เริ่มกิจกรรมซื้อห้าร้อยหยวน แจกของฟรี! (อ่านฟรี 15/06/2567)
“นายว่าพวกเขาจะยังจัดงานต่อไหม ?” ชายคนหนึ่งกระซิบถามเพื่อนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“ฉันก็ไม่แน่ใจแหะ แต่ถ้าไม่จัดงานต่อนี่เสียเวลามากเลยนะ พวกเราอุตส่าห์ขับรถมาเป็นชั่วโมงเพื่อกิจกรรมนี่ ถ้ามันต้องล่มฉันคงต้องไปด่าพวกตำรวจที่หน้าสถานีแน่ ๆ” เพื่อนของเขาตอบกลับมาด้วยความโมโห
ถึงยังไงมันก็เป็นแค่เรื่องที่ยังไม่ได้ข้อสรุปไม่ใช่รึไง ? ถึงกับต้องพากันมาเป็นร้อยคนเพื่อปิดงานเลยรึไง ? เอกสารอะไรก็ไม่มีด้วยซ้ำ ในความเป็นจริงต้องตรวจหาหลักฐาน ออกหมาย เรียกตัวไม่ใช่เหรอ ? ทำไมตำรวจถึงทำเรื่องแบบนี้กัน
“เฮ้ย! จะให้พวกเรารออีกนานไหม” มีใครบางคนเริ่มตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจ
“ใช่แล้ว! พวกตำรวจเฮงซวยรอหน่อยไม่ได้รึไง ? ถ้างานจัดต่อไม่ได้ฉันจะไปปลาไข่เน่าใส่สถานีพวกแก!!”
ชาวจีนมุงเริ่มพากันโห่ร้องออกมาด้วยความไม่พอใจในตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกเขาอุตส่าห์เดินทางมาเบียดเสียดเพื่อรอร่วมงานนี้เลยนะ!
“ทุกท่านใจเย็น ๆ ก่อนครับ ต้องขอโทษที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย พวกเราจะถอยออกไปก่อน ให้ทางห้างจัดกิจกรรมได้เหมือนเดิม ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ” มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินออกมากล่าวขอโทษประชาชนโดยรอบ
เป็นเวลาพอดีกับที่รองสารวัตรตกลงกับกลุ่มของเย่เซวียนและฮวาหวู่หลิงเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละนายเลยได้แต่เดินไปขอโทษประชาชนโดยรอบแล้วไปยืนรออยู่ที่มุม ๆ ของสถานที่เพื่อไม่ให้รบกวนแทน
...
“ขอให้ทุกท่านอยู่ในความสงบ ทางห้างซานหมิงขออภัยในเรื่องเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี่ด้วยนะคะ ทางเรายังจัดกิจกรรมตามเดิม ไม่เปลี่ยนกำหนดการค่ะ” เสียงประกาศดังขึ้นทำให้ชาวจีนที่รอร่วมกิจกรรมค่อยสงบจิตใจลงได้
“ขณะนี้ก็เป็นเวลาบ่ายสามโมงพอดี ขอประกาศเริ่มกิจกรรมซื้อสินค้าห้าร้อยหยวน รับฟรีสินค้าหนึ่งชิ้นแบบสุ่ม ณ บัดนี้!!” สิ้นสุดเสียงประกาศ ฝูงชนที่ต่อแถวอยู่ก็แทบรอไม่ไหวพวกเขาไม่สนใจคิวที่จัดให้อะไรทั้งนั้น พากันฝ่าที่กั้นเข้าไปยังโซนสินค้าที่ร่วมกิจกรรมทันที
แน่นอนว่าผู้ที่มาก่อนก็จะได้อยู่แถวหน้า ย่อมได้เปรียบคนอื่นอยู่เล็กน้อยเพราะพวกเขาสามารถเข้าไปได้ก่อน นับว่าโชคดีที่ไม่มีการเหยียบกันเกิดขึ้น มีก็แค่การชนกันเล็กน้อยเท่านั้น
“ดูเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดีนะ ถ้าไม่นับว่ามีพวกน่ารำคาญมารบกวนนิดหน่อย” เย่เซวียนกล่าวออกมาพลางมองภาพผู้คนที่แย่งกันซื้อของเพื่อที่จะได้สิทธิ์ในการสุ่ม
“ก็นะ ดูนั่นสิ! เขาสุ่มได้โน๊ตบุ๊คตัวท็อปด้วยล่ะ ตั้งสองหมื่นหยวนนะ ชายคนนั้นคุกเข่าเลยแหะ” ฮวาหวู่หลิงกล่าวออกมาพลางชี้ให้ดูชายคนหนึ่งที่กำลังคุกเข่ากับพื้นพร้อมตะโกนออกมาด้วยความดีใจ
ในอ้อมแขนของเขามีกล่องใส่โน๊ตบุ๊คอยู่กล่องหนึ่ง เขาชื่อว่าชานเป่ย เขาเป็นเพียงนักศึกษาที่ฐานะยากจนคนนึง โชคดีที่หอพักของเขาอยู่ไม่ไกลจากห้างซานหมิงนักและเขามักจะมองหาสถานที่ซึ่งมีการลดราคาและแจกสิ่งของอยู่เป็นประจำ
ในวันนี่เขาก็ได้เห็นโพสของทางห้างซานหมิงตั้งแต่ก่อนจะมีไลฟ์สดเสียอีก เขาจึงอยากลองมาเสี่ยงด้วงกับรูมเมทของเขาดู ซึ่งรูมเมทของเขาสุ่มได้เก้าอี้เกมมิ่งราคาหลายพันหยวนไปก่อนหน้าเขา นั่นก็นับว่าหน้าตกใจมากแล้ว เพราะพวกเขาซื้อสินค้าแค่ห้าร้อยหยวนเท่านั้น!
แต่เขาก็ไม่คาดคิดเลยว่าตัวเขาจะสุ่มได้โน๊ตบุ๊คแบบนี้!!
“ฉันจะไปร่วมกิจกรรมด้วยได้ไหมนะ ?” นายตำรวจคนหนึ่งกล่าวออกมาเสียงแผ่วเบา เขารู้สึกอิจฉาคนที่ได้ร่วมกิจกรรมมาก เสียดายที่ต้องมาทำตามคำสั่งของรองสารวัตรบ้าอำนาจแบบนี้!
ครึ่งหลัง
“ทำใจเถอะ มันยังอยู่ในเวลางาน ใครใช้ให้รองสารวัตรรับเงินจากเหอจุนไปเยอะกันล่ะ พวกเราก็ทำได้แค่อดทนทำตามคำสั่งก็เท่านั้น” เพื่อนสนิทของเขากล่าวออกมาเสียงเบา เขากลัวว่าจะมีใครได้ยินเข้าแล้วมันจะเป็นเรื่ง
“ก็จริง เฮ้อ! มันก็แปลกนะที่รองสารวัตรยอมให้จัดกิจกรรมแบบนี้ถ้าเป็นปกติคงสั่งให้ทุกคนแยกย้ายแล้วดึงตัวพวกนั้นกลับสถานีไปแล้ว” นายตำรวจคนแรกกล่าวออกมาด้วยความสงสัย
“ชู่ว! รู้แล้วเงียบไว้นะ ฉันได้ยินมาว่าเพราะหลักฐานมันไม่มากพอรองสารวัตรเลยให้คนไปเอาเซิร์ฟเวอร์ของกล้องวงจรปิดมาแล้ว ที่ยอมตกลงตอนนี้ก็แค่ถ่วงเวลาเท่านั้นแหละ” เพื่อนสนิทกล่าวออกมาเสียงเบา เขาแอบได้ยินเรื่องนี้มาเมื่อสักครู่เอง
“โคตรเหลี่ยม! เอาเถอะ พวกเราก็ได้แต่ทำตามนั่นแหละนะ” นายตำรวจคนแรกกล่าวออกมาก่อนจะเงียบไป
...
