ตอนที่ 89 ทั้งสองคนเหมือนจะไม่ ธรรมดา เป็น แน่! (อ่านฟรี 16/09/2567)
“พวกเจ้าก็กินเสียสิ” เยี่ยหลิงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงใจดี พลางวางอาหารหลากหลายอย่างลงบนผ้าปูลายดอกไม้ที่นางซื้อมาด้วยตอนไปเดินตลาดกับเถ้าแก่
“ขอบคุณขอรับลูกพี่ !!” มนุษย์แมวที่นั่งล้อมวงอยู่พากันกล่าวออกมาเสียงดัง
ในความเป็นจริงเมื่อกลายเป็นผู้ฝึกตนแล้วอาหารของมนุษย์ทั่วไปก็นับว่าไม่จำเป็นนักเพราะร่างกายของผู้ฝึกตนจะต่างจากมนุษย์ทั่วไป เพียงรับประทานข้าวหนึ่งมื้อต่อหนึ่งเดือนก็สามารถมีชีวิตได้ดังปกติแล้ว
แต่ก็ยังมีผู้ฝึกตนจำนวนมากที่ยังคงทานอาหารและดื่มสุราเพื่อความสุขทางกาย รวมถึงการกินเนื้อสัตว์อสูรก็ช่วยเพิ่มลมปราณในตัวได้เป็นอย่างดี
อาหารที่เยี่ยหลิงนำมาล้วนทำมาจากสัตว์อสูรทั้งนั้น แต่พวกมนุษย์แมวที่เป็นอดีตสัตว์อสูรมาก่อนก็ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย
“ถ้างั้นข้าขอตัวก่อนนะ” เยี่ยหลิงกล่าวจบนางก็เดินไปหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างต้นทุเรียนซึ่งตอนนี้มันโตขึ้นมาประมาณครึ่งวาแล้ว
“พวกเจ้าว่า... ลูกพี่กับเถ้าแก่ ?” มนุษย์แมวสีขาวลายดำตัวหนึ่งกล่าวออกมาเสียงเบา
“ข้าว่า.. ต้อง ไม่ ธรรมดา เป็นแน่” มนุษย์แมวสีส้มตอบกลับเสียงเบาเช่นกัน
“คงไม่หรอกมั้ง พวกเขาเพิ่งเจอกันได้ไม่นานเองนะ” มนุษย์แมวสีดำกล่าวแย้งออกมาแต่ก็ถูกมนุษย์แมวตนอื่นปัดความคิดเห็นนี้ทิ้งไปอย่างไร้เยื่อใย
“เวลาลูกพี่จะทำอะไรก็เอาแต่พูดถึงเถ้าแก่ตลอดเลย แถมเวลานอนยังกลายร่างเป็นแมวเพื่อไปนอนบนตัวเถ้าแก่อีก” มนุษย์แมวสีขาวลายดำกล่าวออกมาด้วยสีหน้าทะเล้น มันคิดว่ายังไงทั้งสองคนก็ต้องมีบางอย่างแน่ ๆ
“นั่นสินะ เวลาไปข้างนอกกันก็ไปเพียงสองคน ไม่ยอมให้พวกเราไปคอยติดตามด้วย แถมตอนนอนก็จะไปค้างข้างนอกกันปล่อยพวกเราไว้เฝ้าที่นี่” มนุษย์แมวสีส้มตอบกลับเป็นเชิงเห็นด้วย
เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่พวกมันก็เห็นว่าเมื่อได้เวลานอน ทั้งสองคนมักจะออกไปข้างนอกด้วยกันแล้วกลับมาตอนพระอาทิตย์ขึ้นเสมอ ไม่ยอมนอนในที่แห่งนี้เลย
‘พวกเจ้าพูดอะไรกัน’ มีเสียงของหญิงสาวดังขึ้นในหัวของมนุษย์แมวที่กำลังนั่งนินทาลูกพี่ของมันอยู่ ทำให้พวกมันได้แต่นิ่งเงียบไม่กล้าพูดอะไรออกมา
‘ถ้าปากมากนักข้าจะเอาเข็มมาเย็นปากพวกเจ้าซะ อย่าไปพูดเหลวไหลให้เถ้าแก่ได้ยินล่ะ’ เสียงอันเย็นชายังคงดังต่อก่อนจะเงียบหายไป
...
“มีอะไรรึเปล่า ? เจ้าหน้าแดงนะ เป็นไข้หรือไม่ ?” เย่ซีที่เห็นว่าหญิงสาวที่นั่งปอกแอปเปิ้ลอยู่ด้านข้างหน้าแดงก่ำเลยกล่าวถามออกมาด้วยความเป็นห่วง
“มะ.. ไม่มีอะไรหรอกเถ้าแก่ ข้าแค่ร้อนนิดหน่อยน่ะ” หญิงสาวที่ได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง ประกอบกับที่คิดถึงเรื่องที่ลูกน้องพูดก่อนหน้านี้เลยกล่าวออกมาอย่างลนลาน
“อย่างนั้นรึ ? ถ้ามีอะไรก็บอกข้าได้ไม่ต้องเกรงใจ” ชายหนุ่มกล่าวออกมาพลางอ้าปากทานแอปเปิ้ลที่หญิงสาวส่งมาให้
“ขอบคุณเถ้าแก่เจ้าค่ะ ถ้าข้ามีอะไรจะบอกท่านแน่นอน” หญิงสาวหันหน้าหนีก่อนจะกล่าวออกมา นางไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นหน้าที่แดงยิ่งกว่าเดิมของนาง
“วันนี้พวกเรานอนที่นี่กันเถอะ ข้าหาซื้อผ้าใบมาไว้แล้วไม่ต้องกังวลว่าจะนอนกลางแจ้ง” เย่ซีกล่าวออกมาพลางเรียกผ้าใบสีขาวขนาดใหญ่ที่เขาไปหาซื้อจากตลาดมาให้อีกฝ่ายดู
ชายหนุ่มเรียกรวมตัวมนุษย์แมวก่อนจะให้พวกมันช่วยกันตั้งกระโจมขึ้นมาแบบง่าย ๆ นับร้อยหลัง โครงของกระโจมทำขึ้นมาจากไม้ที่แข็งเป็นพิเศษซึ่งหาจากที่ดินแห่งนี้ ผ้าใบก็เป็นเพียงของธรรมดาที่หาซื้อจากตลาด กระโจมทุกหลังมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เพียงแค่สองคนนอนไม่เบียดกัน มีเพียงสองหลังที่ทำมาใหญ่โตเป็นพิเศษซึ่งเป็นของเย่ซีกับเยี่ยหลิง
ครึ่งหลัง
“ข้า.. ข้าขอนอนกับเถ้าแก่ได้ไหม ?” เยี่ยหลิงถามชายหนุ่มด้วยความเขินอาย
ถึงยังไงแต่เดิมนางก็เป็นเพียงสัตว์อสูรที่ไม่ได้มีการเข้าสังคมอะไรอยู่แล้ว สิ่งที่นางทำย่อมเป็นไปตามสัญชาตญาณจากส่วนลึกของจิตใจ ไม่มีการมานั่งคิดวิเคราะห์แบบมนุษย์ทั่วไปอยู่แล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะกระทำโดยไม่เลือกเป้าหมาย
“เจ้าก็นอนกับข้าตลอดอยู่แล้วนี่นา ?” ชายหนุ่มตอบกลับไปด้วยความไม่เข้าใจ เพราะปกตินางก็ชอบกลายร่างเป็นแมวหรือเสือขาวตัวใหญ่มานอนข้างเขาอยู่แล้ว ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้ติดใจอะไร บางทีเขาก็นอนกอดร่างของนางหรือใช้แทนหมอนก็มี
“ข้าหมายถึง ในร่างมนุษย์น่ะเถ้าแก่” หญิงสาวกล่าวออกมาเสียงแผ่วเบา มีเพียงชายหนุ่มที่ได้ยิน
“เจ้าแน่ใจรึ ?” ชายหนุ่มถามกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ข้าแน่ใจเถ้าแก่ ข้าแค่ชอบร่างมนุษย์แล้วก็ชอบที่ท่านกอดข้าตอนนอน” หญิงสาวกล่าวอธิบายออกมาเสียงอ้อมแอ้ม ใบหน้าของนางแดงขึ้นจนเกือบจะเหมือนสีของมะเขือเทศแล้ว
“ได้สิ งั้นเราไปกินข้าวให้เรียบร้อยแล้วอาบน้ำเตรียมเข้านอนกันเถอะ พรุ่งนี้ยามพระอาทิตย์ขึ้นร้านแห่งนี้ก็จะสร้างเสร็จแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นปราการแสงที่ล้อมรอบอยู่จะหายไป คงวุ่นวายไม่น้อยเป็นแน่” ชายหนุ่มกล่าวออกมาให้หญิงสาวฟัง
เขาได้ลองถามระบบเพื่อตรวจเช็คแล้วว่าปราการแสงจะหายไปเมื่อร้านสร้างเสร็จไหม รวมถึงเช็คเวลาที่จะสร้างร้านเสร็จ ซึ่งก็ได้คำตอบดังที่เขาบอกหญิงสาวไป
ส่วนเรื่องที่หญิงสาวจะขอนอนด้วยเขาก็ไม่ได้ติดขัดอะไรอยู่แล้ว เพราะเขาก็เคยนอนกอดน้องสาวที่โบสถ์ตอนอยู่โลกก่อนเวลานอนเหมือนกัน
...
“ข้าขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะเถ้าแก่” หญิงสาวกล่าวออกมาหลังจากที่ทั้งสองคนกินข้าวกันเสร็จ
“ได้สิ ข้าก็จะไปอาบน้ำเหมือนกัน เจ้าไปทางนั้น ข้าไปทางนี้ก็แล้วกัน” ชายหนุ่มกล่าวตอบกลับไปก่อนที่เขาจะเดินแยกไปคนละทางกับหญิงสาว
พวกเขาใช้น้ำในบึงที่ถูกเปลี่ยนเป็นบึงสวรรค์แล้วในการอาบน้ำ ด้วยเงินที่พวกมนุษย์แมวหามาเขาทำการซื้อแปลงดินไปแล้ว สิบหมู่ รวมถึงเปลี่ยนน้ำบริเวณบ่อหยินสวรรค์ทั้งหมดบวกกับเปลี่ยนบึงน้ำตามชายขอบไปอีก สองหมู่ ถึงอย่างนั้นก็ยังเหลือเงินไว้ใช้อีกราวหนึ่งแสนผลึกอยู่ดี
ไม่เยอะแต่ก็ไม่น้อย พอที่จะใช้จ่ายไปได้อีกนาน
“พวกเจ้า ห้ามแอบดูข้าอาบน้ำเด็ดขาด เข้าใจไหม ?” เยี่ยหลิงเดินไปกล่าวกับพวกลูกน้องของตนเองเสียงเข้ม ตั้งแต่ขึ้นมายังผืนดินนางก็ซึมซับวัฒนธรรมของมนุษย์ไปบ้างแล้ว ความคิดบางอย่างจึงเปลี่ยนแปลงไป
“พวกข้าทราบแล้วขอรับลูกพี่ จะไม่มีหมา... แมวตัวไหนมันไปแอบดูลูกพี่แน่นอนขอรับ” ลูกน้องแมวกล่าวรับคำอย่างแข็งขัน พวกมันไม่กล้าคิดสั้นอยู่แล้ว
“ก็ดี ตั้งใจทำงานให้ดี อย่าให้เถ้าแก่ผิดหวัง พวกเจ้าจะมีแต่เจริญ” เยี่ยหลิงกล่าวออกมาก่อนที่นางจะเดินจากไป
‘เถ้าแก่อาบน้ำอยู่ทางนี้สินะ’ หญิงสาวครุ่นคิดในใจก่อนที่จะแอบเดินตามไปทางที่เถ้าแก่อยู่
‘ทำไมตรงหว่างขาเถ้าแก่มันมีอะไรงอกออกมาด้วยล่ะ ? ข้าไม่เห็นจะมีเลย’ หญิงสาวครุ่นคิดถึงสิ่งที่ได้เห็นด้วยความสนใจ
ด้วยความที่อยู่ในปราการแสงของระบบรวมถึงไว้ใจในตัวผู้ติดตามของตัวเอง ทำให้เย่ซีไม่ได้เปิดใช้ลมปราณในการตรวจจับในขอบเขตที่กว้างนัก เขาตรวจจับในระยะแค่หนึ่งลี้รอบตัว แต่เยี่ยหลิงอยู่ไกลเกือบสิบลี้ทำให้ชายหนุ่มไม่รู้สึกตัวเลย
...
“ฝันดีเยี่ยหลิง” เย่ซีกล่าวออกมาก่อนที่เขาจะปิดเปลือกตาลงโดยมีหญิงสาวผู้แสนงดงามนอนอยู่ข้างกาย
“ฝันดีเจ้าค่ะ เถ้าแก่” เยี่ยหลิงกล่าวตอบกลับไปก่อนที่นางจะแอบชำเลืองมองชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้าง
หลังอาบน้ำเสร็จพวกเขาก็เข้ามานอนในกระโจมเดียวกัน แต่ด้วยความที่กระโจมมีขนาดใหญ่จึงนอนข้างกันได้อย่างไม่อึดอัด ชายหญิงที่อยู่ด้วยกันสองต่อสองจึงนอนหลับได้อย่างสบาย
‘อุ่นจัง’ เยี่ยหลิงคิดในใจขณะที่นางแอบขยับเข้าไปนอนกอดชายหนุ่มที่หลับอยู่ ก่อนที่นางก็จะหลับตามไปด้วยอีกคน...