ระบบออสโท อาร์ติแฟก ผู้สนับสนุน (อ่านฟรี 26/05/2567)
“ฉันจะบอกให้นายฟังแบบคร่าว ๆ ก็แล้วกันนะถ้ามีเวลาว่างก็ไปหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตหรือเข้าเครือข่ายศูนย์กลางของผู้ปลุกพลังเอาก็ได้” ยูฮวากล่าวออกมาพลางเดินไปลากโต๊ะที่กองอยู่มุมห้องมาวางไว้ตามเดิม
แม้มันจะมีร่องรอยความเสียหายอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ หลังจัดตั้งโต๊ะไว้กลางห้องพร้อมกับเก้าอี้สองตัวแล้วเธอก็นั่งลงพลางกวักมือเรียกชายหนุ่มให้เดินมานั่ง
“เรื่องแรกก็ ระบบออสโท มันเป็นระบบที่จะโผล่ขึ้นมาหลังจากปลุกพลังได้ หน้าที่หลัก ๆ ก็คอยซัพพอร์ตและให้ข้อมูลในเรื่องต่าง ๆ กับผู้ปลุกพลังนั่นแหละ รวมถึงมันยังสามารถช่วยอัพเกรดมิติเก็บของให้ได้ด้วย” หญิงสาวกล่าวอธิบายจบเธอก็เงียบลงเหมือนต้องการรอดูว่าอีกฝ่ายมีคำถามอะไรไหม
“แล้วข้าจะใช้ระบบที่ว่าได้อย่างไร ?” ชายหนุ่มถามกลับไป แม้จะแปลกใจอยู่บ้างที่ระบบของเขาไม่ใช่ระบบออสโท แต่เป็นระบบผู้เดินทางข้ามมิติ
“ก็แค่เรียกชื่อระบบในใจแล้วถามสิ่งที่ต้องการ มันก็จะตอบสนองต่อเจ้าของ” ยูฮวาตอบสิ่งที่ชายหนุ่มถามมา
[“ระบบ ทำไมข้าถึงได้มายังโลกแห่งนี้ ?”] คริสทดลองทำตามที่อีกฝ่ายบอก
[ท่านถูกส่งตัวมาแบบสุ่ม] มีหน้าต่างข้อความสีม่วงดำปรากฏขึ้นตอบคำถามของเขา ทำให้ชายหนุ่มได้รู้ว่าต้องใช้งานระบบอย่างไร
[“ทำไมโลกใบนี้ถึงมีมอนสเตอร์เหมือนกับที่โลกของข้า ?”] ชายหนุ่มลองถามสิ่งที่เขาคาใจออกไป
[ยังไม่สามารถตอบได้ เมื่อท่านเคลียร์หอคอยครบทั้ง 50 ชั้น เมื่อนั้นท่านจะทราบเอง] สิ่งที่ระบบตอบกลับมาทำให้ชายหนุ่มประหลาดใจนิดหน่อย
ดูเหมือนเขาจะมีเรื่องให้ทำเพิ่มเสียแล้วสิ...
“เรื่องต่อไปเลยไหม ?” เสียงของหญิงสาวดังขึ้น เรียกสติของชายหนุ่มให้กลับมาจากการครุ่นคิด เขาพยักหน้าตอบกลับอีกฝ่ายไปเป็นเชิงให้พูดได้เลย
“เรื่องที่สองก็ อาร์ติแฟก ถ้าอธิบายง่าย ๆ พวกมันก็คือของที่ดรอปจากหอคอยชั้นต่าง ๆ โดยมันจะดรอปจากการกำจัดบอสของชั้นนั้น ๆ หรือบางทีในดันเจี้ยนที่สุ่มเปิดออกบนโลกก็จะมีอาร์ติแฟกซ่อนอยู่ในดันเจี้ยนเช่นกัน” หญิงสาวกล่าวออกมาพลางเรียกของบางอย่างออกมาให้ชายหนุ่มดู
“นี่คืออาร์ติแฟกระดับ S เป็นต่างหูที่เพิ่มพลังเวทย์ให้ผู้สวมใส่ 50 แถมจะคอยสร้างบาเรียเวทมนตร์ป้องกันตัวผู้ใช้ตอนถูกโจมตีได้ด้วย” หญิงสาวกล่าวอธิบายออกมา
“ของพวกนี้สามารถสร้างได้ไหม ?” ชายหนุ่มเอื้อมมือไปรับต่างหูที่อีกฝ่ายส่งให้มาพลิกไปมาแล้วถามกลับไป
“ได้ซิ แต่พวกมันมีอัตราความล้มเหลวที่สูงมาก แถมยังใช้วัตถุดิบมหาศาล ถ้าเทียบกับอุปกรณ์ทั่วไปในระดับเดียวกัน อาร์ติแฟกมีราคาสูงกว่าหลายเท่าเลยล่ะ!” หญิงสาวตอบกลับไปพลางสวมใส่ต่างหูให้ชายหนุ่มดู
“แล้วอาวุธที่สร้างขึ้นทั่วไป มันไม่ดีรึ ?” ชายหนุ่มกล่าวถามต่อ
