ตอนที่แล้วบทที่ 16: ดีจริงๆ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 18: ตี้ฟู่มีพรสวรรค์ระดับปราชญ์!

บทที่ 17: สร้างรูปปั้นให้พ่อ!


มู่โหย่วชิงเชิดหน้าแล้วเดินจากไปพร้อม ๆ กับ หลินซวนด้วยความภาคภูมิใจ

เสวียนจู่ ในอ้อมแขนของมู่โหยวชิง ส่ายหน้าแล้วเอ่ยออกมาว่า "ลุงคนนั้นช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก"

เสวียนซี พยักหน้าเห็นด้วย: "ใช่ ๆ เขาเป็นคนที่ชอบอวดตัว และเสด็จแม่ก็สอนพวกเราว่า อย่าเป็นคนแบบนั้น"

มู่โหยวชิงหอมแก้มเด็กหญิงตัวน้อยสองคนพร้อมเอ่ยเบา ๆ "เจ้าพูดถูกแล้ว ข้าก็เกลียดคนแบบนี้เหมือนกัน!"

เสวียนหาน และ เสวียนหยู อยู่ในอ้อมแขนของหลินซวน

พร้อมกับยกนิ้วให้กับหลินซวน.

เอ่ยออกมาพร้อมกัน: "เสด็จพ่อดีที่สุด!"

มู่โหยวชิงหัวเราะ คิกคักสองสามครั้ง: "สาวน้อย ข้าเกรงว่าคนอื่นอาจยังไม่รู้ว่าเสด็จพ่อเจ้ายอดเยี่ยมเพียงใด!"

"แน่นอน!"

เด็กหญิงตัวเล็กทั้งสี่พยักหน้าพร้อมกัน ด้วยใบหน้าที่ภาคภูมิใจ

เสด็จพ่อของพวกนางเก่งที่สุดในโลก อิอิ!

เมื่อเห็นแผ่นหลังของพวกเขาเคลื่อนตัวออกไปแล้วตามมาด้วยเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นมาเป็นระยะ ๆ

ซือหม่าเหวินอี้กำหมัดแน่นด้วยสีหน้าหงุดหงิด:

“ให้ตายเถอะ ปรากฎว่าเจี่ยฟู่เกอของโหยวชิงเป็นคนต่อกวีหงส์นิรันดร์!”

คนสองคนที่ติดตามเขาก็ส่ายหน้าและถอนหายใจ

"เมื่อดูการแสดงออกของแม่นางโหยวชิง ดูเหมือนว่านางจะชื่นชมเจี่ยฟู่เกอของนางมาก!"

“นี่ก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ เพราะเจี่ยฟู่เกอของนางั้นหล่อเหลาและมากพรสวรรค์จริง ๆ”

"ฮึ!" ซือหม่าเหวินอี้แค่นเสียง เอ่ยอย่างไม่เต็มใจ"ในการชุมนุมครั้งนี้ มีนักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่มากมายมารวมตัวกัน ข้าอยากเห็นจริง ๆ ว่าเจี่ยฟุ่เกอของน้อง จะศักดิ์สิทธิ์แค่ไหนกัน!"

หลังจากเอ่ยจบเขาก็นำคนทั้งสองขึ้นไปบนยอดเขาอย่างรวดเร็ว.

หลินซวน และ มู่โหยวชิง พาเด็ก ๆ ไปที่ด้านนอกของ หอเหวินฉู่ซิง  และพวกเขาก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันอยู่ด้านในแล้ว.

แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ได้เดินทางมาถึงก่อนแล้วเป็นจำนวนมาก.

ก่อนเข้าประตู เขาพบว่ามีที่นั่งฝังทองคำสิบเอ็ดที่นั่งบนแท่นที่ไกลและสูงที่สุด

หลินซวนตัดสินว่าสิบเอ็ดที่นั่งนั้นเป็นสิบเอ็ดที่นั่งพิเศษที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงเจียงจิ่วไป่ด้วย

ขณะนี้มีที่นั่งแล้วสิบที่นั่ง

ที่เหลือหนึ่งที เห็นได้ชัดว่าเป็นของหลินซวน

มีการอภิปรายกันมากมายในห้องโถงเกี่ยวกับที่นั่งที่เหลืออยู่

นอกจากนี้ภายในห้องโถงก็มีที่นั่งอีกมากมาย.

“งานชุมนุมทางวรรณกรรมครั้งนี้ มีที่นั่งพิเศษ 11 ที่ ที่ดูเจิดจรัสเป็นอย่างมาก ใครเป็นคนที่นั่งในตำแหน่งสุดท้ายกัน.”

“ข้าได้ยินว่าเป็นคนที่ต่อกลอนคู่ หงส์นิรันดร”

“คนผู้นี้สมควรได้รับเกียรตินี้จริง ๆ ที่สามารถต่อกลอนคู่หงส์นิรันดรได้!”

“ข้าอิจฉาจริง ๆ! หากข้าได้นั่งที่นั่งตรงนั้น ข้าคงจะนอนหลับฝันหวาน!”

ทันทีที่หลินซวนเดินเข้าประตูมา ซ่างกวนเจี่ยก็เร่งรีบเดินเข้ามาหาทันที.

ซ่างกวนเจี่ยที่เผยใบหน้ายิ้มแย้ม ก้าวเข้ามารับหลินเซียน พร้อมกับนำเขามายังที่นั่งพิเศษบนแท่นเวทีสูงทันที.

ในเวลานี้ แทบทุกสายตาของผู้เข้าร่วมชุมนุมได้จับจ้องมองไปที่หลินซวน

เจียงจิ่วไป่ชายชราผมขาวในชุดคลุมสีขาวรีบเข้ามาทักทายเขาแล้วเอ่ยออกมาว่า "นี่คือตี้ฟู่ ผู้มีพรสวรรค์ตามที่คาดไว้!"

หลังจากได้รับการแนะนำจางซ่างกวนเจี๋ย เจียงจิ่วไป่ก็รู้จักตัวตนของหลินซวนมาก่อนแล้ว.

เมื่อเห็นรูปลักษณ์อันสง่างามของหลินซวน ก็เผยความชื่นชมออกมา.

เมื่อเห็นเจียงจิ่วไป่ที่เป็นผู้นำ นักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่คนอื่น ๆ กระทั่งเสิ่นหยากังก็ลุกขึ้นมาทักทายหลินซวนเช่นกัน.

แม้ว่าพวกเขาจะมีสถานะสูงในโลกวรรณกรรมก็ตาม

อย่างไรก็ตาม หลินซวน ไม่เพียงแค่มีสถานะตี้ฟู่ แต่ยังสามารถต่อกลอนคู่ หงส์นิรันดรได้อีกด้วย.

ทั้งความสามารถและสถานะ ก็เพียงพอให้เจียงจิ่วไป๋ให้ความเคารพแล้ว.

เหล่าผู้คนใต้เวทีต่างก็เผยความประหลาดใจออกมาเช่นเดียวกัน.

“ปรากฏว่าคนที่ต่อบทกวี ก็คือตี้ฟู่ ช่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ!”

“ตี้ฟู่ทั้งหล่อเหลาและมากความสามารถ ช่างเป็นผู้ชนะในชีวิตจริง ๆ!”

“โอ้ว ข้าอิจฉาจริงๆ!”

ช่างแตกต่างกันมากมายนัก.

เพียงแค่ก้าวเข้ามาในประตู ซือหม่าเหวินอี้ก็เห็นอาจารย์ของเขาเสิ่นหยากัง ลุกขึ้นมาทักทายหลินซวนแล้ว.

ใบหน้าของเขาที่ดูบิดเบี้ยวขึ้นมาทันที.

ความรู้สึกในใจที่มากล้น ทำให้ความภาคภูมิใจของเขาค่อย ๆ สลายหายไป.

สถานะ ความสามารถ และรูปร่างหน้าตาของ หลินซวน ล้วนแต่เป็นเลิศทั้งหมด.

แม้แต่อาจารย์ก็ยังต้องลุกขึ้นมาทักทายเขา ซือหม่าเหวินอี้ ไม่มีส่วนไหนที่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับหลินซวนได้เลย.

เทียบกับหลินซวน มู่โหยวซิงจะมองตัวเขาได้อย่างไร?

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ซือหม่าเหวินอี้ ก็รู้สึกว่ากระดาษแผ่นหนึ่งในมือของเขาที่เขียนบทกวีรัก เริ่มร้อนขึ้นมาทันที.

แม้นว่าจะมีคนขอให้นำมันออกมา เขาก็ไม่ต้องการทำแล้ว.

ซือหม่าเหวินอี้ที่ขยี้กระดาษแผ่นดังกล่าว ก่อนที่จะหันหลังกลับเดินออกจากห้องโถงไปทันที.

เขาไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไป แล้วมองดูหลินซวนดูเปล่งประกาย มองดูผู้คนเข้าไปทักทายยกยออีกฝ่าย.

ณ ขณะนี้.

หลินซวนที่เอ่ยทักทายเจียงจิวไป๋และเหล่านักวิชาการสิบอันดับแรก จากนั้นพวกเขาก็กลับไปนั่งประจำที่ตัวเอง.

หลินซวนเองก็เข้าไปนั่ง ยังที่นั่งที่เตรียมไว้ให้เขาด้วยเช่นกัน.

โชคดีที่นั่งนั้นใหญ่พอที่จะให้ธิดาทั้งสี่สามารถนั่งร่วมกับเขาได้.

เห็นสาวน้อยน่ารักสี่คนนั่งอยู่ในอ้อมแขนของหลินซวน

คราวนี้ผู้คนนับหมื่นในโลกวรรณกรรมต่างก็แสดงความอิจฉา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้รู้หนังสือที่เป็นผู้ชาย พวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะกลับบ้านและให้กำเนิดบุตรสาว กับภรรยาทันที แล้วเลี้ยงดูพวกเขาเป็นอย่างดี.

เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทั้งสี่คน เสวียนจู่และพี่น้อง เป็นเด็กสาวที่ดูน่ารัก น่าเอ็นดูเป็นอย่างมาก.

หลินซวน พาเด็กทั้งสี่คนไปไหนมาไหนด้วย ภาพฉากที่อบอุ่นอ่อนโยนเช่นนี้ ทำให้ทุกคนหัวใจแทบละลายแล้ว.

และในขณะที่ทุกคนแอบถอนหายใจ แสงศักดิ์สิทธิ์ก็ส่องสว่างขึ้นทันที

ด้านหลังหลินซวนและที่นั่งพิเศษของพวกเขา มีรูปปั้นขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึง 100 เมตร ถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางแสงสว่าง

เป็นรูปปั้นที่สวมชุดบัณฑิต ในมือถือซ้ายพู่กัน และมือขวาถือตำราเล่มหนึ่ง ใบหน้าเงยขึ้นมองท้องฟ้า แผ่กลิ่นอายที่ไม่ธรรมดาออกมา.

ในตำราสวรรค์เสวียนเจี่ยที่หลินซวนได้รับมา มีภาพของรูปปั้นนี้เช่นกัน กล่าวว่า นี่คือรูปปั้นของเหวินฉู่ซิง.

เสวียนจู่ชี้ไปที่รูปปั้นแล้วเอ่ยถาม "เสด็จพ่อ นี่คือคุณปู่ เหวินฉู่ซิงใช่ไหม"

หลินซวน อุทาน: "เจ้ารู้จัก เหวินฉู่ซิง ด้วยเหรอ?"

"ใช่!"เสวียนจู่ พยักหน้า "เสด็จแม่ได้สอนพวกเราแล้ว"

หลินซวนพยักหน้าเงียบ ๆ เสวียนจู่เป็นผู้มีมารยาทมากที่สุดในบรรดาเด็กทั้งสี่คน และเป็นคนที่ชอบวรรณกรรมมากที่สุดด้วย

ตงหวงจื่อโหยวก็พบลักษณะพิเศษของบุตรแต่ละคนด้วยเช่นกัน แม้แต่สอนพิเศษในความถนัดของแต่ละคนด้วย.

“อย่างไรก็ตาม เสด็จแม่เอ่ยถึงคุณปู่เหวินฉู่ซิงเพียงสั้นๆ เท่านั้น”

“เขาเป็นคนแบบไหนข้ายังไม่รู้เลย!” เสวียนจู่ขมวดคิ้ว

หลินซวนเผยยิ้มเอ่ยออกมาว่า“ตามตำนานเอ่ยว่า เหวินฉู่ซิงคือดวงดาวดวงที่สี่ของกลุ่มดาวกระบวยใหญ่ และเป็นหนึ่งดาวหลักที่จุติสู่โลกมนุษย์.”

“เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก เกี่ยวกับงานวรรณกรรม ผู้เขียนตำรา เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์งานด้านวรรณกรรมมากมาย.”

เสวียนจู่ที่คิดอยู่ครู่หนึ่งและพยักหน้ารับ“ปรากฏว่าคุณปู่เป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านวรรณกรรมจากดาวกระบวยใหญ่.”

“จะเอ่ยเช่นนั้นก็ได้” หลินซวนรู้สึกว่าความเข้าใจของเสวียนจู่นั้นสูงจริง ๆ ซ้ำยังสรุปได้ดีมาก

เสวียนจู่ถามอีกครั้ง: "แล้วทำไม คนถึงสร้างรูปปั้นให้เขาล่ะ?"

“แน่นอนว่าเป็นเพราะความชื่นชมและความรักที่มีต่อเขา” หลินซวน ยิ้มและยกมือลูบศีรษะเล็ก ๆ ของนาง.

"โอ้โอ้ว" เสวียนจู่พยักหน้า

เสวียนซีกลอกตาโตของนาง เผยยิ้มที่มีลักยิ้มน่ารักสองอันปรากฏขึ้นบนแก้มของนาง:

“งั้นข้าจะสร้างรูปปั้นให้เสด็จพ่อด้วย”

เสวียนหานยกนิ้วขึ้นสี่นิ้ว: "ข้าสร้างขึ้นมาสี่แห่งเลย แต่ละอันแทนของพวกเราแต่ละคน”

เสวียนหยูส่ายหน้าไปมา "ไม่พอ ไม่พอ! ข้าจะสร้างพันหนึ่ง ไม่สิ หนึ่งหมื่นแห่งเลย!"

เสวียนจู่,เสวียนซี และ เสวียนหาน ต่างก็ตื่นตะลึง

เอ่ยพร้อมกัน: "เสวียนหยู เจ้าสร้างขึ้นมามากมาย หากถูกคนอื่นปล้นไปล่ะ?”

เสวียนหยู"°.°·(((p(≧□≦)q)))·°.° ”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด