ตอนที่ 87 มื้ออาหารที่ผิดปกติ ตระกูลซูที่เงียบเหงา (อ่านฟรี 09/09/2567)
บรรยากาศภายในห้องโถงตอนนี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แถมยังกังวลว่าถ้าข่าวหลุดออกไปอาจทำให้ตระกูลฉู่ฉวยโอกาสนี้ในการลอบโจมตีซ้ำก็ได้
หรือบางทีจะเป็นฝีมือตระกูลฉู่กันแน่นะ ?
“แต่เจ้าก็เป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ ไม่มีอะไรน่าสงสัยเลยรึไง ? หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะสิ่งที่เจ้านำกลับมาก็ได้!” ผู้อาวุคนเดิมก็ยังคงไม่ยอมแพ้ เขากล่าวแย้งออกมาอย่างมีเหตุผล
“ท่านมีหลักฐานรึเปล่าล่ะ ? การกล่าวหาลอย ๆ แบบนั้นมันทำให้ข้าเสื่อมเสียนะขอรับ” ซูไห่แสยะยิ้มพลางตอบกลับไป ทำให้อีกฝ่ายถึงกับคิ้วกระตุก
“เจ้า! …” ชายชรากำลังจะตะโกนด่ากลับไปก็ถูกหยุดด้วยเสียงที่ทรงอำนาจเสียก่อน
“หยุด! เลิกทะเลาะกันได้แล้ว!!” หัวหน้าตระกูลซูกล่าวออกมาด้วยเสียงทรงอำนาจ
“ในเวลานี้พวกเราควรจะส่งคนออกไปสืบข่าวดูก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ส่วนเรื่องภายในก็ให้ปิดเอาไว้ก่อน อย่าแพร่งพรายออกไป” เขากล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดก่อนจะเงียบลง
“ข้าขอเสิร์ฟน้ำชาให้ทุกท่านจะได้หรือไม่ ? ประชุมกันมาเป็นเวลานานคงจะคอแห้งไม่น้อย” มีเสียงของชายหนุ่มดังขึ้น ซึ่งก็คือซูไห่นั่นเอง เขายกมือขึ้นก่อนจะกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม
“อืม ทำตามที่เจ้าว่ามาเถอะ” หัวหน้าตระกูลกล่าวออกมาเสียงเรียบ
หลังได้รับคำอนุญาตชายหนุ่มก็สั่งให้คนรับใช้เตรียมชามาเสริฟให้กับทุกคนภายในห้องโถงพร้อมกับยาเม็ดบำรุงกำลัง ทุกคนล้วนดื่มชาและทานยาเม็ดกันหมด
“เช่นนั้นเรามาประชุมกันต่อเถอะ...” เสียงของหัวหน้าตระกูลดังขึ้นอีกครั้งหลังได้พักดื่มชาแล้ว
ในเวลาทุกคนเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างเชื่องช้าจนพวกเขาไม่ทันสังเกต
จะมีก็เพียงคุณชายสามที่แสยะยิ้มออกมาเล็กน้อยก็เท่านั้น
...
“ยินดีต้อนรับท่านฟิช ไม่ทราบว่าภารกิจที่เถ้าแก่มอบหมายให้เป็นเช่นไรบ้าง” ซูไห่ออกมาต้อนรับมนุษย์ปลาที่หน้าประตูทางเข้าตระกูลซูด้วยรอยยิ้ม
เขารู้สึกขอบคุณมนุษย์ปลาตรงหน้ากับเถ้าแก่เป็นอย่างมาก
ในที่สุดปัญหาที่เขาพบเจอก็จบลงได้เสียที
“เรียบร้อย! แม้จะมีปัญหานิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไร” มนุษย์ปลาตอบกลับไปอย่างโอ้อวด
“ข้าขอถามได้หรือไม่ สิ่งที่อยู่ด้านหลังท่านคือ...” ซูไห่ชี้ไปที่รถเข็นไม้ซึ่งบรรทุกโหลแก้วใส่ปลาไว้มากมาย นับคร่าว ๆ คงมีหลายร้อยเลยทีเดียว
“ก็ปลาไง! ข้าเจอระหว่างทาง” มนุษย์ปลาตอบกลับไปแบบทื่อ ๆ
“อืม ไม่ทราบว่าท่านมีเวลาว่างหรือไม่ ? พอดีตอนนี้ตระกูลเรากำลังจะทานข้าวเช้าพร้อมกัน ข้าจึงอยากชวนท่านอยู่ร่วมรับประทานข้าวด้วยกันสักมื้อ” ซูไห่ยิ้มพลางกล่าวเชิญชวน
“ได้สิ มีสุราด้วยหรือไม่ ?” มนุษย์ปลาตอบกลับไป มันไม่ได้อยากกินข้าวหรอก แต่อยากดื่มสุรามากกว่า
“ย่อมต้องมีอยู่แล้ว ขอเชิญท่านทั้งสองเข้ามาด้านในได้เลย” กล่าวจบคุณชายสามตระกูลซูก็นำทางมนุษย์ปลาสีดำและมนุษย์ปลาทองไปยังด้านในของตระกูลซู
บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความครึกครื้นในตอนแรก ยามนี้กลับเงียบเหงาอย่างแปลกประหลาด เสมือนผู้คนได้หายไปไม่มีผิด
“คุณชาย! ท่านพาใครมาด้วยขอรับ ?” ชายชราผู้หนึ่งเดินเข้ามาถามด้วยความแตกตื่น
“เป็นผู้มีพระคุณของข้าเอง เขาจะมาทานข้าวกับพวกเรา พวกเจ้าต้องให้เกียรติเขาด้วยล่ะ” ซูไห่ตอบกลับไปเสียงเข้ม ชายชราได้แต่พยักหน้ารับคำก่อนจะไปสั่งงานให้คนที่เหลือยู่เร่งจัดการ
ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องรีบจัดการ จะมัวชักช้าไม่ได้!
ครึ่งหลัง
ภายในห้องกินข้าวขนาดใหญ่ของตระกูลซู
ในความเป็นจริงยามปกติจะมีผู้คนมากินข้าวพร้อมหน้ากันนับร้อยชีวิต แต่ในยามนี้กลับมีเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น มันเลยดูเงียบเหงาผิดปกติ
“ข้าได้กลิ่นที่คุ้นเคยบางอย่าง” มนุษย์ปลาสีดำสูดหายใจเข้าเพื่อรับกลิ่นก่อนจะกล่าวออกมา
“กลิ่นอะไรรึ ลูกพี่” มนุษย์ปลาทองกล่าวถามออกมา มันพยายามจะดมกลิ่นตามลูกพี่มันแต่ก็ไม่ได้กลิ่นอะไรนอกจากกลิ่นหอมจากอาหารที่กำลังยกมาวางเต็มโต๊ะไปหมด
“ข้าอาจจะจำผิดก็ได้ ไหนสุราของข้าล่ะ!” มนุษย์ปลาสีดำกล่าวออกมาก่อนจะร้องเสียงดังเพื่อขอสุรา ทำให้คนใช้ในห้องอาหารต้องรีบไปหามาให้มัน
“ท่านก็คือมนุษย์ปลา ผู้มีพระคุณของลูกข้าสินะ” ชายกลางคนผู้หนึ่งกล่าวถามขึ้นมา
“ใช่ เจ้าเป็นใครกัน ?” มนุษย์ปลาสีดำถามกลับไปด้วยความสงสัย
“ขออภัยที่เสียมารยาท ข้าคือซูเกอ เป็นผู้นำตระกูลซู รวมถึงเป็นบิดาแท้ ๆ ของซูไห่ด้วย” ชายกลางคนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร
“อ๋อ คนกันเอง ๆ ไม่ต้องเกรงใจ ตระกูลเจ้าคนมันน้อยแบบนี้ตลอดเลยรึ ?” มนุษย์ปลากล่าวถามออกมาโดยไม่ได้สนใจเลยว่ามันจะเป็นเรื่องไร้มารยาทหรือไม่
ความจริงที่มนุษย์ปลาทั้งสองตนสามารถเข้ามานั่งรับประทานอาหารได้อย่างราบลื่นก็เป็นเพราะการแนะนำของซูไห่ ทำให้มันทั้งสองตัวสามารถเข้ามาในตระกูลซูทั้ง ๆ ที่ทางตระกูลกำลังเผชิญสถาณการณ์แปลกประหลาดเช่นนี้ได้
“ไม่ใช่เช่นนั้นหรอก แต่ตอนนี้พวกเรากำลังเผชิญเหตุการณ์แปลกประหลาดบางอย่าง ท่านไม่ต้องใส่ใจ” ซูเกอกล่าวออกมา
หลังจากที่ซูเกอกล่าวจบก็ได้มีอาหารชุดใหญ่ถูกยกมาเสิร์ฟจนเต็มทุกโต๊ะในห้องรับประทานอาหาร ห้องรับประทานอาหารของตระกูลซูจะมีโต๊ะขนาดใหญ่แยกย่อยอยู่มากถึงสามสิบโต๊ะ แต่ละโต๊ะนั่งได้สิบคน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้คนในตระกูลซูก็ไม่ได้มานั่งกินข้าวพร้อมกันอยู่แล้วจึงไม่ใช่ปัญหาอะไรกับจำนวนโต๊ะที่มี
“ปลาทอด แกงปลา ต้มหัวปลา ปลานึ่ง ผัดเผ็ดปลา ทอดมันปลา ทำไมมันถึงมีแต่เมนูปลาล่ะ ?” มนุษย์ปลาทองถามขึ้นด้วยความแปลกใจ
มันไม่ได้มีปัญหาอะไรกับมื้ออาหารที่ทำมาจากปลา เพียงแต่แปลกใจที่ทุกจานเป็นเมนูปลาทั้งหมดก็เท่านั้น
“พอดีเราได้ปลามาเยอะน่ะ เชิญกินกันได้เลย รับรองว่าปลาเหล่านี้ไม่ธรรมดาแน่นอน!” ซูไห่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงภูมิใจ เหมือนว่าเขารู้สึกยินดีที่ได้นำเสนอเมนูเหล่านี้ไม่มีผิด
“ฮึฮึ ข้าพอจะรู้แล้วสิ เอาเถอะ ช่วยเอาเหล้าที่ดีที่สุดมาให้ข้าหน่อยจะได้หรือไม่ ?”มนุษย์ปลาสีดำกล่าวออกมาอย่างมีเลศนัย
“ฮ่าฮ่า ได้สิ! วันนี้ไม่เมาไม่เลิก!” ซูเกอก็หัวเราะชอบใจก่อนที่เขาจะให้คนสนิทไปเอาเหล้าที่เก็บไว้ออกมา
ในเช้าวันนี้ทุกคนที่เหลือรอดของตระกูลซูต่างพากันกินดื่มอย่างมีความสุข ถึงแม้สมาชิกในตระกูลจะหายไปเป็นจำนวนมาก แต่บรรดาคนที่เหลือก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร พวกเขาทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนทุกอย่างยังปกติ
...
“ซูไห่ มารดาของเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง ?” ซูเกอเดินหลบออกมาพร้อมกับซูไห่ก่อนที่จะกล่าวถามลูกของตนออกมา ในเวลานี้พวกเขารู้สึกมีความสุขไม่น้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ท่านแม่หายดีแล้วขอรับ ไฟชีวิตของพวกนั้นก็หายไปแล้วด้วย” ซูไห่กล่าวออกมาเสียงเรียบเฉย
แม้ความสัมพันธ์ของสองพ่อลูกจะไม่ได้ดีอะไรนัก แต่พวกเขาก็ยังคงพูดคุยกันและใกล้ชิดกันอยู่ระดับหนึ่ง ยิ่งในตอนนี้ที่เหลือผู้สืบทอดเป็นซูไห่เพียบผู้เดียวแล้ว สถานการณ์ในตระกูลยิ่งราบลื่นโดยไม่ต้องกังวลสิ่งใด
“แล้วมนุษย์ปลาตัวนั้น ?” ซูเกอกล่าวออกมาก่อนจะเงียบไป
“ไว้ใจได้ขอรับ” ซูไห่ตอบกลับไป เขาเข้าใจสิ่งที่บิดาของตนต้องการจะสื่อ
“ลูกก็รู้ใช่ไหม ว่าตอนนี้เราย้อนกลับไม่ได้แล้ว ลูกจะทำยังไงต่อล่ะ ?” ซูเกอกล่าวถามลูกของตนเองออกมา
“ข้ามีแผนอยู่ขอรับ เมื่อจบเรื่องนี้ตระกูลของเราจะได้กลายเป็นตระกูลชั้นสูงเพียงหนึ่งเดียวในเขตยี่หลง ดีไม่ดีอาจติดสามอันดับแรกของอาณาจักรก็เป็นได้” ซูไห่กล่าวออกมาก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินกลับเข้าไปยังห้องกินข้าวตามเดิม