ตอนที่แล้วบทที่ 86 เจ้าจะรับกระบี่ของข้า ได้ถึงสามกระบวนท่ารึไม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 88 ได้แค่นี้หรือ

บทที่ 87 หยางเสี่ยวเทียน รับมือข้าให้ดี!


วิญญาณยุทธ์ขั้นสูงที่สำนักเสินไห่ กล่าวขานว่าน่าหวาดหวั่นประดุจสัตว์ประหลาด ตอนนี้ กลับถูกหยางเสี่ยวเทียนเตะกระเด็นออกไปสภาพไม่ต่างจากหมูโสโครก

เมื่อเกาลู่และคนอื่นๆ ได้เห็นภาพร่างของซูหลี่ อัจฉริยะผู้แข็งแกร่งสุดประจำชั้นปีหนึ่งแห่งสำนักเสินไห่ ถูกหยางเสี่ยวเทียนใช้เพียงเท้าเตะปลิวไปข้างหลังตัวหดงอปานกุ้งประจักษ์ต่อสายตาทุกคู่ ทำพวกเขาถึงกับหน้าซีดเผือด

รวมทั้งเฉิงเป้ยเป้ยกับหยางจง

เนื่องทุกคนต่างเห็นและรับรู้ดี ว่าซูหลี่แข็งแกร่งแค่ไหนในการประลองศิษย์ใหม่ครึ่งชั่วยามก่อนหน้า เขาจัดการศิษย์ใหม่จากสำนักเสินเจี้ยน เอาชนะทุกคนโดยลำพังง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ

แต่ตอนนี้ ซูหลี่ผู้ได้กวาดล้างศิษย์ใหม่ในสำนักเสินเจี้ยนจนราบคาบ ถูกหยางเสี่ยวเทียนสยบลง ง่ายกว่าพลิกฝ่ามือเสียอีก

นี่คือสิ่งที่ปรากฏขึ้นจริงยังสายตาทุกคนในจัตุรัส

ส่วนหลินหยงและเฉินหยวน ก็มาถึงทันเวลาเห็นหยางเสี่ยวเทียนเตะซูหลี่ตัวลอยออกไปจากระยะไกลเท่านั้น

ซึ่งทั้งคู่ก็ตกใจไม่น้อยไปกว่าคนอื่นๆ เช่นกัน

ซูหลี่ยันร่างลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลขณะมองหยางเสี่ยวเทียนไม่วางตา ความรู้สึกเขาตอนนี้ทั้งประหลาดใจ ทั้งคุกรุ่นด้วยโกรธแค้นและยังอับอายที่เริ่มปะทุขึ้นจากส่วนลึกในจิตใจ เคล้ารวมกันจวนสับสน

เขา ผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นถึงสัตว์ประหลาดอัจฉริยะที่มีวิญญาณยุทธ์ขั้นสูง กลับถูกศิษย์ใหม่ผู้มีเพียงวิญญาณยุทธ์ขยะระดับสองจากสำนักเสินเจี้ยน ใช้เท้าเตะออกไปเหมือนหมูเหมือนหมา

ต่อหน้าอาจารย์พร้อมศิษย์ทุกคนของสำนักเสินเจี้ยนและสำนักเสินไห่

น่าอัปยศสิ้นดี!

หลังซูหลี่ยืนขึ้นช้าๆ พยายามเกร็งตัวให้ตรงสง่าต่อสายตาหยางเสี่ยวเทียนผู้ยืนนิ่งอยู่เบื้องหน้า มิมีไหวติงประดุจแท่งศิลา

“หยางเสี่ยวเทียน เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!”

