บทที่ 15: ไม่มีความหวัง!
ตงหวงจื่อโหยวเกิดในตระกูลราชวงศ์ และตอนนี้นางก็รับตำแหน่งจักรพรรดินิแห่งเป่ยเสวียนเทียน ประสบการณ์ของนางนั้นย่อมไม่ธรรมดาโดยธรรมชาติ
แม้ว่านางจะงดปี้กู้มานานแล้ว แต่นางก็ลิ้มรสอาหารอันโอชะมามากมายนับไม่ถ้วนเช่นกัน.
อาหารที่หลินซวนเตรียมไว้ในความเห็นของนาง อาหารเหล่านี้คืออาหารที่งดงามที่สุดที่นางเคยเห็นมา.
เมื่อได้กลิ่นหอมอันเข้มข้นตลบอบอวนอยู่บนโต๊ะ อารมณ์ของตงหวงจื่อโหยวก็สับสนขึ้นมา แม้แต่มองหลินชวนในแง่ดีขึ้นมาในทันที.
“เสด็จแม่มันอร่อยจริง ๆ มากินด้วยกันเถอะ!”เสวียนจู่ กระพริบตาโตของนางแล้วเอ่ยชวน
ตงหวงจื่อโหยวส่ายหน้า: "แม่ไม่หิว กินกันเถอะ"
แม้ว่าอาหารจะอร่อย แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะดึงดูดความอยากอาหารของจักรพรรดินิตงหวงจื่อโหยวได้.
ยิ่งเมื่อก้าวมาถึงขอบเขตจักรพรรดิแล้ว จิตใจของนางยิ่งแข็งแกร่ง.
นางที่หยุดกินอาหารมาเป็นเวลานาน เป็นธรรมดาที่นางจะไม่รู้สึกอยากอาหารเป็นธรรมดา.
“เสด็จแม่ กินสักหน่อยเถอะ” เสวียนซีเอ่ยอย่างอย่างคาดหวัง
เสวียนหานพยักหน้า: "ใช่ ๆ นี่คือครอบครัวของพวกเรา นี่เป็นครั้งแรกที่เรารับประทานอาหารเช้าด้วยกัน"
ขณะเสวียนหยูกำลังจะเอ่ย สัตว์อสูรสุนัขสวรรค์ที่เข้ามาออดอ้อนถูขานางอีกครั้ง ทำให้นางเตะมันออกไป.
เมื่อเห็นเด็ก ๆ รบเร้า ตงหวงจื่อโย่วก็ไม่มีทางเลือกนอกจากตกลง: "เอาล่ะ แม่จะกินอาหารกับพวกเจ้า"
นางหยิบช้อนขึ้นมาแล้วตัก คัสตาร์ดห่านนางฟ้า ที่เหมือนกับขนนกสีขาวที่อยู่ใกล้ที่สุดหนึ่งช้อนเต็ม
คัสตาร์ดห่านนางฟ้า เป็นอาหารทั่วไปในแดนสวรรค์ทั้งเก้า
แต่วิธีการของ หลินซวน ค่อนข้างแตกต่างจากคัสตาร์ดห่านนางฟ้า ในความทรงจำของตงหวงจื่อโหยว
นางอยากลองดูว่า หลินซวน ทำรสชาติแบบไหน
ริมฝีปากงามของนางที่เปิดอ้าช้า ๆ แล้วกัดคัสตาร์ดเข้าปากเล็กน้อย
"ดี!"
ดวงตาของตงหวงจื่อโหยวเป็นประกาย
กลิ่นนี้มัน...หอมจริงๆ!
กลิ่นไข่เข้มข้นผสมกับกลิ่นแปลก ๆ กระตุ้นต่อมรับรสของนางมาก
ต่อมรับรสที่ไม่ได้ใช้มานานราวกับว่าฟื้นฟูกับมา คลายกับว่ากำลังจะบานสะพรั่ง.
ตงหวงจื่อโหยว อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกมาและตักคัสตาร์ดอีกช้อนเต็ม
หลังจากกินครั้งนี้รสชาติยังคงเข้มข้นและค้างอยู่ในคอไม่เปลี่ยนแปลง.
