ตอนที่แล้วกติกาเข้าร่วมกิจกรรม (อ่านฟรี 07/06/2567)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเริ่มกิจกรรมซื้อห้าร้อยหยวน แจกของฟรี! (อ่านฟรี 15/06/2567)

เจอกันอีกแล้ว! ชี้ตัวผู้ก่อเหตุ (อ่านฟรี 11/06/2567)


[ตำรวจล่ะ! ของจริงเปล่าเนี่ย ทำไมเหมือนจัดฉากยังไงชอบกล]

[นั่นสิ เป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์ของทางห้างรึเปล่า ? เฮ้ ใครอยู่ในเหตุการณ์ช่วยอธิบายให้หน่อยว่ามันเรื่องจริงหรือหลอกอ่ะ ?]

[แล้วแบบนี้กิจกรรมจะล่มไหม ? ตำรวจมาทำอะไรกัน]

[อย่าทำอะไรสุดหล่อของฉันนะ! พวกตำรวจสารเลว]

[เอ๊ะ! ฉันจำได้ว่าก่อนหน้านี้เหมือนมีคลิปผู้ชายคลานออกจากห้างนี้ไม่ใช่เหรอ หรือจะเกี่ยวกับเรื่องนั้นรึเปล่า ?]

[ก็เป็นไปได้นะ แต่มันก็ต้องมีต้นเหตุสิ รอดูกันต่อไปดีกว่า]

[แต่บางทีพวกตำรวจก็เคลื่อนไหวด้วยเงินนะ เดี๋ยวนี้หาตำรวจดี ๆ ยากจะตาย มีแต่พวกโจรในเครื่องแบบ]

“พวกคุณต้องการอะไร ? บุกเข้ามาแบบนี้ขออนุญาตใครรึยัง ?” ฮวาหวู่หลิงเดินออกมาเผชิญหน้ากับเหล่าตำรวจอย่างไม่เกรงกลัวโดยมีชายหนุ่มเดินมาพร้อมกัน

ตระกูลฮวาเคยกลัวตำรวจตัวเล็กเหล่านี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?

“ผมเป็นรองสารวัตรของสถานีใกล้ ๆ นี้ครับ พอดีได้รับแจ้งมาว่ามีคนใช้ความรุนแรง บังคับให้บุคคลอื่นกระจำอนาจารในที่สาธารณะ เลยมาทำการตรวจสอบเพื่อคุมตัวกลับไปสอบปากคำ” ชายร่างท้วมดูมีอายุหน่อยเดินออกมาด้านหน้าพร้อมอธิบายสาเหตที่พวกเขามาที่นี่

“แล้ว ? มันก็ต้องทำเรื่องแจ้งขอความร่วมมือกับทางห้างมาก่อนไม่ใช่รึไง ? นี่เล่นยกโขยงมากันแบบนี้มันไม่ผิดกฎหมายเหรอ ?” ฮวาหวู่หลิงสวนกลับไปอย่างดุเดือด ทำเอาอีกฝ่ายรู้สึกแปลกใจไม่ได้ที่หญิงตัวเล็กตรงหน้ากล้าเถียงเขาแบบนี้

“แล้วคุณเป็นใคร ? มีสิทธิอะไรมาแย้งผม ?” รองสารวัตรกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นเล็กน้อย เขาต้องการข่มให้อีกฝ่ายไม่กล้าเถียงต่อ

“ฉันชื่อหวู่หลิง เป็นหุ้นส่วนของห้างนี้ แล้วนายเป็นใครไม่ทราบ ?? ถ้าไม่มีจดหมายแจ้งขอความร่วมมือมาก่อน ฉันก็ไม่อนุญาตหรอกนะ” หญิงสาวตอบกลับไปด้วยเสียงที่ดังขึ้นเช่นกัน เธอกำลังครุ่นคิดว่าเพราะอะไรตำรวจพวกนี้ถึงบุกเข้ามา

หรือจะเกี่ยวกับเพื่อนเก่าของเย่เซวียนที่ถูกทำให้ต้องคลานออกไปก่อนหน้านี้นะ ? น่าจะใช่เสียด้วยสิ ถึงกับทำให้รองสารวัตรออกหน้าได้คงรู้จักกันแน่ ๆ

‘ในเมื่อพวกแกไม่อยากจบ งั้นฉันจะเล่นด้วยให้ถึงที่สุดเลย’ หญิงสาวคิดในใจด้วยความสนุก แต่ตอนนี้คงต้องทำให้กิจกรรมครั้งนี้มันผ่านไปด้วยดีเสียก่อน

