ปะมือกับผู้ปลุกพลังแรงค์ S (อ่านฟรี 18/05/2567)
ผัวะ ผัวะ ผัวะ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง!
เสียงการต่อสู้ดังสนั่นไปทั่วห้องทดสอบ ทั้งสองพลัดกันรุกและรับอย่างไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ สำหรับแรงค์ D ที่สู้กับแรงค์ S ได้อย่างสูสีขนาดนี้ก็นับว่าน่าประหลาดใจแล้ว ถึงแม้อีกฝ่ายจะออมมือให้ก็เถอะ
“เป็นแค่คนที่เพิ่งปลุกพลังครั้งแรกยังไม่เคยไต่หอคอยหรือลงดันเจี้ยนเลยสักครั้ง แต่กลับมาพื้นฐานการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ นายนี่ทำฉันประหลาดใจมากเลยนะ” หญิงสาวกล่าวออกมาพลางเตะเท้าขวาเพื่อตัดขาชายหนุ่มให้ล้มลง
“ข้าเคยผ่านการสู้รบมาบ้าง เจ้าก็ฝีมือไม่เลวเหมือนกัน” ชายหนุ่มตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงปกติ เขาดีดตัวถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่างเล็กน้อยแล้วถีบเท้าขวาไปยังลิ้นปี่ของฝ่ายตรงข้าม
หญิงสาวที่ไม่ทันตั้งตัวก็ถูกลูกถีบตรงเข้าไปเต็มเปา แต่น่าเสียดายที่พลังของทั้งสองห่างกันเกินไป ฝ่ายที่ถูกถีบจึงไม่ได้รู้สึกอะไรมากนักนอกจากจุกเล็กน้อย
“ต้องยอมรับเลยว่าฝีมือการต่อสู้ด้วยมือเปล่าของนายเหนือกว่าฉันเสียอีก ถ้าไม่ใช่ว่าร่างกายของฉันแข็งแกร่งกว่าคงจะแพ้ไปแล้ว” หญิงสาวถอยห่างออกมาเล็กน้อยแล้วหยุดมือพลางกล่าวออกมา
“แต่ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้จริง ๆ ถ้าเป็นในสนามรบข้าก็ต้องตายโดยไม่อาจเรียกร้องอะไร” ชายหนุ่มกล่าวออกมาอย่างไม่คิดอะไรมาก ร่างกายในตอนนี้ของเขานับว่าเหนือกว่าในอดีตเสียอีก แต่ดูเหมือนว่าผู้ปลุกพลังระดับ S ในโลกใบนี้จะแข็งแกร่งยิ่งนัก
ต้องบอกก่อนว่าทั้งสองคนยังไม่ได้ใช้อาวุธหรือทักษะอะไรเลย พวกเขาสู้กับด้วยความสามารถทางกายภาพล้วน ๆ แต่มันก็ทำให้ชายหนุ่มได้เข้าใจความแข็งแกร่ง ความเร็ว พละกำลังของระดับ S ได้ในระดับหนึ่ง
เพราะมีบางครั้งเขาก็พลาดป้องกันเอาไว้ไม่อยู่เหมือนกัน แม้อีกฝ่ายจะยั้งมือไว้แต่การโจมตีดังกล่าวก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บไม่น้อย โชคดีที่เซลล์เอกภพซ่อมแซมส่วนที่เสียหายให้กลับเป็นเหมือนเดิมได้ภายในเวลาไม่นาน
“เอาเป็นว่าทักษะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าโดยไม่ใช้ทักษะเสริมใด ๆ ฉันให้คะแนนนายเต็มไปเลยก็แล้วกัน ต่อไปนายก็ใช้ทุกอย่างที่มีแล้วจู่โจมเข้ามาได้เลย ต้องการอาวุธอะไรเป็นพิเศษไหม ?” หญิงสาวกล่าวถามออกมาพลางเรียกชั้นวางอาวุธออกมาจากพื้นห้อง ภายในชั้นวางอาวุธมีอาวุธแทบทุกประเภทที่จะนึกออก แต่ระดับของพวกมันไม่ได้สูงมากนัก เป็นเพียงอาวุธระดับ F เท่านั้น