ยิ่งไปกว่านั้น ต่อมรับรสของนางเวลานี้ ดูเหมือนว่าจะถูกกระตุ้นเต็มที่แล้ว.
“โดยไม่คาดคิด ไข่ห่านนางฟ้าขนนกสีขาว เขาจะสามารถทำได้อร่อยขนาดนี้!”
ตงหวง จื่อโหยว เงยหน้าดวงตาสีเข้มสวยของนาง มองหลินซวนด้วยสายตาประหลาดใจเล็ก ๆ
“เสด็จแม่ชอบกิน ข้าจะยกให้ท่าน!” เสวียนจู่กล่าวด้วยความกตัญญู
ตงหวงจื่อโหยวหยิบช้อนเล็กอีกช้อนหนึ่งก่อนวางลง ส่ายหน้าแล้วยิ้ม: "แม่อิ่มแล้ว เจ้ากินเถอะ"
สำหรับนาง การสามารถกินสามช้อนในคราวเดียวถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
จากนั้น นางมองดูหลินซวนกินอาหารเช้ากับเด็ก ๆ ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ
ใจที่จมอยู่ในฝุ่นผงมาเนิ่นนาน ได้สัมผัสถึงความอบอุ่นของครอบครัวเป็นครั้งแรก
หลังอาหาร.
จักรพรรดินิ จื่อโหยวจำต้องออกว่าราชกิจอีกครั้ง.
ขณะจะจากไป นางใช้ประโยชน์ที่เด็ก ๆ กำลังเล่นกันอยู่.
นางหยิบยาเม็ดสีม่วงทองพร้อมส่งให้หลินซวน:
“ยาเม็ดนี้เรียกว่า เม็ดยาจื่อจินเสวียนกุย(ดาราลึกล้ำม่วงทอง) เป็นยาเม็ดสวรรค์ขั้นกลาง”
“ถ้าเจ้าต้องการฝึกฝน เจ้าสามารถใช้มันเพื่อพัฒนาความเร็วในการบ่มเพาะได้”
“คนทั่วไปหากตั้งใจฝึกฝนอย่างขยันขันแข็งจะสามารถก้าวสู่ขอบเขตตงเสวียนได้ภายในสิบปี แต่หากใช้ยานี้จะใช้เวลาเพียงสองปี!”
หลินซวนไม่แม้แต่จะมองเม็ดยาจื่อจินเสวียนกุย เขาส่ายหน้าแล้วเอ่ยออกมาว่า "ข้าไม่ต้องการมัน"
มีระบบอยู่กับตัว รอเพียงรับรางวัล บางทีมันอาจจะทำให้เขาพุ่งทะยานไปสู่อาณาจักรจักรพรรดิเลยก็ได้
แม้ว่าเม็ดยาจื่อจินเสวียนกุยนี้จะดี แต่หลังจากรับไปแล้ว ก็ยังจำเป็นต้องฝึกฝนอย่างหนักอีก
หลินซวนคุ้นเคยกับการเป็นปลาเค็ม เขาจะถูกล่อลวงด้วยสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร?
ตงหวงจื่อโหยว แอบส่ายหน้าและถอนหายใจ จำต้องเก็บเม็ดยาจื่อจินเสวียนกุยไป
อารมณ์ดีเพียงเล็กน้อยในตอนเช้า เวลานี้มันได้หายไปในพริบตา
นางไม่มีความหวังเกี่ยวกับการฝึกฝนของหลินซวนมาระยะหนึ่งแล้ว.
ยาเม็ดนี้ ถือว่าเป็นการพยายามครั้งสุดท้ายของนาง
ดูเหมือนว่านางจะยอมแพ้ไปอย่างสมบูรณ์
ให้หลินซวนดูแลเด็ก ๆ ก็พอแล้ว นางไม่เห็นต้องการอะไรไปมากกว่านี้
"ข้ากำลังจะออกไป"
ตงหวงจื่อโหยวที่ก้าวออกไป โดยไม่หันกลับมามอง
หลินซวนไม่ได้คิดอะไรมาก เขาหันหลังกลับและเข้าไปในห้อง ในไม่ช้าก็เข้าร่วมเล่นเกมกับเหล่าธิดา
….
