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของฉู่เฉินที่กำลังจากไป ซ่งเสียหยางก็รู้สึกกลัวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ถ้าเข็มเงินมีพิษ เขาเกือบจะฆ่าลูกชายของตัวเองด้วยมือตัวเองแล้ว
“คุณคะ ตอนนี้พวกเราควรทำยังไงดี?” ซูเยว่เซียนรู้สึกปวดหัว คืนนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย
“เรื่องเข็มเงิน ให้หรูไห่เป็นคนสืบ” ซ่งเสียหยางสูดหายใจเข้าลึกๆ “พรุ่งนี้ ผมจะเตรียมของขวัญสองชิ้น ไปเยี่ยมตระกูลเย่กับหรงซื่อกรุ๊ป หวังว่าจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ ท้ายที่สุดแล้ว หลังจากวันพรุ่งนี้ ฉู่เฉินจะไม่ใช่ลูกเขยของตระกูลซ่งแล้ว”
“ใช่แล้ว เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นเพราะฉู่เฉิน” ซูเยว่เซียนพยักหน้า ขมวดคิ้วแน่น “แต่น่าเสียดาย นิสัยของเหยียนเหยียนค่อนข้างดื้อรั้น ถ้าเธอยอมลองคบกับคุณชายเย่เส้าหวง ปัญหาต่างๆ ของตระกูลซ่งก็จะได้รับการแก้ไข”
“พรุ่งนี้ตอนที่คุณชายเย่เส้าหวงมาเยี่ยมคุณปู่ ให้เหยียนเหยียนไปอยู่เป็นเพื่อนคุณชายเย่เส้าหวงสักหน่อย” ซ่งเสียหยางสั่ง “ช่วงนี้ตระกูลเย่มีชื่อเสียงมาก ถ้าเหยียนเหยียนสามารถเข้าไปอยู่ในตระกูลเย่ได้ นั่นถือว่าเป็นเกียรติ”
“ไม่ได้แล้ว ฉันจะไปคุยกับลูกเดี๋ยวนี้แหละ” ซูเยว่เซียนร้อนใจ รีบเดินออกไป
ภายในห้องโถงเหลือแค่ซ่งเสียหยางคนเดียว
ซ่งเสียหยางนั่งลง แล้วครุ่นคิด
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนนี้ มันวุ่นวายมาก
ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของซ่งเสียหยาง
ฉู่เฉิน!
แต่งเข้าตระกูลซ่งมาห้าปี ในสายตาของทุกคน เขาเป็นแค่คนปัญญาอ่อน
แต่คืนนี้ เขากลับเหมือนคนบ้า
แต่เข็มเงินบนแส้ มันก็เป็นเขาที่ค้นพบ
ซ่งเสียหยางเริ่มปวดหัว คิ้วขมวดแน่น
เขารู้สึกว่า คืนนี้มีอะไรบางอย่างที่เขาพลาดไป
“ระหว่างทางกลับมา พวกเขาทั้งสามคนไม่น่าจะสงบขนาดนี้” ซ่งเสียหยางรีบเดินออกไป เขาจะไปถามให้ชัดเจน
ปัง ปัง ปัง!
ทันทีที่ซ่งชิวกลับมาถึงห้อง จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบ
“คุณพ่อ ทำไมท่านถึงได้มาที่นี่?” ซ่งชิวเปิดประตู เขารู้สึกประหลาดใจ
“ลูกลองเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างทางกลับมาให้พ่อฟังอย่างละเอียด อย่าให้ตกหล่นแม้แต่คำเดียว” ซ่งเสียหยางจ้องไปที่ซ่งชิว ดวงตาของเขาดูจริงจังมาก “เสี่ยวชิว เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชะตากรรมของตระกูลซ่ง พ่อรู้ว่าลูกกับเหยียนเหยียนสนิทกัน แต่เรื่องนี้ ลูกห้ามปิดบัง”
ซ่งชิวรู้สึกอึดอัดใจเมื่อถูกจ้อง
ครู่หนึ่งต่อมา
ซ่งชิวพูดอย่างระมัดระวัง “พ่อ พ่อเป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือเปล่าครับ?”
