ตอนที่ 115 สัญญา
ตอนที่ 115 สัญญา
ม้วนสัญญาเบื้องต้นเป็นของจากคริสตัลมอลล์ พวกมันสามารถใช้เพื่อทำสัญญาต่าง ๆ ได้ แต่สัญญานั้นจำกัดไว้สำหรับอสูรที่ต่ำกว่าสามดาวเท่านั้น
เมื่อไอร่ากำลังแลกเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ เธอได้แลกม้วนสัญญาและวางมันไว้ในพื้นที่จัดเก็บของวงแหวนของเธอ
มันจะมีประโยชน์ตอนนี้
คอนริวางมือของเขาไว้ด้านหลังและหยิบม้วนสัญญาจากวงแหวนมิติของเขาออกมา
ม้วนหนังสือที่ทำจากหนังแกะดูโบราณมาก มันว่างเปล่า
ทั้งสองฝ่ายต้องเขียนเนื้อหาของสัญญาและชื่อของทั้งสองฝ่ายลงในม้วนหนังสือ จากนั้นพวกเขาก็ต้องประทับตรานิ้วหัวแม่มือก่อนที่สัญญาจะมีผลอย่างเป็นทางการ
แต่ปัญหาคือคอนริอ่านไม่ออก
นี่เป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจเล็กน้อย
เขาพูดกับมักกะลีว่า “รออยู่ที่นี่สักครู่ ข้าจะรีบกลับมา”
คอนริขอให้เจโรมอยู่ที่นี่และรับรองมักกะลีและคนอื่น ๆ เขารีบกลับไปยังภูเขาหินอย่างรวดเร็วเพื่อพบกับไอร่า เขาเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับเผ่าแม่น้ำดำ
ไอร่าถามว่า “เจ้าวางแผนที่จะปล่อยให้มักกะลีและอสูรเผ่าม้าเหล่านั้นอยู่ที่นี่หรือ เจ้าไม่กังวลว่าบูจินจะตามมาแก้แค้นเจ้าหรืออย่างไร”
คอนริเผยลวดลายดาวบนแขนของเขาและเลิกคิ้วด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้ข้าเป็นอสูรวิญญาณระดับสองดาวแล้ว เหตุใดข้าต้องกลัวอสูรธรรมดาที่ยังไม่ปลุกอสูรวิญญาณด้วยเล่า หากเขาต้องการสร้างปัญหาก็แค่มาหาข้า ข้าจะเอาชนะเขาได้อย่างแน่นอน”
ไอร่าเคยชินกับบุคลิกของผู้ชายคนนี้ในการแสดงออกเป็นครั้งคราว บางครั้งเธอถึงกับคิดว่าหน้าตาขี้ระแวงของเขาค่อนข้างน่ารัก
เธอคลี่ม้วนสัญญาออก จุ่มกิ่งก้านลงในเลือดสัตว์ และเริ่มเขียนสัญญา
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ลูกหมาป่าทั้งสี่จึงโน้มตัวไปและเอียงคอเพื่อดูว่าเธอกำลังเขียนอะไร
หลังจากที่มักกะลีและม้าป่าที่เขาพามาเริ่มอาศัยอยู่ในภูเขาหิน พวกเขาก็ต้องปฏิบัติตามกฎของเผ่าหมาป่าภูเขาหินอย่างเคร่งครัด พวกเขาไม่สามารถเปิดเผยสถานการณ์ภายในของเผ่าหมาป่าภูเขาหินได้ หากพวกเขาผิดสัญญา พวกเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานกับวิญญาณของพวกเขา
คอนริมองดูข้อความในม้วนสัญญาและรู้สึกภูมิใจเป็นพิเศษ
ภรรยาของเขาไม่เพียงแต่อ่อนโยนและน่ารักเท่านั้น แต่เธอยังมีความรู้อีกด้วย ดูคำเหล่านี้สิ พวกมันเขียนไว้อย่างงดงาม
ในทวีปอสูรทั้งหมด ไม่มีผู้หญิงคนใดที่จะมีพลังมากกว่าภรรยาของเขาอย่างแน่นอน