ทันทีที่ซูหลี่ร้องแหกปาก แสงสว่างก็ปะทุออกมาจากร่างกายเขาเต็มทุกอณู ก่อตัวเป็นภาพธรรมของมหาวานรยักษ์ข้างหลังเขา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในวิญญาณยุทธ์ขั้นสูงที่สร้างเขาให้มีชื่อเสียง

จิตใจของทุกคนพลันตึงเครียดเมื่อมองยังภาพธรรมมหาวานรยักษ์ที่สูงกว่าร่างซูหลี่เกือบสามสิบฉื่อ

ก่อนที่ในไม่ช้า แรงกดดันอันมหาศาลจะค่อยๆ หายไป พร้อมภาพธรรมของมหาวานรยักษ์ได้ผสานรวมเข้าร่างซูหลี่เบื้องหน้ามันอย่างน่าอัศจรรย์

นี่เป็นครั้งแรกที่หลายๆ คนได้เห็นวิญญาณยุทธ์ขั้นสูง พวกเขาต่างเบิกตายืนตะลึงลานต่อภาพธรรมของมหาวานรยักษ์อันทรงพลังตรงหน้า อีกทั้งส่วนใหญ่ยังเพิ่งเคยพบการผสานกายแท้เข้ากับวิญญาณยุทธ์เช่นนี้

เวลาเดียวกัน ร่างซูหลี่ก็เปล่งประกายขึ้นเรื่อยๆ จนทุกคน ณ ที่แห่งนั้นต้องยกมือขึ้นปิดบังตา กระทั่งแสงเลือนลับ หลงเหลือเพียงเจ้าของร่างเล็กอันดูแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด

มังสาทั่วสรรพางค์กายทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยขน

ครั้นมองจากระยะไกล คล้ายคลาไม่ต่างเจ้ามหาวานรยักษ์มิมีผิด ทว่าตัวเล็กกว่าภาพธรรมเมื่อครู่นัก

พลังมหาศาลอัดแน่นในร่างเขาทวียิ่ง จนเอ่อล้นก่อนระเบิดออกมาจากกายนั้นอย่างรุนแรง เสียงดังไกลแผ่วงกว้างไปถ้วนทั่ว

ทันใดนั้น เขาก็กระโดดปราดจนสูงลิ่ว พุ่งลงตรงหน้าหยางเสี่ยวเทียนส่งผืนพสุธากระเทือนไหวครั้นสองเท้าหยั่งถึงพื้น ทั้งเศษหินดินกระเบื้องรอบฝ่าเท้าฟุ้งกระจายไปทั่วอาณาบริเวณ ด้วยแรงกดทับอันมหาศาลพานให้เกิดหลุมลึกมิใช่น้อย

หลังผสานร่างวิญญาณยุทธ์ ซูหลี่มิเพียงแต่เพิ่มพูนความเร็วเท่านั้น พลังโจมตีและการป้องกันก็พลันทวีมหาศาลไปด้วย

ยิ่งวิญญาณยุทธ์ทรงพลังมากเท่าใด กายแท้วิญญาณยุทธ์ก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

“หยางเสี่ยวเทียน รับมือข้าให้ดี!”

ซูหลี่แผดเสียงร้องกึกก้องกังวาน แล้วเขยื้อนร่างนั้นพุ่งเข้าหาหยางเสี่ยวเทียน พร้อมเหยียดกระบี่ยาวในมือแทงไปข้างหน้า

ปราณกระบี่ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง สร้างความกดดันอันน่าพรั่นพรึงต่อผู้ได้พบเห็น ปราณกระบี่ที่กำลังท่องทะยานด้วยความเร็วสูง มิอาจคาดคะนึงได้ว่าหากถูกมันกระแทกจะแหลกหรือไม่

“นี่มัน เพลงกระบี่วิญญาณศักดิ์สิทธิ์!” ศิษย์หนึ่งคนในนั้นเบิกตาโปนด้วยตกใจ จนปากสั่นพลันอุทานออกมา

เพลงกระบี่วิญญาณศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งในวรยุทธขั้นเซียนยุทธ์ชั้นยอดของสำนักเสินไห่

มิเพียงเท่านี้ มันยังเป็นหนึ่งในวรยุทธที่ฝึกฝนสำเร็จยากมาก หากสามารถแตกฉานได้ ก็นับว่าเป็นอัจฉริยะของชั้นปีหนึ่งทีเดียว

ทุกคนในสำนักเสินเจี้ยนต่างมิคาดคิดว่า ซูหลี่ผู้นี้จะสามารถฝึกฝนเพลงกระบี่วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ได้สำเร็จ  ครั้นพินิจจากพลังของมันแล้ว เขาต้องบรรลุไม่ต่ำกว่าขั้นฉลาดล้ำเลิศแน่นอน

เมื่อเห็นว่าปราณกระบี่ของซูหลี่กำลังจะเข้าถึงตัวหยางเสี่ยวเทียน โดยหมายจะแทงให้ทะลุหน้าอกอย่ามิคิดปรานี

“ระวัง!” หลินหยง เฉินหยวน และคนอื่นๆ ที่กำลังรุดมาห่างมิใกล้มิไกลนัก ต่างร้องตะโกนเสียงหลงเตือนหยางเสี่ยวเทียนอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าวิตก

ระหว่างนั้นเอง หยางเสี่ยวเทียนผู้ยังคงสีหน้านิ่งเฉย ได้เริ่มเหวี่ยงกระบี่ยาวในมือออกมาฟาดฟันเข้าฉะปราณกระบี่ของซูหลี่เบื้องหน้ากะทันหัน ว่องไวไม่น้อยไปกว่าเขา

ทันใดนั้น ปราณกระบี่นับสิบเล่มก็ปรากฏขึ้นเหนือเวหา

ปราณกระบี่ มากถึงสิบเล่มแล้ว!

ขณะทุกคนกำลังสนใจกับปราณกระบี่ทั้งสิบ จู่ๆ ร่างของหยางเสี่ยวเทียนที่ยืนอยู่กลางจัตุรัสก็ขาดหายไปในพริบตาทำใจเสีย

ซูหลี่เผยยิ้มหลังคิดว่าปราณกระบี่ของตนโจมตีถูกหยางเสี่ยวเทียนแน่นอนแล้ว แต่ทันใดนั้น ปราณกระบี่จำนวนมากก็พุ่งเข้าหาเขาจากทางด้านหลังพร้อมร่างของหยางเสี่ยวเทียวถือกระบี่ในมือ ชี้ลงมาเหนือหัวเขาก่อนจะวับหายไปครั้นซูหลี่ยกกระบี่ขึ้นปัดป้อง

เขากวาดมองหาหยางเสี่ยวเทียนที่อยู่ตรงหน้าเมื่อครู่ ก็มิเห็นร่างนั้นเสียแล้ว เมื่อทุกสิ่งเบื้องหน้าประจักษ์ต่อสายตา ไม่ช้าในหัวก็พลันนึกถึงเพลงกระบี่หนึ่งผุดเข้ามา ทำเอาสีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันที

ยามนี้คะนึงได้ กายก็ต้องการถอยร่นอย่างรวดเร็ว แต่กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินไป เพราะปราณกระบี่ของหยางเสี่ยวเทียนพุ่งมากระชั้นชิดแล้ว แม้นอยากจะหนีก็มิอาจพ้นได้

เกือบจะในเวลาเดียวกัน ปราณกระบี่ทั้งสิบของหยางเสี่ยวเทียน ก็ทะยานเข้าใส่ร่างซูหลี่ทีละเล่ม ทำเขาตัวงอครั้งแล้วครั้งเล่า

เพลงกระบี่วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของซูหลี่ที่ใช้ไปเมื่อครู่ ตอนนี้นั้น ไร้ค่าเมื่อมันอยู่ต่อหน้าปราณกระบี่นับสิบของหยางเสี่ยวเทียน

แรงปะทะในครานี้เร็วขึ้นและหนักหน่วง ส่งร่างซูหลี่พุ่งลอยละลิ่วคล้ายจะเหมือนเดิมทุกประการกับโดนเพลงเตะก่อนหน้า จนกระแทกพื้นดังสะเทือนพานให้ผืนปฐพีแตกละเอียด

ปากที่เคยเหยียดยิ้มด้วยมั่นใจก่อนหน้า บัดนี้กระอักเลือดอย่างน่าเวทนานัก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด