บทที่ 82 : บุกตระกูลตงฟาง
บทที่ 82 : บุกตระกูลตงฟาง
เมื่อร่างของเย่เจิ้นจากไป, แสงริบหรี่ก็ส่องเข้ามาในดวงตาของเย่หวู่ชาง
เนื่องจากเป็นกรณีนี้, บางทีเขาก็ควรเคลื่อนไหวด้วย
……..
วันต่อมา
เย่หวู่ชางเดินลัดเลาะไปตามท้องฟ้าจนกระทั่งในที่สุดเขาก็มาถึงเมืองหลวงของต้าเซี่ย
โดยไม่จําเป็นต้องประกาศใดๆเพื่อทําให้ใครตื่นตระหนก….เย่หวู่ชางได้มาพบกับเซี่ยจือซวนโดยตรง
เเละเมื่อเห็นการมาถึงของเย่หวู่ชาง, ร่องรอยแห่งความสุขก็แวบเข้ามาในดวงตาของเซี่ยจือซวน
เธอละทิ้งเรื่องที่กำลังทำทันที….และหมกมุ่นอยู่กับการแลกเปลี่ยนความรักกับเย่หวู่ชาง
หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดซึ่งกินเวลากว่าครึ่งวัน….ในที่สุดเย่หวู่ชางก็เปิดเผยจุดประสงค์ของเขา
"ท่านพี่แน่ใจหรือ ว่าต้องการเปิดตัวตอนนี้"
เซี่ยจือซวนมองเขาอย่างอยากรู้อยากเห็น….เเละไม่เข้าใจว่าทําไมเขาถึงต้องการเริ่มต้นการเดินทางล่วงหน้า
"มันได้เวลาแล้ว, ราชวงศ์ต้าเซี่ยของเรายังเล็กเกินไป ข้าต้องสร้างอาณาจักรอันกว้างใหญ่สําหรับลูกชายของเรา"
จากนั้นเขาก็มองไปที่เซี่ยจือซวน ด้วยแววตาหยอกล้อ
"ดูเหมือนว่าในอนาคตข้าจะต้องพูดถึงเจ้าในฐานะจักรพรรดินี!"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยจือซวนก็อดไม่ได้ที่จะลดร่างกายของเธอลงโดยสัญชาตญาณตามข้อตกลง
………
วันรุ่งขึ้น
เย่หวู่ชางออกจากวังของเซี่ยจือซวน ด้วยหัวใจที่พึงพอใจ
ทิ้งเซี่ยจือซวนไว้ข้างหลังโดยยังคงจ้องมองร่างที่จากไปของเขาด้วยความรักอย่างสุดซึ้ง
สาวใช้ที่คอยอยู่เคียงข้างเธอหน้าแดงเล็กน้อย….เมื่อเห็นรอยเเดงทั่วร่างกายของเจ้านาย, แต่พวกเธอก็ไม่กล้าถามคำถามที่ไม่เหมาะสม
ในไม่ช้า, การทหารภายในราชวงศ์ต้าเซี่ยทหารก็เริ่มแบกพลังของสวรรค์เเละเปิดการโจมตีในทุกทิศทาง
ในพื้นที่โดยรอบราชวงศ์ต้าเซี่ย
ราชวงศ์ต้าเฟิง, ราชวงศ์ต้าเสวี่ย, ราชวงศ์ต้าเจียง, และราชวงศ์ต้าคุน ล้วนถูกโจมตีจากราชวงศ์ต้าเซี่ย
ในขณะนี้, เซี่ยจือซวนได้แสดงความมั่นใจและศักดิ์ศรีอันทรงพลังที่เหมาะสมกับจักรพรรดินีโดยใช้ความแข็งแกร่งของราชวงศ์ของเธอเพื่อต่อสู้กับสี่ราชวงศ์ใหญ่พร้อมกัน
ความกล้าหาญดังกล่าวของหญิงสาววัย 28 ปีนั้นไม่มีใครเทียบได้เลยในประวัติศาสตร์
