ใช่แล้ว ผมนี่แหละหมอวิเศษผู้รอบรู้!
“แกพูดอะไรออกมา! อย่ามาแช่งคุณยายนะ” หญิงสาวที่ได้ยินก็เกิดโมโหมากยิ่งขึ้น ชายตรงหน้าของเธอมันอะไรกัน ยืนขวางทางแล้วยังมาแช่งคุณยายอีก!
“เฮ้ย! แกรีบหลีกทางไปจะดีกว่านะ ไม่อย่างนั้นจะมาหาว่าพวกเรารังแกเด็กไม่ได้ล่ะ!” หนึ่งในบอดี้การ์ดเดินเข้ามาอย่างจะเอาเรื่อง ทำให้ชายหนุ่มตกใจเล็กน้อย เขาพูดความจริงนะ! ทำไมไม่เชื่อกันล่ะ
“ฟังที่ผมพูดก่อนจะดีกว่านะครับ ไม่อย่างนั้นคุณจะเสียใจไปตลอดชีวิต!” ชายหนุ่มกล่าวออกมาแต่สายตามองไปยิงหญิงสาวที่กำลังเข็นรถให้คุณยายของเธออยู่ เขาไม่ได้สนใจบอดี้การ์ดที่เดินตรงเข้ามาหาเลยสักนิด ไม่สิ แค่แกล้งทำเป็นไม่สนใจก็เท่านั้น
“พูดดี ๆ ไม่ฟังใช่ไหม!” บอดี้การ์ดที่เดินเข้ามาเกิดโมโหกับท่าทางของชายหนุ่มที่เมินมัน ทำให้เขาเตรียมจะลงมือทันที
“หยุด!” เป็นหญิงชราที่นั่งอยู่บนรถเข็นส่งเสียงออกมา ทำให้บอดี้การ์ดถึงกับหยุดชะงัก ยังไงคำสั่งของนายหญิงต้องสำคัญที่สุด
“เธอเป็นใคร? แล้วสิ่งที่พูดมีความจริงแค่ไหน” หญิงชรากล่าวออกมาด้วยเสียงที่ไม่ดังมากนัก เพราะตอนนี้เธอเจ็บปวดภายในร่างกายเป็นอย่างมาก
“คุณยาย อย่าไปเสียเวลาคุยกับมันเลย เรารีบไปโรงพยายามกันเถอะนะคะ” หญิงสาวพยายามจะโน้มน้าวให้คุณยายของเธอเลิกเสียเวลากับชายตรงหน้า เพราะรูปลักษณ์ของเขาไม่มีความน่าเชื่อถือเอาซะเลย !
เสื้อยืด กางเกงยีนส์เก่าๆ ผมก็ยาวปิดหน้า เหมือนพวกคนตกงานไร้บ้านไม่มีผิด ถึงแม้จะมีใบหน้าที่ดูหล่อเหลาอยู่บ้าง แต่เธอก็ไม่ได้มองเขาในแง่ดีนัก เธอไม่ได้เป็นพวกที่ชอบตัดสินคนจากภายนอกมากนัก แต่การแต่งตัวแบบนี้บวกกับการที่ไม่ได้ดูแลตัวเองของชายตรงหน้าทำให้ความน่าเชื่อถือมันไม่มี
“ภาวะอวัยวะภายในล้มเหลวเฉียบพลัน ส่งผลให้อวัยวะเริ่มหยุดทำงาน หลอดเลือดบีบรัด ตอนนี้คุณคงรู้สึกหายใจไม่สะดวก ลำไส้รัดเกร็ง จะวูบเป็นลม ผมพูดถูกใช่ไหม ?” แน่นอนว่าสิ่งที่ชายหนุ่มกล่าวออกมาในครึ่งแรกเป็นความจริงที่ระบบบอกมา ส่วนครึ่งหลังเขาเติมเองล้วน ๆ!
“เธอ! เธอรู้ได้ยังไงกัน” หญิงชรากล่าวออกมาด้วยความตกใจ ชายหนุ่มตรงหน้าของเธอเพียงแค่มองก็บอกอาการของเธอได้ทั้งหมด!
ผู้คนโดยรอบที่กำลังมองดูอยู่ก็ตกตะลึงเหมือนกัน ในตอนแรกพวกเขาคิดว่าจะได้เห็นฉากรุนแรงอย่างชายหนุ่มถูกพวกบอดี้การ์ดร่างโตรุนทำร้าย จากนั้นก็คงจะได้ยินข่าวชายหนุ่มหายสาบสูญ
แต่ในตอนนี้ชายหนุ่มที่ท่าทางเหมือนคนไร้บ้านตรงหน้า กลับมองอาการป่วยของนายหญิงตระกูลฮวาแล้วกล่าวออกมาได้อย่างถูกต้อง! นี่เขาเป็นหมอวิเศษมาจากไหนกัน?!
“อาการของคุณเกิดจากการที่ร่างกายสะสมความเหนื่อยล้า ความเครียด และหลาย ๆโรคเข้าไว้ด้วยกัน ในความเป็นจริงถ้าคุณดูแลร่างกายเสียบ้างก็จะไม่เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น แต่มาตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้ว...” ชายหนุ่มกล่าวต่อ ทำให้หญิงชราได้แต่ทำท่าครุ่นคิดตาม
“ถูกทุกอย่างตามที่เธอว่ามาเลย ฉันปล่อยวางตระกูลไม่ได้จริง ๆ” หญิงชรากล่าวออกมาเสียงเบา ในใจของเธอปลงได้แล้วบางส่วน แต่ก็ยังคงเป็นห่วงตระกูลของเธออยู่
“ไม่จริงน่า! นาย... นายมีวิธีช่วยคุณยายไหม? ฉันขอร้องช่วยคุณยายของฉันด้วยเถอะ” หญิงสาวที่ได้ยินก็ใจเสียทันที
ในชีวิตของเธอมีเพียงคุณยายเท่านั้นที่เป็นคนสำคัญ เพราะพ่อและแม่ของเธอเสียไปตั้งแต่ยังเด็กจากอุบัติเหตุบางอย่าง ทำให้คุณยายเป็นคนที่ดูแลเธอจนโตขึ้นมา ขอเพียงช่วยคุณยายได้ต่อให้ต้องแลกกับอะไรเธอก็ยอม ในใจเธอคิดว่าชายตรงหน้าที่มาขวางทางไว้แล้วพูดเรื่องนี้ขึ้นมาน่าจะมีวิธีบางอย่างที่จะช่วยได้แน่นอน
“แน่นอนว่าได้ครับ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ขวางพวกคุณไว้หรอก” ชายหนุ่มยิ้มแล้วกล่าวออกมา เขาไม่ได้ใส่ใจกับท่าทางก่อนหน้านี้ของหญิงสาวนัก เพราะเป็นเรื่องปกติของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว
กลับกันถ้าเป็นตัวเขาเองที่คุณปู่ป่วยหนักแล้วมีคนมาขวางหน้าไว้ พูดเพ้อเจ้อว่าคุณปู่จะตายในอีกหนึ่งชั่วโมง เขาคงเข้าไปต่อยหน้าอีกฝ่ายก่อนที่จะได้พูดคุยกันด้วยซ้ำ!
“นายพูดจริงเหรอ!” หญิงสาวกล่าวออกมาด้วยความยินดี
“ผมว่า เราไปหาที่ส่วนตัวกันจะดีกว่านะครับ” ชายหนุ่มกล่าวออกมา ทำให้หญิงสาวนึกขึ้นได้ ถ้าจะมีอะไรที่ช่วยชีวิตคุณยายที่เหลือเวลาแค่นี้เอาไว้ได้ มันจะต้องไม่ใช่ของธรรมดาแน่ๆ
“ผู้จัดการ! คุณมีห้องส่วนตัวไหม??” หญิงสาวหันไปกล่าวกับผู้จัดการที่เดินตามมาอยู่ห่าง ๆ ทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งจนตัวโยนก่อนจะรีบตอบ
“มีครับ ๆ ตามผมมาทางนี้เลย!”
ผู้จัดการพาคนทั้งกลุ่มขึ้นไปยังชั้นบนสุดที่เป็นห้องรับรองแขกสุดพิเศษผ่านทางลิฟต์ขนของที่ถูกติดตั้งเอาไว้ ทำให้พาตัวหญิงชราขึ้นไปได้ทั้งรถเข็นโดยไม่ต้องพากันแบกขึ้นบันได
“พวกนายรอด้านนอกนี่แหละ” หญิงสาวให้พวกบอดี้การ์ดรออยู่ด้านนอก ก่อนที่จะพาคุณยายเข้าไปในห้องพร้อมกับชายหนุ่มและผู้จัดการร้าน
ห้องด้านในมีขนาดที่กว้างประมาณ 150 ตารางเมตร มีเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง เครื่องปรับอากาศ ของตกแต่งสุดหรูประดับอยู่มากมาย แต่ในสายตาของหญิงสาวพวกมันก็แค่ขยะที่มีราคาขึ้นมานิดหน่อยนั่นแหละ
“นายช่วยดูอาการของคุณยายแล้วช่วยรักษาให้หน่อยจะได้ไหม ถ้านายต้องการอะไรตอบแทนก็บอกได้ทุกอย่างเลยนะ!” หญิงสาวกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
“ทุกอย่างจริงๆเหรอครับ ?” ชายหนุ่มกล่าวถามย้ำ
“ใช่ ขอแค่ตระกูลฮวาหามาให้ได้ นายจะได้ทุกอย่าง!” หญิงสาวยืนยันอย่างหนักแน่น จะมีสักกี่อย่างกันที่ตระกูลของเธอจะหาไม่ได้ในโลกนี้
“เรื่องนั้นเอาไว้ว่ากันทีหลังก็แล้วกัน ก่อนอื่นก็ผมขอจับชีพจรของคุณผู้หญิงหน่อยนะครับ” ชายหนุ่มกล่าวขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปหาหญิงชรา
“เชิญเลยพ่อหนุ่ม” หญิงชราเห็นดังนั้นจึงกล่าวขึ้นมาเสียงค่อย
“อืม..อาการร้ายแรงกว่าที่ผมคิดไว้ ผมเดาว่าคุณใกล้จะทนไม่ไหวแล้วใช่ไหมครับ ?” ชายหนุ่มยื่นมือไปจับข้อมือของหญิงชราพลางทำท่าหลับตาครุ่นคิด ก่อนจะกล่าวออกมา
“ใช่แล้ว ฉันคิดว่าต่อให้ไปโรงพยาบาลก็คงรักษาไม่ทันหรอก...” หญิงชรากล่าวออกมา
‘เยี่ยม! ฉันเดาถูกจริง ๆ ด้วย’ เขาได้แต่คิดในใจด้วยความยินดี ดูเหมือนการแสดงของเขาก็จะยอดเยี่ยมเหมือนกันนะเนี่ย!
“แต่โชคดีที่ผมเตรียมยาวิเศษมาด้วย” ชายหนุ่มกล่าวขึ้นมาก่อนที่จะปลดกระเป๋าเป้มาวางไว้ แล้วหยิบน้ำต้มแผ่นหยกออกมา
“น้ำยานี่ขอแค่คุณหญิงกินให้หมดขวดภายในหนึ่งวัน อาการภายในร่างกายต่าง ๆ ก็จะหายดีเองครับ” แต่หลังจากที่ชายหนุ่มกล่าวจบ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นทันที
“เป็นไปไม่ได้! แกมันเป็นพวกหลอกลวง!!” ผู้จัดการร้านยื่นนิ้วมาชี้หน้าของเขาแล้วตะโกนออกมา ทำให้สองยายหลานตระกูลฮวามองมาด้วยความสับสน
“ก่อนหน้านี้ชายคนนั้นเขามาที่นี่เพื่อจะขายน้ำนั่น แต่จากการตรวจสอบในห้องแล็บน้ำนั่นมันก็แค่น้ำประปาต้ม ที่มีส่วนผสมของคอลลีนอยู่นิดหน่อย! มันจะไปรักษาอาการของคุณหญิงได้ยังไง!” สิ้นเสียงของผู้จัดการร้าน ใบหน้าของยายหลานตระกูลฮวาก็ซีดลง
นี่พวกเธอถูกหลอกอย่างนั้นเหรอ ? ชายตรงหน้าเป็นเพียงพวกต้มตุ๋น ?
“นาย...ที่ผู้จัดการร้านพูดเป็นความจริงรึเปล่า ?” หญิงสาวถามชายตรงหน้า เธอยังคงคาดหวังว่ามันจะไม่ใช่ความจริง
“เขาพูดความจริงครับ” แต่แทนที่คำตอบจะเป็นการปฏิเสธ ชายหนุ่มกลับยอมรับออกมาซะอย่างนั้น!