ตอนที่ 9 รวมทีมยอดคน (3)
13.00 น. สนามบินหนานเจียว
ซินหรานลงจากรถด้วยความระมัดระวังเพราะสนามบินแห่งนี้มีตำรวจอยู่เต็มไปหมด และอาจมีนักฆ่ามาดักรอเธออยู่ก็เป็นได้
กริ๊งงงงงง!!!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นซินหรานหยิบมันขึ้นมาแนบหูอย่างระมัดระวัง
“ฉันจะล่อพวกตำรวจไปทางอื่นให้ จากนั้นเธอก็รีบไปยื่นพาสปอร์ตและขึ้นเครื่องทันที มีเวลา 5 นาทีก่อนจะเริ่มปฏิบัติการ ตู๊ดดด….”
ซินหรานรีบไปสนามบินแล้วหันมองซ้ายมองขวาเล็กน้อย เห็นตำรวจยืนประจำอยู่เกือบทุกที่ และเธอยังสังเกตเห็นคนที่ทำท่าทีประหลาดอยู่หลายคน แต่ทันใดนั้นเสียงสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้น
กริ๊งงงงงง!!!
ตำรวจรีบวิ่งออกไปเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ทันที ซินหรานที่อยู่แถวทางเข้าอยู่แล้วก็สบจังหวะแอบเข้าไปในสนามบินได้สำเร็จ
เธอตรงไปที่เคาน์เตอร์บริการยื่นพาสปอร์ตปลอมให้แก่พนักงานไปและรอด้วยความคาดหวัง
“ขอให้สนุกกับการเที่ยวนะคะ”หลังจากตรวจสอบอยู่ครู่หนึ่งพนักงานสาวก็ยื่นไปพาสปอร์ตคืนให้พร้อมกับกล่าวอวยพร
ซินหรานยกยิ้มขึ้นด้วยความดีใจก่อนจะตรงไปยังเครื่องบินโดยสวัสดิภาพไม่มีใครมารบกวนเธอ เมื่อมาถึงที่นั่งเธอก็ยังไม่หายระแวดระวังมองไปรอบๆเครื่องบินเพื่อตรวจเช็คตลอดเวลา
16.20 น. ประเทศไทย จังหวัดชลบุรี
เครื่องบินจากจีนลงจอดอย่างสวยงามโดยไม่มีอะไรผิดพลาด ซินหรานเดินออกมาจากเครื่องบินโดยกำลังกังวลว่าจะไปต่อยัง แต่ทันใดนั้นเธอก็เหลือบมองไปเห็นชายที่ถือป้ายชื่อเธอ
ซินหรารเดินเข้าไปก็พบกับคนใส่ชุดสูทยืนรอเธออยู่ เธอเอ่ยทักทายเล็กน้อยอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาแบบเก้ๆกังๆ เธอเข้าใจได้ทันทีว่าชายคนนี้พูดจีนไม่ได้และน่าจะเป็นคนนำทางให้เธอเท่านั้น
ชายคนนั้นนำทางเธอออกไปจากสนามบินและพบกับนถตู้คันหนึ่งจอดอยู่พร้อมกับชายในชุทสูทอีก 2-3 คน เมื่อเดินไปถึงพวกเขาก็เปิดประตูเชิญเธอเข้าไปจากนั้นก็ขึ้นตามเธอไปพร้อมปิดประตู
เมื่อขึ้นไปบนรถเธอก็หันไปมองข้างหลังและพบกับชาวต่างชาติอีกนับสิบคนกำลังมองมาที่เธอด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
รถตู้ขับพาพวกเขาทั้งหมดไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ดูหรูหราแต่ไม่มีคนเลยสักคนเดียว ชายในชุทสูทลงมาเปิดประตูให้พวกเขาทั้งหมดลงก่อนจะขับออกไปทิ้งให้คนทั้ง 12 ยืนงงอยู่กับที่
ซินหรานตั้งสติได้ก่อนคนอื่นและเดินเข้าไปในร้านอาหารเป็นคนแรก คนอื่นๆที่เห็นเช่นนั้นก็เดินตามเธอไป ประตูร้านถูกเปิดขึ้นและพบกับชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งจิบชารอพวกเขาอยู่
“สวัสดีครับคุณซินหราน”เขาทักทายเธอขึ้นมาคนแรกเป็นภาษาจีน
“นะ..นายคือคนที่พาฉันหนีออกมางั้นหรอ?”ภาพที่เธอคิดไว้พังทลายลงทันที
ตอนแรกเธอคิดว่าบุคคลที่มีความสามารถถึงขนาดป่วนหน่วยลับของประเทศจีนได้จะเป็นเจ้าพ่อหรือผู้ทรงอิทธิพลคนใดคนหนึ่งเสียอีก แต่กลับเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งเท่านั้น
“ก่อนอื่นก็ขอให้ทุกคนหยิบหูฟังตรงนั้นขึ้นมาใส่ก่อนครับ”ชายหนุ่มผายมือไปยังโต๊ะข้างๆของทุกคนที่มีหูฟังไร้สายวางอยู่
แม้จะไม่รู้ว่าคืออะไรแต่ทุกคนก็หยิบมันขึ้นมา เพราะดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะเป็นนายจ้างคนใหม่ของพวกเขา
“เอาล่ะทีนี้ทุกคนฟังผมรู้เรื่องรึปล่าวครับ”
“คุณพูดภาษารัสเซียได้ด้วย??”