“ข้าขอหอกเล่มนี้ก็แล้วกัน” ชายหนุ่มที่ได้ยินดังนั้นก็เดินเข้าไปยังชั้นที่มีหอกหลายเล่มวางเอาไว้ เขาทดลองความเหมาะมืออยู่ครู่หนึ่งก็เลือกหอกที่มีความยาว 2 เมตรมาเล่มหนึ่ง มันเป็นเพียงหอกธรรมดาทั่วไปเท่านั้น แต่ในกองทัพก็นับว่าเป็นอาวุธพื้นฐานยอดนิยมลองลงมาจากดาบเลยก็ว่าได้
“หอกเหรอ ? ก็แปลกใจที่ไม่เลือกดาบนะ นายลองตรวจสอบรายละเอียดของหอกดูสิ แค่มองแล้วคิดว่าตรวจค่าสถานะก็พอ” ยูฮวากล่าวแนะนำออกมา
เธอพอจะได้ข้อมูลมาบ้างว่าชายหนุ่มผ่านการทดสอบอาวุธมาได้ในระดับ A ด้วยการใช้ดาบ เธอจึงแปลกใจไม่น้อยที่อีกฝ่ายเลือกใช้หอกแทน นอกจากนี้ด้วยความที่อีกฝ่ายเป็นมือใหม่เธอจึงแนะนำการเช็คค่าสถานะไปเพิ่มเติม
‘ตรวจสอบ’ ชายหนุ่มลองทำตามที่อีกฝ่ายว่าในทันที
หอกธรรมดาที่แข็งแกร่งเล็กน้อย
ระดับ : F
ความสามารถ : [พลังทำลาย +5] [ความเร็ว +1]
“มีวิธีการตรวจสอบสิ่งของแบบนี้ด้วยรึ ?” ชายหนุ่มกล่าวออกมาด้วยความแปลกใจ ในโลกก่อนมันก็มีเทคโนโลยีในการตรวจสอบในรูปแบบใช้เครื่องสแกนอยู่บ้าง แต่ก็ตรวจสอบได้แค่สิ่งที่มีข้อมูลในฐานข้อมูลเท่านั้น
ครึ่งหลัง
“แน่นอน แต่มันก็ตรวจสอบได้แค่สิ่งที่ไม่มีเจ้าของเท่านั้นนะ แถมยังไม่ละเอียดเท่าไหร่ด้วย รวมถึงใช้ตรวจสอบสิ่งมีชีวิตก็ไม่ได้ด้วย” ยูฮวากล่าวเสริมขึ้นมาเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจได้ง่ายขึ้น
“เอาล่ะ พูดกันมามากพอแล้ว มาสู้กันต่อเถอะ” เธอกล่าวตัดบทก่อนจะเรียกมีดที่ก่อตัวจากพลังเวทย์ธาตุมืดเข้าใส่อีกฝ่าย
ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็แกว่งหอกปัดมีดเล่มนั้นทันทีที่มันเข้ามาในระยะ แต่แทนที่จะเกิดการปะทะกันของอาวุธทั้งสอง มันเหมือนกับปลายหอกของเขาฟาดเข้าใส่อากาศ แต่ยังไม่ทันที่จะได้เข้าใจสถานการณ์อะไร ชายหนุ่มก็สัมผัสได้ถึงร่างของคู่ต่อสู้ที่โผล่มาจากด้านบนของเขา!
วืดด เปรี้ยง!
ยูฮวาโผล่มาจากมีดแห่งความมืดที่ถูกปัดออกไปก่อนหน้านี้ ดีที่ประสาทสัมผัสของชายหนุ่มนั้นเฉียบคบเป็นอย่างมาก เขาจึงใช้ด้ามหอกยกขึ้นมาป้องกันดาบยาวของอีกฝ่ายได้ทัน
“น่าแปลกใจจริง ๆ สิ่งที่เจ้าทำมันเรียกว่าอะไรกัน ?” ชายหนุ่มกล่าวถามออกมาพลางแทงหอกเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามไปด้วย
แต่อีกฝ่ายก็สมกับที่เป็นถึงผู้ปลุกพลังสายต่อสู้แรงค์ S เธอสามารถหลบการโจมตีของชายหนุ่มได้ทั้งหมด แถมยังโจมตีสวนกลับมาได้อีกด้วยทั้งที่ก่อนหน้านี้ที่ต่อสู้กันด้วยมือเปล่าเธอยังสู้ชายหนุ่มไม่ได้อยู่เลย
นี่แหละคือพลังของทักษะยังไงล่ะ!
