บทที่ 21 นี่คือจุดที่ราชาปีศาจผงาดขึ้น!
บทที่ 21 นี่คือจุดที่ราชาปีศาจผงาดขึ้น!
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสามขับรถไปที่บริษัทหลินอินเวสเมนท์
ที่ตั้งของหลินอินเวสเมนท์ไม่ได้ตั้งอยู่ในตึกเครือบริษัทหลิน แต่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจ เป็นสำนักงานเช่า เพราะนี่เป็นแค่สาขาหนึ่งในเครือบริษัท นับเป็นหนึ่งในกิจการที่เหมือนโยนหินถามทาง ทดลองลงตลาดของบริษัทหลินเท่านั้น
ที่นี่เพิ่งก่อตั้งมาไม่ถึงสองปี มีจำนวนพนักงานน้อยกว่าร้อยคน ทรัพย์สินรวมเพียงหนึ่งพันล้านหยวน
จนถึงตอนนี้ การทำเงินของบริษัทมีประสิทธิภาพปานกลาง ผลลัพธ์ไม่น่าประทับใจมากนัก
ณ ขณะนี้ หลินเป่ยฝานก้าวเข้าไปในอาคาร มองภาพอันคุ้นเคย เกิดความคิดผุดขึ้นในใจ ‘ฉันกลับมาแล้ว!’
ในชีวิตก่อน นี่คือจุดเริ่มต้นของธุรกิจเขา!
เขาเริ่มต้นจากที่นี่ ในเวลาเพียงสั้นๆไม่กี่ปี สร้างอาณาจักรธุรกิจมูลค่าล้านล้านหยวน! สะเทือนไปทั้งโลก!
และเป็นเพราะธุรกิจพวกนี้ ทำให้เขามีทุนที่จะต่อสู้กับพวกตัวเอกและตัวร้ายคนอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ!
เขาเชื่อเช่นนั้น และจะทำมันอีกครั้ง! ผงาดขึ้นให้เร็วกว่าในชีวิตที่แล้ว! และจะแข็งแกร่งขึ้นด้วย!
ตัวเอกเย่ซิงเฉินตามมาข้างหลัง กวาดมองดูอาคารหลังนี้ เอ่ยในใจว่า ‘ที่นี่สินะ ที่เป็นสถานที่ให้กำเนิดราชาปีศาจหลินเป่ยฝาน!’
‘เจ้าหมอนี่เก็บตัวเงียบเหมือนหนูท่อ แต่ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี สร้างอาณาจักรธุรกิจที่ทำให้ทั้งโลกตะลึง!’
กว่าทุกคนจะสังเกตเห็น หลินเป่ยฝานก็เติบโตขึ้นเป็นยักษ์ใหญ่แล้ว! เม็ดเงินลงทุนแพร่กระจายไปในทุกๆอุตสาหกรรมและวิชาชีพ แผ่อิทธิพลไปทั่วโลก!
เพราะทุนทางด้านนี้นี่แหละ ที่เป็นสาเหตุให้หลินเป่ยฝานสามารถทำลายขุมกำลังเบื้องหลังของเขา ทำลายทุกสิ่งที่เขามี! สุดท้ายขับไล่เขาออกจากประเทศเหมือนสุนัขหลงทาง!
เย่ซิงเฉินกำหมัดแน่น “คราวนี้แหละ ฉันจะไม่ยอมให้แกทำสำเร็จอีก! ฉันจะหักปีกที่เรียกว่าความทะเยอทะยานของแก กดให้แกหมอบอยู่แทบเท้าฉันตลอดไป!”
ทั้งสามคนเดินเข้าประตูบริษัท และพบว่าพนักงานทุกคนของบริษัทหลินอินเวสเมนท์มายืนตั้งแถวรอต้อนรับอยู่แล้ว
“รองประธานหลิน ยินดีต้อนรับ ...”
ขั้นต่อไปคือการประชุมเพื่อแนะนำพนักงานคร่าวๆ และอธิบายเนื้อหางาน ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น
เพราะถึงอย่างไร หลินเป่ยฝานคือผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของเครือบริษัทหลิน ครั้งนี้มาเปิดประสบการณ์ในฝ่ายการลงทุน ทุกคนจึงเอาแต่ปั้นหน้ายิ้มใส่เขา
หลังจากการประชุมสิ้นสุดลง หลินเป่ยฝานมายังออฟฟิศที่พวกเขาจัดเตรียมเอาไว้ให้ แล้วเริ่มคิดเรื่องทิศทางการพัฒนาต่อไป
บริษัทหลินอินเวสเมนท์มีกองทุนรวมหนึ่งพันล้านหยวน เดิมมีประธานกรรมการหนึ่งคนและรองประธานกรรมการสองคน
ประธานกรรมการทั้งสามต่างรับผิดชอบทิศทางการลงทุน แต่ละคนถือกองทุนคนละ 300 ล้านหยวน จึงเหลือเงิน 100 ล้านหยวนไว้เป็นทุนหมุนเวียน
แต่หลังจากหลินเป่ยฝานแทรกเข้ามา เขาก็ได้เงิน 100 ล้านหยวนนั้นมาดูแล
ทุนอาจไม่มาก แต่จุดประสงค์เน้นไว้ใช้ซึมซับความรู้เป็นหลัก
หากเขาทำสำเร็จ ได้รับการยอมรับจากทุกคน เม็ดเงินที่จะได้นำไปลงทุนก็จะเพิ่มขึ้น
แต่ตอนนี้จะนำเงิน 100 ล้านหยวนไปใช้ทำอะไร นี่คือปัญหา
ก่อนเกิดใหม่ หลินเป่ยฝานอาศัยข้อได้เปรียบของผู้รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า อีกทั้งยังมีนิ้วทองคำอย่างระบบ จึงสามารถเพิ่มเงินได้อย่างรวดเร็ว
แต่หลังจากเกิดใหม่แล้ว นิ้วทองคำของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
พรใดที่ตนปรารถนา ศัตรูจะได้รับมันเป็นสองเท่า!
ดังนั้น ทำตามวิธีเดิมไม่ได้แน่ ไม่อย่างนั้นก็จะเสียเปรียบพวกตัวเอก
แล้วอีกอย่าง เขายังพบว่าภายหลังการเกิดใหม่ ตัวเอกทั้งสองคนอย่าง เซียวเฉินกับเย่ซิงเฉิน ดูเหมือนจะต่างไปจากเดิม โดยเฉพาะเทพสงครามเย่ซิงเฉิน อีกฝ่ายมาอยู่ข้างกายเขาในฐานะบอดี้การ์ด ไม่ทำตามพล็อตเรื่องเดิม มันแปลกมาก
ดังนั้น เขาต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน ...
ณ ขณะนี้ หลิวรู่เหมยผลักประตูเดินเข้ามาพร้อมกับกองเอกสารหนา “ตอนนี้คุณมีเงินแค่ 100 ล้านหยวน จำนวนยังถือว่าน้อย ฉันขอแนะนำให้คุณลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ชั่วคราวก่อน เช่นพวก พันธบัตร หุ้น เป็นต้น”
“ข้อดีอย่างแรกก็คือ มันสามารถช่วยให้คุณเริ่มต้นได้ไว ช่วยให้คุ้นเคยกับธุรกิจการลงทุน”
“อย่างที่สอง เมื่อเม็ดเงินเพิ่มขึ้น คุณสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมการลงทุนที่ใหญ่กว่านี้ได้ ... นี่คือพันธบัตรกับหุ้นบางส่วนที่ฉันคัดเลือกมาแล้ว พวกมันล้วนเป็นหลักทรัพย์คุณภาพสูง ลองตัดสินใจดูก่อนได้”
“ลำบากคุณแล้ว เหมยเหนียง!” หลินเป่ยฝานรับเอกสารมาและลองเปิดดู
เขาพบว่าหลักทรัพย์ข้างใน จริงๆแล้วมีแต่หลักทรัพย์คุณภาพสูง มันให้อัตราผลตอบแทนต่ำ แต่ก็ปลอดภัยมาก สะดวกสำหรับเขาในฐานะมือใหม่สายการลงทุน
แม้ผู้หญิงคนนี้จะต่อต้านเขา แต่อันที่จริงเธอเป็นคนจริงจังและมีความรับผิดชอบในงานมาก
เพียงแต่ว่าความเร็วในการทำเงินจากสิ่งที่เลือกมามันน้อยไป
เขามาที่นี่ ไม่ใช่เพื่อสร้างแต้มต่อแค่นิดๆหน่อยๆ แต่ตั้งใจจะเริ่มต้นสร้างแรงกระเพื่อมมหึมาที่กลายเป็นทุนช่วยเหลือตน
ณ ขณะนี้ หลินเป่ยฝานหันศีรษะไปมองตัวเอกเย่ซิงเฉินที่นั่งเงียบๆ บนโซฟา ยิ้มและถามว่า “สหายเย่ คุณมีข้อเสนอแนะดีๆบ้างไหม?”
“ฉันเหรอ?” เย่ซิงเฉินรู้สึกสับสน คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะถามเขา
“ฉันพร้อมจะเริ่มงานแล้ว เตรียมใช้ทุนที่มีสร้างรายได้ แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะเลือกอะไรดี คุณมีข้อเสนอดีๆไหม? สามารถบอกฉันได้นะ” หลินเป่ยฝานรออย่างมีความหวัง ในแววตาเต็มไปด้วยกำลังใจ
หลิวรู่เหมยก็มองตามด้วยดวงตาอันงดงาม เธอต้องการจะเห็น ว่าบอดี้การ์ดคนนี้จะมีความสามารถซักแค่ไหน