งานกิจกรรมเป็นไปอย่างราบลื่น แม้จะมีเหตุวุ่นวายจากการเบียดเสียดกันบ้าง แต่ด้วยการจัดการของทางห้างและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ถูกเตรียมไว้ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี มีหลายคนที่เปิดไลฟ์สดเพื่อเรียกคนดูให้กับช่องตัวเอง หลายคนที่ได้ของราคาแพงแล้วนำไปลงขายต่อในราคาที่ถูกลงก็มี
“พี่ชาย ๆ ผมอยากได้ PX5 อ่ะ ผมขอเครื่องนึงได้ไหมครับ” ในตอนที่เย่เซวียนกำลังมองภาพตรงหน้าด้วยความสุขใจเขาก็ได้ยินเสียงเด็กคนหนึ่งดังขึ้นมาจากข้าง ๆ
ตอนนี่ชายหนุ่มกับฮวาหวู่หลิงมายืนอยู่บนเวทีที่จัดขึ้นเพื่อกล่าวเปิดงานและใช้งานภาพรวมของงาน น่าแปลกที่มีเด็กเดินขึ้นมาหาเขาแบบนี้ได้
“หืม? แล้วพ่อแม่นายอยู่ไหนล่ะ ได้เล่นกิจกรรมด้วยรึเปล่า ?” ชายหนุ่มตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มให้กับเด็กน้อยตรงหน้า
“ผะ... ผมมาคนเดียวครับ ผมไม่มีเงินจะซื้อของด้วย” เด็กน้อยกล่าวออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา ถ้าดูให้ดีแล้วเด็กตรงหน้าของเขาน่าจะอายุประมาณ10ขวบเห็นจะได้ เสื้อผ้าดูเก่าและซอมซ่อเหมือนชุดที่ชายหนุ่มเคยใส่ไม่มีผิด
“แล้วนายจะเอา PX5 ไปทำไมล่ะ ?” ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็เกิดสงสารขึ้นมา เขาถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความอบอุ่น
“ผมเห็นเพื่อนเขามีกัน ผมอยากได้บ้างครับ จะได้ไปคุยกับเพื่อนได้” เด็กน้อยตอบกลับมาตามตรง
“นายรู้ใช่ไหมว่ามันคืออะไร ? มันต้องเล่นกับทีวีด้วยนะไม่อย่างนั้นก็เล่นไม่ได้หรอก” ชายหนุ่มไม่ได้ต้องการจะบูลลี่หรืออะไรเด็กตรงหน้า เขาแค่ต้องการสอบถามเพื่อเช็คก่อนว่าอีกฝ่ายรู้จักสิ่งที่ต้องการจริงไหม
“ผมไม่รู้หรอกครับ แต่ที่บ้านผมมีทีวีนะ อันใหญ่มากก บางทีก็มีหนังสีขาวดำให้ดูได้ด้วย” เด็กน้อยตอบกลับมาพลางทำมือให้ดูว่าทีวีที่บ้านเขาใหญ่ขนาดไหน ชายหนุ่มที่ได้ฟังก็พอจะนึกออกว่าคงเป็นทีวีหลังตุงรุ่นเก่า แต่แบบนั้นมันก็เล่นไม่ได้ซิ
“แบบนั้นใช้ไม่ได้หรอกนะ นายต้องมีทีวีจอแบนด้วย เอาเป็นว่าฉันซื้อให้ดีไหม ?” ชายหนุ่มกล่าวออกมาพลางยิ้มให้เด็กตรงหน้า
“จะดีเหรอครับ! ขอบคุณมากเลยครับพี่ชาย!!” เด็กน้อยที่ได้ยินดังนั้นจึงกล่าวขอบคุณออกมาพร้อมโผเข้ากอดชายหนุ่ม น่าแปลกที่ตัวของเด็กน้อยกลับเย็นผิดปกติ
“นี่.. นายคุยกับใครตั้งแต่เมื่อกี้แล้วอ่ะ ?” เสียงของฮวาหวู่หลิงดังขึ้นด้วยความสงสัย
ทำไมชายหนุ่มด้านข้างเธอถึงพูดคนเดียวเป็นตุเป็นตะแบบนั้น ?
อย่าบอกนะว่าเขาจะเพี้ยนไปแล้ว ?!
โชคดีนะที่เธอให้พวกตากล้องไปไลฟ์สดภาพในงานแทน ไม่อย่างนั้นคนอื่นคงจะมองชายหนุ่มแปลก ๆ แน่นอน...