“มันก็แค่ทักษะแฝงเงาของอาชีพนักรบเงาก็เท่านั้นแหละ นายก็เก่งนะที่ป้องกันไว้ได้” หญิงสาวตอบชายหนุ่มกลับไปในเชิงชมเชย
“ว่าแต่นายไม่ใช้ทักษะอะไรหน่อยเหรอ ? ไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก ทดลองใช้ให้หมดเลยจะได้คุ้นชิน แค่เรียกชื่อทักษะ หรือคิดในใจก็ได้ ทักษะมันก็จะถูกใช้งานแล้ว” หญิงสาวกล่าวแนะนำออกมาเพราะเธอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ใช้ทักษะอะไรออกมาเลย
“ขอบคุณที่แนะนำ ข้าจะลองดู” ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณออกมา เขาไม่รู้มาก่อนว่าทักษะต่าง ๆ มันใช้ยังไง โชคดีที่อีกฝ่ายแนะนำออกมาจึงไขความสงสัยข้อนี้ได้
‘เพลิงทมิฬ’ คริสเรียกใช้ทักษะที่ได้รับมาในใจ
ทันใดนั้นก็เกิดเปลวเพลิงสีดำขึ้นล้อมรอบร่างกายของชายหนุ่มในชุดคลุมจอมเวทย์ เปลวเพลิงสีดำนี้ดูลึกลับและอันตรายเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็เข้าโจมตีโดนไม่ได้ใส่ใจกับเปลวเพลิงที่ว่าแม้แต่น้อย
เปรี้ยง เปรี้ยง!
เสียงการต่อสู้ดังก้องไปทั้งห้องสี่เหลี่ยมแห่งนี้ ความจริงแล้วเปลิวเพลิงทมิฬไม่ใช่ว่าทำร้ายฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าร่างกายของหญิงสาวมีม่านพลังสีดำบางเบาปกคลุมอยู่ มันคอยป้องกันร่างกายของหญิงสาวจากเปลวเพลิงของชายหนุ่มตลอดเวลา
“เปลวเพลิงนี้ร้ายกาจไม่เบา ถึงม่านพลังของฉันจะป้องกันมันได้ก็เถอะ แต่ถ้าเป็นผู้ปลุกพลังแรงค์ C หรือ B คงจะรับมือได้ยากน่าดู” หญิงสาวกล่าวชมเชยพลางโจมตีอย่างต่อเนื่องไม่ได้หยุด เธอใช้เพียงแส้ที่สร้างจากพลังเวทย์ธรรมดาเท่านั้นในการต่อสู้กับชายหนุ่ม
‘คงต้องทดลองวิธีนั้นดู’ ชายหนุ่มครุ่นคิดถึงวิธีที่พอจะใช้ได้ในตอนนี้ เขาไม่ได้หวังที่จะชนะหญิงสาว แต่ต้องการทดสอบความสามารถทั้งหมดเท่าที่จะทำได้ของตนเองก็เท่านั้น
“อ้าว เบื่อแล้วรึไง ?” หญิงสาวที่เห็นชายหนุ่มเรียกเก็บเพลิงทมิฬกลับไปจึงถามขึ้นมา แต่เธอก็ยังบุกโจมตีไม่หยุด
“เปล่า เตรียมรับมือ!” ชายหนุ่มตอบกลับไปเพียงสั้น ๆ ก่อนจะพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายด้วยความเร็วเต็มพิกัด
ในเวลานี้ทั้งสองคนต่างต่อสู้กันอย่างดุเดือด มันเลยคำว่าการทดสอบไปแล้ว!!