กติกาเข้าร่วมกิจกรรม (อ่านฟรี 07/06/2567)
“คนเยอะจังเลยแหะ” เย่เซวียนกล่าวออกมาพลางมองไปยังภาพด้านล่าง
ในตอนนี้เขากำลังจะลงบันไดเลื่อนจากชั้นสองเพื่อกลับไปยังสถานที่จัดกิจกรรมในชั้นหนึ่ง แต่แค่มองลงไปจากชั้นสองก็จะพบว่าบริเวณสถานที่จัดกิจกรรมที่น่าจะลองรับผู้คนได้เกือบห้าพันคน ในตอนนี้ถูกถาโถมด้วยผู้คนหลายร้อยเสียแล้ว..
ขนาดว่าเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนจะเริ่มกิจกรรมนะ!
“นั่นสินะ ของกิจกรรมก็ทยอยขนไปได้เยอะแล้วด้วย” ฮวาหวู่หลิงตอบกลับไปพลางมองไปยังพนักงานที่คอยขนสินค้าไปวางกองกันเอาไว้
“หวังว่าจะจบงานได้อย่างราบลื่นนะ” เย่เซวียนกล่าวออกมา เขาอยากแจกของให้จบแล้วไปทำอย่างอื่นต่อแล้ว
แต่จะทำอะไรต่อไปดีนะ ? บางทีเขาควรจะไปพาคุณปู่กลับมาอยู่ด้วยกันแล้วซื้อบ้านให้คุณปู่สักหลักคงจะดีกว่า ส่วนงานพนักงานส่งของก็อาจจะทำต่อไปก่อนเพราะเขายังสนุกที่จะทำมันอยู่ ไว้หาธุรกิจหรือสิ่งอื่นทำได้แล้วค่อยเลิกเป็นพนักงานส่งของก็ยังไม่สายไป
‘หรือจะเปิดร้านเกี่ยวกับอัญมณีดีนะ คุณปู่ก็ขุดเหมืองหาของพวกนี้ด้วย น่าจะพอมีความรู้หรือเส้นสายบ้าง ส่วนเราในตอนนี้มีเงินที่ต้องหาทางใช้ อาจจะลงตัวก็ได้’ เขาครุ่นคิดเล็กน้อยก็พบว่าเป็นความคิดที่ไม่เลว ตอนเด็ก ๆ เขาเคยอยู่แถวหมู่บ้านตรงเชิงเขามาก่อน เพราะต้องหาเลี้ยงเขา คุณปู่จึงต้องทำงานขุดเหมืองแร่มาตั้งแต่เขายังเด็ก
แต่ก็นับว่าโชคดีที่มันได้พบตอบแทนที่เยอะกว่างานทั่วไป ทำให้ทั้งสองคนสามารถใช้ชีวิตรอดและมีเงินเก็บมาเปิดร้านขายของเก่าแถวชานเมืองใหญ่แบบนี้ได้
เอาไว้จบกิจกรรมตอนนี้แล้วค่อยกลับไปคิดอีกทีก็แล้วกัน...
…
“ต่อแถวด้วยครับ! อย่าเบียดกัน!!” เสียงตะโกนของพนักงานคนหนึ่งที่คอยควบคุมฝูงคนอยู่ดังขึ้น แต่เหล่าจีนมุงก็ไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่
“ตรงนั้น! อย่าแอบหยิบของนะครับ!! ไม่งั้นผมต้องเชิญตัวคุณออกไป” มีบางคนทำท่าจะฝ่าที่กั้นเพื่อหยิบของที่เตรียมไว้สำหรับกิจกรรม พนักงานเลยต้องกล่าวเตือน
คนเรานี่มีทุกประเภทจริง ๆ ! ขนาดกิจกรรมที่เรียกว่าแจกของฟรีแบบนี้ยังคิดจะขโมยอีก!!
“อีกสี่สิบห้านาทีทางเราถึงจะเริ่มกิจกรรมนะครับ ขอให้ทุกท่านอยู่ในความสงบด้วย” พนักงานรักษาความปลอดภัยคนหนึ่งกล่าวออกมาเสียงดัง
เวลานี้มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาอย่างมากมาย จนแทบทำให้เกิดการจลาจลขนาดย่อมเลยก็ว่าได้ โชคดีที่ยังพอจะควบคุมพวกเขาให้อยู่ในความสงบได้อยู่ ไม่อย่างนั้นงานคงล่มไปแล้ว
“ดูซิ! เป็นเพราะนายเลยนะคนถึงมากันมากขนาดนี้อ่ะ” ฮวาหวู่หลิงกล่าวออกมาหลังจากที่กลุ่มของพวกเขาได้มาถึงห้องของฝ่ายจัดงานที่ได้ถูกเตรียมไว้
มันเป็นห้องที่ยกสูงขึ้นจากพื้นนิดหน่อย ภายในมีกล้องวงจรปิดของบริเวณลานกิจกรรมและทั่วทุกที่ของห้างซานหมิง รวมถึงไมค์ที่ต่อกับลำโพงภายนอกติดตั้งเอาไว้
“เดี๋ยวฉันประกาศกฎหน่อยจะดีกว่า ใกล้เริ่มงานแล้วด้วยจะได้ไม่วุ่นวายมาก” หญิงสาวกล่าวต่อโดยไม่ได้รอฟังชายหนุ่ม เธอเดินไปนั่งตรงเก้าอี้ที่มีไมค์วางเอาไว้ก่อนจะเปิดสวิตซ์อย่างเชี่ยวชาญ
“ประกาศ ๆ ขอให้ทุกท่านที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม ซื้อสินค้าครบห้าร้อยหยวนเพื่อรับฟรีสิทธิในการสุ่มสินค้าหนึ่งชิ้นกรุณาเข้าแถวตามลำดับนะคะ” ในขณะที่ผู้คนกำลังยุ่งวุ่นวายกับการตั้งแถวและจ้องมองของรางวัลตาเป็นมัน ก็ได้มีเสียงของหญิงสาวดังขึ้นผ่านทางลำโพงทุกตัวของห้างซานหมิง
ครึ่งหลัง อัพวันนี้ครับ
“เพื่อไม่ให้เป็นการวุ่นวายจนเกินไป เมื่อถึงเวลาที่กิจกรรมเริ่มต้น ทางเราจะปล่อยให้คุณลูกค้าเข้าไปยังโซนสินค้าที่กำหนดตามลำดับนะคะ ส่วนใครซื้อครบก่อนก็ไปชำระเงินแล้วนำบิลกลับมาเข้าแถวสุ่มรางวัลได้เลยค่ะ” เสียงของหญิงสาวดังขึ้นอธิบายกติกาในการร่วมกิจกรรมดังอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้คนที่กำลังวุ่นวายอยู่พากันเงียบสงบลง พวกเขาต่างตั้งใจฟังสิ่งที่หญิงสาวกำลังประกาศเพื่อไม่ให้ทำผิดพลาดจนอดเข้าร่วมกิจกรรม
“หนึ่งคนต่อหนึ่งสิทธิเท่านั้นนะคะ ไม่ว่าจะซื้อสินค้ากี่บาท แต่ก็ได้แค่ 500 หยวน หนึ่งสิทธิเท่านั้น ใครที่ไม่ทำตามกฎทางห้างซานหมิงต้องกราบขออภัยที่จะต้องตัดสิทธิของท่านโดยไม่มีข้อยกเว้น ทางห้างซานหมิงขอให้ทุกท่านทำตามกฎและโชคดีกับกิจกรรมนะคะ ขอบคุณค่ะ” สิ้นเสียงประกาศผู้คนที่ในตอนแรกพากันโหวกเหวกโวยวายและไร้ระเบียบ ก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือในทันที ทำเอาผู้ชมไลฟ์สดต่างพากันตกใจกับพลังของกิจกรรมแจกสินค้าฟรีในครั้งนี้!
แน่นอนว่าตั้งแต่เปิดไลฟ์สดจนถึงตอนนี้ พวกเขาก็ไม่ได้ปิดไลฟ์หรือคั่นโฆษณาแต่อย่างใด ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นผู้ชมในไลฟ์ล้วนได้รับชมทั้งนั้น ทำให้ทุกคนอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้!
[คนโคตรเยอะเลย! เสียดายจริงที่ฉันไม่ได้อยู่ใกล้ห้างซานหมิง โอ๊ยยย ไม่งั้นไม่พลาดหรอกกิจกรรมที่เหมือนแจกฟรีแบบนี้]
[แต่กฎมันเข้มงวดไปหน่อยไหมอ่ะ ? แถมยังโดนตัดสิทธิได้อีก]
[ก็ไม่แปลกป่ะ ขนาดตอนแรกคนเพิ่งมาไม่กี่ร้อยคนยังวุ่นวายขนาดนั้น แต่ตอนนี้คนมาเกินครึ่งลานกิจกรรมแล้ว ยิ่งวุ่นวายเข้าไปใหญ่]
[ใช่แล้ว! ฉันเคยไปงานที่มีคนเยอะ ๆ แบบนี้แล้วผู้จัดงานคุมไม่อยู่ แทบจะเหยียบกันตายเลยล่ะ]
[หวังว่าสุดหล่อจะจัดกิจกรรมแบบนี้อีกนะ ฉันจะไปเข้าร่วมให้ได้เลยล่ะ!]
