บทที่ 84 : ยอมจำนน!
บทที่ 84 : ยอมจำนน!
อีกด้านหนึ่ง
ภายในพระราชวังของราชวงศ์ต้าเสวี่ย
ในขณะนี้กลุ่มของผู้ฝึกตนระดับสูงกำลังนั่งตัวตรงเเละการแสดงออกของพวกเขาได้มาถึงจุดที่น่าอับอายสุดขีด
ปัจจุบัน, แม้แต่บรรพบุรุษอาณาจักรถ้ำสวรรค์ของราชวงศ์ต้าเสวี่ยก็ล้วนโผล่ออกมาจากการเก็บตัว
เเละในสายตาของพวกเขาตอนนี้, มันยังมีความจริงจังเป็นพิเศษ
สัญชาตญาณของพวกเขาบอกพวกเขาว่าราชวงศ์ต้าเสวี่ยจะไปได้อีกไม่ไกลเเล้ว
ตอนนี้, ต้าเซี่ยกําลังพุ่งมาอย่างก้าวร้าวและมีเสียงตอบรับที่ดีมากในหมู่คนทั่วไป
ทุกคนรู้ดีว่านโยบายระดับชาติของ ต้าเซี่ยมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อสามัญชนคนธรรมดา….ดังนั้นการโจมตีทุกครั้งจึงได้รับความช่วยเหลือจากสามัญชนที่อยู่ตามทางทุกครั้ง
"เพียงสามเดือน เพียงสามเดือนสั้นๆ….ต้าเซี่ยก็ได้ครอบครองดินแดนสองในสามของราชวงศ์ต้าเสวี่ยของเราไปเเล้ว”
“พวกท่านพอจะมีแผนดีๆที่จะป้องกันส่วนที่เหลือบ้างไหม”
"เเผนดีเเค่ใหนก็ไม่มีประโยชน์หรอก, เราไม่ได้คาดหวังเลยว่าพรสวรรค์ของเซี่ยจือซวนจะสูงส่งขนาดนี้”
“เธอคนนี้ปลูกฝังศิลปะของจักรพรรดินีและสามารถใช้โชคของประเทศเพื่อเสริมฐานการฝึกตนของตัวเองได้….พรสวรรค์เเบบนี้มันยากที่จะรับมือจริงๆ”
"งั้นถ้าเป็นเเบบนี้, เราควรรีบส่งผู้ฝึกตนอาณาจักรถ้ำสวรรค์เพื่อไปลอบสังหารเธอดีหรือไม่"
สมาชิกของราชวงศ์คนหนึ่งพูดอย่างระมัดระวัง….โดยแสดงคําแนะนําที่อยู่ในใจของเขา
อย่างไรก็ตาม, ทันทีที่เขาพูดออกมา….เขาก็เห็นบรรพบุรุษอาณาจักรถ้ำสวรรค์รอบตัวมองมาที่เขาอย่างเยือกเย็นเป็นพิเศษ
ทันใดนั้นเขาก็ตกใจและรีบก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว
"เจ้าโง่!"
บรรพบุรุษอาณาจักรถ้ำสวรรค์มองพวกเขาอย่างเฉยเมยและพูดอย่างดูถูกเหยียดหยาม
ส่งผู้ฝึกตนอาณาจักรถ้ำสวรรค์เพื่อไปฆ่าเซี่ยจือซวน?
เเน่นอนว่าเรื่องนี้พวกเขาได้พิจารณาแล้ว….แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่กล้าทำอย่างนั้น
เเน่นอนว่าไม่มีใครในอาณาจักรถ้ำสวรรค์ที่กลัวเซี่ยจือซวน….เเต่สิ่งที่พวกเขากลัวคือเย่หวู่ชาง
หลังจากการโจมตีของต้าเซี่ย, พวกเขาก็ได้สอบสวนเรื่องราวของเซี่ยจือซวนและได้รู้โดยธรรมชาติเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับเย่หวู่ชาง
ลูกสองคนของเซี่ยจือซวนใช้นามสกุลเย่ไม่ใช่นามสกุลเซี่ย
นอกจากนี้เย่หวู่ชางยังเข้าและออกจากพระราชวังของต้าเซี่อยู่บ่อยครั้ง
ข้อมูลทั้งหมดนี้มีความหมายบางอย่าง, และพวกเขาไม่จําเป็นต้องคิดก็พอจะรู้ได้
หากเป็นปีที่แล้ว, แม้ว่าเย่หวู่ชางจะฆ่า ปรมาจารย์ถงหยุนในอาณาจักรถ้ำสวรรค์….แต่พวกเขาก็ไม่ได้กลัวเย่หวู่ชางมากนัก (ถงหยุนเป็นอาณาจักรถ้ำสวรรค์ที่อ่อนเเอที่สุดเพราะใช้ยาต้องห้าม)
อย่างไรก็ตามา, หนึ่งปีต่อมาเมื่อข่าวที่เย่หวู่ชางฆ่าอ๋องเฟิงซินได้แพร่กระจายออกมา….พวกเขาทั้งหมดก็เริ่มกลัวเย่หวู่ชางในทันที
แม้แต่อ๋องเฟิงซินซึ่งอยู่ขั้นที่หกของอาณาจักรถ้ำสวรรค์ยังถูกเย่หวู่ชางตัดศีรษะด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว
เเละพวกเขาจะไปมีโอกาสเป็นคู่ต่อสู้ของเย่หวู่ชางได้อย่างไร
ต้องบอกว่าด้วยฐานการฝึกตนอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์ของเย่หวู่ชาง…..เขาได้ข่มขู่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรถ้ำสวรรค์ได้ทั้งหมด
"เป็นไปได้ไหมว่าเราจะละทิ้งมรดกที่สืบทอดมาหลายพันปี…..เพียงเพราะกลัวรุ่นเยาว์อาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์เนี่ยนะ?"
"ถูกต้องแล้ว บรรพบุรุษของเราทิ้งมรดกอันยิ่งใหญ่ไว้เบื้องหลัง….เราจะยอมเเพ้ง่ายๆไม่ได้”
“และอีกอย่าง….หากผู้ฝึกตนอาณาจักรถ้ำสวรรค์ของเราร่วมมือกับผู้ฝึกตนอาณาจักรถ้ำสวรรค์จากอีกสามกองกําลัง….เราก็จะมีบุคคลผู้แข็งแกร่งมากมายที่น่าจะสามารถเผชิญหน้ากับเขาได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของผู้ฝึกตนอาณาจักรถ้ำสวรรค์หลายคนก็สว่างขึ้น….และความมุ่งมั่นก็เริ่มปรากฏขึ้นในดวงตาของพวกเขา
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดถูกล่อลวงเล็กน้อย
หากพวกเขาทั้งหมดกลัวรุ่นเยาว์อาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์เพียงคนเดียวจริงๆ….ทั้งชีวิตที่เหลือของพวกเขาคงจะถูกทําเครื่องหมายไว้ด้วยความน่าอับอาย
เเต่อย่างไรก็ตาม, ในขณะนี้จู่ๆก็มีองครักษ์คนหนึ่งเดินเข้ามา
"รายงานครับ, มีทูตจากราชวงศ์ต้าเซี่ยมาเเจ้งว่ามีเรื่องสําคัญที่ต้องหารือกับพวกท่าน!"
เมื่อได้ยินสิ่งนี้….ทุกคนต่างก็ตกตะลึงทันที
พวกเขามองหน้ากันและทันใดนั้นก็เห็นความสงสัยในสายตาของกันและกัน
จากนั้น, สมาชิกราชวงศ์อารมณ์ร้อนคนหนึ่งก็รีบยืนขึ้นโดยตรง
“ทั้งสองฝ่ายใกล้จะทำสงครามกันเเล้ว….เเต่พวกเขายังกล้าที่จะส่งใครมาอีกหรือ?”
