ตอนที่ 6 เริ่มธุรกิจแรก
บรื้นนนนนนนน…..
ดนัยในตอนนี้มาอยู่ที่หน้าบ้านของวินแล้ว ไม่สิเรียกว่าบ้านคงไม่มันคือคฤหาสน์ขนาดใหญ่หลังหนึ่ง
ขณะที่ดนัยกำลังจะจอดรถเพื่อลงไปกดกริ่ง ประตูหน้าบ้านก็เปิดขึ้นโดยมีชายในชุดพ่อบ้านเดินออกมารับเขาเข้าไป
“คุณดนัยใช่ไหมครับ”
“ใช่ครับผมเอง”
“เชิญตามมาเลยครับ”พ่อบ้านผายมือเข้าไปทางประตู
“ขอบคุณครับ”ดนัยพยักหน้าให้ครั้งหนึ่งก่อนจะขับบิ๊กไบค์เข้าไป และจอดในโรงรถหน้าบ้าน
ดนัยเดินเข้าไปในบ้านโดยมีพ่อบ้านเดินนำไปผ่านห้องโถงใหญ่และเข้าไปยังห้องรับแขก ในนั้นมีโซฟาอยู่ 3 ตัวและมีคนนั่งอยู่แล้ว
“สวัสดีครับคุณลุง”ดนัยเอ่ยทักทายพ่อของวิน
“มาๆๆ ไม่ต้องเกรงใจไปหรอกหนูดนัย”แม่ของวินพูดขึ้นก่อนจะพาเขาไปนั่งตรงกันข้ามกับพ่อของวิน
“ที่มานี่มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ”พ่อของวินเปิดประเด็นถามขึ้นทันที
“ผมต้องการมาเจรจาธุรกิจน่ะครับ”
“โอ้! ถ้าเป็นเรื่องธุรกิจถึงจะเป็นเพื่อนของลูกชาย ฉันก็คงช่วยไม่ได้หรอกนะ”
“แน่นอนว่าธุรกิจนี้ไม่ขาดทุนแน่นอนครับ”ดนัยเอ่ยด้วยความมั่นใจ
“ถ้างั้นเธอต้องการอะไรล่ะ”พ่อของวินหันไปมองหน้าภรรยาของตนเล็กน้อยเป็นเชิงบอกว่าให้ออกไปก่อน
หลังจากรอแม่ของวินออกไปจากห้องแล้ว ดนัยก็เริ่มเข้ามาดนักธุรกิจหนึ่มในทันที
“ผมอยากจะซื้อที่ดินผืนหนึ่งติดกับบริเวณชายทะเลครับ”
“แถวนั้นแพงมากเลยนะ”
“ผมมีงบอยู่ 1 ล้านครับ เพียงพอสำหรับที่ดินแถวนั้นไหม”
“ก็พอมีอยู่บ้างนะ”พ่อของวินหยิบกระเป๋าเอกสารข้างกายขึ้นมาก่อนจะนำเอกสารออกมาให้ดนัยดู
ในเอกสารมีภาพของที่ดิน บอกขนาด สภาพที่ดิน และราคาไว้เสร็จสรรพขณะที่กำลังอ่านอยู่พ่อของวินก็ถามออกมา
“เธอรู้ใช่ไหมว่าอายุยังไม่ถึง 20 จะทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้”
“เรื่องนั้นผมรู้ครับ แต่ผมบอกแม่ไว้แล้วสามารถใช้ชื่อแม่ของผมได้เลยครับ”
“ถ้าเข้าใจก็ดี ถ้างั้นลุงขอถามหน่อยจะเอาที่ดินผืนนั้นไปทำร้านอาหารใช่ไหม เธอแน่ใจแล้วแน่นะ”
“เรื่องนี้ผมแน่ใจแน่นอนครับ แต่นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของผมเท่านั้น ถ้าผมเปิดเผยส่วนหนึ่งของธุรกิจในอนาคตลุงพอจะซื้อหุ้นบริษัทผมได้ไหมครับ”พ่อของวินที่ได้ยินก็รู้สึกสนใจไม่น้อย
ท่าทีของดนัยตั้งแต่ก้าวเข้ามาในบ้านไม่มีอะไรผิดพลาดเลย เหมือนมีประสบการณ์ในด้านนี้มาอย่างยาวนาน อีกทั้งความกล้าและมั่นใจในการลงทุนก็เป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน
“ได้สิ มันคืออะไรล่ะ”
“ถ้าจะคุยกันเรื่องนี้ก่อนอื่นต้องของคอมพิวเตอร์สักเครื่องก่อนครับ”
“ได้ ขอเวลาสักครู่”พ่อของวินหันไปบอกพ่อบ้านให้เตรียมของ ก่อนที่สักพักเขาจะเดินมาพร้อมกับแล็ปท็อปในมือ
ดนัยแปลกใจเล็กน้อยเพราะแล็ปท็อปน่าจะใช้เวลาอีกปีสองปีกว่าจะวางขาย แต่ขนาดคอมพิวเตอร์ยังเป็นของปี 2010 เลย
“เครื่องนี้พอได้ไหม”
“ยิ่งกว่าพออีกครับ”ดนัยเปิดแล็ปท็อปแล้วเสียบแฟลชไดร์ฟที่พกมาเข้าไป
เป็นที่แน่นอนว่าแฟลชไดร์ฟนี้ดนัยสร้างเอง เพราะไม่งั้นในยุคนี้ที่แฟลชไดร์ฟมีความจุเพียงหลักเมกะไบท์คงไม่สามารถนำโปรแกรมแห่งอนาคตใส่เข้าไปได้
เรียกได้ว่าในห้องนอนของดนัยตอนนี้กลายเป็นห้องที่มีแต่เครื่องจักรต่างๆเต็มไปหมด ซึ่งเรื่องนี้แก้วตาก็รู้แล้วด้วย
หลังจากรอแล็ปท็อปแสนอืดไปได้สักพัก ไฟล์ทั้งหมดก็ถูกลงไว้บนเครื่องทั้งหมด และเป็นเหตุผลให้พื้นที่ในแล็ปท็อปเครื่องนี้เต็มอีกด้วย
“เสร็จแล้วครับ”ดนัยพูดจบก็หันหน้าจอไปทางพ่อของวิน
“มันคืออะไรงั้นเหรอ”
“คุณลงรู้จักโปรแกรมที่ชื่อว่า 3D Editor ไหมครับ”
“รู้จักสิ ฉันเพิ่งได้รับรายงานเรื่องนี้มาพอดี มันเป็นโปรแกรมสำหรับสร้างโมเดลสามมิติเรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เลยทีเดียว”
“แน่นอนครับ มันยังสามารถใช้งานในด้านอื่นๆได้อีกด้วย แต่นั่นก็เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น”ได้ยินเช่นนั้นพ่อของวินก็เหมือนจะคิดอะไรออกมองไปยังหน้าจอแล็ปท็อปในทันที
“นี่มันโปรแกรม 3D Editor แต่มันแตกต่างจากที่เคยเห็นนิดหน่อย ส่วนสองโปรแกรมที่เหลือฉันไม่เคยเห็นมาก่อน”
“อีกสองโปรแกรมมีชื่อว่า Video Editor กับ Movement Editor”
“เธอเป็นเจ้าของโปรแกรมทั้งสามนี้!!”
“ใช่แล้วครับ..แต่ก่อนอื่นคุณลุงลองดูประสิทธิภาพของอีกสองโปรแกรมก่อนครับ และ 3D Editor ที่คุณลุงเห็นมันคือเวอร์ชั่น 2.0 ของปัจจุบัน”
พ่อของวินเรียกคนของตนที่เชี่ยวชาญในด้านนี้มาก่อนที่ดนัยจะสอนอีกฝ่ายคร่าวๆ เพียงไม่นานเขาก็ใช้เป็นแล้วลองใช้ให้พ่อของวินดู
“ท่านครับโปรแกรมพวกนี้สุดยอดมาก สามารถตัดต่อภาพได้แนบเนียนมากและง่ายต่อการใช้งานด้วย ส่วนอีกโปรแกรมหนึ่งสามารถใช้ในการทำภาพเคลื่อนไหวต่างๆได้ง่ายเลยทีเดียว ถ้านำทั้งสองโปรแกรมมาใช้งานร่วมกันจะสามารถแสดงประสิทธิภาพออกมาได้อย่างน่าเหลือ!”
“เป็นยังไงบ้างครับโปรแกรมของผมพวกนี้”
“มันสุดยอดแน่นอน แล้วเธอขายโปรแกรมพวกนี้เท่าไหร่ล่ะ”
“ตอนแรกผมจะเปิดฟรีให้ใช้หนึ่งสัปดาห์สำหรับผู้โหลดใหม่ จากนั้นจึงเริ่มเก็บเป็นรายปี ปีละ 200 บาท หรือประมาณ 4 ดอลลาร์เท่านั้น”
“ถ้ามีคนใช้หนึ่งล้านคนก็ได้กำไรถึง 200 ล้านเลยทีเดียวแล้วโปรแกรมที่ยังไม่วางขายล่ะ”
“ผมคิดจะมัดรวมขายเป็นแพ็คเกจแล้วลดราคาลงครับ เพื่อสร้างกำไรและแนะนำสินค้าไปในตัวแต่ก็สามารถซื้อแยกได้เช่นกันถ้าผู้บริโภคต้องการ”
“ถือว่าเป็นความคิดที่ดี”
“แล้วคุณลงสนใจซื้อหุ้นบริษัทของผมไหมครับ”
“มาถึงขนาดนี้แล้วไม่ซื้อไม่ได้แล้วล่ะ ฉันขอหุ้น 10% ในราคา 50 ล้าน”
“ตกลงครับ นี่คือเอกสาร”
ดนัยได้จดทะเบียนบริษัทไว้เรียบร้อยแล้วโดยเป็นชื่อของแม่เขา ส่วนทุนในการจดทะเบียนก็มีแค่ 1 แสนบาทเท่านั้น ถือว่าเป็นขั้นต่ำพอดี
ส่วนสาเหตุที่เขาตอบตกลงทันทีก็เพราะตอนนี้กำลังขัดสนอยู่ เงินจากการขายโปรแกรมก็ยังไม่ได้ เงินจากการไลฟ์ก็ได้รอบละประมาณ 1 หมื่นบาทเท่านั้น
ส่วน NewTube ก็เริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางแล้ว คนลงคลิปก็มีเยอะขึ้นแต่ดนัยยังไม่ได้วางแผนสำหรับเรื่องนี้เอาไว้จึงได้เงินเล็กน้อยเท่านั้น
พ่อของวินเซ็นเอกสารซื้อขายหุ้นด้วยความรวดเร็วก่อนจะโอนเงินมาให้ ซึ่งดนัยต้องไปเช็คที่ธนาคารเองเนื่องจากยุคนี้ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตแบงค์
ทั้งสองลุกขึ้นยืนแล้วจับมือกันครั้งหนึ่งด้วยรอยยิ้มก่อนที่พ่อของวินจะเป็นคนเอ่ยปากขึ้นก่อน
“ต่อจากนี้เรียกฉันว่าลุงศักดิ์ก็พอ”
“ครับลุงศักดิ์”
“แล้วเธอพอจะส่งตัวโปรแกรมของทั้งสามมาให้ฉันใช้งานก่อนได้ไหม”
“ได้แน่นอนครับ แต่ผมต้องการคนมาคอยช่วยดูแลจัดการเรื่องบริษัทหน่อยน่ะครับ”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเดี๋ยวฉันจัดการให้”
“ความจริงแล้วเรื่องที่ผมต้องการยังมีอีกเยอะเลยละครับ แต่เดี๋ยวผมจะส่งมาให้ทางอีเมล”
“ได้เลย หากต้องการอะไรสามารถโทรมาหาฉันได้ตลอดเวลา”ลุงศักดิ์ยื่นนามบัตรของตนเองให้
หลังจากเสร็จธุรกิจแรกไปแล้วดนัยก็กลับมาเลือกที่ดินของตนเองต่อโดยมีงบเพิ่มมาอีก 50 ล้านบาท หลังจากที่ดูไปได้สักพักเขาก็เลือกที่ดินข้างหลังติดชายทะเล ข้างหน้าติดถนนมีขนาดทั้งหมด 5 ไร่
ถือว่ากำลังพอดีกับแผนการในอนาคตของดนัย ทั้งสองตกลงราคากันอยู่ที่ 6 แสนบาทโดยดนัยได้รับส่วนลดมากถึง 40% เลยทีเดียว
“ลุงศักดิ์พอจะมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างแนะนำไหมครับ”
“มีอยู่แล้วล่ะ เขาเป็นเพื่อนของลุงเอง”
“ถ้าอย่างนั้นช่วยแนะนำเขาให้ผมทีครับ ผมต้องการสร้างร้านอาหารใหม่”
“ได้อยู่แล้วล่ะ”
“ขอบคุณสำหรับเรื่องในวันนี้นะครับ”
“ฉันเองก็เช่นกัน”
ดนัยกล่าวลาลุงศักดิ์กับภรรยาก่อนที่เขาจะขึ้นที่บิ๊กไบค์แล้วขับออกไปจากคฤหาสน์หลังใหญ่