บทที่ 16 โชคด้านความรักดีทะลุจอ
บทที่ 16 โชคด้านความรักดีทะลุจอ
สองตัวเอกมองหน้ากันแต่ไม่มีใครพูดอะไร ในใจเกิดอารมณ์อันซับซ้อน
ทั้งคู่คิดว่าเป็นเพราะการเกิดใหม่ของตัวเองนั้นส่งผลให้เกิดบัตเตอร์ฟลายเอฟเฟกต์
“เอาล่ะสหาย นายพักผ่อนให้เต็มที่ พรุ่งนี้ฉันจะแวะมาเยี่ยมใหม่!” หลินเป่ยฝานตบไหล่นของเซียวเฉินเบาๆ จากไปพร้อมกับทั้งสองคน
“ตอนนี้พวกเรากำลังจะไปไหน?” หลิวรู่เหมยเอ่ยถาม
หลินเป่ยฝานตอบว่า “ไปโรงพยาบาลอื่นอีกที่ เยี่ยมเพื่อนที่แสนดีของฉัน”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
พวกเขาก็มาถึงโรงพยาบาลซ่ง
ซ่งหยูฉิง ประธานคนสวยที่ทำงานอยู่เผยยิ้มเมื่อเห็นหลินเป่ยฝานเดินเข้ามา “คุณมาแล้ว!”
แต่พอเห็นอีกคนที่ตามหลังเขา เธอก็สะดุ้ง เผยท่าทีประหลาดใจ “รู่เหมย เธอกลับมาแล้ว!?”
“ทั้งคู่ ... รู้จักกันเหรอ” หลินเป่ยฝานแสร้งทำเป็นงง
“แน่นอนฉันรู้! พวกเราคือเพื่อนสนิทที่เติบโตมาด้วยกัน!” หลิวรู่เหมยผลักหลินเป่ยฝานให้หลีกทาง แล้ววิ่งมาหยุดหน้าซ่งหยูฉิง โอบกอดเธออย่างตื่นเต้น “ฉันคิดถึงเธอจัง!”
“ฉันก็คิดถึงเธอเหมือนกัน! ว่าแต่ทำไมพวกเธอถึงมาที่นี่พร้อมกันล่ะ?” ซ่งหยูฉิงเอ่ยถาม
“เพราะฉันทำงานให้เขา เป็นเลขาส่วนตัว!” หลิวรู่เหมยพูดจบก็หันไปโบกมือไล่ “รองประธานหลิน ถ้าคุณไม่มีธุระอะไรแล้ว เชิญออกไปก่อน ฉันกับเพื่อนสนิทจะคุยกัน”
“มีเลขาที่ไหนมาไล่เจ้านาย?” หลินเป่ยฝานหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้
“ก็มีฉันนี่ไง คุณรีบออกไปเถอะ พวกเราจะคุยเรื่องส่วนตัวกัน และคุณห้ามแอบฟัง!” หลิวรู่เหมยผลักหลินเป่ยฝานออกจากประตูจากนั้นประตูก็ถูกปิดดังปัง
หลินเป่ยฝานยิ้มเจื่อนและส่ายหัว “ซิงเฉิน … พวกเรารอข้างนอกกันซักพัก ตอนนี้ฉันมีแค่นายแล้วนะ!”
“ครับรองประธานหลิน” สีหน้าของเย่ซิงเฉินดูจริงจัง ไม่แสดงอาการใดๆ แต่ในใจเต็มไปด้วยความอิจฉา
เหตุใดดวงเรื่องความรักของราชาปีศาจถึงแรงกล้าขนาดนี้? ทั้งคู่ต่างมีความงามที่ไม่มีใครเทียบได้!
ขนาดตัวเขาที่เป็นถึงเทพสงครามยังไม่ได้รับโชคด้านความรักดีๆเช่นนี้เลย!
ขณะเดียวกันข้างในออฟฟิศ ผู้หญิงสองคนกระซิบกระซาบกัน
“รู่เหมย .. ทำไมจู่ๆเธอถึงมาทำงานเป็นเลขาของหลินเป่ยฝาน? ไม่ใช่ว่าเธอเกลียดเขาหรอกเหรอ?” ซ่งหยูฉิงถามด้วยความสับสน
“ก็ไม่ใช่เพราะทำเพื่อเธอรึไง!”
“ทำเพื่อฉัน?”
“แน่อยู่แล้ว!” หลิวรู่เหมยพูดด้วยความโกรธ “ดูเธอสิ รู้จักกับเขาไม่กี่วันก็อ่อนปวกเปียก กลายเป็นนางเอกหลงงมงายในความรักเหมือนละครซีรี่ย์ ฉันไม่รู้จะด่าเธอยังไงดี!”
“แต่เพื่อไม่ให้เธอพลาดตกหลุมรัก ฉันเลยมาร่วมงานกับเขา คอยแอบซุ่มอยู่ข้างกายแล้วเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของเขา!”