“ไม่ใช่! เขาพูดภาษาญี่ปุ่นต่างหาก”
“ไม่ๆๆเขาพูดอิตาลี”
“เดี๋ยวนะทำไมผมได้ยินทุกคนพูดภาษาโปรตุเกส”
ทุกคนที่ได้ยินก็ตกตะลึง และเมื่อถอดหูฟังออกทุกคนก็กลับไปได้ยินแต่ละคนพูดภาษาประจำชาติเหมือนเดิม
เด็กสาวคนเดียวในกลุ่มตาเป็นประกายและหันไปถามชายหนุ่มที่กำลังจิบชาอย่างใจเย็นอยู่
“พี่ชายคะ มันคืออะไรงั้นหรอ”
“เครื่องแปลภาษารุ่นทดลองน่ะ”คนอื่นๆก็ได้ยินเช่นกันเพราะทุกคนใส่หูฟังแปลภาษากันอยู่
“คุณเป็นคนสร้างมันขึ้นมาหรอคะ”สาวนักประดิษฐ์จากญี่ปุ่นถามขึ้น
“ใช่แล้วล่ะ ยังมีของอีกเยอะที่เธอยังไม่เห็นมัน”
ดวงตาของเธอเป็นประกายขึ้น ตอนแรกที่เธอตอบตกลงมาก็เพราะชายคนนี้บอกว่าจะให้เงินทุนและความรู้แก่เธอ แต่ตอนนี้เธออยากจะเข้าไปในห้องของชาวตรงหน้าแล้วดูว่ามันมีอะไรอยู่บ้างจริงๆ
“คุณชื่อว่าอะไรหรอคะ”ซินหรานถามขึ้นหลังจากตรวจสอบและทบทวนสิ่งต่างๆ
“ผมชื่อ ดนัย ภัทรภพ พวกคุณจะเรียกผมว่าบอส หรือว่าท่านประธานก็ได้”
“แล้วเหตุผลที่เรียกพวกเรามาล่ะ?”ซินหรานถามต่อ
“เพราะผมอยากจะได้พวกคุณมาร่วมงานด้วยกันน่ะ ผมกำลังจะเปิดบริษัทอยู่แต่ไม่มีพนักงานหรือคนที่มีความสามารถเลย”
“บริษัทคุณชื่ออะไรหรอครับ”นักคณิตจากฝรั่งเศษถามขึ้น
“บริษัท Nebula Teachnology”
ทุกคนที่ได้ยินบางคนก็รู้สึกตกตะลึง แต่บางคนก็ทำหน้างงๆเหมือนไม่รู้จัก คนที่รู้จักก็จะมีแต่พวกนักวิจัย และ นักประดิษฐ์ที่อาจจะเคยได้ยินหรือใช้งานโปรแกรมของเขามาบ้าง
“คุณคือคนสร้างโปรแกรมพวกนั้น!”
“ใช่แล้วล่ะ”
“ที่คุณบอกว่ายังไม่มีพนักงาน งั้นก็แสดงว่าคุณทำคนเดียว?”