[ถ้าจัดอีกก็ดีนะ แต่คราวหน้าช่วยประกาศล่วงหน้าสักสามวันจะได้ไหม ? ผมอยากเข้าร่วมด้วยอ่ะ]
[แต่ผมว่าน่าจะเอาเงินไปช่วยเหลือคนยากไร้หรือเด็กด้อยโอกาสจะดีกว่านะ เอามาแจกของแบบนี้มันฟุ่มเฟือนยังไงก็ไม่รู้ซิ]
[เมนต์บน มันก็เงินเขารึเปล่า ? เขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขาไหมอ่ะ ?]
คอมเมนต์ในอินเทอร์เน็ตต่างถาโถมเข้ามาอย่างหลากหลาย ส่วนใหญ่จะตื่นเต้นกับกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น มีบ้างเล็กน้อยที่รู้สึกว่าชายหนุ่มสิ้นเปลืองเกินไป
“ขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจนะครับ ถ้าจัดกิจกรรมขึ้นอีกผมจะแจ้งล่วงหน้านะครับ ผมเห็นคอมเมนต์หนึ่งแล้วเกิดความสนใจมาก ถ้ามีเวลาผมจะหาหมู่บ้านหรือสถานที่แจกของให้เด็กด้อยโอกาสและคนยากไร้นะครับ” ชายหนุ่มดูไลฟ์สดในมือถือของตัวเองด้วยบัญชีที่ฮวาหวู่หลิงสมัครให้ เขาเจอคอมเมนต์ที่น่าสนใจจึงหันไปกล่าวกับกล้องที่ไลฟ์อยู่พร้อมรอยยิ้ม
“พ่อคนใจบุญ!” ฮวาหวู่หลิงเน้นเสียงแล้วกล่าวออกมาด้วยความหมั่นไส้
เธอไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายทำไปเพราะอยากเอาหน้าหรือทำเพราะใจต้องการจริง ๆ แต่จะแบบไหนก็ไม่สำคัญ ยังไงผลลัพธ์ก็เหมือนกันคือการแจกของให้ผู้อื่น
“ใกล้ได้เวลาแล้ว เราไปหน้างานกันเถอะ!” ฮวาหวู่หลิงที่เห็นว่าเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก็จะได้เวลาเปิดงานแล้วเลยก็ออกมา
แล้วพวกเขาก็พากันเดินออกจากห้องไปยังลานกิจกรรมเพื่อเตรียมตัวกล่าวเปิดงาน บรรดาผู้ที่อยู่โดยรอบต่างหันมามองพวกเขาเป็นตาเดียว
ชายหนุ่มหล่อเหลาร่างสูงโปร่ง เพอร์เฟคไปทุกสัดส่วนเดินมากับหญิงสาวร่างเล็กสุดน่ารัก ที่ผู้คนโดยรอบพากันหันไปมองไม่ใช่แค่เพราะรูปร่างหน้าตาของทั้งคู่เท่านั้น แต่เป็นเพราะคนที่มาร่วมงานล้วนรู้ว่าทั้งสองคนเป็นใคร!
ไหนจะเหล่าบอดี้การ์ดที่เดินตามมาไม่ห่างอีก คงไม่มีทางผิดพลาดไปได้หรอก!!
“ดูนั่นสิ! ชายคนนั้นแหละเศรษฐีที่จัดกิจกรรมวันนี้” มีหญิงกลางคนผู้หนึ่งกระซิบพูดคุยกับเพื่อนของเธอที่มาด้วยกัน
ทั้งสองคนมารอเข้าคิวตั้งแต่รู้ข่าวทำให้ได้อยู่อันดับแรก ๆ ยังไงพวกเธอสองคนก็ไม่มีทางถูกตัดสินอย่างแน่นอน!
“จริงด้วย! โคตรหล่อเลยอ่ะ เสียดายที่ฉันเกิดเร็วไปหน่อย ไม่อย่างนั้นก็คงเดินไปเบียดขอถ่ายรูปเหมือนผู้หญิงพวกนั้นแล้ว” เพื่อนของหญิงกลางคนตอบพลางกล่าวออกมาด้วยความเสียดาย
“หยุด! อย่าขยับ!!” แต่แล้วก็ได้มีเสียงตะโกนดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน มันเป็นเสียงที่ดังผิดปกติ ฟังจากโทนเสียงแล้วคงเป็นการพูดผ่านเครื่องขยายเสียงบางอย่าง
มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกือบร้อยคนเดินแหวกฝูงชนเข้ามาหาชายหญิงผู้จัดงานกับเหล่าบอดี้การ์ดด้วยความรวดเร็ว พวกเขากระจายกำลังล้อมรอบกลุ่มของเย่เซวียนและฮวาหวู่หลิงพร้อมกับคอยกันผู้คนให้ถอยออกห่างจากบริเวณนี้
ผู้คนต่างพากันตกใจว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?!
ทำไมถึงมีตำรวจมาเกี่ยวข้องด้วยล่ะ??