ความโกลาหลทางตอนเหนือของ อาณาจักรชางหลานนี้….ทําให้ทุกคนต่างตกตะลึง
เซี่ยจือซวนได้นำทหารราบและทหารม้าของราชวงศ์ต้าเซี่ยแสดงโมเมนตัมที่น่าสะพรึงกลัวและน่าเกรงขาม
เเละด้วยโมเมนตัมของการกวาดล้างของกองทัพทั้งสี่….พวกเขาจึงได้เปิดฉากการโจมตีต่อมหาอํานาจทั้งสี่
หลังจากนั้นในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน
อาณาเขตของราชวงศ์ต้าเซี่ยก็ได้ขยายตัวถึงครึ่งหนึ่ง
ในเวลาเพียงไม่กี่ปีราชวงศ์ต้าเซี่ยซึ่งใกล้จะเสื่อมโทรม….ได้ลุกขึ้นเหมือนมังกรที่ซ่อนอยู่จากขุมนรกภายใต้การดําเนินงานของเซี่ยจือซวน
ราชวงศ์และอาณาจักรใหญ่ๆที่อยู่ไกลออกไปต่างเริ่มกังวลกับเรื่องนี้เช่นกัน
พวกเขาทำการส่งผู้แข็งแกร่งที่สุดที่ตนมีไปฆ่านายพลระดับสูงของราชวงศ์เซี่ยใหญ่….เพื่อให้กองทัพเหล่านี้ล่มสลายโดยที่ยังมาไม่ถึงพวกเขา
เเต่น่าเสียดายที่เซี่ยจือซวน ตอบโต้ความพยายามทั้งหมดนี้ได้อย่างง่ายดาย
นายพลเหล่านี้ล้วนมีสมบัติที่เย่หวู่ชางมอบให้….ซึ่งพวกเขาสามารถเเบ่งพลังส่วนหนึ่งของเธอไปใช้ได้ชั่วคราว
เเละในฐานะอัจฉริยะระดับสูงสุดเเถมยังสามารถดึงพลังของประเทศมาเสริมได้…..ในสงครามครั้งนี้เซี่ยจือซวนก็ได้แสดงพลังการต่อสู้อันน่าสะพรึงกลัวของเธออย่างเต็มที่
ผู้ฝึกตนอาณาจักรพระราชวังสีม่วง ธรรมดาเป็นเหมือนมดเมื่อต้องมาอยู่ตรงหน้าเธอ
แม้แต่ผู้ฝึกตนอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์ที่เริ่มมาทีหลังก็ไม่สามารถเผชิญหน้ากับเธอได้
แม้ว่าการฝึกตนของเธอจะยังอยู่ที่อาณาจักรพระราชวังสีม่วงเท่านั้น…..แต่ด้วยพรของมังกรทองนำโชคเเละพลังของประเทศ, เธอจึงสามารถยกระดับการฝึกตนของเธอไปได้อีกขั้นหนึ่งเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูภายในเขตเเดนของต้าเซี่ย
ชั่วขณะหนึ่งต้าเซี่ยได้แสดงความแข็งแกร่งจนมันทําให้กองกําลังหลักทั้งสี่ต้องล่าถอยไปทีละกอง
ราชวงศ์รอบๆทั้งหมดเริ่มสั่นคลอนกับสิ่งนี้
โดยเฉพาะชื่อเสียงของเซี่ยจือซวน ซึ่งเริ่มแพร่กระจายไปทั่วทั้งสี่ทิศ
ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อรู้ว่าภายในต้าเซี่ย….นอกจากอ๋องดาบไร้เทียมทานแล้ว ยังมีอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้อีกคน
……..
อีกด้านหนึ่ง
เหตุการณ์ที่น่าตกตะลึงก็ได้เกิดขึ้นในมณฑลหยุนไห่
ภายในมณฑลหยุนไห่, ภายในตระกูลตงฟาง
เหล่าจักรพรรดิที่น่าสะพรึงกลัวนั่งอยู่บนแท่นสูง
ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกาย, การจ้องมองของพวกเขาสง่างามราวกับมังกรดึงดูดใจผู้คน
พวกเขาเป็นผู้ฝึกตนอาณาจักรหยินหยางของตระกูลตงฟาง
ออร่าของแต่ละคนทะลวงไปถึงสวรรค์และโลก….เป็นอันดับสองรองจากอาณาจักรเชื่อมโยงเทพเจ้าเท่านั้น
ปกติแล้ว, หลังจากไปถึงอาณาจักรอาณาจักรเชื่อมโยงเทพเจ้าแล้ว พวกเขาจะไม่สนใจสิ่งอื่นอีก
พวกเขาทั้งหมดจะทำการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเพื่อพยายามปรับปรุงตัวเองโดยหวังว่าจะหาโอกาสที่จะฝ่าฟันไปยังอาณาจักรต่อไปได้
ดังนั้นเรื่องส่วนใหญ่ภายในตระกูลจึงถูกตัดสินโดยจักรพรรดิอาณาจักรหยินหยางเท่านั้น, มีเฉพาะเหตุการณ์ที่สำคัญมากๆเท่านั้นที่จะถูกรายงานไปยังบรรพบุรุษอาณาจักรเชื่อมโยงเทพเจ้า
วันนี้เป็นการประชุมเรื่องการเสียชีวิตของตงฟางลู่
ซึ่งนี่ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เเต่ก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก
ในตระกูลตงฟางมีมากถึงห้าคนที่เป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่เทียบเท่ากับตงฟางลู่
การตายของรุ่นเยาว์คนหนึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่
แต่ถ้าพวกเขาเพิกเฉย….ใบหน้าของตระกูลตงฟางจะเอาไปไว้ที่ไหน?
ทุกคนจะไม่คิดว่าตระกูลตงฟางของพวกเขากลั่นแกล้งได้ง่ายเลยหรือ
"เกี่ยวกับเรื่องของตงฟางลู่, ข้าสงสัยว่าทุกคนคิดอย่างไร"
ผู้นำตระกูลตงฟางคนปัจจุบัน, ตงฟางฉางซิงมองไปรอบๆและพูดขึ้นมา
เเละเมื่อได้ยินชื่อของตงฟางลู่, คิ้วของทุกคนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าแม้แต่สมาชิกในตระกูลก็ไม่ชอบตงฟางลู่เล็กน้อย
"ตงฟางลู่ผู้นี่ชอบทําตัวเย่อหยิ่งเเละทะนงตัวอย่างมาก, เมื่อเขาเผชิญหน้ากับกองกําลังที่ทรงพลังอื่นๆ เขามักจะอ้างความแข็งแกร่งของตระกูลตงฟางของเราและกระทำการตามใจตนเอง”
“ข้าไม่รู้ว่ามีกี่กองกําลังที่ไม่พอใจตระกูลตงฟางของเราเพราะเรื่องของเด็กคนนี้…..มันจะดีกว่าถ้าเขาตายไปได้เช่นนี้!”
"ถูกต้อง ข้าเคยเห็นพฤติกรรมของเขาเป็นการส่วนตัวมาก่อน, เขาชอบทําตัวหยิ่งยโสนัก….เเละในโลกนี้ยังมีกองกําลังอีกมากมายที่น่ากลัวกว่าตระกูลตงฟางของเรา, ไม่รู้ในอนาคตถ้าเขาไม่ตาย เขาจะสร้างความเดือดร้อนให้ตระกูลในวันหน้าหรือไม่!"
"ข้าเองก็เห็นด้วย, มันเป็นเรื่องดีที่เขาตาย เพราะถ้าเราปล่อยให้เขาเป็นแบบนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ….คงจะมีสักวันที่กองกําลังทั้งหมดในทวีปเทียนหลัวรวมตัวกันเพื่อต่อต้านตระกูลตงฟางของเรา"
ผู้นำตระกูลตงฟางฉางซิง ไม่ได้คาดหวังเลยว่าตงฟางลู่ไม่เพียงแต่มีชื่อเสียงที่ไม่ดีต่อผู้คนภายนอกเท่านั้น, แต่แม้แต่สมาชิกในตระกูลก็ยังไม่ชอบเขามากๆ
ตงฟางฉางซิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆและพูดว่า
"แม้ว่าเรื่องที่เขาหยิ่งยโสจะเป็นความจริง….แต่ถ้าเราเพิกเฉยต่อเรื่องนี้, กองกําลังอื่นๆอาจคิดว่าตระกูลตงฟางของเรานั้นกลั่นแกล้งได้ง่าย!"
เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย
"ถูกต้อง,เย่หวู่ชางผู้นี้กล้าฆ่าตงฟางลู่ต่อหน้ากองกําลังอื่นๆมากมาย….ถ้าเราไม่สอนบทเรียนให้เขา, ทุกคนคงจะคิดว่าตระกูลตงฟางของเรานั้นไม่มีอํานาจใดๆอีกเเล้ว"
"ไม่ได้…..เราจะแค่สอนบทเรียนไม่ได้, ในยุคของการแข่งขันอันยิ่งใหญ่นี้ มีผู้แข็งแกร่งเเละผู้มีพรสวรรค์อยู่มากมาย, เเถมคนเหล่านี้มีไพ่ลับที่ทรงพลังซ่อนอยู่….หากเราต้องการจัดการกับพวกเขาเราต้องโจมตีด้วยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด" (ทำไมตัวร้ายฉลาด (-_-))
"ถูกต้อง ตอนนี้ชื่อเสียงของเย่หวู่ชาง แพร่หลายมากเกินไป….และความแข็งแกร่งของเขาเองก็น่ากลัวอย่างไม่น่าเชื่อ”
“เขาฆ่าผู้ฝึกตนอาณาจักรถ้ำสวรรค์ ได้ด้วยพลังของอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์….มันไม่น่าแปลกใจเลยที่ร่าง ร่างเต่าศักดิ์สิทธิ์ของตงฟางลู่จะไม่สามารถต้านทานการโจมตีของเขาได้!”
"เเถมบุคคลนี้ยังมีผู้พิทักษ์ที่อยู่ที่จุดสูงสุดของอาณาจักรดวงดาว, ถ้าเราฆ่าเขาไม่ได้ในวันนี้….เมื่อเขาเติบโตขึ้นตระกูลตงฟางของเราจะต้องเดือดร้อนอย่างเเน่นอน!"
"ดังนั้น, เพื่อความปลอดภัยข้าขอแนะนําให้เราส่งผู้ฝึกตนอาณาจักรเชื่อมโยงเทพเจ้าออกไปโดยตรง….เพื่อให้แน่ใจว่าเขาและกองกําลังที่อยู่เบื้องหลังเขาทั้งหมดจะถูกทําลายล้าง"
ครืนนนนน~!
เมื่อได้ยินสิ่งนี้….ทุกคนที่นี่รวมถึงตงฟางฉางซิงก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
เพื่อจัดการกับรุ่นเยาว์ในอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์ขั้นที่แปด….พวกเขาถึงกับจําเป็นต้องระดมอาณาจักรเชื่อมโยงเทพเจ้า, นี่มันไม่เกินไปหน่อยหรือ
อย่างไรก็ตาม, ผู้นำตระกูลตงฟางฉางซิงดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่าง อยู่
เเละหลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งเขาก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน
"ในกรณีนั้น, เราจะเชิญบรรพบุรุษอาณาจักรเชื่อมโยงเทพเจ้าสามคนให้ไปที่ตระกูลเย่….ให้พวกเขาไม้มีโอกาสที่จะหลบหนีได้!"
เมื่อคําพูดเหล่านี้ออกมาทุกคนต่างก็มองเขาด้วยความประหลาดใจ
พวกเขาคิดว่าการระดมอาณาจักรเชื่อมโยงเทพเจ้านั้น….ก็ถือเป็นใช้ค้อนขนาดใหญ่เพื่อฆ่าไก่อยู่แล้ว
เเต่โดยไม่คาดคิด ผู้นำตระกูลคนนี้กลับโหดเหี้ยมยิ่งกว่า….เพราะเขาระดมค้อนขนาดใหญ่สามอันโดยตรง
เเละเมื่อเห็นว่าทุกคนมองมาที่เขา….เขาก็ยับยั้งสีหน้าและเริ่มอธิบาย
"เย่หวู่ชางคนนี้ไม่ธรรมดา, เขาเป็นบุคคลที่อยู่ในรายชื่อตํานานของสำนักงานใหญ่ศาลากลไกสวรรค์…..เราจะประมาทเขาไม่ได้?"