“นี่เป็นเรื่องฉุกเฉิน ผู้ต้องหาอาจหลบหนีได้ผมเลยต้องรีบมาครับ ส่วนจดหมายขอความร่วมมือทางสถานีจะส่งมาให้ทางห้างในภายหลังครับ” รองสารวัตรตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงเล็กน้อย อีกฝ่ายมีหุ้นของห้างแห่งนี้ได้ก็ต้องมีฐานะไม่น้อย ถึงเขาจะไม่เคยได้ยินชื่อหวู่หลิงมาก่อนก็เถอะ

“แล้วคนที่คุณมาตามหาคือใครล่ะ ? ห้างซานหมิงมีคนเข้าออกเป็นแสนคนต่อวัน” หญิงสาวสวนกลับไปด้วยใบหน้ายียวน เธอกำลังทดสอบว่าอีกฝ่ายรู้จักกับชายที่คลานออกไปจริงไหม

“ผมพาผู้เสียหายมาด้วยครับ เดี๋ยวเขาจะชี้ตัวผู้ก่อเหตุอีกที เราได้รับรูปผู้ก่อเหตุจากผู้เสียหายมาครับ” รองสารวัตรตอบกลับไปโดยไม่ได้คิดอะไร ยังไงเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ถึงอีกฝ่ายจะมีหุ้นของห้างซานหมิงก็เถอะ

“ไหนล่ะ ? เรียกมาชี้ตัวเลยสิ จะได้จบเคลียร์กันให้เรียบร้อย ฉันจะได้จัดกิจกรรมต่อ” หวู่หลิงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

ตลอดเวลาที่พูดคุยกันเย่เซวียนเพียงจ้องมองด้วยความเงียบสงบ เขาพอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายมาหาเขาเนื่องจากเหอจุนเรียกมาแน่ ๆ เพราะมองจากท่าทางและคำพูดของเหอจุนก่อนจะแยกกันเขาก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ยอมจบง่าย ๆ เป็นแน่

ครึ่งหลัง

“เหอจุน มานี่หน่อย” รองสารวัตรเรียกชื่อที่คุ้นเคยออกมา ทำให้เย่เซวียนและฮวาหวู่หลิงอดกลั้นขำในใจไม่ได้

เป็นเขาจริง ๆ เสียด้วย ! ดูเหมือนมันจะไม่หลาบจำเอาซะเลย!

“ใครเป็นคนที่ลงมือทำร้ายร่างกายและบังคับทำอนาจารกับนายกัน ? จากที่นายแจ้งมาผู้หญิงคนนี้คือหนึ่งในผู้ก่อเหตุใช่ไหม ?” รองสารวัตรแสร้งทำหน้าขึงขังพลางกล่าวออกมาให้ดูหน้าเชื่อถือ เขาชี้ไปยังฮวาหวู่หลิงที่ยืนเท้าเอวอยู่

“ใช่ครับ ผู้หญิงคนนี้แหละ แต่ยังมีผู้ชายอยู่อีกคน... เอ๊ะ! นั่นแกใช่ไหม เย่เซวียน!!” เหอจุนตอบพี่เชียงที่เขารู้จักไปด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร

เขาจ้องมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างฮวาหวู่หลิงอยู่นาน ก่อนจะนึกออกว่ามันก็คือเย่เซวียน ชายที่เขาโกรธแค้นจนแทบจะฆ่าให้ตายคนนั้น!!

แต่ทำไมมันถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้กัน?!

สงสัยคงจะไปแต่งหน้าทำผมใหม่ ถึงได้ดูเป็นคนละคนแบบนี้สินะ..

“ใช่แล้ว ฉันเองแหละ.. นายจำฉันไม่ได้รึไงเพื่อนรัก ?” เย่เซวียนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงติดตลก เขาก็ไม่คิดว่าแค่เปลี่ยนลุคนิดหน่อยอีกฝ่ายถึงกับเกือบจะจำตนเองไม่ได้แบบนี้

“แกอย่ามาเล่นลิ้นไปหน่อยเลย! ใครเป็นเพื่อนแกกัน ท่านรองครับ! จับมันเลย มันทำร้ายร่างกายแถมข่มขู่ผมด้วย ผู้หญิงคนนั้นกับพวกบอดี้การ์ดก็ด้วยครับ!!” เหอจุนคำรามออกมาเสียงดัง

ตอนนี้ผู้ที่มาเข้าร่วมกิจกรรมและชาวเน็ตที่กำลังชมไลฟ์อยู่ต่างก็ลุ้นระทึกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรื่องนี้มันมีที่มาที่ไปยังไงกันนะ ? แล้วกิจกรรมจะล่มไหมถ้าเป็นแบบนี้...

“ผมขอเชิญตัวพวกคุณไปให้ปากคำที่สถานีด้วยนะครับ!” พี่เชียงหรือเชียงเต้าหมิง รองสารวัตรที่สนิทกับเหอจุนเดินเข้าไปหากลุ่มของอีกฝ่ายพร้อมกุญแจมือ

พวกบอดี้การ์ดที่เห็นท่าไม่ดีก็พากันเดินกระชับวงล้อมเข้ามา ทำให้มีตำรวจหลายสิบนายเดินตามรองสารวัตรมาด้วย

ทั้งสองกลุ่มยืนประจันหน้ากันแบบไม่มีใครยอมใคร สถานการณ์เริ่มไม่สู้ดีนัก อาจเกิดการปะทะกันได้ทุกเมื่อ เย่เซวียนเดินไปหยุดอยู่ข้างฮวาหวู่หลิงเพื่อป้องกันพวกตำรวจเข้ามาทำร้ายเธอ

“เอาแบบนี้ได้ไหมครับ ผมขอจัดกิจกรรมให้มันเสร็จก่อน ถ้ามีปัญหาอะไรเราค่อยไปเคลียร์กันหลังเสร็จงานได้ไหม ?” เย่เซวียนเอ่ยปากออกมา เขาไม่ต้องการให้ผู้คนที่อุตส่าห์เดินทางมาต้องเสียเที่ยวเพราะเรื่องแบบนี้

“ไม่ได้! แกตั้งใจจะถ่วงเวลาน่ะสิ!” เหอจุนที่ได้ยินก็ตะโกนสวนกลับมาด้วยความโมโห ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่หันไปมองเขากันหมด

“ถ่วงเวลาบ้าบออะไร! ไม่แหกตาดูหน่อยรึไงว่ามีคนมารอกิจกรรมของทางห้างมากขนาดไหน ? ถ้าไม่ตกลงแล้วสรุปว่าทางนี้ไม่ผิด พวกแกก็เตรียมตัวโดนฟ้องได้เลย! ที่ทำให้ทางพวกฉันต้องเสียชื่อและทำให้ห้างซานหมิงต้องขาดรายได้!!” ฮวาหวู่หลิงชี้หน้าเหอจุนและรองสารวัตรก่อนจะกล่าวออกมาอย่างไม่เกรงกลัว

ถ้าอีกฝ่ายอยากจะเล่นมากนักเธอก็จะเล่นด้วยให้ถึงที่สุด!

“ทั้งสองคนใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ เอาเป็นว่าพวกคุณจัดกิจกรรมให้เสร็จก่อนก็ได้ แต่รบกวนแล้วเสร็จงานช่วยให้ความร่วมมือไปกับพวกเราด้วยนะครับ” รองสารวัตรครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะกล่าวออกมาอย่างประนีประนอม

ถ้าเขาดื้อรั้นมากเกินไปอาจจะเกิดกระแสตีกลับได้ เพราะเขาเห็นว่าสายตาของประชาชนที่มารองานกิจกรรมเริ่มมองพวกเขาแบบไม่พอใจแล้ว

การทำให้ประชาชนนับพันไม่พอใจแลกกับการช่วยเหอจุนนั้น... คิดยังไงก็ไม่คุ้ม! เอาไว้เคลียร์สถานการณ์ตอนนี้เสร็จเมื่อไหร่ค่อยหาทางปิดข่าวไว้ก็น่าจะทำได้อยู่

แต่ที่เขาไม่คาดคิดก็คือ ทางห้างนั้นไลฟ์สดตลอดเหตุการณ์เอาไว้ด้วย!!

ต้องโทษความรีบร้อนที่จะเดินทางมาที่นี่ ทำให้พวกเหอจุนและรองสารวัตรไม่ได้เช็คข้อมูลทุกอย่างมาก่อนว่าทางห้างจะจัดกิจกรรมรวมถึงกำลังไลฟ์สดอยู่!

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด