ตอนที่แล้วChapter 39: ฝึกซ้อมเสียหน่อย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 41: กลับบ้านกัน

Chapter 40: ทักษะต่อสู้


Chapter 40: ทักษะต่อสู้

เควินเลือกใช้หอกที่มีใบมีดคมที่ปลายทั้งสองข้างซึ่งทำให้มันดูอันตรายมาก โดยเฉพาะในมือของผู้เชี่ยวชาญอย่างเขา

เมื่อเขาเริ่มใช้เทคนิคของเขา แอ็คเซลก็จ้องมองอย่างตั้งใจราวถูกสะกดจิต เขาเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของเควิน แต่เหมือนครั้งที่แล้ว เขาไม่เข้าใจมันเลย

ในการเรียนรู้เทคนิคหรือกระบวนท่าต่าง ๆ นั้นค่อนข้างง่าย เพียงแค่ต้องถอดรหัสการเคลื่อนไหวของเทคนิคนั้นจนกว่าจะเดาได้ว่าเขาจะใช้กระบวนท่าไหนต่อไป

เพียงแต่ว่า ไม่ว่าแอ็คเซลจะตั้งใจมองเพียงใด เขาก็ไม่สามารถคาดเดาเควินได้เลยว่าเขาจะทำอะไรต่อไป

สามสิบนาทีต่อมา เควินหยุดและเห็นแอ็คเซลดูหงุดหงิด เขาจึงยิ้มและอธิบายเทคนิคของเขาให้แอ็คเซลฟัง

แอ็คเซลได้เรียนรู้ท่าการต่อสู้และลําดับการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ อย่างเป็นระเบียบจากในโรงเรียนนักรบ

ในกรณีของเควิน เขาได้เรียนรู้การต่อสู้บนท้องถนนเพื่อความอยู่รอด และการเคลื่อนไหวของเขาตรงกันข้ามกับสิ่งที่แอ็คเซลสามารถเรียนรู้ได้ และแน่นอนกว่านั้นมันเป็นสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการต่อสู้กับคนทั้งกองทัพ

ด้วยการเคลื่อนไหวที่ไม่อาจคาดเดาได้จึงทำให้เขาสามารถเบรกจังหวะต่าง ๆ และเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย

ตอนที่เควินอธิบายทุกอย่างให้แอ็คเซลฟัง แอ็คเซลก็ไม่รู้สึกหงุดหงิดเลย เขาแค่ต้องเปลี่ยนวิธีคิด และเขาต้องปรับสไตล์การต่อสู้ของเขา

แต่เควินไม่เห็นด้วยกับเขา เขาพบว่าเทคนิคการต่อสู้ของแอ็คเซลนั้นดีอยู่แล้ว และเควินยังบอกอีกว่าถ้าหากแอ็คเซลพบว่าตัวเองกำลังเสียเปรียบ เขาสามารถใช้กระบวนท่าปกติแต่เพิ่มความเร็วในการโต้กลับเพื่อทําลายจังหวะการต่อสู้ได้

นอกจากนี้เขายังบอกแอ็คเซลว่าเขาควรเพิ่มความเร็วในการต่อสู้

เมื่อเควินเห็นแอ็คเซลมองเขาอย่างงงงวย เขาอธิบายว่าเขาเคยเห็นแอ็คเซลฝึกซ้อม และไม่ต้องสงสัยเลยว่าความเร็วของแอ็คเซลนั้นเป็นจุดแข็งของเขา

ดังนั้นแทนที่จะอยากเปลี่ยนสไตล์การต่อสู้ของตัวเอง แอ็คเซลควรใช้พลังนี้ให้เต็มที่และใช้ความเร็วของตัวเองที่มีเพื่อทำให้มันเป็นอาวุธที่ร้ายแรงที่สุด

แอ็คเซลไม่สามารถบอกความรู้สึกตอนนี้ได้ เขารู้สึกโล่งใจและรู้สึกขอบคุณเควินมาก เขาคิดกับตัวเองมาเสมอว่าเขาเริ่มหยุดนิ่งและไม่สามารถพัฒนาได้อีกต่อไป แต่ในที่สุดเขาก็พบคนที่สามารถช่วยให้เขาแข็งแกร่งขึ้นได้แล้ว

จากนั้นเขาก็หัวเราะและพูดกับเควินว่า "คุณพูดถูก เหล่าอาจารย์ของนิกายตะวันจะไม่สามารถสอนอะไรคุณได้เลยถ้าคุณเลือกเป็นนักรบ คุณมีความรู้มากกว่าพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เชื่อฉันเถอะ"

เควินพูดกับเขาด้วยรอยยิ้มว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการไม่หยุดพัฒนา สิ่งต่าง ๆ นั้นสามารถพัฒนาได้เสมอไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เราสามารถเพิ่มการเคลื่อนไหวบางอย่างเพื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่หลากหลาย

เควินมีความมั่นใจมากในทักษะการสอนของเขา "แอ็คเซล จะไม่มีใครสามารถแตะต้องคุณได้หลังจากที่ฉันสอนเทคนิคการต่อสู้ของฉันให้คุณและช่วยให้คุณรวมมันเข้ากับทักษะการต่อสู้ของคุณ"

แอ็คเซลยิ้มใหญ่ขึ้น เขาพูดว่า "เรามาลองต่อสู้กันเถอะ มาดูกันว่าจะภาพชัด ๆ ของมันจะเป็นอย่างไร"..

..เมื่อโทนี่มาถึงสนามฝึกซ้อม เขาก็มองทั้งสองอย่างตกตะลึงและประหลาดใจที่พบว่าเควินต่อสู้ได้ดีมาก ไม่แปลกใจเลยที่เขาได้รับความสนใจจากแอ็คเซล

เขากระแอมในลำคอเพื่อบอกให้พวกเขาทั้งสองรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ และทั้งสองเมื่อเห็นโทนี่พวกเขาก็หยุดฝึกซ้อมกัน และเควินก็พูดประโยคที่ทำให้โทนี่ตกใจว่า "ว้าว แอ็คเซล คุณเรียนรู้ได้เร็วมากเลยนะ มันดีขึ้นมาก"

ปฏิกิริยาของแอ็คเซลทำให้เขาตกใจมากขึ้นอีกเพราะแอ็คเซลนั้นมองเควินด้วยรอยยิ้มที่สดใสและการแสดงออกที่เต็มไปด้วยความชื่นชม

โทนี่ไม่สงสัยอีกต่อไปว่าแอ็คเซลตกหลุมรักนักสู้ตัวน้อยคนนี้จริงหรือไม่ ดังนั้นเมื่อแอ็คเซลและเควินเดินมาหาเขา เขาก็พูดกับเควินว่า "เควิน ผมแปลกใจมากที่คนอายุน้อยแบบคุณเป็นนักสู้ที่มีฝีมือขนาดนี้"

เควินสับสนกับคำชมนี้ แอ็คเซลหัวเราะและพูดกับโทนี่ว่า "โทนี่ เขาเป็นนักเวทย์ที่เพิ่งผ่านการคัดเลือกเข้านิกายตะวัน ฉันเจอเขาเมื่อตอนที่เขาผ่านการทดสอบนักเวทย์แล้ว”

“แต่ก็เป็นอย่างที่คุณบอก ถ้าเขาเป็นนักสู้ เขาจะเอาชนะเราทุกคนได้แน่นอน”

โทนี่ประหลาดใจจนพูดไม่ออก นักเวทย์... เควินเป็นนักเวทย์หรอ...

เขาตั้งสติและถามเควินด้วยความสงสัยว่า "คุณใช้ธาตุอะไร"

เควินมองแอ็คเซล แอ็คเซลพยักหน้าให้เขาเพื่อสื่อว่าโทนี่ไว้ใจได้และบอกเขาได้ เควินจึงตอบไปว่า "ธาตุหลักของฉันคือธาตุสายฟ้า และฉันยังผูกพันกับธาตุน้ำและลมด้วย"

โทนี่อ้าปากค้างด้วยความชื่นชม เควินคนนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดา "ฮ่า แอ็คเซลไม่น่าแปลกใจที่เขาสามารถดึงดูดความสนใจของคุณได้ และถ้าเขาเรียนไปอีกนอกจากพลังธาตุแล้วเขาก็จะสามารถทำยาวิเศษได้ด้วย.. อืมม.. คุณควรให้ความสนใจกับเขาเยอะ ๆ นะ เพราะทุกคนจะพยายามล่อลวงเขาไปแน่นอนเลย"

เควินไม่เข้าใจว่าทำไมโทนี่พูดแบบนั้น แต่แอ็คเซลกอดไหล่เขาแน่นและพูดว่า "ช่างมันเถอะ โทนี่ เขาเป็นของฉัน"

โทนี่หัวเราะเพราะไม่เคยเห็นเพื่อนคนนี้ในมุมนี้มาก่อน และแอ็คเซลก็เปลี่ยนหัวข้อ "แล้วคุณประเมินเสร็จหรือยัง"

โทนี่พยักหน้าและยื่นกระดาษที่เขาสรุปมาให้พวกเขา โทนี่บอกอีกว่าให้ดูช้า ๆ ถ้าคุณพอใจ ก็มาหาฉันที่เคาน์เตอร์ ฉันจะจ่ายเงินให้คุณ

เขากล่าวเพิ่มเติมก่อนที่จะออกจากพวกเขา "สำหรับเนรูเดี้ยมนี่คือราคาที่ฉันพร้อมที่จะจ่ายให้คุณทันที แต่ถ้าคุณไปประมูลคุณอาจทำเงินได้มากกว่านี้เล็กน้อย แต่คงไม่ต่างจากราคาที่ฉันให้มากนักหรอก"

จากนั้นโทนี่ก็ออกไปและพวกเขาทั้งหมดมองไปที่กระดาษที่โทนี่ให้พวกเขา มันระบุว่า 117,700 เหรียญทองสำหรับร่างของสัตว์ประหลาดทั้งหมด 27,300 เหรียญทองสำหรับอาวุธของพวกมัน

และเขาก็พบคริสตัลอีกสองอันเป็นระดับกลาง ชิ้นหนึ่งเป็นขนาดใหญ่ มูลค่า 20,000 เหรียญทอง ส่วนอีกชิ้นเป็นขนาดกลาง มูลค่า 10,000 เหรียญทอง

นอกจากนี้เขายังประเมินว่าเนรูเดียมนั้นมีความบริสุทธิ์ระดับกลาง มันจึงมีมูลค่ากิโลกรัมละ 100,000 เหรียญทอง พวกมันหนัก 1.7 กก. ซึ่งแปลงเป็นเงินได้ 170,000 เหรียญทอง

เควินถามแอ็คเซลว่า "โทนี่จะให้เงินเรามากขนาดนั้นเลยหรอ 345,000 เหรียญทองเป็นเงินก้อนใหญ่มากเลยนะ!"

แอ็คเซลพยักหน้าแล้วพูดว่า "ใช่ นั่นเป็นเงินก้อนใหญ่... ปล่อยให้เนรูเดี้ยมอยู่กับเขาเถอะ ฉันไม่อยากเสียเวลาไปซื้อที่โรงประมูลแล้ว ที่รัก กลับบ้านของเรากันเถอะ"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด