ตอนที่ 90 ปราการแสงหายไป ผู้แสวงหาผลประโยชน์ถูกขับไล่ (อ่านฟรี 20/09/2567)
“ทำไมถึงไม่มีปลายอมกินเหยื่อของข้าเลยนะ” ชายชราบ่นออกมาด้วยความเบื่อหน่าย
เขาไม่มีปลาไปขายนานถึงเจ็ดวันแล้ว ทำได้แค่ต้องหางานรับจ้างไปวัน ๆ พอมาวันนี้เห็นว่าสามารถเข้ามายังที่แห่งนี้ได้อีกครั้งเขาเลยรีบตระเตรียมสิ่งของเดินทางยังตั้งแต่เช้าตรู่
แต่ถึงจะนั่งอยู่นานสามชั่วยามก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีปลามากินเบ็ดของเขาแม้แต่น้อย เขาเห็นกับตาว่าในน้ำใสแจ๋วนั้นมีปลาแหวกว่ายอยู่จริง ๆ และเมื่อก่อนที่เขามายังที่แห่งนี้ก็สามารถตกปลากลับไปได้มากมายโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแม้แต่ทองแดงเดียว
“แถมพวกมันยังทำเหมือนเหยื่อที่ข้าเอามาเป็นขยะอีก เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ” ชายชราบ่นออกมาด้วยความท้อใจ
ดูเหมือนวันนี้เขาคงจะไม่ได้ปลากลับบ้านเสียแล้ว
“เฮ้ย! ลุงแก่” มีเสียงที่ฟังแล้วเหมือนเจ้าของเสียงจะกำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่ ดังขึ้นมาที่ด้านหลังของชายชรา ทำให้ชายชราสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปมอง
“หืม? ใครเรียกข้ากัน แล้วนั่นแมวเรอะ” ชายชราที่หันกลับไปก็ไม่พบผู้ใดจึงได้แต่กล่าวออกมาด้วยความมึนงง ก่อนที่เขาจะพบว่ามีแมวตัวอ้วนพลีสีเทานั่งอยู่ตัวหนึ่ง
“น่ารักจริง ๆ ขอข้าลูบพุงหน่อยสิ” ชายชรายื่นมือออกไปเตรียมที่จะจับท้องอันปุกปุยของเมวตรงหน้า
เพี๊ยะ!
“ไปลูบพุงบิดาเจ้าสิ!” แมวตัวอ้วนตบมือที่กำลังยื่นมาหามันของชายชราอย่างไม่ใยดี ก่อนที่มันจะกล่าววาจาดุดันออกมาจนทำให้อีกฝ่ายตกใจ
“แมวพูดได้!” ชายชราตกใจจนทำเบ็ดในมือตกพื้น เขาก้าวถอยหลังหนีไปหลายก้าว
ชายชราเป็นเพียงชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองหลวงก็เท่านั้น เขาอาศัยการตกปลาจากที่นี่ไปขายในตลาดสดเพื่อเลี้ยงชีพมานานแล้ว
เพราะสถานที่แห่งนี้ล้วนถูกผู้คนเข้าใจว่าเป็นที่สาธารณะถึงแม้มันจะเป็นของทางราชวงศ์ก็ตาม และตอนนี้มันถูกขายไปแล้วก็จริงแต่ชาวบ้านและคนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รับรู้ว่ามีผู้เป็นเจ้าของในที่ดินผืนนี้แล้ว
“ก็เออสิวะ! แล้วแมวพูดได้มันไปหนักส่วนไหนของเจ้ารึไง ?” แมวตัวอ้วนตอบกลับไป
“แล้วแมวเช่นเจ้ามาตบข้าทำไม ?” ชายชราที่พอจะทำความเข้าใจได้ว่าแมวตรงหน้าคงไม่ใช่แมวปกติจึงถามกลับไป
“ใครอนุญาตให้เจ้ามาตกปลาในที่ดินแห่งนี้กัน ?” เจ้าแมวตอบถามคำของอีกฝ่ายกลับไปด้วยคำถาม
“ก็ไม่มีหรอก แต่ที่นี่มันที่สาธารณะนี่ ข้าก็ตกที่นี่มานานแล้วด้วย แถมยังมีผู้อื่นทั้งตกปลา ปลูกพืชผัก ผัลไม้ ใช้เป็นลานออกกำลัง เยอะแยะเต็มไปหมด” ชายชรากล่าวอธิบายให้แมวตัวอ้วนฟัง
“นั่นมันเรื่องสมัยก่อน แต่ตอนนี้ที่ดินแห่งนี้มีเจ้าของแล้ว ห้ามเจ้ามาหาประโยชน์ฟรี ๆ จากที่ดินแห่งนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตอีกเด็ดขาด!!” มันกล่าวออกมาด้วยเสียงอันเด็ดขาด
“แต่ถ้าเจ้าเป็นลูกค้าที่ต้องการมาหาซื้อสินค้า ทางเราก็ยินดีต้อนรับ” เจ้าแมวอ้วนกล่าวต่อพลางยิ้มให้ชายชราด้วยใบหน้าน่ารัก ขอแค่ผลประโยชน์ลงตัวทุกอย่างล้วนคุยกันได้
“เจ้าขายอะไรบ้างล่ะ ?” ชายชรากล่าวถามออกมา
“ในตอนนี้ที่ร้านมี.....” เจ้าแมวอ้วนอธิบายสินค้าทั้งหมด สรรพคุณ ราคา ให้กับชายชราได้รับรู้
“ผะ...ผลึก! ข้าไม่มีปัญญาซื้อของเหล่านั้นหรอก ข้าเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา” ชายชรากล่าวออกมาด้วยความตกใจ
เขาเคยเห็นแต่เหรียญทองแดง เหรียญเงิน เหรียญทอง เท่านั้นเอง ผลึกนี่ไม่เคยเห็นของจริงเลยสักครั้ง จะให้เอาหาจากไหนมาซื้อสินค้าได้เล่า
“งั้นก็ใสหัวออกไปซะ!” เจ้าแมวอ้วนกล่าวจบมันก็ขับไล่ชายชราออกไปทันที
ครึ่งหลัง
เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นแทบทุกที่ของที่ดินแห่งนี้ มีทั้งผู้ที่ลักลอบเข้ามาเพื่อหาผลประโยชน์เล็กน้อยเช่นการตกปลา เก็บพืชผัก ออกกำลัง ฝึกลมปราณ และผู้ที่ต้องการเข้ามาตัวสอบเบื้องหลังของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
แต่พวกเขาทั้งหมดถ้าไม่ซื้อสินค้าจากร้านเซียนรับจ้างก็ล้วนแล้วแต่ถูกแมวตัวน้อยขับไล่ออกไปเสียสิ้น แม้จะมีผู้ฝึกตนที่สามารถต่อกรแมวเหล่านั้นได้ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าลงมือมากนักเพราะกลัวว่าเบื้องหลังพวกแมวเหล่านี้จะไม่ใช่ธรรมดา
...
“เถ้าแก่! ข้ากลับมาแล้ว” มีเสียงดังขึ้นที่ด้านหน้าของร้านค้าสองชั้นเก่า ๆ ที่ทำจากไม้แห่งหนึ่ง
“เจ้านี่เอง ใช้เวลานานเลยนะกว่าจะกลับมา” เย่ซีที่นั่งอยู่หลังโต๊ะไม้ตรงทางเข้าร้านกล่าวตอบรับ
“พอดีเจอคนรู้จักนิดหน่อย ข้าแวะไปตระกูลซูกับตระกูลฉู่มาน่ะ” มนุษย์ปลาสีดำตอบกลับไป
“เถ้าแก่ พวกสัตว์หน้าขนที่วนเวียนอยู่รอบ ๆ มันคืออะไรรึ ?” มันกล่าวถามต่อทันทีเมื่อมีโอกาส
ตั้งแต่ที่มันกลับมาถึงก็เห็นว่าปราการแสงสีทองได้หายไปแล้ว มีผู้คนมากมายเข้ามายังที่แห่งนี้ไม่ขาดสาย แต่ส่วนใหญ่ล้วนถูกพวกแมวตัวเล็กโยนออกไปทั้งนั้น
แต่ก็มีเพียงไม่กี่สิบคนที่เหลืออยู่ นั่นรวมถึงบรรดาลูกค้าที่กำลังเดินดูสินค้าในร้านแห่งนี้ด้วย ทำให้จนนวนผู้คนมันดูเงียบเหงาผิดปกติ
“อืมม เป็นลูกน้องของพนักงานต้อนรับคนใหม่น่ะ” ชายหนุ่มครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไป
“พนักงานต้อนรับคนใหม่ ? เป็นใครรึเถ้าแก่ หรือหมายถึงตาแก่หานจุนหมิง” มนุษย์ปลาทวนคำถามของอีกฝ่ายก่อนจะกล่าวออกมา
“ไม่ใช่ พนักงานต้อนรับคนใหม่ชื่อเยี่ยหลิง” ชายหนุ่มตอบกลับไป
“เยี่ยหลิง ? ใครรึเถ้าแก่” ฟิชถามกลับทันทีเมื่อได้ยินชื่อที่มันไม่คุ้นเคย
“เป็นข้าเอง ยินดีที่ได้พบท่านฟิช ข้าชื่อเยี่ยหลิง” มีเสียงของหญิงสาวที่ไพเราะชวนฟังดังขึ้นมาจากข้างหลังของเถ้าแก่หนุ่มที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้เอนหลัง
นี่เป็นเก้าอี้ที่ชายหนุ่มทำเองกับมือเลยนะ! เป็นเก้าอี้ไม้เอนหลังระดับราชวงศ์!!
“เจ้าคือเยี่ยหลิง ? ยินดีที่ได้พบ” มนุษย์ปลาตัวโตแปลกใจเล็กน้อยที่พนักงานต้อนรับคนใหม่เป็นมนุษย์เพศหญิงหน้าตางดงาม
‘แต่ดูท่าทางแล้วนางเหมือนจะไม่ได้มองเถ้าแก่เป็นเพียงนายจ้าง...’ มันสังเกตสายตาของอีกฝ่ายตอนที่มองไปยังเถ้าแก่หนุ่มก่อนจะฉุกคิดขึ้นมาได้
“ว่าแต่ เจ้าเอาอะไรมาด้วยนัก ?” ชายหนุ่มชี้ไปยังด้านหลังของมนุษย์ปลาตัวโตแล้วกล่าวถามออกมา
“อ๋อ! ข้าเกือบลืมไปเลย นี่คือมนุษย์ปลาทองฉู่มันกลายร่างตอนเดินทาง ส่วนทางฝ่ายนี้เป็นปลาตระกูลฉู่ที่เหลือรอด” มนุษย์ปลาตัวโตชี้ไปยังมนุษย์ปลาทองที่อยู่ด้านข้างก่อนจะชี้ไปยังโหลแก้วจำนวนมากซึ่งมันนำมาด้วย
ส่วนใหญ่จะเป็นปลาทองและปลาคาร์ปที่มีหลากหลายสี
“แล้วเจ้าเอามาทำไมเยอะแยะ ?” ชายหนุ่มถามกลับไปด้วยความมึนงง จะเก็บไว้กินรึไง แต่เนื้อปลาทั้งสองมันไม่อร่อยไม่ใช่รึ ?
“ข้าว่าจะเอามาเลี้ยงน่ะนายท่าน พวกนี้ก็ไม่ใช่ปลาธรรมดา อย่างน้อยคงเพิ่มความสวยงามแล้วก็ช่วยเฝ้าระวังผืนน้ำจากคนภายนอกให้ท่านได้” มนุษย์ปลาตัวโตกล่าวตอบ
“เป็นความคิดที่ไม่เลว เจ้าเอาพวกมันไปปล่อยในบ่อหยินสวรรค์ด้านข้างร้านก็แล้วกัน ถ้าพวกมันจะว่ายออกไปสระภายนอกก็ไม่เป็นไร” ชายหนุ่มพยักหน้าให้ก่อนจะหันกลับไปมองคุ้นเคยที่ยังคงเดินดูสิ่งของในร้านอยู่
“พ่อหนุ่ม หญ้าต้นนี้เจ้าได้มาจากที่ใดกัน ?” ชายชราผู้หนึ่งเดินถือหญ้าที่มีดินเกาะรากอยู่เข้ามาถาม
“หญ้าพวกนี้รึ ? ข้าปลูกเองแหละ” เย่ซีมองหญ้าในมืออีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไป
“แล้วเจ้าขายไหม ? ข้าต้องการซื้อ” ชายชรากล่าวถามด้วยความตื่นเต้น
หญ้าพวกนี้แม้เขาจะไม่เคยเห็นมาก่อนแต่ก็สัมผัสได้ว่าพวกมันอัดแน่นไปด้วยพลังปราณและพลังชีวิต ถ้านำไปสกัดคงทำโอสถชั้นยอดได้ไม่ยาก
“ต้นละห้าสิบผลึกก็แล้วกัน” เย่ซีตอบกลับไปอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก
“ข้าซื้อทั้งหมด มียี่สิบต้นก็เป็นหนึ่งพันผลึกนะ” ชายชรารีบตอบรับทันทีก่อนจะส่งผลึกให้อีกฝ่าย
“ขอบคุณที่อุดหนุน” เย่ซีเก็บผลึกใส่แหวนมิติก่อนจะกล่าวขอบคุณ
หลังจากการซื้อขายเสร็จสิ้นชายชราก็ได้ยิ้มให้ก่อนที่จะเดินจากไป