ถ้าฉันไม่ได้เล่นงานพวกแก ฉันไม่ขออยู่เป็นคน! (อ่านฟรี 22/05/2567)
“แล้วนายจะทำอะไรต่อล่ะ อีกสองชั่วโมงกว่าก็จะถึงเวลาแจกของแล้วนะ อยากจะแจกด้วยตัวเองไหม ?” หญิงสาวถามชายหนุ่มขึ้นมา
“ก็คงเดินเล่นจนกว่าจะถึงเวลามั้ง ไม่รู้จะทำอะไรดี ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากจะแจกของเองนะ คงจะรู้สึกดีไม่น้อย” ชายหนุ่มตอบกลับไป เขาคิดว่าการได้เป็นผู้ให้แล้วเห็นสีหน้าดีใจของผู้รับคงจะรู้สึกดีไม่น้อย เพราะในชีวิตนี้เขาไม่เคยได้รับอะไรฟรี ๆ หรือความช่วยเหลือจากใครสักเท่าไหร่ มีน้อยครั้งมากที่จะมีคนช่วยเขา
เนื่องจากความยากจนและไร้ภูมิหลังของตัวเขา ทำให้ไม่ค่อยมีใครอยากคบด้วย
“นายโอเคไหมล่ะถ้าจะเปิดหน้าออกสื่อน่ะ” หญิงสาวถามชายหนุ่มเพื่อความแน่ใจก่อน เพราะไม่รู้อีกฝ่ายคิดยังไงกับเรื่องนี้
“ก็โอเคนะ ฉันไม่ได้คิดอะไรมากหรอก ถ้าดังขึ้นมากลายเป็นดาราอาจจะดีก็ได้” ชายหนุ่มตอบกลับไป เขาไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้จริง ๆ ส่วนเรื่องกลายเป็นดาราก็แค่พูดไปอย่างนั้น เพราะเขารู้สึกว่าหน้าตาเขาไม่ได้หล่อเหลาสักเท่าไหร่
แต่นั้นก็เป็นเพราะชายหนุ่มไม่รู้จักตัดผมและดูแลตัวเอง ทำให้ภายนอกของเขาดูเหมือนคนจรจัด ถึงแม้ตอนนี้จะแต่งตัวด้วยชุดเสื้อผ้าสุดหรู แต่เส้นผมของเขาก็ยังยาวปิดหน้าปิดตา ผิวหนังก็หยาบกร้าน เลยทำให้ผู้คนที่มองมาทางเขาไม่อาจเห็นเนื้อแท้ภายใน มีเพียงรูปร่างภายนอกเท่านั้นที่ดูกำยำเหมือนคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ แถมตอนนี้ร่างกายของเขายังสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
เพราะหลังจากได้รับกายาหยินหยางบริสุทธิ์มาแล้ว มันก็ทำให้ร่างกายของเขาเปลี่ยนไปจนคาดไม่ถึงเชียวล่ะ!
“อืมม ไม่แน่นะ นายอาจเป็นดาราได้” หญิงสาวมองชายหนุ่มอย่างวิเคราะห์
เธอสังเกตเห็นว่าใบหน้าของชายหนุ่มความจริงค่อนข้างจะหล่อเหลา เพียงแต่ไม่ได้รับการดูแลที่ดีก็เท่านั้น รวมถึงรูปร่างของเขาหลังจากเปลี่ยนไปใส่ชุดใหม่แล้วมันทำให้เห็นว่าเป็นรายกายที่สมบูรณ์แบบมาก ถ้าถอดเสื้อออกจะต้องทำให้หญิงสาวหลายรายมองตาค้างเป็นแน่
“เรายังพอมีเวลาเหลือ ถ้าอย่างนั้นฉันจะพานายไปเปลี่ยนตัวเองซะหน่อยก็แล้วกัน” หลังจากที่มองอยู่สักพักเธอก็กล่าวออกมา
“ได้สิ” ชายหนุ่มก็ตอบรับอย่างว่าง่าย ยังไงก็มีเวลาว่างอยู่แล้ว
...
