บทที่ 76 บุตรแห่งวรยุทธ!
“เก้าร่างผสานเป็นหนึ่ง วรยุทธไร้เทียมทาน!” เจิ้งจือเผิง เซี้ยฉู่ และคนอื่นๆ จ้องมองไปที่หยางเสี่ยวเทียนด้วยความตกใจ
เกาลู่ ผู้ยังมิอาจวางตาจากหยางเสี่ยวเทียนได้ตั้งแต่วินาทีแรกก็มีท่าทีเช่นกัน
บรรลุขั้นวรยุทธไร้เทียมทาน!
เป็นขั้นวรยุทธไร้เทียมทานจริงๆ!
ด้วยความสามารถของศิษย์สำนักเสินเจี้ยน ไม่แปลกที่พวกเขาจะสามารถฝึกฝนเพลงหมัดราชันพยัคฆ์จนบรรลุขั้นฉลาดล้ำเลิศได้ แต่เป็นเรื่องยากมากที่จะฝึกฝนจนบรรลุขั้นสมบูรณ์แบบ
ซึ่งอาจไม่มีศิษย์สักคนในชั้นเรียนเลยด้วยซ้ำ ที่สามารถฝึกฝนเพลงหมัดราชันพยัคฆ์จนบรรลุถึงขั้นสมบูรณ์แบบ
ในบรรดาศิษย์สายตรงทั้งสิบคนที่สามารถฝึกฝนจนบรรลุขั้นวรยุทธไร้เทียมทาน และมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้สำเร็จ
นั่นคือ หูซิง ศิษย์สายตรงของเจ้าสำนักหลินหยง!
ยังไม่ทันที่ทุกคนจะหายผวาสั่น เวลานี้ หยางเสี่ยวเทียนได้ชักกระบี่ยาวออกมาแล้วเริ่มร่ายรำเพลงกระบี่สี่ฤดู
ด้วยการฟาดฟันกระบี่ในมือ ปราณกระบี่ก็พลันอบอุ่นราวกับสายลมยามวสันต์ฤดู (ฤดูใบไม้ผลิ) ขณะปราณกระบี่พัดผ่านไป ทุกคนโดยรอบต่างรับรู้ถึงอากาศอันอบอุ่นซึมซามอาบชโลมไปทั่วร่างกาย
จากนั้น หยางเสี่ยวเทียนก็ร่ำกระบี่กระบวนท่าที่สอง
แล้วทันใดนั้น ปราณจากกระบี่ที่เขาสะบัดในมือ ก็เริ่มเปลี่ยนอากาศเป็นอบอ้าว ทำทุกคนรู้สึกร้อนรุ่มราวเข้าสู่ช่วงคิมหันต์ฤดู (ฤดูร้อน) ที่ระอุไปด้วยแสงแดดจัดสาดลงเหนือศรีษะ จวนเนื้อตัวพวกเขาชุ่มไปด้วยเหงือ แทบอยากปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์
ครั้นหยางเสี่ยวเทียนเหวี่ยงกระบี่ เปลี่ยนเป็นกระบวนท่าที่สาม
ชั่วพริบตา ลมจากปราณกระบี่ก็พัดเฉื่อยโชยราวกับเข้าสู่สารทฤดู (ฤดูใบไม้ร่วง) ทันที
ในระหว่างที่หยางเสี่ยวเทียนกำลังร่ายรำเพลงกระบี่สี่ฤดู อีกด้านหนึ่ง หลินหยงซึ่งกำลังชี้แนะกระบวนท่าจากเพลงกระบี่ให้กับหูซิงอยู่ในลานฝึกยังเรือนเขา เริ่มแสดงสีหน้าเดือดดาลด้วยเสียสมาธิ จากเสียงเอะอะโวยวายภายนอก
ทำหูซิงผู้กำลังตั้งกระบวนท่าในเพลงกระบี่อยู่ต้องพลางชะงักกึก ด้วยเสียงฝีเท้าของผู้คนจำนวนมากนอกเรือนที่รู้สึกแปลกพิกล จนฉงนใจย่างกรายออกไปดู
ทว่า ภาพตรงหน้ากลับเป็นศิษย์จำนวนมาก ที่รีบวิ่งกรูกันอย่างลนลานไปทางหอการศึกษา
ความใคร่รู้เขายิ่งทวี จึงเอื้อมมือฉุดรั้งหนึ่งในนั้น แล้วเร่งถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“วันนี้เป็นการสอบประจำเดือน ข้าได้ยินมาว่าหยางเสี่ยวเทียนปีหนึ่ง ได้ฝึกฝนเพลงหมัดราชันพยัคฆ์จนบรรลุขั้นวรยุทธไร้เทียมทานแล้ว!”
“ข้าเลยอยากเห็นกับตา!”
หูซิงและหลินหยงตะลึง
ศิษย์ที่ถูกหยุดไว้มีท่าทีตื่นเต้นมิใช่น้อย แม้จะอยู่ต่อหน้าทั้งสองก็ยังแสดงอาการลุกลี้ลุกลนอยากรีบไปให้ทันเห็นเหตุการณ์
เมื่อเห็นเช่นนั้น หูซิงจึงกล่าววาจาเหยียดหยาม “เจ้ากล่าวอะไรไร้สาระสิ้นดี หยางเสี่ยวเทียนน่ะรึ จะสามารถฝึกฝนเพลงหมัดราชันพยัคฆ์จนบรรลุขั้นวรยุทธไร้เทียมทานได้ เจ้ามิได้ฟังมาผิดกระนั้นหรือ”
“ที่ข้าได้ยินมาไม่ผิดแน่นอน” ศิษย์กล่าว
“อาจารย์ พวกเขาคงหูผิดเพี้ยนไปแล้ว!” หูซิง ส่ายหัวด้วยไม่เชื่อแล้วกล่าวต่อ “ไม่ใช่หยางเสี่ยวเทียนแน่นอน และต้องไม่ใช่ขั้นวรยุทธไร้เทียมทาน! ใช่หรือมะ…”
ก่อนที่เขาจะกล่าวจบหันหาผู้เป็นอาจารย์ หลินหยงก็ได้เคลื่อนตัวอย่างเร่งรีบไปยังหอการศึกษา ซึ่งเป็นที่ตั้งของชั้นปีหนึ่งทันที
หูซิงเห็นเช่นนั้น ก็ติดตามออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
เขาไม่มีทางเชื่อแลจะไม่ยอมรับเด็ดขาด ว่าคนเยี่ยงหยางเสี่ยวเทียนจะสามารถฝึกเพลงหมัดราชันพยัคฆ์ จนบรรลุขั้นวรยุทธไร้เทียมทานได้ ไม่มีทาง! ไม่มีทาง!
ขณะที่หูซิงกำลังติดตามหลินหยงไปยังหอการศึกษา เขาเห็นก็เฉินหยวนกึ่งเดินกึ่งวิ่งนำเฉิงเป้ยเป้ยและหยางจง ปราดมาจากทิศทางอื่นด้วยท่าทีรีบร้อนเช่นกัน คาดว่าพวกเขาคงทราบเรื่องนี้ด้วยไม่ต่าง
เฉิงเป้ยเป้ยและหยางจงตื่นตระหนกทันทีเมื่อได้ยินข่าว พวกเขาไม่เชื่อว่าหยางเสี่ยวเทียน จะสามารถฝึกเพลงหมัดราชันพยัคฆ์จนบรรลุขั้นวรยุทธไร้เทียมทานได้จริงๆ
เมื่อหลินหยง หูซิง เฉินหยวน เฉิงเป้ยเป้ย หยางจง และคนอื่นๆ มาถึง พวกเขาก็ได้เห็นว่าห้องเรียนศิษย์ปีสี่ ถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มคนไปอย่างสมบูรณ์
ทุกคนไร้ซุ่มเสียง มีเพียงแต่หัวใจที่ยังสั่นไหวระรัวในทรวงอก
ทันทีที่ทุกคนเห็นหลินหยง หูซิง เฉินหยวน และคนอื่นๆ มาถึง พวกเขาต่างรีบเปิดทางให้โดยมิมีผู้ใดต้องปริปาก
พอหลินหยง หูซิง เฉินหยวน และคนอื่นๆ ย่างกรายเข้าไปยังอาณาบริเวณห้องสี่ ร่างกายพวกเขาก็สะท้านด้วยความหนาวเหน็บจวนสั่นกึกๆ มิผิด มันราวกับพวกเขากำลังตกหล่มเข้าไปในถ้ำน้ำแข็งพันปี
พวกเขาต่างมีสีหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นหยางเสี่ยวเทียน ยืนถือกระบี่ยาวขณะกำลังเหวี่ยงในท่วงท่าสง่างาม น้ำแข็งเกาะกุมไปทั่วห้องและโปรยปรายด้วยเกล็ดหิมะ
“เกล็ดหิมะ!”
นี่เป็นการเคลื่อนไหวกระบวนท่าสุดท้ายของเพลงกระบี่สี่ฤดู “กระบี่เหมันต์” ทั้งยังเป็นท่าโจมตีที่รุนแรงแลทรงพลังสุดอีกด้วย
“สามารถกระตุ้นพลังแห่งสวรรค์และโลกได้ นี่มันขั้นวรยุทธไร้เทียมทาน!” เฉินหยวนสั่นไปทั้งตัวด้วยหวาดหวั่น
เพลงกระบี่สี่ฤดูเมื่อถึงขั้นวรยุทธไร้เทียมทาน จะสามารถกระตุ้นพลังแห่งสวรรค์และโลกได้ อย่างน่าพิศวง ด้วยความที่มันสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพดินฟ้าอากาศ การเคลื่อนไหวของกระบี่ในมือหยางเสี่ยวเทียน จึงก่อให้เกิดน้ำแข็งและหิมะตกลงมาราวอยู่ในฤดูเหมันต์
สีหน้าหลินหยง ดูตกใจมิด้อยไปกว่าเฉินหยวนขณะนี้ ตลอดหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา มีเพียงศิษย์ฝ่ายในของสำนักเท่านั้น ที่สามารถฝึกฝนเพลงหมัดราชันพยัคฆ์จนบรรลุขั้นวรยุทธไร้เทียมทานได้
ซึ่งในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ไม่มีศิษย์ฝ่ายนอกคนใดสามารถฝึกฝนเพลงกระบี่สี่ฤดูจนบรรลุขั้นวรยุทธไร้เทียมทานสำเร็จสักคน
ผู้ที่สามารถฝึกฝนวรยุทธจนบรรลุขั้นวรยุทธไร้เทียมทานได้ ขึ้นชื่อว่าเป็นบุตรแห่งวรยุทธ!
หมายถึงบุตรชายที่เกิดมาเชี่ยวชาญในด้านการต่อสู้!
การฝึกปรือวรยุทธให้ถึงขั้นสมบูรณ์แบบนั้น เรียกได้ว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ที่สูงมาก แต่มีเพียงบุตรชายแห่งวรยุทธเท่านั้น ที่สามารถฝึกฝนจนบรรลุขั้นวรยุทธไร้เทียมทานได้