บทที่ 33 สหายเย่! เอาเงินพวกนี้ไปลงทุนซะ!
บทที่ 33 สหายเย่! เอาเงินพวกนี้ไปลงทุนซะ!
หลังจากนั้นทุกคนก็มีการถ่ายรูปหมู่
หลินเป่ยฝานกวักมือเรียก “มาสิสหายเย่ มาถ่ายรูปกัน”
เย่ซิงเฉินแสดงท่าทีลำบากใจเล็กน้อย “นี่จำเป็นด้วยเหรอ?”
“ต้องจำเป็นอยู่แล้ว มันคือช่วงเวลาที่น่าจดจำ อย่าอายไปเลย มาเร็ว!”
หลินเป่ยฝานดึงแขนเย่ซิงเฉินมายืนข้างกัน พนักงานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพูดว่า “เอาล่ะทั้งคู่พูดพร้อมกันนะ ชีสสส~”
จากนั้นภาพก็ถูกนำไปใส่กรอบ ตรงกลางของภาพถ่ายเป็นหลินเป่ยฝานที่สวมชุดสูทแบรนด์เนมสีเทาเงินเพรียวบางพิเศษ เขายืนตัวตรง สวมรองเท้าหนังมันเงา เผยยิ้มสดใส มองแวบแรกก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือผู้นำที่ยิ่งใหญ่
และตัวเอกของเรา เย่ซิงเฉินยืนอยู่ทางด้านขวา สวมชุดบอดี้การ์ดที่ค่อนข้างเรียบง่าย ห้อยสายสะพายสีแดงที่มีดอกไม้ใหญ่บนไหล่ ในมือถือแผ่นป้ายรางวัลใหญ่ และกำลังฉีกยิ้มเหมือนคนโง่
หลังจากถ่ายรูปเสร็จ หลินเป่ยฝานหยิบแชมเปญขึ้นมา พูดเสียงดังว่า “ตอนนี้พวกเราก็มาฉลองให้สหายเย่กันเถอะ! และขออวยพรให้บริษัทของเราเจริญรุ่งเรือง พัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆ เอ้าหมดแก้ว!”
“หมดแก้ว!” ทุกคนพูดพร้อมกัน
หลังจากดื่มแล้ว แต่ละคนก็เริ่มกินดื่มตามอัธยาศัย
ระหว่างที่ทุกคนคุยกัน หลินเป่ยฝานไม่ได้ขอตัวแยกออกมา แต่เขากลับนั่งรวมกับทุกคน ถือโอกาสนี้สานสัมพันธ์ ใช้ลิ้นทองคำของตัวเอง ผูกมิตรกับทุกคน
ระหว่างกระบวนการ ตัวเอกเย่ซิงเฉินนั่งอยู่ข้างๆ หลินเป่ยฝาน พอเห็นว่าแชมเปญหมดแก้ว หลินเป่ยฝานเทมันให้เขาเป็นการส่วนตัว
เย่ซิงเฉินอยากกินอะไร หลินเป่ยฝานก็ไปหยิบมันมาวางให้เขาด้วยตัวเอง เอาใจใส่อย่างเต็มที่!
ทุกคนที่เห็นถึงกับส่ายหัวและถอนหายใจ บอดี้การ์ดคนนี้เป็นที่โปรดปรานจริงๆ ทั้งๆที่แค่โชคดีเลือกหินดิบที่มีหยกแท้ๆ ไม่ได้มีความสามารถในเชิงปฏิบัติซักหน่อย!
แต่สิ่งที่น่าอิจฉายิ่งกว่านั้นยังมาไม่ถึง เพราะหลังจากงานเลี้ยงฉลอง หลินเป่ยฝานได้จัดการประชุมครั้งแรกของแผนกตัวเอง
หลินเป่ยฝานไม่ยอมให้เย่ซิงเฉินซึ่งเป็นบอดี้การ์ดออกไป แต่ให้นั่งข้างเขา ให้เกียรติอีกฝ่ายมากๆ
ในระหว่างการประชุม หลินเป่ยฝานเน้นย้ำทิศทางการลงทุนในอนาคต และกลยุทธ์การลงทุนยังคงเน้นไปที่ตลาดหลักทรัพย์
ตัวเอกเย่ซิงเฉินค่อนข้างผิดหวัง เพราะอีกฝ่ายไม่ได้เหยียบกับดักที่เขาเคยเปรยไว้ นี่ทำให้การโค่นหลินเป่ยฝานยิ่งยากขึ้น
ควรรู้ไว้นะว่า ราชาปีศาจหลินเป่ยฝานเมื่อก้าวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์นั้นน่าหวาดกลัวขนาดไหน!
อีกฝ่ายทำเหมือนกับว่าตลาดหลักทรัพย์นั้นเหมือนเป็นตู้ ATM! ทำเงินได้ง่ายดายราวกับยกน้ำขึ้นจิบ!
แล้วฉันควรทำยังไงดี? ต้องทำอย่างไรถึงจะหยุดเขา?
เย่ซิงเฉินค่อนข้างกังวล จึงอดพูดไม่ได้ว่า “รองประธานหลิน ตอนนี้ตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาลง ไม่ใช่เวลาเหมาะจะกระโจนเข้าไป ทำไมคุณไม่นำเงินไปไว้ในสินทรัพย์ที่จับต้องได้! อย่างพวกธุรกิจการศึกษาหรือไลฟ์สดขายของที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ มันคุ้มค่าการลงทุน!”
แม้ว่าทุกคนจะไม่พอใจที่มีบอดี้การ์ดมาขัดจังหวะการหารือ แต่ก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เขาพูดก็สมเหตุสมผลจริงๆ
นั่นเพราะตลาดหุ้นตอนนี้ค่อนข้างซบเซา มันไม่ใช่เวลาเหมาะที่จะเข้าไปจริงๆ บางทีฝากเงินเข้าธนาคารอาจดีกว่าด้วยซ้ำ อย่างน้อยก็ปลอดภัย
หลินเป่ยฝานยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “สหายเย่ มันก็จริงที่อุตสาหกรรมที่ว่ามาควรค่าแก่การลงทุน แต่พวกเราไม่คุ้นเคยกับพวกมัน จะหุนหันเข้าไปจะได้ไม่คุ้มเสีย ต้องใช้เวลาสักพักในการตรวจสอบ!”
“ส่วนช่วงนี้ การฝากเงินในธนาคารก็ไม่ใช่การลงทุนที่ดี ถ้าคาดหวังเม็ดเงิน ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ยังคงตอบโจทย์มากกว่า!”
เย่ซิงเฉินลอบหายใจด้วยความโล่งอก พูดแบบนี้แสดงว่าหลินเป่ยฝานยังไม่ทิ้งอุตสาหกรรมพวกนั้นไป!
งั้นฉันจะตั้งตารอวันที่แกขาดทุน!
“ต่อไป มาวางแผนการเงินกัน!”
หลังจากที่หลินเป่ยฝานจัดสรรเงินทุนเสร็จแล้ว เขาก็เหลือเงินหมุนที่ไม่ได้ใช้ทำอะไรอีก 50 ล้าน
ณ จุดนี้ หลินเป่ยฝานหันศีรษะไปมองเย่ซิงเฉิน พูดด้วยรอยยิ้มว่า “สหายเย่ ยังเหลืออีก 50 ล้าน! ทำไมเราไม่มอบเงินนี้ไว้ให้คุณจัดการล่ะ คิดว่าไง?”
ทุกคนเกิดอาการสับสน เย่ซิงเฉินก็สับสนเช่นกัน
รองประธานหลินคิดมอบเงิน 50 ล้านหยวนให้บอดี้การ์ดงั้นเหรอ?
นี่มันแผนการลงทุนบ้าบออะไรกัน!?
เย่ซิงเฉินชี้ไปที่ตัวเองแล้วพูดว่า “ประธานหลินต้องการให้ผมเอาเงินไปช่วยลงทุน?”
“ใช่!” หลินเป่ยฝานพยักหน้าหนักแน่น “เพราะครั้งก่อนเป็นคุณที่ทำเงินให้ผมมากมาย ดังนั้นผมคิดว่าคุณควรมีอำนาจในการบริหารเงินระดับหนึ่ง”
“แล้วอีกอย่าง ผมคิดเสมอว่าคุณมีพรสวรรค์ในการลงทุนนะสหายเย่ จมูกคุณไวต่อกลิ่นเงินมาก ที่ยังขาดเหลือก็แค่โอกาสที่จะใช้มัน! นอกจากนี้ คุณไม่สามารถทำงานเป็นบอดี้การ์ดได้ตลอดชีวิต หวังว่าสหายเย่จะใช้โอกาสนี้ไขว่คว้าประสบการณ์ ต่อไปจะได้มีชีวิตที่ดี!”
เย่ซิงเฉินพูดอย่างประหม่า “แล้ว ... ถ้าผมทำเงินที่ได้มาขาดทุนล่ะ?”
“ขาดทุนก็ช่างประไร! แต่ผมเชื่อในตัวคุณ เชื่อในสายตาคุณ! และคุณจะไม่ทำให้ผมผิดหวัง!” หลินเป่ยฝานยิ้มอย่างมีความหมาย
เย่ซิงเฉินรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
นี่คืออะไร?
มันคือโอกาส!
เงินทุน 50 ล้าน!
หลังจากสูญเสียเงินจำนวนนี้ไป อยากจะเห็นจริงๆว่าแกจะทำหน้ายังไง!
หลังจากนั้นฉันก็จะโน้มน้าวแกเข้าสู่ธุรกิจการศึกษา ทำให้แกเสียหายยับเยินยิ่งกว่านี้!
เย่ซิงเฉินลอบชื่นชมความคิดตัวเอง! แต่ ณ เวลานี้ พนักงานหลายคนเริ่มลุกขึ้น
“ไม่มีทาง! ฉันขอคัดค้าน! เย่ซิงเฉินเป็นบอดี้การ์ด เขาไม่มีความรู้ด้านการลงทุน ยังไม่เป็นมืออาชีพ แล้วเราจะมอบเงินจำนวนมหาศาลให้เขาได้อย่างไร?”
“หรือต่อให้เขาไปใช้ได้ ก็ไม่ควรให้มากไป แค่หนึ่งล้านก็พอ!”
“รองประธานหลิน โปรดคิดดูอีกครั้งเถอะ”
หลินเป่ยฝานกดมือลงและพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากกว่านี้ ผมได้ตัดสินใจแล้วเลิกประชุมได้!”