“ฆ่ามันซะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น, คนอื่นๆก็รีบก้าวมาข้างหน้าเพื่อหยุดเรื่องนี้
"ไม่ต้องรีบร้อนไป, เรามาดูกันว่าเถอะ….ว่าเขามาพูดเรื่องอะไร”
“อย่างไร, พวกเขาก็ไม่ได้ฆ่าทูตของเราในช่วงสงคราม”
"ถูกต้อง, บางทีพวกเขาอาจไม่ต้องการทําลายเราเเล้ว….และอาจจะกำลังต้องการหารือเกี่ยวกับการสงบศึก"
เมื่อได้ยินสิ่งนี้, ในที่สุดบุคคลนั้นก็ใจเย็นลงและหยุดพูด
จากนั้น, ในไม่ช้าชายคนหนึ่งในวัยห้าสิบผู้สวมเครื่องแต่งกายของราชวงศ์ต้าเซี่ยก็เดินเข้ามา
เเละชายคนนี้ก็คือผู้ฝึกตนอาณาจักรพระราชวังสีม่วงของต้าเซี่ย, เซี่ยหยุนเหยา
เซี่ยหยุนเหยาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าบรรพบุรุษของราชวงศ์ต้าเซี่ย ซึ่งได้รับการเคารพนับถืออย่างเขา, วันหนึ่งจะกลายเป็นเเค่ทูตคนหนึ่ง
แต่เขาก็ทําอะไรไม่ได้เช่นกัน, ไม่ว่าจะเป็นเซี่ยจือซวนหรือเย่หวู่ชาง…..พวกเขาทั้งคู่ปฏิบัติต่อบรรพบุรุษของราชวงศ์ด้วยความเย็นชา
ยิ่งไปกว่านั้น, ด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของเซี่ยจือซวนและตระกูลเย่.. ..ราชวงศ์เซี่ยของพวกเขาต่างก็รู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก
หากพวกเขาไม่ออกมาเปิดเผยตัวตนของพวกเขา….ผู้คนในต้าเซี่ยอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่านามสกุลของราชวงศ์คือนามสกุลเซี่ย
อย่างไรก็ตาม, พวกเขาไม่สามารถพาตัวเองไปเเทรระหว่างเย่หวู่ชางและ เซี่ยจือซวนได้
เพราะการดํารงอยู่ของทั้งสองคนเป็นการเสริมพลังของต้าเซี่ยอย่างชัดเจน….ยกตัวอย่างง่ายก็คือสงครามครั้งนี้
หากพวกเขาสามารถโค่นล้มราชวงศ์ทั้งสี่ได้….ต้าเซี่ยก็จะก้าวไปสู่การเป็นหนึ่งในกองกําลังที่ทรงพลังที่สุดอย่างแน่นอน
แต่ถึงเเบบนั้น, ความจริงที่ว่าเด็กที่เกิดจากเซี่ยจือซวนต้องใช้นามสกุลเย่แทนที่จะเป็นเซี่ย….ก็ทําให้พวกเขาไม่มีความสุขมาก
อย่างไรก็ตาม, แม้จะไม่มีความสุข….แต่พวกเขาก็ไม่กล้าออกมาส่งเสียงใดๆ
เเค่ผู้ปกครองคนปัจจุบันอย่างเซี่ยจือซวนไม่ใช่นามสกุลเย่ก็ดีสำหรับพวกเขามากเเล้ว
ดเงะพวกเขายังเห็นว่าเย่หวู่ชางไม่สนใจตําแหน่งนี้….มิฉะนั้นพวกเขาอาจจะต้องปวดหัวมากอย่างเเน่นอน
……..
"ทําไมเซี่ยจือซวนถึงส่งเจ้ามา" สมาชิกราชวงศ์มองลงมาที่เซี่ยหยุนเหยาและเอ่ยปากถาม
เมื่อเห็นว่าทูตเป็นเเค่ผู้ฝึกตนอาณาจักรพระราชวังสีม่วง….พวกเขาก็ไม่ได้จริงจังกับเซี่ยหยุนเหยามากนัก
เเละเมื่อเห็นสิ่งนี้, เซี่ยหยุนเหยาก็อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยในใจ
ประเทศนี้กําลังจะถูกทําลายอยู่เเล้ว….แต่เจ้าพวกนี้ยังคงรักษาทัศนคติที่สูงส่งเช่นนี้
"ข้ามาที่นี่ในนามของจักรพรรดินี, เพื่อเกลี้ยกล่อมให้พวกเจ้ายอมจํานน"
ทันทีที่คําพูดเหล่านี้ถูกพูด….ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวก็ปะทุขึ้นจากบุคคลที่ทรงพลังเหล่านี้ทันที
"อวดดี!"
"ราชวงศ์ต้าเซี่ยของเจ้ามีสิทธิ์อะไรที่จะมาบอกให้จักรวรรดิต้าเสวี่ยอันยิ่งใหญ่ของพวกข้ายอมจํานน
"ใครทําให้เจ้ากล้าพูดกับเราแบบนี้"
"ไม่ต้องพูดอะไรกันเเล้ว, ฆ่าเขาและเอาหัวเขาเสียบประจานเพื่อแสดงทัศนคติที่เรามีต่อต้าเซี่ย"
เมื่อรู้สึกถึงออร่าอันน่าสะพรึงกลัวจากอีกฝ่าย, เซี่ยหยุนเหยาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดผวา
ถ้าไม่ใช่เพราะเซี่ยจือซวนให้สมบัติแก่เขาไว้ป้องกันตัว….เขาอาจจะนอนอยู่บนพื้นในสภาพที่น่าสมเพชไปนานเเล้ว
แต่ตอนนี้, เขายังคงสามารถรักษารอยยิ้มจางๆบนใบหน้าของเขาไว้ได้
"สุภาพบุรุษทั้งหลาย จักรพรรดินีของข้ามีของกำนัลมามอบให้….ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะตัดสินใจให้ดีอีกครั้งหลังจากเห็นมัน"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ฝูงชนยังคงมองมาที่เขาอย่างเย็นชาโดยไม่พูดอะไรมาก
ท้ายที่สุด, ผู้ฝึกตนอาณาจักรถ้ำสวรรค์คนหนึ่งก็พูดอย่างเย็นชาว่า
"เอามันออกมา!"
เมื่อได้ยินเช่นนี้, เซี่ยหยุนเหยาก็หยิบใบหยกออกมาโดยตรงแล้วบดขยี้มันทันที
ตูมมมม~~~~!
ในชั่วพริบตาที่ใบหยกถูกทำลาย
ออร่าอันยิ่งใหญ่และอยู่ยงคงกระพันเหมือนภูเขาสวรรค์สูงตระหง่านก็ปะทุขึ้น
ที่จุดสูงสุดของอาณาจักรต้าเสวี่น, ร่างอวตารของชายชุดดําค่อยๆปรากฏตัวขึ้น
เขาหล่อเหลา, ทรงพลัง, และมีออร่าที่ดุร้าย
ดวงตาของเขาเปล่งประกายราวกับดวงดาว….มันเต็มไปด้วยแสงที่น่าหลงใหลอันไม่รู้จบ
บูมมมม!
พัฟฟฟฟ!
ในพระราชต้าเสวี่ย, ผู้ฝึกตนอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์ทั้งหมดล้วนถูกกดขี่ด้วยออร่าของเขาจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
เเละแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรถ้ำสวรรค์จะมีสภาพที่ดีกว่าเล็กน้อย….แต่ผลของการต่อต้านของพวกเขาก็ทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บจนเลือดใหลออกมาที่มุมปาก
แต่ในตอนนี้พวกเขาไม่สามารถสนใจอาการบาดเจ็บของพวกเขาได้
พวกเขารีบมองท้องฟ้าด้วยความกลัวและความกังวลใจ
เพียงแค่ออร่าของอวตารเพียงร่างเดียวกลับสามารถปลดปล่อยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ออกมาได้
หากร่างที่แท้จริงของอีกฝ่ายปรากฏตัวขึ้น…..พวกเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ได้จริงๆหรือ
แม้ว่าพวกเขาจะรวมพลังของทั้งสี่ราชวงศ์…..มันก็อาอาจจะไม่มีโอกาสเลย
ในขณะนี้พวกเขาซึ่งเดิมวางแผนที่จะรวมพลังกัน….เริ่มรู้สึกถึงความไร้อํานาจที่จะต่อต้าน
อย่างไรก็ตาม
ในขณะนี้ร่างอวตารของเย่หวู่ชางเริ่มขยับตัวเเล้ว
สายตาของทุกคนได้เห็นเขาโบกมือไปทางความว่างเปล่า
ครืนนนน~~~!
แสงวาบของดาบพุ่งออกมาจากมือของเขากลายเป็นคมดาบนับไม่ถ้วนเเละมุ่งหน้าไปยังทางไกล
ในที่สุด, ปราณดาบนี้ก็ตกลงบนภูเขาสูงตระหง่านเเห่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม, ภูเขานี้ไม่ใช่ภูเขาธรรมดา
เเต่มันเป็นภูเขาที่ถูกสร้างขึ้นโดยหินเทียนเสวี่ย….และเป็นที่รู้จักในฐานะราชาที่ไม่แตกสลายภายใต้อาณาจักรดวงดาว
แต่วันนี้, หลังจากเย่หวู่ชางปลดปล่อยปราณดาบเเบบไม่ได้ใส่ใจ
ตูมมมมม~~~~!
ปราณดาบนั้นได้หายไปในภูเขาหิมะต้าเสวี่ยเเละมันตามด้วยเสียงที่เสียดเเก้วหู
เมืองหลวงต้าเสวี่ยทั้งเมืองเเละสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนต่างหันมาสนใจต่อเสียงนี้
เเละพวกเขาก็เห็นว่าสัญลักษณ์แห่งศรัทธาที่ยืนหยัดมาหลายหมื่นปี…..สัญลักษณ์ของเมืองหลวงต้าเสวี่ยกำลังสั่นสะท้านและแตกสลายในที่สุด
มันไม่ให้เวลาพวกเขาได้ตอบสนอง
ภูเขาหิมะต้าเสวี่ยได้กลายเป็นผงอณูและสลายไปอย่างรวดเร็ว
ฉากนี้ทําให้ผู้คนนับไม่ถ้วนตกตะลึง
การล่มสลายของภูเขาหิมะต้าเสวี่ยทําให้ความศรัทธาของผู้คนนับไม่ถ้วนในราชวงศ์ต้าเสวี่ยหายไปเช่นกัน
เเละหลังจากทําทั้งหมดนี้เสร็จแล้ว…..อวตารของเย่หวู่ชางก็เหลือบมองลงไปยังด้านล่างแล้วพูดอย่างใจเย็นชาว่า
"ผู้ที่ไม่ยอมจํานน….ก็จะต้องเป็นเหมือนภูเขาลูกนี้!"
หลังจากพูดร่างอวตารก็หายไปโดยตรง
ใบหยกนี้ไม่ได้มีพลังของเย่หวู่ชาง สะสมไว้มากนัก
หลังจากพลังหมด, ร่างอวตารของดขาจึงหายไปโดยธรรมชาติ
แต่ต้องบอกว่าการลงมือของร่างอวตารนี้ได้ข่มขู่ทุกคนในเมืองหลวงต้าเสวี่ยอย่างแท้จริง
เมื่อรู้สึกถึงพลังของเย่หวู่ชางอย่างใกล้ชิด….เซี่ยหยุนเหยาก็ตกตะลึงไม่เเพ้คนอื่น
แต่ที่สําคัญกว่านั้นความมั่นใจในหัวใจของเขาก็ยิ่งมีมากยิ่งขึ้น
จากนั้น, เขาก็ยืดหลังตรงและพูดอย่างภาคภูมิใจต่อหน้าผู้ฝึกตนอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์และผู้ฝึกตนอาณาจักรถ้ำสวรรค์
"จักรพรรดินีตรัสในนามของต้าเซี่ย….ท่านจะรับประกันการยอมจํานนด้วยการรับรองความปลอดภัย ของสายเลือดของพวกเจ้า”
“และพวกเจ้าได้รับที่อยู่อาศัยสำหรับพัฒนาตระกูลของตนภายในดินแดนต้าเซี่ย”
"เเต่ถ้าต่อต้านอย่างดื้อรั้น, ในวันที่กองทัพของจักรพรรดินีมาถึง…..จะไม่มีเเม้เเต่คนเดียวที่มีนามสกุล 'เสวี่ย' จะได้รับการยกเว้น!"
หลังจากพูดจบ, เขาก็ไม่ได้มองคนเหล่านี้และเดินกลับไปที่ประตูโดยตรง
เเต่ก็เป็นอย่างที่เขาคาดไว้ใน….ในขณะนี้ผู้คนรอบๆไม่มีใครมีอารมณ์จะสนใจเขาเลย!
เเละหลังจากออกจากวัง….ในที่สุดเซี่ยหยุนเหยาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ในขณะนี้หลังของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็น
เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาแสดงท่าทีก้าวร้าวต่อหน้าผู้ฝึกตนอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์, และผู้ฝึกตนอาณาจักรถ้ำสวรรค์
เขาเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากและรีบออกจากสถานที่นี้อย่างรวดเร็ว
………
อย่างไรก็ตาม
แม้ว่าเซี่ยหยุนเหยาจะจากไปเเล้ว….แต่คนอื่นๆก็ยังคงไม่ฟื้นคืนสติ
เเละหลังจากนั้นไม่นาน, ในที่สุดพวกเขาก็สงบสติอารมณ์ได้และเริ่มมองหน้ากัน
"เราควรจะทําอย่างไรต่อไปดี"
"ความแข็งแกร่งของเย่หวู่ชางนั้นทรงพลังมากเกินไป!"
"ใช่, แม้ว่านั่นจะเป็นเพียงร่างอวตาร….เเต่ต่อให้เราใช้ทรัพยากรทั้งหมดจนสุดตัว, เราก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของร่างอวตารของเขา!"
ทุกคนพูดกันทีละคำ, แต่ไม่มีใครพูดถึงความคิดที่จะยอมแพ้ เพราะมันน่าอายมากเกินไป
เเละทันใดนั้น, ร่างหนึ่งก็เดินเข้ามาซึ่งเขาก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของราชวงศ์ต้าเสวี่ยด้วย
เขาถือใบหยกไว้ในมือซึ่งมันดูหนักหน่วงสำหรับเขามาก
"ลองดูข่าวนี้, เเล้วรีบตัดสินใจแต่เนิ่นๆ"
หลังจากพูดจบ, เขาก็ส่งต่อให้ทุกคน
เมื่อทุกคนรับมันและเริ่มตรวจสอบ…..จากนั้นพวกเขาก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกันทีละคน
"อาณาจักรเชื่อมโยงเทพเจ้าขั้นสูงสุด…..นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!"
"นั่นสิ….ตระกูลเย่นี้มีขุมพลังอาณาจักรเชื่อมโยงเทพเจ้าจริงๆหรือ?"
"เเถมด้วยกําลังของคนเพียงคนเดียว …..พวกเขาสามารถปราบปรามตระกูลตงฟางที่โดดเด่นได้ มันช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ!"
ปรากฎว่าใบหยกมีข่าวการต่อสู้ระหว่างเย่เจิ้นและตงฟางหมิงคง
ข่าวการต่อสู้ครั้งนี้ได้มาถึงแคว้นชานหลานในที่สุด
เเละเมื่อพวกเขาเห็นว่านอกจากเย่หวู่ชางแล้ว….มันยังมีขุมพลังอาณาจักรเชื่อมโยงเทพเจ้าอีกคนในตระกูลเย่
พวกเขาก็ไม่มีการต่อต้านในใจอีกต่อไป
"เรายอมจํานนเถอะ!"
หลังจากมีคนพูดเเบบนี้, ทุกคนก็ทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้
เเละนี่มันก็หมายความว่าราชวงศ์ต้าเสวี่ยได้เข้าสู่จุดจบในประวัติศาสตร์อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
***ตอนเรื่อยๆเเบบนี้จะปล่อยฟรีนะครับ
……………………..