ใบหน้าของซ่งเสียหยางมืดมน
เมื่อเห็นว่ากำลังจะถูกลงโทษ ซ่งชิวกำลังจะพูดต่อ “ระหว่างทางกลับมา พวกเราถูกคนของหรงเย่ามวยไทยสกัดเอาไว้จริงๆ สิ่งที่พี่พูดเป็นความจริง ฉู่เฉินหนีคนของหรงเย่ามวยไทยไปได้ แล้วก็กลับมา”
ซ่งเสียหยางขมวดคิ้ว มองไปที่ซ่งชิว “แล้ว?”
“แล้ว เราก็เจอกับคุณชายเย่เส้าหวงกับหรงตง” ซ่งชิวกัดฟันพูด “คุณชายเย่เส้าหวงข่มขู่พี่สาม บังคับให้พี่สามขึ้นรถไปกับเขา ถ้าทำแบบนั้น ความร่วมมือระหว่างตระกูลเย่ ตระกูลซ่ง และหรงซื่อกรุ๊ป ถึงจะสามารถดำเนินต่อไปได้”
สีหน้าของซ่งชิวดูซับซ้อน “ในตอนนั้น ฉู่เฉินก็เข้าไป”
ซ่งชิวเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น
ดวงตาของซ่งเสียหยางเบิกกว้าง ปากของเขาอ้ากว้างราวกับจะยัดไข่เป็ดใบใหญ่เข้าไปได้
เขาตกตะลึง!
เขาไม่อยากจะเชื่อว่า เย่เส้าหวงกับหรงตง จะถูกฉู่เฉินคนเดียวใช้ถังขยะครอบหัว แล้วซ้อมอยู่บนพื้น
ซ่งเสียหยางรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองแทบจะหยุดเต้น
เหมือนกับจะหายใจไม่ออก
ฉู่เฉิน... ซ้อมเย่เส้าหวง!
เรื่องที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด กลับถูกฉู่เฉินทำ
“เขาเป็นคนปัญญาอ่อนหรือไง?” หลังจากที่ซ่งเสียหยางตั้งสติกลับมาได้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เขารู้ดีว่า การกระทำครั้งนี้ของฉู่เฉิน เท่ากับว่าทำให้ตระกูลเย่ไม่พอใจอย่างมาก
เรื่องนี้ไม่มีทางแก้ไขได้แล้ว!
พรุ่งนี้ต่อให้เขาเอาของขวัญที่มีค่าแค่ไหนไป มันก็ไม่มีทางคลี่คลายความขัดแย้งนี้ได้
หลังจากที่ซ่งเสียหยางสงบสติอารมณ์ ซ่งชิวก็ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย มองไปที่พ่อ พูดอย่างระมัดระวัง “เขา...เป็นคนปัญญาอ่อนจริงๆ ทุกคนต่างก็รู้ดี”
ซ่งเสียหยางรู้สึกเหมือนกับว่าโลกตรงหน้ามืดมิด
ถ้าในตอนนี้ฉู่เฉินปรากฏตัวต่อหน้าเขา เขาคงจะหยิบแส้ที่มีเข็มเงินเต็มไปหมดออกมาฟาดเขา
“ตระกูลซ่ง จะต้องถูกเขาทำร้ายจนย่อยยับ!” ซ่งเสียหยางสั่นไปทั้งตัว
ซ้อมเย่เส้าหวง!
เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่า จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในเมืองฉาน
ซ่งเสียหยางรู้สึกเสียใจ “จางเต้าซื่อมองการณ์ไกลจริงๆ ตระกูลซ่งสามารถอาศัยพลังแห่งโชคชะตาของฉู่เฉินได้แค่ห้าปีเท่านั้น”
ซ่งชิวอ้าปากค้าง ครู่หนึ่งต่อมา
ซ่งชิวกัดฟันพูด “จริงๆ แล้ว ฉู่เฉินทำเพื่อปกป้องพี่สาม”
“หุบปาก!” ซ่งเสียหยางไม่สนใจแม้กระทั่งภาพลักษณ์ของผู้นำ เขาตะโกนออกมา “ความจริงเหยียนเหยียนควรจะขึ้นรถไปกับเย่เส้าหวง คืนนี้ฉู่เฉินมันเป็นบ้าไปแล้วเหรอไง? เขาจะคู่ควรกับเหยียนเหยียนได้ยังไง? เขาเป็นแค่คนปัญญาอ่อนเท่านั้น!”