“ใช่แล้ว แต่ตอนนี้ผมอาจจะมีคนมาช่วยแล้วก็ได้ถ้าพวกคุณตอบตกลงกับข้อเสนอของผม”
“แล้วเรื่องที่บอกว่าสามารถรักษาแม่ผมได้ล่ะครับ”หนุ่มร่างใหญ่จากบราซิลถามขึ้นมา
“เรื่องนั้นผมสามารถให้คำมั่นได้ว่าสามารถรักษาเธอได้ แต่ไม่ใช่ในตอนนี้”
“แล้วผมจะมั่นใจได้ยังไง”
“คุณรู้จักชายคนนั้นไหม”ดนัยชี้มือไปที่นักชีววิทยาจากอิตาลี
“ผมไม่รู้จัก”
“คงเป็นคุณเองเจโล่ นักชีวะชื่อดังจากอิตาลีสินะคะ”หนึ่งในกลุ่มนักวิจัยถาม
“ใช่แล้วครับ”
“เขาคนนี้คือเองเจโล่ ชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีชีวภาพเขาโด่งดังมากเลยล่ะค่ะ”เธอหันไปมองชายร่างโต
“แล้วมันเกี่ยวกันยังไงหรอครับ”
“การจะรักษามะเร็งต้องใช้เทคโนโลยีชีวะภาพยังไงล่ะ”ดนัยกล่าวขึ้นก่อนจะส่งเอกสารบางอย่างไปให้แก่เองเจโล่
เขาเปิดซองขึ้นมาก่อนจะอ่านมัน เพียงสักครู่เขาก็ต้องเบิกตากว้างแล้วหาที่นั่งอ่านมันจนครบทุกแผ่นจากนั้นค่อยเงยหน้าขึ้นมา
“คุณแน่ใจได้เลยครับว่าจะสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ แม้สูตรองค์ประกอบในเอกสารนี้จะใช้ไม่ได้แต่ก็คงพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็นยารักษาได้”
“ถ้าคุณยังไม่มั่นใจ หากมาทำงานกับผม ผมสามารถช่วยเรื่องการรักษาตัวของแม่คุณได้จนกว่าที่ยารักษาจะออกมา”
ชายร่างใหญ่คิดถึงผลประโยชน์ที่จะได้ก่อนจะหันมามองหน้าเองเจโล่ที่กำลังพยักหน้าให้อยู่่ เขาถอนหายใจออกมาครั้งหนึ่งก่อนจะหันไปตอบดนัย
“ผมตกลงครับ”
“เยี่ยมมาก แล้วคนอื่นล่ะ”
“ผมก็ตกลงครับ ถ้าอยู่กับท่านคงมีเรื่องน่าตื่นเต้นเกิดขึ้นบ่อยๆแน่”เองเจโล่รีบพูดขึ้นต่อ
“ฉันด้วย”
“ฉันก็ด้วย”
ทุกๆคนตอบตกลงจนเหงือเพียงซินหรานคนเดียว เธอมองมายังดนัยก่อนจะถามออกไป
“นายต้องการให้ฉันทำงานอะไร”
“เลขา แล้วก็บอดี้การ์ด”
“ได้ฉันตกลง”
“เยี่ยม!”ดนัยมองไปที่ทุกคนก่อนจะสั่งระบบให้ประเมินพรสวรรค์ของทุกคน
[ชื่อ : ซินหราน
อายุ : 21 ปี
พรสวรรค์ : ศิลปะการต่อสู้ 4 ดาว การบริหาร 3 ดาว การสอดแนม 3 ดาว การใช้อาวุธ 5 ดาว ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ 3 ดาว]
‘สุดยอด! อัจฉริยะของแท้! ความสามารถอย่างต่ำของเธอคือ 3 ดาว แถมมีพรสวรรค์ด้านการใช้อาวุธถึง 5 ดาว’ดนัยลอบตะโกนในใจด้วยความตกตะลึง
จากนั้นดนัยก็กวาดตามองดูคนอื่นๆ
พรสวรรค์ขั้นต่ำของคนพวกนี้คือ 3 ดาว และทุกคนมี 4 ดาวติดมาด้วยสมกับเป็นยอดคนถ้าได้ยาปรับเปลี่ยนร่างกายเสริมอีกคงกลายเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์เต็ม 5 ดาว
คนที่มีพรสวรรค์ 5 ดาวมีสองคน คนแรกคือซินหราน และคนที่สองคือลูคัสชายร่างโต 2.2 เมตรจากบราซิล เขามีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ถึง 5 ดาวเลยทีเดียว
“เอาล่ะตอนนี้พวกคุณยังไม่มีงาน แต่ผมจะแจกใบความรู้ที่ผมมีให้พวกคุณได้อ่านกันก่อน งานจะเริ่มตอนไหนผมยังไม่ทราบแต่ทุกคนจะได้รับเงินเดือนกันตั้งแต่ตอนนี้”
“แล้วจะให้พวกเราไปอยู่ที่ไหน”โยชิโกะสาวนักประดิษฐ์จากญี่ปุ่นถามขึ้น
“ผมซื้อคอนโดให้พวกคุณเอาไว้แล้ว แต่ซินหรานและน้ำฝนจะอยู่ที่นี่”ทุกคนพยักหน้าเข้าใจ
“ทำไมฉันถึงต้องอยู่กับนายล่ะ”
“แน่นอนว่าคุณเป็นบอดี้การ์ดแล้วก็เลขา ดังนั้นควรอยู่ดูแลผมและเรียนรู้งานไปด้วย”
“แล้วน้องน้ำฝนล่ะ”
“เธอยังเด็กอยู่ ผมอยากให้เธอมาอยู่กับผมเพราะผมมีน้องสาวด้วยให้มาเป็นเพื่อนกันคงจะดีไม่น้อย…ส่วนพวกคุณที่เหลือก็รอสักครู่เดี๋ยวจะมีรถมารับไปพักยังคอนโด”
ทุกคนทำความรู้จักกันเล็กน้อยก่อนจะขึ้นรถตู้คันเดิมขับไปยังคอนโดใกล้ๆร้านอาหารที่ดนัยซื้อเอาไว้ทั้งตึก