แดนปิศาจสวรรค์ เมืองหมื่นปิศาจ.
ในห้องโถงอันมืดมน ผู้ฝึกตนจำนวนหลายร้อยคนถูกมัดไว้รวมกันเอาไว้
เย่โหยวกระตุ้นพลังอาคม กลืนกินแก่นแท้ที่แท้จริงของพวกเขาทั้งหมดไปในคราวเดียว
หลังจากแสงอาคมแปลก ๆ กระพริบ เย่โหยวก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
ขณะเหลือบมองศพนับร้อยที่แห้งเหี่ยวต่อหน้าเขา ด้วยแววตาที่ไร้ความปราณี เย่โหยวกัดฟันแล้วเอ่ยออกมาว่า:
“ข้าไม่ได้คาดหวังเลยว่าจักรพรรดินีเสวียนปิงจะทรงพลังขนาดนี้ นางทำให้ข้าสูญเสียการฝึกฝนไปถึงหนึ่งในสี่เลยจริง ๆ!”
“แต่จะให้กล่าวนั่น อาจเป็นเพราะข้ามีความแค้นสุมอยู่ในใจจนไม่สามารถตั้งสมาธิต่อสู้กับนางได้ ดังนั้นนางจึงสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้”
เมื่อต่อสู้กับจักรพรรดินีเสวียนปิง เย่โหยวก็นึกถึงหลินซวนเป็นครั้งคราว
การเหม่อลอยทำให้เขาประมาทและเผยจุดอ่อนออกมา.
ดังนั้นในการต่อสู้ครั้งนั้น เขาทำได้เพียงกัดฟันและอดทนต่อความพ่ายแพ้ในครั้งนี้.
และตอนนี้สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดของเขา คือ การตรวจสอบว่า หลินซวน เป็นคนที่แข็งแกร่งในอาณาจักรมหาปราชญ์หรือไม่?
ในวังเสวียนปิง ใครคือคนที่จัดการจิตวิญญาณของเขา?
นี่เป็นสิ่งสำคัญมาก!
หากเขาไม่แน่ใจ ครั้งต่อไปที่เขาต่อสู้กับจักรพรรดินีเสวียนปิง เขาก็จะยังคงได้รับผลกระทบ ไร้สมาธิในการต่อสู่เช่นเดิม.
ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไม่มีใครชอบ คนที่ซ่อนตัวอยู่โดยที่ไม่รู้ที่มาที่ไป ที่สามารถข่มขู่เขาเมื่อไหร่ก็ได้.
“เจิ้งซ่ง เจ้าส่งแม่ทัพปีศาจทั้งสี่ไปที่เป่ยเสวียนเทียนเพื่อหาโอกาสโจมตีหลินซวนซะ”
“คราวนี้ พวกเราต้องค้นหารายละเอียดของ หลินซวนให้พบ!”
“ถ้าสามารถฆ่าและสังหารบุตรสาวทั้งสี่ของเขาได้ จะเป็นเรื่องดีที่สุด!”
เจิ้งซ่งเดินออกมาจากความมืดทันที พยักหน้าแล้วเอ่ยออกมาว่า: "รับทราบ!"
-
เพราะหลินซวนยอมรับคำเชิญพิเศษจากซ่างกวนเจี๋ย
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เขาก็ออกเดินทางไปพร้อมกับบุตรสาวทั้งสี่คน
ครั้งนี้การชุมนุมทางวรรณกรรม ซึ่งอยู่ที่ภูเขาเหวินฉู่ทางตอนใต้ของเป่ยเสวียนเทียน
สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากพระราชวังเสวียนปิงห้าล้านลี้
หลินซวนพาบุตรสาวของเขาขึ้น ราชรถหยกซึ่งมีวิหคปีกฟ้าของพระราชวงศ์เสวียนปิงลากไป
วิหคปีกฟ้าขนาดใหญ่สี่ตัวกำลังลากราชรถบินไปด้วยความเร็ว ซึ่งผู้คนที่อยู่ข้างในสะดวกสบายเป็นอย่างมาก
หลินซวนสามารถถ่ายทอดความคิดของเขาผ่านหยกควบคุมสัตว์ได้ ทำให้สามารถควบคุมวิหคปีกฟ้าได้ดั่งใจ.
เดิมที เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ มีความคาดหวังสูงกับราชรถที่ลากด้วยวิหคทั้งสี่ตัวมาก.
พวกนางคิดว่าราชรถหยกคันนี้ใหญ่โต สะดวกสบายและบินได้เร็วมาก
แต่เมื่อพบว่ามีผู้ฝึกตนที่บินแซงพวกนางเป็นระยะ ๆ ก็เปลี่ยนใจ.
“พวกเรามีวิหคปีกฟ้าตั้งสี่ตัว แต่ก็ยังไม่เร็วเท่า คุณ ลุงคุณป้าเหล่านั้นเลย!”
“ใช่ ๆ ช้ามาก!”
“เสด็จพ่อบอกว่าภูเขาเหวินฉู่ยังอยู่อีกไกลมาก ใช้เวลานานเท่าใดจึงจะไปถึงที่นั่น?”
“ข้าอยากจะไปถึงที่นั่นเร็ว ๆ จัง!”
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทั้งสี่คนต้องการไปที่ภูเขาเหวินฉู่ในทันที
นอกจากนี้เมื่อเห็นเหล่าผู้ฝึกตนที่บินกลางอากาศ บินแซงพวกนางจนหายไปคนแล้วคนเล่า ยิ่งทำให้รู้สึกว่าราชรถหยกของพวกนางนั้นช้าขนาดไหน.
หลินซวนที่ส่ายหน้าไปมา พร้อมกับเผยยิ้มเล็กน้อย เป่ยเสวียนเทียนเป็นหนึ่งในอาณาจักรเซียน ซึ่งมีผู้ฝึกตนอยู่มากมายนับไม่ถ้วน.
ความสามารถในการบินไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้ฝึกตนเหล่านี้.
นอกจากนี้ยังมีระดับจ้าววิญญาณ กระทั่งของเขตกึ่งจักรพรรดิอยู่ไม่น้อย.
ความเร็วในการบินของพวกเขานั้นมากมาย จะสามารถนำความเร็วของวิหคปีกฟ้าไปเทียบได้อย่างไร.
“เสด็จพ่อ ท่านมีวิธีทำให้เร็วกว่าไหม?”
เป็นเรื่องทั่วไป คงจะไม่รู้สึกอะไรเลย หากไม่มีการเปรียบเทียบ.
เสวียนจู่และธิดาคนอื่น ๆ ตอนนี้พวกนางแทบจะรอไม่ไหวที่จะบินให้เร็วกว่าเหล่าผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ.
หลินซวน พยักหน้าและยิ้ม: "ใช่!"
สร้อยข้อมือวิเศษในมือของเขาเป็นของวิเศษเพียงชนิดเดียวที่จะช่วยทำให้เขาสามารถใช้พลังพิเศษได้.
ขณะที่เจตจำนงของเขาเคลื่อนไหว กลิ่นอายอันสง่างามจำนวนนับไม่ถ้วนก็หลั่งไหลเข้าสู่สร้อยข้อมือของเขาจากทุกทิศทุกทาง
ฟู่ ๆ!
ทันใดนั้น กลิ่นอายที่น่าเกรงขามทรงพลังก็ผลักราชรถหยกให้พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว.
เดิมที วิหคปีกฟ้าสี่ตัวกำลังดึงลากราชรถหยกไปด้านหน้า แต่ในชั่วพริบตามันก็กลายเป็นถูกราชรถลากพวกมันแทน.
กับภาพที่เกิดขึ้น ไม่เพียงแค่เด็กหญิงทั้งสี่คนเท่านั้นที่ตื่นตะลึง.
แม้แต่ผู้ฝึกตนที่อยู่ไกล ๆ ยังอ้าปากค้างไปตาม ๆ กัน.