“รู่เหมย ... เธอจริงใจกับฉันมาก เรื่องนี้ฉันซาบซึ้งจริงๆ ... แต่ฉันเชื่อ! เชื่อว่าเขาไม่ใช่คนอย่างที่เธอคิด! เขามีพรสวรรค์ที่น่าอัศจรรย์ ใจดีแถมยังมีน้ำใจมาก ความรับผิดชอบก็สูง ไม่ช้าก็เร็วต้องทะยานสู่ฟากฟ้าอย่างแน่นอน”
“ฉันว่าตอนนี้เธอพลาดตกหลุมรักไปแล้วจริงๆ ถึงขั้นกล้าพูดว่าคนเลวทรามกลายเป็นคนดีแบบนี้ได้!”
หลิวรู่เหมยพยายามแนะนำอีกสองสามประโยค แต่พบว่าซ่งหยูฉิงไม่สะทกสะท้านซักนิด ก็เกิดความรู้สึกสิ้นหวัง
ฉะนั้นจึงถ่ายเทความโกรธทั้งหมดของตัวเองไปยังหลินเป่ยฝาน
ไอ้ผู้ชายสารเลว! กล้าทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนสนิทของเธอได้ยังไง!
ฉันจะต้องเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของนายให้จงได้!
“รู่เหมย ฉันดีใจนะที่คนมีความสามารถอย่างเธอมาทำงานเคียงข้างเขา”
“ด้วยความสามารถของเธอ ต้องช่วยเขาได้มากแน่ๆ”
พูดถึงจุดนี้ใบหน้าของซ่งหยูฉิงแดงขึ้นเล็กน้อย “และถ้ามีเธอคอยประกบเขา จะได้ช่วยฉันจับตาดูและคอยขวางไม่ให้มีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาใกล้เขา! เสี่ยวฝานเป็นยอดคน เลยง่ายที่จะดึงดูดฝูงผีเสื้อเข้ามาตอม ...”
“โอ้พระเจ้า! เธอสิ้นหวังแล้วจริงๆ!” หลิวรู่เหมยปิดหน้าด้วยมือทั้งสองข้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
“รู่เหมย ได้โปรดช่วยฉันด้วย!” ซ่งหยูฉิงอ้อนวอน
หลิวรู่เหมยหันหน้าหนีแล้วพูดว่า “ฉันไม่ช่วยหรอก!”
แต่พอเห็นแววตาที่เหมือนจะร้องไห้ของเพื่อนสนิท เธอก็พูดว่า “ก็ได้ๆ แต่ขอเตือนไว้อย่างนึง! ถ้ามีผู้หญิงเข้ามา แล้วหลินเป่ยฝานเล่นด้วย ฉันคงรับมือไม่ไหว ได้แต่บอกเธอว่าสุนัขยังไงก็ไม่ลืมสันดานสุนัข! และถึงตอนนั้น หวังว่าเธอจะใช้โอกาสนี้เลิกยุ่งกับเขา!”
“ขอบคุณนะเพื่อนสนิทของฉัน รักเธอจัง!” ซ่งหยูฉิงมีความสุขมากที่หลิวรู่เหมยยอมตกปากรับคำ
และเมื่อเจอกันแล้ว นี่ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ฉะนั้นทั้งคู่จึงพาหลินเป่ยฝานออกไปทานอาหารมื้อใหญ่เพื่อฉลอง
ส่วนบอดี้การ์ดเย่ซิงเฉิน ... เขาได้แต่นั่งรออยู่ในรถ แทะขนมปังกิน
เย่ซิงเฉิน “......”
...
แต่พอเวลาสองทุ่ม ก็มีสายเข้าจากโทรศัพท์ของซ่งหยูฉิง ทำให้เธอต้องขอตัวกลับ “เสี่ยวฝาน รู่เหมย ฉันขอโทษจริงๆ พอดีที่โรงพยาบาลมีเคสฉุกเฉิน ฉันต้องกลับไป อยู่กินต่อไม่ได้แล้ว”
“ไม่เป็นไร เรื่องงานสำคัญกว่า พวกเราอยู่เมืองเดียวกัน จะเจอกันเมื่อไหร่ก็ได้!” หลิวรู่เหมยพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“เสี่ยวฝาน......”
“ฉันเองก็มีเรื่องอื่นต้องทำพอดี” หลินเป่ยฝานยิ้ม “พอดีเพื่อนสนิทฉันเพิ่งทักมา ชวนไปดื่มบาร์เปิดใหม่ของเขา ฉันปฏิเสธไปหลายครั้งแล้ว ถ้าครั้งนี้ไม่ไป ความสัมพันธ์ของฉันกับเขาคงขาดสะบั้น! เพราะอย่างนั้นฉันอยากจะขอเธอว่า ...”
ซ่งหยูฉิงพูดอย่างใจกว้าง “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปเถอะ แต่รีบไปรีบกลับนะ อย่าดื่มเยอะล่ะ!
“ตกลงตามนั้น!”
ก่อนจากไป ซ่งหยูฉิงลอบส่งสายตาประมาณว่า : หลิวรู่เหมย! ช่วยจับตาดูเขาให้ฉันด้วยนะ!
หลิวรู่เหมยกลอกลตากลับ : ฉันรู้แล้วน่า!
“เอาล่ะ งั้นพวกเราแยกย้ายกันเถอะ”