"อีกอย่าง, พวกเจ้าทุกคนคิดว่าเขาบรรลุสถานะปัจจุบันของเขาเพราะได้รับสมบัติจากประตูหินลึกลับใช่ใหม”
“แต่จากการสอบสวนของหน่วยข่าวกรองของเรา, ก่อนเข้าอาณาจักรลับเย่หวู่ชางคนนี้ก็ได้ฆ่าอาณาจักรถ้ำสวรรค์ในตอนที่เขาอยู่ในอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์ได้แล้ว!”
"แม้ว่าจะมีการกล่าวกันว่าอาณาจักรถ้ำสวรรค์คนนั้นบุกทะลวงด้วยการกลืนยาต้องห้ามบางชนิดและไม่มีความหวังที่จะก้าวหน้าต่อไปในช่วงชีวิตนี้ของเขา….แต่มันก็ไม่ควรที่อาณาจักรสําแดงกฎเกณฑ์อย่างเย่หวู่ชางจะสามารถฆ่าเขาได้”
“นี่แสดงให้เห็นว่าเขามีพรสวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัวมากเเค่ใหน!”
"ยิ่งกว่านั้น, พวกเจ้าไม่อยากรู้เหรอว่าความลับอะไรที่ซ่อนอยู่ในประตูหินลึกลับนั้นคืออะไร?”
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าความลับนี้มีความสําคัญมากๆ?”
“อาณาจักรเชื่อมโยงเทพเจ้าเพียงคนเดียวสามารถนํามันกลับมาได้หรือไม่?”
เมื่อได้ยินคําอธิบายจากผู้นำตระกูล….ทุกคนก็ตระหนักได้ทันที
ในเวลาเดียวกันพวกเขายังอดไม่ได้ที่จะชื่นชมภูมิปัญญาอันยิ่งใหญ่ของผู้นำตระกูล
เมื่อก่อนพวกเขาสงสัยว่าทําไมบรรพบุรุษของตระกูลถึงเลือกเขาเป็นผู้นำตระกูล….แทนที่จะเป็นอัจฉริยะคนอื่น
ปรากฎว่าเหล่าบรรพบุรุษล้วนมีเหตุผล
ตงฟางฉางซิงมองไปรอบๆและพบว่าไม่มีใครพูดดังนั้นเขาจึงพูดต่อว่า
"ในกรณีนั้นเรามาลงคะแนนกันเถอะ….หากไม่มีการคัดค้านข้าจะเชิญบรรพบุรุษมาปรึกษาหารือ!"
ในไม่ช้าข้อเสนอแนะของเขาก็ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์
เเละเมื่อเห็นสิ่งนี้ตงฟางฉางซิงก็ไม่เสียคําพูดอีกต่อไป, เขาหยิบใบหยกออกมาโดยตรงซึ่งสิ่งนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นอุปกรณ์การสื่อสารบางอย่าง
ในไม่ช้าใบหยกในมือของเขาก็เปล่งประกายและทุกคนที่อยู่ในนั้นก็ยืนขึ้นและรีบทำความเคารพ
"ทำความเคารพท่านบรรพบุรุษ!"
ไม่นานก็มีเสียงเก่าดังมาจากข้างในใบหยก
"การตัดสินใจของพวกเจ้าถูกต้อง, เด็กคนนี้ไม่ควรประมาท ข้าเห็นด้วย!"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ตงฟางฉางซิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ก่อนหน้านี้, เขากังวลอยู่เล็กน้อยว่าบรรพบุรุษของตระกูลจะไม่พอใจต่อความคิดของเขาหรือไม่….ตอนนี้ดูเหมือนว่าบรรพบุรุษเหล่านี้จะเห็นด้วยกับเขา
เเต่ขณะที่พวกเขากําลังจะสรุปการประชุมนี้….ทันใดนั้น ออร่าอันสง่างามเเละน่าสะพรึงกลัวก็ลงมาที่คฤหาสน์ของตระกูลตงฟาง
ตามมาด้วยมือยักษ์ที่ปกคลุมท้องฟ้า….แบกพลังอันไร้ขอบเขตและพุ่งเข้ามาหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว
ศัตรูกําลังโจมตี!
