ตอนที่แล้วบทที่ 16 โชคด้านความรักดีทะลุจอ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 18 ชายที่มีคุณธรรมคนหนึ่ง!

บทที่ 17 กลับตัวกลับใจยังไง? ฉันเป็นคนดีมาโดยตลอด!


บทที่ 17 กลับตัวกลับใจยังไง? ฉันเป็นคนดีมาโดยตลอด!

หลังจากนั้น หลินเป่ยฝานพาหลิวรู่เหมยกับตัวเอกคนที่สองมายังบาร์เปิดใหม่

เจ้าของที่นี่ก็เป็นลูกคนรวย และยังเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของหลินเป่ยฝานอีกด้วย

เนื่องจากร้านเพิ่งเปิดใหม่ จึงมีการจัดกิจกรรมมากมายเพื่อดึงดูดแขกจำนวนมาก

บรรยากาศมีชีวิตชีวาอย่างถึงที่สุด มองไปทางไหนก็มีแต่คนเต้นกันนัวเนีย ดูบ้าคลั่งเอามากๆ

ขณะนี้ ไหล่ของหลินเป่ยฝานถูกชายคนหนึ่งจับไว้

“ฮ่า ฮ่า! สหาย! ในที่สุดนายก็มา! ฉันทักไปชวนตั้งหลายครั้งแต่ก็โดนปฏิเสธตลอด! ไหนลองบอกฉันทีสิว่าช่วงนี้นายไปทำเรื่องสนุกๆที่ไหน? ถ้าไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนล่ะก็ คืนนี้ห้ามกลับเด็ดขาด ฉันจะหาสาวสวยๆมามอมนายให้เละไปเลย!”

เจ้าหมอนี่เป็นเจ้าของบาร์ ชื่อเหอซิ่วเหวินที่เขียนด้วยตัวอักษรสง่างามและฉลาดหลักแหลม แต่มันดันไม่ไปเรียนมาสองสามปีแล้ว ทั้งยังเป็นคนพูดจาหยาบคายมาก ตรงกันข้ามกับชื่อของตัวเองจริงๆ

แต่เนื่องจากครอบครัวมันมีเงิน การใช้ชีวิตเลยไม่มีปัญหา วันๆเอาแต่กินดื่มสุรุ่ยสุร่าย และที่เปิดบาร์แห่งนี้ ก็เพื่อสนองความต้องการให้ตัวเองล้วนๆ

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อเสียหลายอย่าง แต่เหอซิ่นเหวินก็มีข้อดีอยู่อย่างนึง นั่นคือนิสัยและความซื่อสัตย์

ตามพล็อตเดิม ในชีวิตแรกที่หลินเป่ยฝานไปสิ้นสุดเป็นคนบ้า เหอซิ่วเหวินคือคนๆเดียวที่พาเขาไปโรงพยาบาลจิตเวช คอยจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ที่ดีที่สุดสำหรับการรักษา และมาเยี่ยมหลินเป่ยฝานทุกสองสามวัน

ดังนั้นในชีวิตที่สอง หลินเป่ยฝานจึงยื่นมือเข้าโอบอุ้มเหอซิ่วเหวิน ช่วยอีกฝ่ายย้ายเข้าสู่วงการบันเทิง กลายเป็นหนึ่งในผู้ช่วยของตน

หลินเป่ยฝานพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ช่วงนี้ฉันมีความรัก แล้วจะให้เที่ยวเตร่ไม่สนใจอะไรได้ยังไง!”

เหอซิ่วเหวินตกใจมาก รีบพูดว่า “นี่นายกำลังมีความรัก? สำหรับคนหนุ่มอย่างนาย ตอนนี้มันใช่เวลาที่ต้องมาคบใครจริงจังรึไง? ว่าแต่ผู้หญิงคนไหนกันที่ทำให้นายต้องทุ่มเทขนาดนี้?”

“เธอชื่อซ่งหยูฉิง ประธานกรรมการโรงพยาบาลซ่ง!”

เหอซิ่วเหวินพอฟังก็ประหลาดใจยิ่งขึ้นไปอีก “ที่แท้ก็เป็นหนึ่งในสองบุปผางามแห่งเมืองโม่ไห่ของเรา! เธอมีแต่คนใฝ่ฝันจะครอบครอง! นี่ถ้าคนอื่นๆรู้ว่าพวกนายคบกัน คงมีเป็นร้อยเป็นพันคนอกแตกตาย! ... ว่าแต่ความสัมพันธ์ของพวกนายไปถึงไหนแล้ว ปี้กันรึยัง”

“หยาบคาย!” หลินเป่ยฝานด่ากลับไป “ฉันกำลังมีความรักที่หอมหวานและสวยงาม นายกล้าใช้คำว่า ‘ปี้กัน’ ได้ยังไง”

“หยาบคายตรงไหน! ที่นายจีบเธอไม่ใช่เพราะอยากทำแบบนั้นหรอกเหรอ?” เหอซิ่วเหวินหัวเราะด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย

หลินเป่ยฝานส่ายหัว “คุยกับคนหยาบคายแบบนายไปก็เปล่าประโยชน์”

เหอซิ่วเหวินหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “คือนายกำลังบอกว่าจะทำตัวเป็นคนดีแล้ว ถูกไหม?”

หลินเป่ยฝานสวนทันที “ฉันเป็นคนดีมาตั้งแต่แรกแล้ว!”

เหอซิ่วเหวินด่าทอเหน็บแนม “ถุย! เป็นนายตั้งแต่แรกเลยที่ชวนฉันดื่มเหล้ากับไปนัวสาวๆ สุดท้ายถลำลึกจนถอนตัวไม่ขึ้น แต่พอถึงเวลานายจะจากไปง่ายๆแบบนี้เนี่ยนะ? ทำถึงขนาดนี้แล้วยังกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นคนดีอีก!”

“สหาย เอางี้ไหม ถ้านายตามก้นซ่งหยูฉิงแล้วจีบเธอติดจริงๆ ฉันจะใส่ซองแดงหนาๆให้นาย แล้วโขกหัวคารวะนายในงานแต่งเลย!”

พูดถึงจุดนี้ เขาสังเกตเห็นคนสองคนที่อยู่ข้างหลัง หลินเป่ยฝาน “อ้อจริงสิ แล้วสองคนนี้คือ ...”

หลินเป่ยฝานแนะนำ “ผู้หญิงชื่อหลิวรู่เหมย เป็นเลขาที่พ่อฉันเตรียมเอาไว้ให้ ส่วนผู้ชายชื่อเย่ซิงเฉิน เป็นบอดี้การ์ดของฉัน เขาต่อสู้ได้เก่งมากๆ ทั้งคู่ล้วนเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน”

“เพื่อนของนาย? งั้นพวกเขาก็เป็นเพื่อนฉันด้วย! ต่อไปเชิญมาที่นี่บ่อยๆนะ”

ว่าแล้วเหอซิ่วเหวินก็ดึงทั้งสามคนเข้ามายังโต๊ะ VIP เป็นจุดที่สามารถรับชมการแสดงบนเวทีได้โดยไม่มีสิ่งใดบดบัง

และตรงนี้ยังเป็นจุดที่มีสาวสวยๆคอยบริการอีกด้วย พอพวกเธอเห็นหลินเป่ยฝานกับอีกสองคน ก็รีบวิ่งมาต้อนรับทันที เอ่ยอย่างออดอ้อนน่ารัก “นายน้อยหลิน! ในที่สุดคุณก็มา!”

หลินเป่ยฝานเบียดตัวออกทันทีแล้วพูดว่า “ไม่ได้ๆ วันนี้ฉันไม่ต้องการผู้หญิง”

เหอซิ่วเหวินหัวเราะร่า “ในใจเขามีคนอื่นจับจองแล้ว เธอมาอยู่กับฉันดีกว่า”

หลังจากนั้น เหอซิ่วเหวินก็โอบไหล่นางแบบอย่างอ่อนโยน แล้วไปนั่งบนโซฟากว้าง พูดอย่างไม่เห็นแก่ตัว “ทุกคนที่นั่งโต๊ะนี้ เชิญกินดื่มได้ตามสบาย คืนนี้เครื่องดื่มทุกรายการฟรี!”

หลินเป่ยฝานได้ยินแบบนั้นก็กวักมือเรียกคนอื่นๆ “ทุกคนรีบมานั่งกันเร็ว!”

และแน่นอน คำเชิญนี้รวมถึงหลิวรู่เหมยด้วย

หลิวรู่เหมยสองคิ้วขมวดมุ่น หันไปรอบๆ มองหาที่นั่งที่เหมาะสม

เธอไม่อยากนั่งใกล้เหอซิ่วเหวิน อีกฝ่ายมีกลิ่นบุหรี่กับแอลกอฮอล์ฉุนบนตัว ส่วนพวกนางแบบก็มีกลิ่นไม่พึงประสงค์บางอย่าง ทั้งยังชอบทำตัวบอบบางออดอ้อนผู้ชาย ซึ่งเธอไม่ค่อยชอบเท่าไหร่

สุดท้าย หลิวรู่เหมยจึงตัดสินใจนั่งลงข้างๆหลินเป่ยฝาน ทั้งสองตัวชิดกัน สามารถสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิของกันและกัน

หลิวรู่เหมยหน้าแดง อธิบายว่า “อย่าคิดอะไรลึกซึ้ง ฉันแค่ไม่อยากนั่งใกล้พวกเขา!”

หลินเป่ยฝานคิดตามแล้วพูด “ก็พอเข้าใจได้ งั้นฉันสั่งเครื่องดื่มให้เธอ”

หลิวรู่เหมยเอ่ยเสียงเย็น “เหอะ! ก็ยังพอรู้จักมารยาทอยู่บ้างนี่”

หลินเป่ยฝาน “...”

ส่วนตัวเอกคนที่สองของเรา เย่ซิงเฉินไม่ได้นั่งลง เพียงยืนอยู่ด้านหลังหลินเป่ยฝาน เล่นบทเป็นบอดี้การ์ดมาดขรึม มีสติและความรับผิดชอบมาก

เหอซิ่วเหวินกวักมือเรียกเขา “พี่ชาย! อย่ายืนอยู่ตรงนั้นสิ นั่งลงก่อน คุณกลัวว่าที่นี่จะไม่ปลอดภัยเหรอ?”

หลินเป่ยฝานช่วยพูดโน้มน้าว “ซิงเฉิน นั่งลงเถอะ ที่นี่คือถิ่นของน้องเหอ มันปลอดภัย คุณตามผมทั้งวันแล้ว คงเหนื่อยแย่ มาพักหาอะไรดื่มซักหน่อยเถอะ”

“ครับ รองประธานหลิน” เย่ซิงเฉินนั่งลงข้างๆเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด