ตอนที่ 99 ครอบครัวสามคน(ตอนฟรีสงกรานต์)
ดวงตะวันลาลับทางภูเขาตะวันตก จมหายไปด้านหลังมัน
ในตำหนักเจียง มีสาวใช้กว่าสิบกำลังวิ่งวุ่น จัดไฟและเกียงหิน
เวลานี้ เย่อันผิงกำลังนั่งที่โต๊ะในห้องนอน ใช้หมึกและปราณเป็นน้ำ ทำยันต์กระดาษน้ำมันเหลือง
ข้างเขา บนเตียง สองสาว หนึ่งสูงหนึ่งเตี้ยกำลังนั่งเล่นหมาก
มันเหมือนครอบครัวจริงๆ
พ่อที่ทำงานหนัก แม่ที่เล่นกับลูก และลูกสาวที่เกาะติดแม่…
เหลียงจู้ไม่กลับมาตั้งแต่ออกจากตำหนักไปตอนบ่าย ดังนั้นเหลียงอาถิงจึงติดตามเขากับน้องสาวเขา ตอนนี้ยังตามมาขึ้นเตียง
แม้เหลียงอาถิงจะสำรวมตัวในสองสามชั่วโมงแรกและพูดอย่างสุภาพ เย่อันผิงก็เห็นได้ว่านี่แค่ปลายภูเขาน้ำแข็งของนิสัยนาง
ตัวอย่างเช่น ตอนพวกเขากำลังคุยกับเหลียงจู้ในศาลา เด็กสาวปีนกำแพงเข้ามา
เย่อันผิงมองสองสาวที่เล่นกันบนเตียง สูดหายใจลึกและจดจ่อกับการวาดต่อ
ยันต์ที่เขากำลังทำตอนนี้คือยันต์’สับเปลี่ยนเนตร’
เดิมเขาคิดจะซื้อมันจากผู้บ่มเพาะที่ทำยันต์พรุ่งนี้และมะรืน
แต่ตอนนี้ที่เขาว่าง เขาเลยลองทำเอง
ไม่รู้จนกว่าจะได้ลอง หลังลอง เขาก็พบว่า
เขาดูเหมือนจะมีพรสวรรค์ฟ้าประทานในการทำยันต์
แม้มันจะเป็นครั้งแรกที่เขาทำยันต์ นอกจากครึ่งชั่วโมงแรกของการฝึก เขาล้มเหลวแค่สามครั้งในชั่วโมงต่อมา
ในบรรดายันต์หกใบที่เขาทำ หนึ่งคือขั้นกลาง อีกห้าเป็นขั้นสูงหมด
ในเวลาเดียวกัน เขายังรู้สึกว่าวิชาการทำยันต์และนวดมีต้นกำเนิดเหมือนกัน
การนวดใช้มีดปราณเพื่อปลดหรือตัดจุดที่อุดตันในเส้นปราณ
การทำยันต์ พูดตรงๆ ก็ใช้มีดปราณ แกะสลักลวดลายลงบนกระดาษยันต์ จากนั้นก็วางวัสดุและผงสมบัติปฐพี ลงไปในแต่ละ’ตา’ของลวดลาย
ยิ่งไปกว่านั้น สัญลักษณ์เหล่านี้ยังคล้ายกับวงจร
เพราะเขามีความรู้จากชาติก่อน เขาเลยเข้าใจแผงผังของสัญลักษณ์ได้
“ท่านอา”
เย่อันผิงที่จดจ่อสะดุ้งตอนได้ยินเสียงของเหลียงอาถิงข้างหู
“..”
เขาหันไป เห็นเหลียงอาถิงแอบมองเขา
ตอนนี้ นางกำลังนอนบนโต๊ะ มองตรงที่ยันต์ที่เขาวาดด้วยสายตาอยากรู้
เย่อันผิงถอนพลังปราณที่เขาปล่อยและถาม“มีอะไร?เจ้ากำลังเล่นหมากกับอาของเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ?”
เหลียงอาถิงยิ้มและชี้ที่เตียง“ท่านอาแพ้ห้ากระดานติดและจะไม่เล่นกับข้าอีกแล้ว”
เย่อันผิงหันไปมองน้องสาวเขา
เพ่ยเหลียนเสวี่ยกำลังนั่งบนเตียง กัดริมฝีปาก จ้องกระดาน นางต้องกำลังคิดว่านางแพ้ได้ไง
ถ้านี่คือเกมหมาก เขาสามารถเข้าใจได้ว่านางจะแพ้ให้เด็กสาวอายุ12เพราะนางไม่เคยเล่นเลย
แต่ทั้งสองกำลังเล่นแบ็คเกมม่อน
แพ้แบ็คเกมม่อนได้ไง?
เย่อันผิงลูบหัวเหลียงอาถิง“สุดยอดมาก ไว้ข้าจะเล่นกับเจ้าทีหลัง”
“เย้!”
เหลียงอาถิงเอียงหัว และหลังมองยันต์สับเปลี่ยนเนตรเหล่านั้นบนโต๊ะ นางก็ถาม“ท่านอา ยันต์เหล่านี้คืออะไร?”
“มันเรียกว่ายันต์สับเปลี่ยนเนตร…”
เย่อันผิงพลันเกิดความคิดว่าจะใช้เหลียงอาถิงมาทดลอง เขาหยิบยันต์มาสองใบ และแปดหนึ่งบนตัวเขา อีกอันแปะหน้าผากของเหลียงอาถิง
“พ่อเจ้าสอนให้เจ้าระดมพลังปราณหรือยัง?”
“สอนแล้ว?”
“พยายามส่งพลังปราณไปที่ยันต์”
เหลียงอาถิงพยักหน้า สูดหายใจลึก พยายามระดมพลังปราณและส่งเข้ายันต์ที่หน้าผาก
ทันใดนั้น ดวงตาสีเขียวอ่อนก็ระเบิดแสงออกมา และผมบนหัวนางก็ตั้งขึ้น
“หือ?”
“อะไร?เจ้าเห็นอะไร?”
“ข้าเห็น.ข้า?เอ๊ะ?ข้าสูงจัง..”
ด้วยความแปลกใจ เหลียงอาถิงโบกมือนางและหยิกหน้านาง แต่หลังนางก้าวไปด้านข้าง นางก็พลันล้มลง ไม่สามารถยืนได้
เย่อันผิงรีบพยุงนาง และในเวลาเดียวกันก็ดึงยันต์บนหน้าผากนางออก ถ้าเหลียงจู้กลับมาเห็นนางสภาพนี้ อีกฝ่ายคงยอมสู้กับเขาจนตาย
“สนุกไหม?”
“สนุก!”เหลียงอาถิงส่ายหัว“แต่ข้าเวียนหัวหน่อย”
“ยันต์นี้มาเป้นชุด ช่วยให้ผู้บ่มเพาะแบ่งปันวิสัยทัศน์และได้ยินกัน บางคนจะแปะยันต์นี้บนตัวเหยี่ยวและนกตัวอื่น ใช้พวกมันสอดส่องสถานการณ์โดยรอบ”
“ข้าเข้าใจ…อืม!’
เย่อันผิงยิ้ม ลูบหัวนาง จากนั้นมองหน้าต่าง พอเห็นว่ามันมืดแล้ว เขาก็พูด“อาของเจ้ากับข้าจะพักแล้ว เจ้าควรกลับไปนอนได้แล้ว”
“..”เหลียงอาถิงดูไม่เต็มใจ หลังคิดนางก็ถามใหม่“ไหนท่านอาบอกว่าจะเล่นหมากกับข้า?”
“..งั้น ถ้าเจ้าแพ้ เจ้าต้องลกับห้องไปนอนนะ”
“ได้!”
เขาเก็บกวาดโต๊ะ จากนั้นก็ปีนขึ้นเตียงและนั่ง
ตอนเย่อันผิงขึ้นเตียง เพ่ยเหลียนเสวี่ยก็ได้สติจากเกมก่อนและมองเขาอย่างกระตือรือร้น
“อืม..”
“อะไร?เจ้าแพ้เด็กอายุสิบสองห้าตาติด”เย่อันผิงหยิกจมูกนาง“เจ้าเล่นกับข้ามาตั้งแต่เด็ก เจ้าไม่เคยเรียนรู้อะไรเลยเหรอ?”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยพูด“สามี ช่วยข้าเอาชะนด้วย”
เย่อันผิงยิ้มและพยักหน้า“ได้!”
..
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
เย่อันผิงวางหมากขาวตัวสุดท้าย“เอาล่ะ ไปนอนได้!”
พอมองแถวหมากขาวบนกระดาน เหลียงอาถิงก็หน้ามุ่ย แต่ไม่กล้าโวยวายต่อหน้าเย่อันผิง
หลังคิดสักพัก นางก็พูด“ท่านอา เล่านิทานก่อนนอนให้ฟังหน่อยสิ”
“เราตกลงกันแล้วนี่ว่าเจ้าจะไปนอนหลังแพ้เกม?”เย่อันผิงเลิกคิ้ว เคาะหัวนาง“อาทั้งสองของเจ้าไม่ชอบเด็กสาวที่ไม่รักษาคำพูดนะ”
“แค่ครั้งเดียวนะ!เล่านิทานแล้วข้าจะไปนอนเลย!ข้าสัญญา”
ด้วยความรู้สึกหน่ายใจ เย่อันผิงมองเพ่ยเหลียนเสวี่ย พอเห็นนางค่อนข้างพอใจ เขาก็คิดสักพัก“อืม..งั้นให้อาสาวของเจ้าเล่าแล้วกัน”
“เอ๊ะ?”เพ่ยเหลียนเสวี่ยตกตะลึง“ข้าเหรอ?”
“เจ้าจะได้นอนกับนอนเหมือนแม่ไง?”
“แม่..”เพ่ยเหลียนเสวี่ยหน้าแดงและก้มหัว“อืม”
พอเห็ฯแบบนี้ เย่อันผิงก็มีรอยยิ้มชั่วร้ายบนหน้า น้องสาวเขาน่ารักจริงบๆ นางอยากเล่นบทพ่อแม่ลูกแต่ก็อาย
ทว่า
ตอนเขาเห็นสิ่งที่เพ่ยเหลียนเสวี่ยทำต่อไป เขาก็หยุดหัวเราะ
เพ่ยเหลียนเสวี่ยคิดสักพักและหยิบ’ภาพเร้าอารมณ์ของวังเซียน’ออกมาและส่งให้เหลียงอาถิง
“ข้ามีหนังสือเด็กด้วย เอาไปอ่านซะ พรุ่งนี้ค่อยเข้ามาคืน”
“หะ?”เหลียงอาถิงไม่ได้มองหน้าปก นางแค่คิดว่ามันเป็นหนังสือเด็ก นางเลยรับมาด้วยรอยยิ้ม“ขอบคุณค่ะ”
เย่อันผิงกำลังจะยื่นมือไปคว้า แต่พลันนึกว่าถ้าเหลียงจู้รู้ว่าเพ่ยเหลียนเสวี่ยส่งหนังสือนี้ให้ลูกเขา เขาอาจไม่ขอให้พวกเขาดูแลเด็กอีก เขาเลยปล่อยไป
“ราตรีสวัสดิ์นะคะ!”
“ราตรีสวัสดิ์!”
หลังมองเหลียงอาถิงออกจากบ้านไป เย่อันผิงก้หันไปมองน้องสาวเขา
‘น้อง..”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยขมวดคิ้ว“ภรรยา!”
“ภรรยา หนังสือนั่น..ข้าบอกให้เจ้าเอามันไปถามแม่นางเสี่ยวไม่ใช่เหรอ?เจ้าไม่ได้ไปเรอะ?”
“ไม่..มีอะไรเหรอ?”
เย่อันผิงนวดขมับและส่ายหัว“ตอนแม่นางเสี่ยวมา ถือโอกาสไปถามนางพร้อมหนังสือเล่มนั้น เจ้าควรจะได้เรียนรู้อีกเยอะ”
“โอ้..”