บุคคลที่แข็งแกร่งหลายคนในตระกูลตงฟางต่างประหลาดใจ
พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะมีคนกล้าบุกรุกตระกูลตงฟาง…นี่พวกมันกําลังแสวงหาความตายหรือไม่?
ทันใดนั้น, ออร่าอันน่าสะพรึงกลัวก็ปะทุขึ้นจากพื้นที่ต้องห้ามของตระกูลตงฟางเเละพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
"ใครกล้ามาสร้างปัญหาในตระกูลตงฟางของข้า!"
"อาณาจักรเชื่อมโยงเทพเจ้าขั้นสูงสุด?.....หึๆ ตระกูลตงฟางของข้าได้ฆ่าคนระดับพวกเจ้าไปหลายคนเเล้ว, ในเมื่อเจ้ามาหาเรา….ก็อย่าได้คิดที่จะกลับไปเลย!"
พร้อมกับเสียงนั้น
ท่าสังหารที่ทรงพลังและไม่มีที่สิ้นสุดก็เจาะทะลุท้องฟ้า
โจมตีไปยังฝ่ามือนั้นด้วยเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
ตูมมมมม~~~!
ท่าสังหารจากทั้งสองฝ่ายปะทะกันในทันที
จากนั้นการระเบิดอันไม่รู้จบก็ดังก้อง ในความว่างเปล่า
เกิดการแตกสลายของช่องว่างมิตินับไม่ถ้วน…..มันกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยและถูกความว่างเปล่ากลืนกิน
ตระกูลตงฟางทั้งหมดสั่นสะท้านเหมือนทะเลอันกว้างใหญ่ที่ทําให้เกิดความรู้สึกกลับหัวกลับหาง
การปะทะกันที่สั่นสะเทือนโลกนี้ทําให้บุคคลที่แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนของตระกูลตงฟางเปลี่ยนการแสดงออกของพวกเขา
ความปั่นป่วนอันน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายไปทั่วความว่างเปล่า….ปลุกบรรพบุรุษเก่านับไม่ถ้วนจากการเก็บตัวฝึกตนของพวกเขา
"ใครมีโมเมนตัมแบบนี้?!"
"มีคนย้ายมาโจมตีตระกูลตงฟาง, แม้ว่าการฝึกตนของพวกเขาจะอยู่ในอาณาจักรเชื่อมโยงเทพเจ้าขั้นสูงสุด …..แต่ชายชราจากตระกูลตงฟางนั้นไม่ง่ายเลยที่จะรับมือ!"
"คนๆนี้เป็นใคร? แม้ว่าเขาจะดูชราเเล้ว….แต่ดูเหมือนเขาจะยังไม่แก่มากนักถ้าเทียบกับอาณาจักรเชื่อมโยงเทพเจ้าคนอื่น, อย่างไรก็ตามเขาดูไม่คุ้นเคยเลยสักนิด!"
"เเต่ชายคนนี้ค่อนข้างหยิ่งยโสมากเกินไป, ตระกูลตงฟางนั้นไม่ธรรมดา…..มิฉะนั้นพวกเขาคงจะไม่สามารยืนหยัดอยู่ได้ถึงวันนี้!"
ชั่วขณะหนึ่ง, สัมผัสอันศักดิ์สิทธิ์ของสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังนับไม่ถ้วนได้ข้ามความว่างเปล่าและมาบรรจบกันบนท้องฟ้าเหนือตระกูลตงฟาง
และเมื่อพวกเขาเห็นฉากตรงหน้า….รูม่านตาของพวกเขาก็หดตัวลงทันทีเพร้อมกับมีความสงสัยแวบเข้ามา
……………………..