คอนริวางม้วนสัญญาอย่างระมัดระวังและรีบวิ่งลงจากภูเขา
คลอเดียยื่นกรงเล็บเล็ก ๆ ของเธอและเล่นกับกิ่งไม้ในมือของไอร่า ดวงตาสีเขียวเข้มของเธอเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ลูกหมาป่าอีกสามตัวตามหลังอย่างเหมาะสมและเล่นกับกิ่งไม้บ้าง
ไอร่ามอบกิ่งไม้ให้กับพวกเขา
คลอเดียเป็นตนที่เร็วที่สุดและคว้ากิ่งไม้ไปในทันที เธอเลียนแบบวิธีที่แม่ของเธอเขียนเมื่อกี้ และกอดกิ่งไม้ด้วยกรงเล็บเล็ก ๆ สองอันของเธอ เธอลากมันไปรอบ ๆ พื้น
น้องชายทั้งสามของเธอล้อมรอบเธอด้วยความกระตือรือร้นที่จะเล่นกับกิ่งไม้ด้วย
ไอร่าดูพวกเขาเล่นและนึกขึ้นได้ว่าถึงเวลาต้องก่อตั้งโรงเรียนแล้ว
‘มาเริ่มกันที่โรงเรียนอนุบาลกันเถอะ’
หลังจากที่คอนริลงจากภูเขา เขาก็แสดงม้วนสัญญาให้มักกะลีดู
ทันทีที่มักกะลีเห็นเนื้อหาของสัญญา การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปทันที “นี่คือตัวอักษรหรือ ในเผ่าของท่านมีคนที่รู้คำศัพท์ด้วยหรือ”
คอนริโบกมือของเขา “สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ธุระของเจ้า เจ้าแค่ต้องประทับรอยนิ้วมือของเจ้าลงไป”
มักกะลีสัมผัสอย่างระมัดระวัง แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจคำศัพท์ในนั้น แต่อสูรที่สามารถเขียนคำได้มากมายต้องมีความรู้และทรงพลังมาก เป็นไปได้มากว่าอีกฝ่ายมาจากเมืองอสูร
คอนริเร่งเร้า “หยุดเสียเวลาได้แล้ว เจ้าจะประทับลายนิ้วมือลงไปหรือไม่”
มักกะลีถามอย่างระมัดระวัง “นี่คือสัญญาอะไร”
“ไม่ต้องกังวล สัญญานี้จะไม่ทำร้ายเจ้า หลังจากลงนามแล้ว เจ้าสามารถเข้าและออกภูเขาหินได้อย่างอิสระ เจ้าต้อนแน่ใจว่าเจ้าจะปฏิบัติตามกฎของเผ่าหมาป่าภูเขาหินอย่างเคร่งครัด และไม่ทำให้สถานการณ์ภายในของเผ่าหมาป่าหินรั่วไหล มิฉะนั้นวิญญาณของเจ้าจะได้รับผลกระทบจากสัญญา”
มักกะลียังคงกังวล “เจ้าไม่ได้โกหกข้าใช่หรือไม่ มีกับดักในสัญญาฉบับนี้ที่เราไม่รู้หรือไม่”
เขาอ่านไม่ออก ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าสัญญาเขียนไว้ว่าอย่างไร จะเกิดอะไรขึ้นหากอีกฝ่ายโกหกเขา
การตายเป็นเรื่องหนึ่งสำหรับเขา แต่มีชนเผ่ามากมายอยู่ข้างหลังเขาด้วย พวกเขาฝากชีวิตไว้ในมือของเขา เขาต้องทำตัวให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจจากพวกเขา
คอนริขมวดคิ้วและพูดว่า “เจ้าตกอยู่ในสถานะนี้แล้ว ทำไมข้าต้องโกหกเจ้าอีก หากข้าต้องการวางแผนต่อต้านเจ้า โจมตีเจ้าไปตรง ๆ ไม่ดีกว่าหรือ อย่างไรเจ้าก็เอาชนะข้าไม่ได้อยู่แล้ว”
ม้าป่าดูโกรธมาก
พวกเขารู้สึกถึงการถูกดูหมิ่น
มักกะลีโบกมือให้กับอสูรที่อยู่ด้านหลังเขาเพื่อให้สงบสติอารมณ์ เขาหัวเราะเยาะตนเอง “เจ้าพูดถูก ตอนนี้เราไม่มีอะไรเลย มันไม่มีอะไรจะเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว”
เขามองย้อนกลับไปที่ม้าป่าและถามอย่างจริงจังว่า “ข้าจะลงนามในสัญญาฉบับนี้ หากพวกเจ้าตนใดไม่เต็มใจ เจ้าสามารถออกไปได้”
ไม่มีใครย้ายตัวไปไหน ม้าป่าทั้ง 57 ตนมองดูเขา
มักกะลีพยักหน้า “ขอใจพวกเจ้าที่ไว้วางใจในตัวข้า”
นิ้วหัวแม่มือของเขาเปื้อนเลือดขณะที่เขากดมันแรง ๆ ลงกับม้วนสัญญา
ทันใดนั้นคำและรอยนิ้วหัวแม่มือสีแดงสดก็สว่างขึ้น รูปแบบมงกุฎนามปรากฏอยู่ที่ด้านหลังของม้วนสัญญา
สัญญามีผลแล้ว
คอนริเก็บม้วนสัญญา “นำสิ่งของของพวกเจ้าแล้วตามเราขึ้นไปบนภูเขา”
ภายใต้การนำของเขา ม้าป่าได้เข้ามาภายในภูเขาหิน
เมื่อพวกเขาเห็นว่ามีป้อมปราการขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ในภูเขาหิน พวกเขาทั้งหมดก็ตกตะลึง
เผ่าหมาป่าหินสร้างป้อมปราการที่ทรงพลังเช่นนี้ได้อย่างไร
ไม่น่าแปลกใจที่คอนริยืนกรานว่าพวกเขาต้องลงนามในสัญญาก่อนที่จะปล่อยให้พวกเขาเข้ามา ในภูเขาหินมีความลับยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่นี่เอง
มักกะลีคิดกับตัวเองว่าหากเป็นเขา เขาจะไม่ยอมให้คนนอกเข้าไปในป้อมปราการโดยไม่มีการป้องกันอย่างเต็มที่
ตอนนี้เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว สัญญาก็ได้รับการลงนามไปแล้ว
พื้นที่นั่งเล่นยังมีอีกหลายชั้นที่ว่างอยู่ คอนริมอบชั้นหนึ่งให้กับมักกะลีและคนของเขา
“จากนี้ไป เจ้าสามารถอยู่ที่นี่ เลือกห้องอยู่ได้ตามที่ต้องการ หากมีใครป่วยให้มาแจ้งทันที หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกกับเจโรมได้”
หลังจากที่คอนริพูดจบ เขาก็ให้เจโรมเข้ามาและขอให้เขาดูแลม้าป่าเหล่านี้
หลังอาหารเย็น ไอร่าคุยกับคอนริเกี่ยวกับการจัดตั้งโรงเรียนอนุบาล
คอนริเห็นด้วยทันที แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าโรงเรียนอนุบาลคืออะไร แต่เขาก็จะตอบสนองความต้องการของสาวน้อยตราบเท่าที่เธอต้องการ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม
เชร์ถามทันที “ข้าได้ยินมาว่ามักกะลีอาศัยอยู่ในป้อมปราการพร้อมกับม้าป่าหลายสิบตัวหรือ”
คอนริตอบอย่างสบาย ๆ “ใช่”
“มีพวกเขาหลายสิบตน เราไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาอยู่ฟรี ๆ ได้ใช่หรือไม่”
คอนริกล่าวทันที “ไม่แน่นอน พวกเขาต้องหาทางเอาชีวิตรอดด้วยตนเอง”
“ข้าหมายถึง ให้พวกเขามีงานทำและปล่อยให้พวกเขาขายแรงงานสำหรับอาหารและที่อยู่อาศัย”
ดวงตาของไอร่าเป็นประกาย “เป็นความคิดที่ดี”