บทที่ 4 ออกเดินทางฝึกฝน
“หวังฉิง ข้าแค่ต้องการจะคุยกับท่านพ่อของข้าเท่านั้นเอง”
“ขยะอย่างเจ้า ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะมาเหยียบที่นี่เลยได้ด้วยซ้ำ”
“ถ้าข้าเป็นขยะงั้นเจ้าก็แย่เสียยิ่งกว่าขยะซะอีก”เด็กหนุ่มพูดพลางถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
“เจ้า!!!! ถ้างั้นเจ้ามาประลองกับข้าห้ามใครเข้ามายุ่ง”หวังฉิงพูดอย่างหัวเสีย
“ได้ ข้าตกลง”
ตัวมันที่เป็นอัจฉริยะของตระกูลอายุเพียง 11 ปี กับอยู่ที่ระดับเสริมจิตขั้นที่ 1 แล้ว ขอบเขตมนุษย์นั้นจะเสริมสร้างร่างกายและจิตวิญญาณให้แข็งแกร่งเพื่อเตรียมบรรลุขั้นเหนือมนุษย์
ขั้นก่อเสริมกายนั้นจะสามารถนำลมปราณมาใช้เสริมพลังในร่างได้เท่านั้นส่วนระดับก่อเสริมจิตนั้นสามารถนำลมปราณมาใช้เสริมกับร่างกายได้
ก่อลมปราณนำปราณออกมาใช้นอกกายได้ส่วนระดับก่อตันเถียนคือสร้างตันเถียนเพื่อใช้พลังด้วยตนเองไม่ต้องดูดเอามาจากรอบตัวอีกแล้ว
จึงมีช่องว่างแต่ละระดับเป็นอย่างมากแต่ที่เด็กหนุ่มกล้าสู้ด้วยนั่นเพราะตนมีวิชาที่สมบูรณ์ดีพร้อมด้วยสามารถกลืนกินปราณรอบๆตัวมาใช้ได้เรื่อยๆด้วยเส้นลมปราณทำให้มีความมั่นใจในระดับนึง
ภายในตำหนักผู้นำตระกูลได้แยกออกมาให้เหลือวงตรงกลาง
“มา เจ้าขยะข้าให้เจ้าโจมตีข้าก่อนเลย 3 ครั้ง”หวังฉิงกล่าวออกมาอย่างหยิ่งผยองเป็นอย่างมาก
มันที่มีพลังระดับก่อเสริมจิตขั้นที่ 1 ไม่คิดว่าขยะที่มีระดับพลังก่อเสริมกายขั้นที่ 1 จะทำอะไรมันได้
เด็กหนุ่มพลันเร้าพลังเสริมเข้าไปที่หมัดอย่างรวดเร็วมันเป็นปราณที่บริสุทธิ์เป็นอย่างมากที่มาจากวิชาเทพบริสุทธิ์
เด็กหนุ่มพุ่งเข้าไปง้างหมัดอย่างรวดเร็วจนทำให้คนทั้งตระกูลตกใจกับระดับพลังและปราณที่บริสุทธิ์ของเด็กหนุ่ม
ปังงงงงงงงงง
หมัดกระแทกเข้าไปที่หน้าของหวังฉิงอย่างรุนแรงจนปลิวไปชนกับกำแพง
ตูมมมมมมม
หวังฉิงนอนสลบอยู่ที่กำแพงหน้าบิดเบี้ยวและมีเลือดไหลออกมาทั่วใบหน้า
ครืนนนนนนนนน
“อั่ก ท่านผู้อาวุโสหวังอี้ท่านทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร”
“เจ้าทำร้ายบุคคลภายในตระกูลเดียวกันเจ้าจะต้องไปรับโทษ”ผู้อาวุโสหวังอี้พลันเพิ่มแรงกดดันใส่เด็กหนุ่มมากขึ้น
“หวังฉิง มันมาท้าทายข้าและข้าก็ตอบรับคำท้ามันข้าผิดตรงไหน”เด็กหนุ่มกล่าวด้วยใบหน้าโกรธเกรี้ยว
“หวังอี้ บุตรชายข้ามิได้ทำอะไรผิดเจ้าอย่ามาใส่ร้ายเขา”
เมื่อหวังอี้ได้ยินหวังหม่าเปาผู้นำตระกูลกล่าวเช่นนั้นก็รีบสลายแรงกดดันทิ้งทันที
“หวังเล่อเฉิง ทำร้ายรุ่นเยาว์ภายในตระกูลต้องรับโทษนะขอรับ”หวังอี้กล่าวด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว
“เขาทำตามกฏอย่างถูกต้องหวังฉิงมาท้าทายเขาเองมันผิดตรงไหน”
เมื่อได้ยินหวังหม่าเปากล่าวเช่นนั้นหน้าของหวังอี้พลันหน้าเหยเกทันทีแล้วไม่พูดอะไรออกมา
“เอาละการประชุมจบลงเท่านี้แยกย้ายได้”
หวังอี้รีบจบการประชุมและพาบุตรของตนเข้าห้องไปในทันที
“เฉิงเอ๋อ เจ้าบ่มเพาะได้แล้วอย่างงั้นรึ”หวังเปาเล่อกล่าวออกมาด้วยความยินดี
“ใช่แล้วท่านพ่อ ตอนนี้ข้าบ่มเพาะได้แล้วแถมรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า สวรรค์มาโปรดตระกูลเราแล้ว แล้วลูกต้องการจะคุยอะไรกับพ่ออย่างงั้นรึ”
“ข้าต้องการที่จะไปฝึกฝนภายในป่าแสงจันทร์เป็นระยะเวลา 2-3 ปี”
“ถ้าลูกต้องการเช่นนั้นพ่อก็จะไม่ขัดขวางแต่รอแม่ของเจ้ากลับมาก่อนแล้วข้าจะให้โอสถเจ้าไปเพิ่มด้วย”
“ได้ขอรับท่านพ่อ”
แม่ของเขานั้นจะกลับมาทุกเดือนเพื่อมาดูแลเขา 1 วันและกลับไปทำหน้าที่ต่อ
“ฮ่า ฮ่า เจ้าแข็งแกร่งยิ่งนักที่สามารถเอาชนะระดับก่อเสริมจิต ขั้นที่ 1 ได้โดยเจ้ายังอยู่ในระดับก่อเสริมกายขั้นที่ 7”
“มันแค่ประมาทข้าหน่ะขอรับ ทำให้มันเร่งเร้าพลังมาป้องกันไม่ทัน”
“แต่เจ้าก็จัดการมันได้อยู่ดี ช่างเถอะไปเตรียมตัวออกเดินทาง เดี๋ยวแม่ของเจ้าก็จะกลับมาแล้วอีกไม่กี่วัน”
แม่ของเด็กหนุ่มนั้นเป็นผู้ใช้ค่ายกลระดับสีฟ้าประจำอยู่ที่ราชวงศ์ แม่ของเด็กหนุ่มนั้นมีฐานะที่สูงส่งเป็นอย่างมากเพราะผู้ใช้ค่ายกลนั้นหายากเป็นอย่างยิ่งและสามารถทำอะไรได้หลายอย่างมาก
ถ้าใครเป็นศัตรูกับผู้ใช้ค่ายกลแล้วละก็คงจะปวดหัวเป็นอย่างยิ่ง
5 วันผ่านไปแม่ของเด็กหนุ่มก็มาถึง
“ท่านพี่ข้ากลับมาแล้ว”เสียงของหญิงสาวดังขึ้นในตำหนักเจ้าเมือง”
“หยูอี้ผิง เจ้ากลับมาแล้ว”หวังหม่าเปาเรียกหญิงสาวคนนั้นพร้อมออกไปหาทันที
แม่ของเด็กหนุ่มนั้นก็เป็นคนของ 4 ตระกูลใหญ่เช่นกันและมีความงดงามมาก
4 ตระกูลใหญ่นั้นมีตระกูล เหล่ย หวัง หยู ซวน เรียงตามลำดับความแข็งแกร่งของรุ่นเยาว์ปีที่แล้ว
ลำดับของตระกูลนั้นจะวัดโดยรุ่นเยาว์ที่เข้าร่วมการแข่งระหว่างตระกูลที่จัดขึ้นทุก 3 ปีโดยต้องอายุไม่เกิน 16 ปี
“เฉิงเอ๋อแม่กลับมาแล้ว”หญิงสาวกล่าวด้วยความรัก
“ท่านแม่ ครั้งนี้มีของฝากอีกหรือไม่”เด็กหนุ่มกล่าวออกไปอย่างซุกซน
“นี่จ๊ะ ตราอาคมระดับสีน้ำเงิน”หญิงสาวพลันยื่นตราที่มีอาคมสลักไว้และมีกลิ่นอายของตนอีกด้วย
“ท่านแม่นี่ท่านบรรลุระดับสีน้ำเงินแล้วหรือ”เด็กหนุ่มเลิกตาขึ้นอย่างตกใจ
“ใช่แล้วจ๊ะ”หญิงสาวยิ้ม
ผ่านไปอีก 1 ชั่วยามเด็กหนุ่มก็เก็บของเตรียมตัวออกเดินทางเสร็จก็มาที่หน้าประตูตระกูลของตน
“นี่คือแหวนมิติระดับต่ำมีพื้นที่ข้างในราวๆห้องเก็บของหนึ่งห้อง ข้างในมีโอสถและของใช้ที่จำเป็นหมดแล้ว”หวังหม่าเปาโยนแหวนมิติให้กับเด็กหนุ่ม
“ลูกต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะ”หยูอี้ผิงเดินออกไปสวมกอดเด็กหนุ่ม
“ขอรับท่านแม่ ข้าจะกลับมาอย่างปลอดภัยหากไม่ไหวข้าจะรีบหนีทันที”เมื่อกล่าวจบเด็กหนุ่มก็เริ่มออกเดินทางทันที