Chapter 38: จัดการความหวง
Chapter 38: จัดการความหวง
เมื่อเควินได้ยินแอ็คเซลพูดว่าเขาจะต้องใช้เวลากับผู้ชายคนอื่น ความรู้สึกโกรธที่เขาไม่เคยรู้จักก็ได้เข้าถาโถมหัวใจเขาทันที
ทันใดนั้นส่วนที่มีเหตุผลในสมองของเขาเตือนเขาถึงข้อมูลที่ดูเหมือนจะสำคัญมาก "เอริค.. แฟนของอลันหรอ"
แอ็คเซลพยักหน้าและเควินที่ดูโล่งใจขึ้นก็กล่าวว่า "ไม่ต้องกังวล สิ่งที่ฉันต้องทำคือดูการฝึกซ้อมของเขา ดูว่าเขาทำได้ดีแค่ไหน และดูว่าสามารถช่วยเขาได้ยังไงบ้าง"
แอ็คเซลถามเขาอย่างสงสัย "อะไรกันเควิน ทำไมคุณถึงดูไม่ค่อยดี แล้วสักพักก็ดูโล่งใจแบบนี้ล่ะ"
เควินตอบเขาอย่างตรงไปตรงมา "ก็.. คุณเพิ่งบอกฉันว่าคุณจะต้องใช้เวลากับผู้ชายคนอื่น แต่ในความเป็นจริงเขาเป็นแฟนของอลันซึ่งมันทำให้ฉันไม่ต้องการที่จะเฉือนคอเขาทุกครั้งที่ฉันเห็นเขาอยู่กับคุณ"
แอ็คเซลหัวเราะ แต่เมื่อเขาเห็นว่าเควินดูจริงจังมาก เสียงหัวเราะของเขาก็หยุดลง "ที่รัก คุณไม่จริงจังหรอกใช่ไหม"
เควินขมวดคิ้วและพูดว่า "ฉันจริงจังนะ ทําไมล่ะ"
แอ็คเซลวางมือบนแก้มและพูดกับเขาว่า "คุณน่าจะรู้ว่าคุณไม่สามารถฆ่าใครก็ได้ คุณต้องการเหตุผลที่ดีสำหรับการฆ่า"
แอ็คเซลยังคงลูบแก้มเขาอยู่ เขาพูดอย่างจนใจ ใครจะคิดว่าเควินเป็นคนขี้หึงหวงแบบนี้ "คุณรู้ไหม ฉันเป็นที่นิยมในนิกายตะวัน ซึ่งบางครั้งมันก็น่ารำคาญ แต่เราไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ และคุณไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้ เราต้องทนกับมัน”
คุณแค่ต้องจำไว้ว่า มีแค่คุณเท่านั้นที่อยู่ข้างฉันได้ อย่าปล่อยให้ใครทำให้คุณคิดไปเป็นอื่น ไม่งั้นฉันจะฆ่าพวกเขาด้วยมือของฉันเองนี่แหละ"
เควินคว้าคอเสื้อกันหนาวของแอ็คเซลและจูบเขาอย่างรุนแรงและบอกเขาว่า "ขอโทษทีแอ็คเซล แต่ความรู้สึกนี้ทำให้ฉันไม่พอใจ อย่างที่ฉันบอกคุณก่อนหน้านี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมีความสัมพันธ์กับใครสักคนและฉันรู้สึกว่าฉันจะต้องจัดการกับความรู้สึกหวงนี้... แต่ฉันไม่สามารถรับประกันอะไรได้... ฉันจะพยายามไม่ฆ่าใครโดยไม่มีเหตุผลก็แล้วกัน"
แอ็คเซลจูบเขาอย่างกระตือรือร้นและกระซิบข้างหูเขาว่า "ฉันมีแค่คุณนะ และเราจะออกจากนิกายตะวันในอีกหนึ่งปีข้างหน้า ดังนั้นอย่าสนใจคนที่จะสร้างปัญหาให้เราเลย"
เควินพยักหน้าก่อนหัวเราะและพูดว่า "ฉันคิดว่าเราลืมสิ่งหนึ่งไป... เราลืมไปว่าเราอยู่ในที่สาธารณะ.."
แอ็คเซลเงยหน้าขึ้น และทุกคนกำลังมองพวกเขา และตกใจกับการกระทำของพวกเขา แต่นั่นไม่ได้หยุดแอ็คเซลจากการจูบริมฝีปากแสนดึงดูดของเควินเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเขาก็พูดว่า "กินเถอะ เรายังมีอะไรต้องทำอีกมากก่อนกลับบ้าน"
เควินหัวเราะให้เขาและพวกเขายังคงกินราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แอ็คเซลอธิบายให้เควินฟังว่าเอริคจะผ่านการคัดเลือกและสามารถเข้าร่วมการประลองประจําปีที่จัดขึ้นในเมืองหลวง และอีกเรื่องคืออลันจะขอเป็นที่ปรึกษาของเขา
เควินมีความสุขมากและอลันดูเหมือนเป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งมากและเขาคงจะได้เรียนรู้มากมายจากอลัน
เมื่อพวกเขารับประทานอาหารเสร็จพวกเขาตัดสินใจที่จะไปซื้อเสื้อผ้าก่อน สิ่งที่แอ็คเซลต้องการมากที่สุดคือชุดกีฬาเพราะมันเป็นชุดที่ทำให้เขารู้สึกสะดวกสบายในการฝึกซ้อมและการต่อสู้ซึ่งกินเวลา 80% ของเขาและอีก 20% ที่เหลือเหลือเป็นเวลาพักผ่อน
เควินก็ซื้อเสื้อผ้าให้ตัวเองด้วย เขาไม่รู้ว่าหลักสูตรของเขาจะเป็นอย่างไร และเนื่องจากเขาไม่ชอบอยู่บ้านในเสื้อผ้าที่สกปรก ในกรณีที่การเล่นแร่แปรธาตุของเขากลายเป็นหายนะ การป้องกันไว้ย่อมดีกว่ามารักษาทีหลัง
จากนั้นเมื่อพวกเขาซื้อเสร็จแอ็คเซลก็พาเขาไปที่ร้านของโทนี่และเมื่อโทนี่เห็นแอ็คเซลเขาก็เดินมาทักทายอย่างอบอุ่น
โทนี่ตกใจที่เห็นแอคเซิลอยู่กับคนอื่น และตอนที่แอ็คเซลแนะนำให้รู้จักกับเควิน เขาก็ไม่ได้ปิดบังว่าเควินเป็นแฟนของเขา ตรงกันข้าม เขาดูเหมือนจะภูมิใจมากที่ได้แนะนำเขาแบบนี้ ซึ่งมันทำให้โทนี่หัวเราะออกมาอย่างร่าเริง
โทนี่พูดกับเควินว่า "เควินอยู่ที่นี่อย่างสบายใจได้เลยนะ ถ้าวันหนึ่งคุณไม่ได้มากับแอ็คเซลและผมไม่ได้อยู่ในร้าน ก็สามารถเรียกคนของผมได้เลยนะ ผมอยู่ชั้นบนของร้านนี่เอง"
เควินรู้สึกประหลาดใจที่ได้รับความโปรดปรานแบบนี้ แต่แอ็คเซลบอกเขาว่าเขารู้จักโทนี่มาหลายปีแล้ว ดังนั้นเควินจึงพูดกับเขาอย่างจริงใจว่า "ขอบคุณนะโทนี่"
โทนี่หันไปหาแอ็คเซลอีกครั้งและถามเขาเหมือนเดิมว่า คุณมาซื้อหรือขายล่ะ
แอ็คเซลยิ้มให้เขาและพูดว่า "ขาย.. ทุกอย่างในนั้น"
โทนี่รับถุงวิเศษที่แอ็คเซลให้เขา แล้วเปิดออกอย่างรวดเร็วเพื่อดูว่าแอ็คเซลเอาอะไรมาให้เขาบ้าง
ถุงวิเศษเต็มไปด้วยศพและอาวุธของสัตว์ประหลาดต่าง ๆ แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาคือแร่
นั่นคือเนรูเดียมซึ่งมีคุณภาพปานกลางและมีจำนวนมาก
โทนี่ถามให้แน่ใจว่าแอ็คเซลรู้ว่าตัวเองกําลังทําอะไรอยู่ แอ็คเซลนั้นเป็นมากกว่าลูกค้าที่ดี มิตรภาพและความไว้วางใจระหว่างพวกเขาเพิ่มขึ้นทุกวันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา "แอ็คเซล คุณรู้ใช่มั้ยว่ามันคือแร่อะไร"
แอ็คเซลแค่ยิ้มและพยักหน้า โทนี่ถามด้วยความสับสนอีกครั้งว่า คุณแน่ใจเหรอว่าจะขายมัน
แอ็คเซลพูดอย่างไม่ลังเลว่า "ทุกอย่างในถุงวิเศษนี้มอบให้คุณ ตราบเท่าที่คุณให้ราคาที่ยุติธรรมกับฉันน่ะนะ"
โทนี่พูดกับเขาทันทีว่า "ไม่ต้องกังวล ราคาของฉันซื่อสัตย์ที่สุดในตลาดแล้ว... ว่าแต่ คุณบังเอิญเจอดันเจี้ยนอีกแล้วหรอ"
แอ็คเซลหัวเราะและบอกความจริงกับเขาว่า "เมื่อสองวันก่อนเป็นเรื่องที่บังเอิญจริง ๆ แต่วันนี้เราเข้าไปในรกร้างกันโดยมีเป้าหมายเพื่อหาดันเจี้ยน ของในถุงนั่นก็คือสิ่งที่เราพบในนั้น"
โทนี่รู้ว่าแอ็คเซลมีพลังมาก จึงไม่แปลกใจที่เขาตัดสินใจปล้นดันเจี้ยนด้วยตัวเอง
บางทีเขาอาจจะแค่พยายามทำให้เควินประทับใจ เพราะหนุ่มคนนี้ดูค่อนข้างอ่อนแอเมื่อเทียบกับแอ็คเซล แต่ก็ต้องยอมรับว่าแอคเซิลมีรสนิยมที่ดี และเควินก็หล่อเหลา
อันที่จริง สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจที่สุดก็คือมันนานมากกว่าแอ็คเซลจะออกปล้นดันเจี้ยนด้วยตัวเองแบบนี้ทั้ง ๆ ที่เขาแข็งแกร่งมาก