“แกไปได้แล้ว ! จำไว้ว่าอย่าทำเรื่องโง่ ๆ” เสียงของหัวหน้าบอดี้การ์ดดังขึ้นที่ข้างหูของเหอจุน เขาเน้นเสียงในทุกประโยคเพราะกลัวอีกฝ่ายจะไม่เข้าใจ
พรึ่บ ปั้ก!
หลังจากกล่าวกำชับอีกฝ่ายไปแล้ว เขาก็โยนชุดเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัวของอีกฝ่ายลงบนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะพาบอดี้การ์ดที่เหลือเดินจากไป เพราะหน้าที่ของพวกเขาหมดแค่การคอยคุมตัวอีกฝ่ายให้ทำตามสัญญาแล้วปล่อยมันไปเท่านั้น
คงไม่มีใครโง่พอที่จะคิดแก้แค้นตระกูลฮวาในเมืองนี้หรอกมั้ง?
แต่น่าเสียดาย ที่พวกเขาคิดผิด... เพราะอีกฝ่ายโง่เขลากว่าที่คิด
ส่วนหนึ่งก็เพราะไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของหญิงสาวร่างเล็กด้วยนั่นแหละ
“ไอ้พวกบัดซบ! ถ้าฉันไม่ได้เล่นงานพวกแก ฉันไม่ขออยู่เป็นคนแล้ว!!” หลังจากที่เดินหนีไปหลบในจุดที่ไม่มีผู้คน เหอจุนก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะตะโกนด้วยความแค้นออกมา
ครึ่งหลัง
ครืดดดด ครืดดดด
เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น ดูเหมือนมันจะถูกตั้งให้อยู่ในโหมดสั่นเพื่อป้องกันการรบกวนเอาไว้ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่ามีทั้งข้อความและสายที่ไม่ได้รับเต็มไปหมด!
“ฮัลโหล พี่เชียงใช่ไหมครับ ใช่ครับ ผมโดนคนใส่ร้ายครับ” เหอจุนตัดสินใจโทรกลับไปยังเพื่อนของเขาที่เป็นรองสารวัตรของสถานีตำรวจใกล้ ๆ นี้
“ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน ? ฉันจะรีบไปหา” ปลายสายตอบกลับมาด้วยความเป็นห่วง เหอจุนนั้นคอยสนับสนุนเงินเบื้องหลังให้เขามาไม่ใช่น้อย ถ้าคู่กรณีไม่ได้เส้นใหญ่จับต้องไม่ได้เขาสามารถจับยัดตารางได้หมด
ถึงยังไงเขาก็เป็นถึงรองสารวัตรนี่นะ!
“ผมอยู่ห้างซานหมิงครับพี่ ตอนนี้มานั่งอยู่ในคาเฟ่ใกล้ ๆ เดี๋ยวผมส่งโลเคชั่นให้นะครับ” เหอจุนตอบกลับไปก่อนจะส่งตำแหน่งของเขาไปให้อีกฝ่ายในแอพวีแชท
“นายรอฉันอยู่ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวฉันรีบไป” ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ทำให้เหอจุนรู้สึกใจชื้นอยู่ไม่น้อย
“ได้ครับ แล้วพี่พอจะทำอะไรกับพวกคลิปที่มีคนปล่อยไปในอินเทอร์เน็ตได้ไหมครับ” เหอจุนกล่าวออกมาด้วยความกังวล
“ก็พอได้นิดหน่อย แต่นายคงต้องหาคนอื่นช่วยด้วย เพราะฉันไม่ได้มีความสามารถในการจัดการเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่” ปลายสายตอบกลับมาด้วยความหนักใจ เพราะสายงานของเขาไม่ได้เกี่ยวกับโลกไซเบอร์เลย
“ว่าแต่ นายมั่นใจใช่ไหมว่าอีกฝ่ายมันไม่ได้มีเส้นสายอะไรน่ะ? ไม่อย่างนั้นพวกเราคงซวยกันหมดแน่!” ปลายสายถามออกมาเพื่อความแน่ใจ
“แน่นอนครับพี่ ผมเป็นเพื่อนกับมันตั้งแต่ตอนประถม มันยอมเป็นเบ๊ผมเพื่อเงินไม่กี่สิบหยวนเอง แถมยังใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ อยู่เกือบทุกวัน” เหอจุนตอบกลับไป แต่เขาเลือกที่จะโกหกเรื่องที่ว่าอีกฝ่ายสามารถซื้อเหมาร้าน LV ได้ทั้งร้าน
มันน่าจะโชคดีถูกรางวัลหรืออะไรสักอย่างมากกว่า ไม่อย่างนั้นคนบ้านนอกแบบมันจะไปมีเงินมากมายขนาดนั้นได้ยังไง!
“โอเค เดี๋ยวฉันใกล้ถึงจะโทรหานายอีกที”
...
ภายในห้องส่วนตัว VIP ร้านเสริมสวยชื่อดังในห้างซานหมิง
“คุณลูกค้าผิวชั้นในดีมากเลยนะคะ ไม่เคยบำรุงผิวมาก่อนจริงเหรอคะ ?” พนักงานสาวสวยกล่าวถามออกมาด้วยความแปลกใจ
ถึงแม้ภายนอกชายหนุ่มจะดูเหมือนมีผิวที่หยาบกร้านเหมือนคนไม่ค่อยทาผิว แต่เมื่อขัดผิวภายนอกออกก็ทำให้เห็นว่าความจริงแล้วผิวด้านในของเขานั้นขาวเรียบเนียนยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก แถมร่างกายของอีกฝ่ายก็ชวนมองยิ่งนัก ร่างกายที่สมบูรณ์แบบเหมือนนายแบบนักเพาะกาย ไม่มากไปไม่น้อยไป เปอร์เซ็นไขมันน่าจะมีเพียง 8-9% เท่านั้น
“ใช่ครับ ผมก็ไม่ค่อยจะสนใจมันเท่าไหร่หรอก เพราะยุ่งมากในแต่ละวัน” เย่เซวียนตอบกลับไปด้วยความดีใจ เขาเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าร่างกายของตัวเองจะดูดีขนาดนี้
แน่นอนว่าที่ผิวและร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงไปมันก็เพราะการได้รับกายาหยินหยางบริสุทธิ์นั่นเอง แต่เนื่องจากยังไม่มีเวลาไปอาบน้ำทำให้ผิวหนังเก่ายังคงปกคลุมร่างกายอยู่ จึงดูเหมือนเขามีผิวหยาบกร้าน ทั้ง ๆ ที่ผิวแท้จริงของเขาเรียบเนียนยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก
“เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวคุณลูกเข้าห้องน้ำทางด้านนั้นไปล้างตัวเสร็จ เราก็จะทำเล็บกันต่อนะคะ” พนักงานสาวคนเดิมกล่าวออกมา
เธอพยายามอดทนเป็นอย่างมากที่จะไม่ลวนลามอีกฝ่าย เพราะขั้นตอนการขัดผิวนี้ทำให้เย่เซวียนต้องถอดเสื้อผ้าเหลือเพียงกางเกงใน ถึงจะมีผ้าขนหนูผืนสั้นปิดบังไว้อีกชั้นหนึ่ง แต่มันก็ช่างยั่วยวนชวนจับต้องเหลือเกิน!
“ได้เลยครับ” ชายหนุ่มตอบกลับไปก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงนอนแสนนุ่มสบาย
แต่แล้วผ้าขนหนูผืนน้อยที่บังเอาไว้ก็ดันหลุดออกจากการขยับตัวด้วยความไม่ระวังของเขา ทำให้พนักงานสาวสวยได้เห็นร่างของชายหนุ่มผิวขาวเนียนล่ำบึกใส่เพียงกางเกงชั้นในตรงหน้าเต็มตา
‘นี่เขาพกข้าวหลามมาด้วยเหรอ ?’ เธอเหลือบมองไปยังบริเวณส่วนล่างกลางลำตัวของอีกฝ่ายก็อดคิดขึ้นมาด้วยความตกใจไม่ได้