บทที่ 70 ข้าทดสอบผ่านหรือไม่
เจ้าเด็กน้อยคนนี้ ค่อนข้างมีใจหนักแน่นมากทีเดียว
“ดี ดีมาก ข้าชอบความทะเยอทะยานของเจ้า” หลี่เหวินมองหยางเสี่ยวเทียนแล้วยิ้มแย้มอย่างเอ็นดู ด้วยเด็กน้อยผู้เด็ดเดี่ยวและวาจาฉะฉานคนนี้ ทำเขารู้สึกถูกชะตาอยู่ไม่น้อย
ดังนั้นเขาและหลินหยวน จึงพาหยางเสี่ยวเทียนไปยังโถงหลักของสมาคม ซึ่งเป็นสถานที่ไว้ใช้ทดสอบนักปรุงโอสถ
หลี่เหวินหยิบเตาหลอมโอสถของตนออกมา แล้วยื่นให้หยางเสี่ยวเทียนด้วยรอยยิ้ม “เด็กน้อย ข้าให้เจ้าใช้เตาหลอมโอสถของข้าเพื่อทดสอบในครั้งนี้ดีหรือไม่”
หลินหยวนถึงกับตกตะลึงยังภาพตรงหน้า ด้วยไม่คิดว่าผู้เป็นอาจารย์ตน จะให้ผู้ใดหยิบยืมเตาหลอมของสำคัญส่วนตัวเขาได้ง่ายเพียงนี้
เนื่องจากอาจารย์หลี่เหวินผู้นี้ หวงแหนเตาหลอมโอสถของเขาราวกับเป็นสมบัติอันล้ำค่ามาโดยตลอด แต่วันนี้กลับเต็มใจที่จะหยิบมันออกมา เพียงเพื่อให้เด็กที่อยู่ตรงหน้าใช้มันในการทดสอบ
หยางเสี่ยวเทียนไม่ได้คิดมากจึงพยักหน้ารับทันที “ขอรับ”
ไม่ช้า หลินหยวนก็นำสมุนไพรทั้งสิบสี่ชนิด ที่ใช้ในการหลอมโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับต่ำ วางไว้เบื้องหน้าของหยางเสี่ยวเทียน
เพื่อเข้าร่วมการทดสอบเป็นนักปรุงโอสถ หยางเสี่ยวเทียนต้องจ่ายค่าธรรมเนียมบางอย่าง เพราะทางสมาคมนักปรุงโอสถ ไม่สามารถมอบสมุนไพรเหล่านี้ให้ได้เปล่าๆ ด้วยสมุนไพรมีราคาแพง
แต่ขณะที่หยางเสี่ยวเทียนกำลังจะก้มลงล้วงหาเหรียญทอง หลี่เหวินจึงพลันเผยยิ้มและยกมือขึ้นปรามเขาก่อน
“ไม่จำเป็นเด็กน้อย เดี๋ยวข้าจ่ายให้เจ้าเอง”
หยางเสี่ยวเทียนชะงักลงทันควันหลังหลี่เหวินกล่าวจบ เขาพยักหน้ารับแล้วเริ่มลงมืออย่างไม่เกรงใจอีกต่อไป
ทันทีที่หยางเสี่ยวเทียนยกมือขึ้นแล้วดีดนิ้ว สมุนไพรทั้งสิบสี่ชนิดก็พลันลอยขึ้น เรียงกันเป็นแนวยาวพร้อมตกลงไปในเตาหลอมโอสถทีละอย่างจนครบ
เดิมทีหลี่เหวินและหลินหยวนก็มิได้จริงจังอะไรกับเรื่องนี้มากนักในตอนแรก แต่ยามนี้แววตากลับเบิกโพลง ยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ด้วยความตกใจ
ดั่งโบราณว่า จะรู้ว่าใช่ปรมาจารย์หรือไม่ ต้องดูตอนพวกเขาเคลื่อนไหว
ทั้งสองจับจ้องการเคลื่อนไหวของหยางเสี่ยวเทียน ดวงตาไม่กระพริบ
“หรือนี่จะเป็น…” หลินหยวนมองยังหยางเสี่ยวเทียนอย่างตกตะลึง เพราะการเคลื่อนไหวเช่นนี้ คล้ายกับสิ่งนั้นยิ่งนัก
ตอนนี้ หยางเสี่ยวเทียนเหยียดนิ้วชี้แลนิ้วกลางออกไปคู่กันแล้วสะบัดมันไปมาควบคุมเตาหลอมอย่างช้าๆ ดูเหมือนง่าย แต่แท้จริงนั้นลึกลับยากหยั่งถึงนัก
ท่วงท่านี้ มันราวกับทักษะการหลอมโอสถที่สูญหายไปนาน เพียงแต่เขาไม่แน่ใจมากนักว่าใช่ทักษะนั้นหรือไม่
เขามองไปยังอาจารย์ของเขาหลี่เหวินเพื่อจะสอบถาม แต่ทว่าน้ำเสียงยังไม่ทันจะเปล่งก็ได้ยิน
“นี่มัน ฝ่ามือผันกระแส!” น้ำเสียงหลี่เหวินอุทานดังขึ้นอย่างสั่นเทา
ฝ่ามือผันกระแส เขาโชคดีที่ได้เห็นผู้อาวุโสคนนั้นแสดงมันในการประชุมนักปรุงโอสถที่ยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
หลี่เหวินคุ้นเคยกับฝ่ามือผันกระแสเป็นอย่างดีกว่าหลินหยวนศิษย์เขา
เมื่อหลินหยวนได้ยินสิ่งนี้ ก็พลันประหลาดใจทันที มันคือฝ่ามือผันกระแสจริงๆ
ในเวลานี้ หยางเสี่ยวเทียนพลางยื่นมือทั้งสองออกไปเบื้องหน้าตน ระหว่างโบกมือ ไฟจากสวรรค์และโลกก็ก่อตัวขึ้นพร้อมหลั่งไหลมารวมกันจากทั่วทุกมุมภายในโถง
ไฟจากสวรรค์และโลกเหล่านี้เปรียบเสมือนคลื่นมหาสมุทร ที่โถมเข้าหาเตาหลอมอย่างรุนแรง
เมื่อเห็นไฟจากสวรรค์และโลกหลั่งไหลอย่างท่วมท้น หลี่เหวินและหลินหยวนต่างมีใบหน้าซีดเซียวเต็มไปด้วยความตระหนก
“เป็นไปได้ยังไง!” หลินหยวนปากสั่นขณะอุทานขึ้น
หยางเสี่ยวเทียนเป็นเพียงเด็กอายุแปดขวบ ทว่าสัมผัสทางจิตวิญญาณของเขากลับแข็งแกร่งมาก มากเสียจนสามารถดึงไฟจากสวรรค์และโลกได้มหาศาล
อีกทั้งไฟจากสวรรค์และโลกเหล่านี้ล้วนบริสุทธิ์!
แต่ความจริงอีกอย่างที่ทั้งสองยังไม่รู้คือ หยางเสี่ยวเทียนต้องพยายามหักห้ามพลังสัมผัสทางจิตวิญญาณของตน ข่มมันให้เหลือเพียงน้อยนิดพอต่อการหลอมโอสถในครานี้มากเท่าไร
ภายใต้การจับจ้องอันน่าเหลือเชื่อของหลินหยวนและหลี่เหวิน หยางเสี่ยวเทียนยังคงหลอมโอสถต่อไป พร้อมกับไฟแห่งสวรรค์และโลกที่โหมสู่เตาหลอมไม่หยุดหย่อน
การหลั่งไหลของไฟแห่งสวรรค์และโลก บางครั้งก็โหมกระหน่ำราวคลื่นมหาสมุทร บางครั้งก็สงบราวกับลมยามพริ้วกระทบหน้าผืนทะเลสาบจนเป็นระลอกน้ำ
ด้วยการควบคุมไฟแห่งสวรรค์และโลกโดยไร้ข้อบกพร่อง ทำให้สมุนไพรทั้งสิบสี่ชนิดในเตาหลอมโอสถ ละลายเป็นของเหลวอย่างรวดเร็ว
เวลาไม่ถึงหนึ่งถ้ายชา สมุนไพรทั้งสิบสี่ชนิดก็ละลายจนหมดสิ้น แล้วหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์
กลายเป็นของเหลวสีฟ้าบริสุทธิ์ปรากฏขึ้นประจักษ์ชัดยังเบื้องหน้าทั้งสองทันที
กลิ่นหอมของโอสถอบอวลคละคลุ้งไปถ้วนทั่วทั้งโถงหลัก
ทั้งยังเป็นกลิ่นหอมเข้มข้นไม่จางหายไปโดยง่าย
หลี่เหวินและหลินหยวนต่างรีบปรี่ชะเง้อหน้ามองโอสถสร้างฐานวิญญาณในเตาหลอมด้วยนัยน์ตาที่เบิกกว้าง
หรือว่านี่คือ…
ดูเหมือนเพิ่งผ่านไปแค่หนึ่งถ้วยชาเท่านั้น!
“นี่คือ โอสถระดับสูงสุด!” เพลานี้ หลินหยวนไม่สามารถระงับความตื่นเต้นในใจได้แล้ว
ภายในหนึ่งถ้วยชา ก็หลอมโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสูงสุดจนสมบูรณ์แล้วงั้นรึ!
หลินหยวนหันขวับหาหยางเสี่ยวเทียน ด้วยแววตาเป็นประกายราวกำลังมองสมบัติล้ำค่า
หยางเสี่ยวเทียนถอนใจยาวอย่างโล่งอก เขาจงใจหลอมโอสถสร้างฐานวิญญาณให้เป็นเพียงระดับสูงสุด
แต่ท้ายที่สุด หากเขาควบคุมไฟของสวรรค์และโลกได้ไม่ดีพอ แล้วเผลอหลอมโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์ภายในหนึ่งถ้วยชาขึ้นมา มันคงจะน่ากลัวมิใช่น้อย
เนื่องจาก เขาเคยชินกับการหลอมโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์มาก่อน ตอนนี้เขาจึงเหนื่อยมากถึงขั้นเหงื่อตก ที่ต้องจงใจหลอมโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสูงสุด ซึ่งมันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาในตอนนี้มาก
เมื่อเห็นหลี่เหวินและหลินหยวน จดจ้องอยู่กับโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสูงสุดเป็นเวลานานโดยไม่ปริปากแต่อย่างใด หยางเสี่ยวเทียนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเป็นผู้เปิดปากก่อน
“ข้าทดสอบผ่านหรือไม่”