“มันก็ดีนั่นแหละ แต่พวกนั้นมันมีแค่พลังทำลายแต่ไม่มีเอฟเฟคเสริม เพราะแบบนั้นราคามันถึงไม่แพงไง ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็ ดาบระดับ S ที่ผู้ปลึกพลังสายผลิตสร้างขึ้นแบบทั่วไป จะมีแค่ค่าพลังทำลาย และความคงทนของตัวดาบเท่านั้น แต่ถ้าเป็นดาบระดับ S ที่ดรอปจากหอคอยหรือดันเจี้ยน เราจะเรียกว่าอาร์ติแฟก มันก็อาจจะมีเอฟเฟคพิเศษเพิ่มขึ้นมามากมายนั่นแหละ” ยูฮวากล่าวอธิบายออกมายาวยืด ชายหนุ่มก็ตั้งใจฟังทั้งหมดเพื่อไม่ให้ตกหล่น
“แบบนี้ถ้าเป็นผู้ปลุกพลังสายผลิตก็คงมีเงินใช้ไม่ขาดมือสินะ” ชายหนุ่มกล่าวออกมาหลังจากได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายกล่าวออกมาเมื่อสักครู่
“มันก็ใช่นะ แล้ว ? นายสนใจจะไปเป็นผู้ปลุกพลังสายผลิตแทนไหม ?” ยูฮวากล่าวถามออกมาพลางทำใบหน้าล้อเลียนอีกฝ่าย
ครึ่งหลัง
“ไม่ ข้าจะออกผจญภัยจะดีกว่า” ชายหนุ่มตอบกลับไปตามความจริง เขาไม่ต้องการจมปักอยู่กับที่ เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่รอให้เขาไปหาคำตอบอยู่
“ก็แล้วแต่นายนะ เรื่องสุดท้ายก็ผู้สนับสนุน” หญิงสาวครุ่นคิดเล็กน้อยว่าเธอควรจะอธิบายยังไงให้ชายตรงหน้าเข้าใจดี
“ผู้สนับสนุนเป็นระบบที่ไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากที่ไหน แต่จะปรากฏออกมาเมื่อผู้ปลุกพลังเลเวลถึง 20” ยูฮวากล่าวออกมา
“ตอนนี้ข้าเลเวล 1 ใช่ไหม ?” ชายหนุ่มได้ยินเรื่องเลเวลก็เลยกล่าวถามออกมา เขาจำได้ว่าในสเตตัชที่เคยเห้นมันบอกว่าเขาเลเวล 1
“ใช่แล้ว นายเลเวล 1 ส่วนการจะเลื่อนระดับเลเวลได้นั้นต้องไปกำจัดมอนสเตอร์ในหอคอย รวมถึงค่าสเตตัช การฝึกทักษะ อัพเลเวลทักษะ แทบทั้งหมดล้วนต้องทำในหอคอยเท่านั้น มีแค่บางกรณีที่ทักษะสามารถฝึกได้บ้างเมื่ออยู่ในโลกของเรา” หญิงสาวกล่าวอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้ชายตรงหน้าเข้าใจ
ชายหนุ่มได้ฟังสิ่งที่หญิงสาวกล่าวเขาก็นึกถึงทักษะที่ได้รับมาจากการฆ่าหมาป่าเพลิงทมิฬ และทักษะที่ได้รับหลังจากเข้ารับการทดสอบแรงโน้มถ่วง
แต่การทดสอบอื่น ๆ เขากลับไม่ได้รับทักษะอะไรเพิ่มเติมเลยแม้แต่น้อย
“เมื่อเลเวล 20 แล้วยังไงต่อ ?” ชายหนุ่มถามกลับไปเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังไม่ได้อธิบายเรื่องนี้
“พอผู้ปลุกพลังสามารถมีเลเวลถึง 20 ได้แล้ว จะมีระบบผู้สนับสนุนปรากฏขึ้น โดยระบบนี้ก็คือระบบที่จะให้ผู้ที่อยู่เบื้องบนส่งข้อเสนอให้กับผู้ปลุกพลังได้ เพื่อแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่พวกเขาต้องการ” ยูฮวาอธิบายออกมาเมื่อได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มถาม
“ผู้ที่อยู่เบื้องบน ? ใครกัน” ชายหนุ่มได้ยินก็สงสัย เขาไม่เข้าใจว่ามีคนที่อยู่บนท้องฟ้าได้ด้วย หรือมันจะมีพวกเกาะลอยฟ้าอยู่ที่ด้านบนกัน ?
“ไม่มีใครเคยพบพวกเขาหรอก มีแต่ชื่อที่เคยได้ยินยกตัวอย่างก็เช่น จักรพรรดิลิงทลายสวรรค์ซุนหงอคง เทพสายฟ้าซุส นักรบคลั่งอาเรส บรรณารักษ์สวรรค์ฉู่ซี แล้วก็อีกมากมายนับไม่ถ้วนเลยล่ะ” ยูฮวากล่าวจบชายหนุ่มก็ยังคงไม่เข้าใจ เพราะในโลกของเขาไม่มีพวกเทพเจ้า มาร ปีศาจ มีแต่มนุษย์และมอนสเตอร์เท่านั้น
“โดยผู้ที่อยู่เบื้องบนจะส่งข้อเสนอให้กับคนที่พวกเขาชื่นชอบ อาจจะเป็นอาวุธ อาร์ติแฟก ไอเทม ทักษะ ความแข็งแกร่ง เงินทอง แต่ก็จะแลกมาด้วยสิ่งที่ต้องทำเป็นการตอบแทน อย่างของฉันก็มีเทพนักฆ่าที่เสนอทักษะเกี่ยวกับความมืดให้ แลกกับว่าไม่อาจใช้ธาตุอื่นได้อีก” หญิงสาวกล่าวจบก็เงียบไป เหมือนกับเธออธิบายจนจบแล้ว
“แล้วผู้ที่อยู่เบื้องบนเหล่านั้นจะได้ประโยชน์อะไรจากการมอบสิ่งต่าง ๆ ให้กับผู้ปลุกพลังกัน ?” ชายหนุ่มถามสิ่งที่เขาคาใจออกไป
มันดูแปลกมากกับการที่มอบบางสิ่งให้กับคนแปลกหน้าโดยแลกกับการทำอะไรให้แบบนี้ เขาคิดว่ามันต้องมีเบื้องหลังอยู่แน่นอน
“ก็ไม่รู้เหมือนกัน ตั้งแต่มีการปลุกพลังเกิดขึ้นก็ยังไม่เคยมีใครรู้ถึงเหตุผลของเหล่าผู้ที่อยู่เบื้องบนมาก่อนเลย” หญิงสาวตอบพลางยักไหล่ให้ เรื่องพวกนี้ก็เคยมีคนสงสัยเหมือนกัน แต่ในเมื่อหาคำตอบไม่ได้ผู้คนจึงเลิกใส่ใจไป
ได้รับมาก็ดีแล้วนี่นา จะไปสนใจเหตุผลทำไมล่ะ ?
“ฉันแนะนำว่าพอนายเลเวล 20 แล้วได้รับข้อเสนออะไร ถ้าทำได้ก็รับไปเถอะ ยังไงก็มีแต่ข้อดีอยู่แล้ว” หญิงสาวยิ้มให้ชายหนุ่มแล้วกล่าวออกมา
“อืม ข้าเข้าใจแล้ว” คริสตอบกลับไปสั้น ๆ ก่อนจะนั่งนิ่งเหมือนเดิม
“เอาล่ะ! มีคำถามอะไรอีกไหม ?” หญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มไม่กล่าวอะไรออกมาจึงเปิดปากขึ้น
“ไม่มีแล้ว” ชายหนุ่มตอบกลับไป ทำให้หญิงสาวได้แต่พยักหน้าอย่างเบื่อหน่าย
ชายตรงหน้าเธอก็หล่อเหลาอยู่หรอก แต่นิสัยเย็นชาเสียไม่มี