เอาจักรยานของฉันไปด้วยสิ มันตั้งร้อยหยวนเลยนะ!
หลังจากคุยตกลงกันเรียบร้อยทั้งสองกลุ่มก็ได้เดินลงมาจากชั้นบนกัน โดยกลุ่มแรกนำโดยหญิงชราที่ตอนนี้ไม่ต้องพึ่งพารถเข็นอีกต่อไปกับเหล่าบอดี้การ์ด
ส่วนกลุ่มที่สองก็คือชายหนุ่มขอทานที่มาหลอกขายยา คุณหนูตระกูลฮวาหญิงสาวตัวเล็กน่ารักหุ่นสะบึมและบอดี้การ์ดห้าคน
“นั่นตระกูลฮวากำลังจะไปไหน?” ชาวจีนมุงซุบซิบกันเบา ๆ แม้จะกลัวกลุ่มคนตรงหน้าได้ยินแต่ต่อมอยากพูดในปากมันก็ไม่สามารถระงับเอาไว้ได้
“สงสัยจะเอาขอทานคนนั้นไปปิดปากแน่ ๆ น่าสงสารจริง ๆเลย...” ป้าแก่ ๆ คนหนึ่งกล่าวออกมา
“แล้วพวกเราจะรอดไหม รีบไปกันจะดีกว่ามั้ง” ชายชราที่นั่งอยู่กล่าวขึ้นก่อนจะค่อย ๆเดินออกจากร้านไป
ทำให้มีอีกหลายคนที่หวาดกลัวก็เดินหนีไปเช่นกัน จนตอนนี้ทั้งร้านเหลือคนเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ใครจะอยู่ให้โดนปิดปากกันล่ะ!
“งั้นฉันไปก่อนนะพ่อหนุ่ม ฝากดูแลหลานสาวของฉันด้วยล่ะ” หญิงชรากล่าวอำลาเมื่อเดินออกมานอกตัวอาคาร
“ฮะฮะ คุณยายก็พูดเกินไปครับ ผมต่างหากที่ต้องรบกวนให้เธอช่วยดูแลด้วย” ชายหนุ่มลูบหัวแก้เขินก่อนจะกล่าวออกมา
“ไม่ต้องเกรงใจไปหรอกนะ งั้นฉันขอตัวก่อน โชคดีพ่อหนุ่ม” หญิงชรากล่าวเสร็จก็เดินขึ้นรถสีดำทรงยุโรปจากไป ชายหนุ่มไม่เคยสัมผัสรถหรูมาก่อนย่อมไม่มีความรู้อะไรอยู่แล้ว แต่รถคันนั้นรู้สึกด้านหน้ารถจะมีโลโก้ ดาวสามแฉก กับตัวอักษรเขียนว่า MAYBACH เขียนอะไรอยู่
แค่มองจากภายนอกก็รู้ว่าน่าจะมีราคาไม่น้อย เขาคิดว่าอย่างน้อย ๆ ก็คงหลายแสนหยวนเลยมั้ง เทียบกับจักรยานของเขาที่คันละร้อยหยวนแล้ว...เฮ้อ ไม่พูดถึงดีกว่า
“นายอยากไปซื้อของที่ไหนอ่ะ ฉันจะได้ให้คนขับพาไปถูก” มีเสียงของหญิงสาวดังขึ้นจากด้านข้าง ทำให้ชายหนุ่มต้องหันไปมอง ก็พบฮวาหวู่หลิงยืนกอดอกอยู่
ตัวเล็กแต่หน้าอกใหญ่จังแหะ นี่คือสิ่งที่ชายหนุ่มคิดก่อนจะรีบสบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป
“ฉันไม่มีที่ไหนจะไปเป็นพิเศษหรอก แค่อยากซื้อของใช้ส่วนตัวบ้างน่ะ ไหน ๆ ก็มีเงินทั้งที” ชายหนุ่มตอบกลับไป ทำให้หญิงสาวด้านข้างมองมาทางเขาพลางคิดอะไรบางอย่าง
‘คงต้องลองไปสืบเบื้องหลังดู แต่ยังไงซื้อของเสร็จก็ต้องพาเขาไปส่งที่บ้าน น่าจะตรวจสอบอะไรได้บ้าง’ หญิงสาวแอบวางแผนไว้เล็ก ๆในใจ เห็นเธออายุยังน้อยแต่ความจริงเธอฉลาดมาก ถึงขนาดที่ถูกวางไว้ในตำแหน่งหนึ่งในผู้เข้าชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลคนต่อไปเลยทีเดียว
“งั้นไปห้างซานหมิงกันเถอะ” หญิงสาวกล่าวขึ้นมาก่อนทำท่าจะเดินไปยังรถยนต์ที่จอดเอาไว้
“เดี๋ยวก่อน ๆ อย่าลืมเอาจักรยานของฉันไปด้วย มันตั้งร้อยหยวนเลยนะ!” ชายหนุ่มรีบกล่าวออกมาเพราะเห็นว่าหญิงสาวทำท่าจะไปขึ้นรถ โดยไม่สนใจจักรยานของเขาที่จอดเอาไว้ด้านข้างเลยแม้แต่น้อย
“อ่า ได้ ๆ เฮ้ พวกนายไปเอาจักรยานคันนั้นขึ้นรถพวกนายไปด้วยนะ” หญิงสาวสั่งงานพวกบอดี้การ์ดที่เดินตามมาด้วย ทำให้หนึ่งในนั้นต้องไปหยิบจักรยานแม่บ้านเก่า ๆ ที่ตอนนี้คงราคาแค่ไม่กี่สิบหยวนไปขึ้นรถของพวกเขาด้วย
จากการที่ชายหนุ่มสังเกตดู เหมือนว่ารถคันที่เขาจะไปนั่งกับหญิงสาวจะแยกกับรถของพวกบอดี้การ์ด รถของหญิงสาวเป็นรถสีดำดูหรูหราอย่างมาก มีโลโก้เดียวกับคันของหญิงชรา ส่วนของพวกบอดี้การ์ดทรงรถจะใหญ่คล้าย ๆ รถทหาร แต่ก็ยังคงมีโลโก้ดาวสามแฉกเหมือนกันอยู่ดี
‘ประตูมันเปิดยังไง ฉันจะไม่ไปทำรถเขาเสียหายใช่ไหม ?’ ชายหนุ่มมองไปยังประตูรถตรงหน้า มันไม่มีที่เปิดประตูแบบแท็กซี่ที่เขาเคยขึ้น ทำให้เขาได้แต่ยืนมอง
ครึ่งหลัง
“เชิญครับ” มีชายวัยกลางคนไว้หนวดทรงม้วนขึ้นสีขาวสวมชุดพ่อบ้านเดินมาเปิดประตูให้กับชายหนุ่ม หลังจากที่หญิงสาวขึ้นรถไปแล้ว ชายหนุ่มก้มหัวนิดหน่อยแล้วกล่าวขอบคุณก่อนจะขึ้นไปนั่งบนรถ
[“ติ๊ง! ได้รับรางวัล ดวงตาเที่ยงแท้”] มีเสียงของระบบดังขึ้นในหัว ทำให้ชายหนุ่มนึกขึ้นได้ว่าภารกิจให้ระบบกับเขามา แล้วเขาก็ทำเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้รับรางวัลนี่หว่า
หลังจากได้รับดวงตาเที่ยงแท้มา ชายหนุ่มก็พบว่าเขาได้มองเห็นโลกในอีกมุมมองหนึ่ง ถ้าเขาตั้งสมาธิในการมองสิ่งใด จะสามารถเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในสิ่งนั้นได้ไม่ว่าจะมีอะไรปกปิดเอาไว้ หรือต่อให้เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นเขาก็ยังสามารถพบได้อยู่ดี
เขาเพิ่งรู้วันนี้เองว่าบนโลกนี้มีคนตายปะปนอยู่กับคนเป็นเต็มไปหมด บางตนก็อยู่ในสภาพที่ดี แต่บางตนอยู่ในสภาพเละเทะไม่ชวนมองเอาเสียเลย ยังดีที่ชายหนุ่มไม่ได้กลัวสิ่งลี้ลับพวกนี้ ต่อให้ต้องนั่งข้างกันเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
[“วิญญาณเหล่านี้จะส่งผลอะไรกับฉันไหมระบบ”] ชายหนุ่มถามระบบในใจ เขากลัวเหมือนจะเป็นในหนังผีที่ถูกวิญญาณเข้าสิง นำโชคร้ายมาให้อะไรแบบนั้น
[“อาจจะมีถ้าท่านดวงตก จิตอ่อน เพราะโดยปกติวิญญาณส่วนใหญ่จะไม่มีพลังพอที่จะทำร้ายคนเป็นอยู่แล้ว มีน้อยนักที่จะมีพลังพอจะทำอะไรคนเป็นได้”] เสียงระบบตอบกลับมาทำให้ชายหนุ่มเบาใจลงไปได้หน่อยนึง แต่ก็ยังกังวลอยู่ดี
ดูเหมือนเขาจะต้องไปหาเครื่องรางหรือของศักดิ์สิทธิ์ตามวัดมาพกติดตัวไว้ซะแล้วสิ! ชายหนุ่มครุ่นคิดก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ แต่เพราะเขามัวแต่คิดเรื่องดวงตาเที่ยงแท้ที่ได้รับมากับพวกวิญญาณที่ได้เห็น ทำให้เขาลืมมองดูรถยนต์คันที่เขานั่งให้ดี
“เป็นไงบ้าง นายชอบไหม” หญิงสาวกล่าวออกมาทำให้ชายหนุ่มที่นั่งคิดอะไรอยู่ได้สติ
เขาจึงมองไปรอบ ๆตัวรถ เขาพบว่าภายในรถค่อนข้างจะกว้างเป็นอย่างมาก มีเพียงเขาและหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านตรงข้ามกัน ส่วนคนขับรถก็มีผนังเล็ก ๆ กั้นเอาไว้อีกที ภายในรถมีกลิ่นหอมบางอย่างที่อธิบายไม่ถูก มันทำให้รู้สึกสบายใจ ผ่อนคลายอย่างคาดไม่ถึง
“ชอบสิ ฉันไม่เคยนั่งรถแบบนี้มาก่อนเลย เคยนั่งแต่แท็กซี่น่ะ” ชายหนุ่มตอบกลับไป ทำให้หญิงสาวยิ้มออกมา เธอไม่ได้รังเกียจความยากจนหรือโปรไฟล์ที่ต่ำต้อยของคนตรงหน้าแม้แต่น้อย
“ถ้านายชอบ จะเอาไปไว้ขับสักคันก็ได้นะ” หญิงสาวกล่าวออกมา ทำให้คนขับรถตกใจนิดหน่อย
รถคันนี้เป็นรถ Mercedes-Maybach S600 Pullman Guard เลยนะ ต้องสั่งจองล่วงหน้า ยอดผลิตก็จำกัด ราคาต่อคันไม่รวมค่านำเข้าก็ปาไป สิบล้านหยวนแล้ว คุณหนูกลับกล่าวว่าจะยกให้ชายตรงหน้าง่าย ๆ ซะอย่างนั้น
ความจริงรถของกลุ่มบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังและด้านหลังก็มีราคาสูงไม่แพ้กัน เพราะเป็นรถ Mercedes-AMG G คันละ ห้าล้านหยวน แต่กลับเอาไปขนจักรยานคันละร้อยหยวนมาด้วย ถ้าชายหนุ่มรู้เข้าคงแทบจะช็อคตายแน่ ๆ
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันขับรถไม่เป็นน่ะ แถมคันนี้ก็เหมือนจะแพงมากด้วย” ชายหนุ่มตอบปฎิเสธอย่างเกรงใจ ความจริงเขาก็อยากได้อยู่หรอก แต่รถก็ขับไม่เป็น แถมยังได้เงินของคนอื่นเขามาแล้วด้วย จะขอมากไปก็คงโลภมากไปหน่อย
“ความจริงมันก็ไม่ได้แพงอะไรนักหรอกนะ ถ้านายเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ก็บอกฉันได้ตลอดเลยล่ะ” หญิงสาวกล่าวออกมาแล้วยิ้มให้
“จริงสิ ขอวีแชทนายหน่อยได้ไหม ถ้ามีอะไรจะได้ติดต่อกันได้สะดวกหน่อย” หญิงสาวกล่าวออกมาก่อนจะยื่นมือถือให้
ชายหนุ่มได้แต่หลบหน้าอย่างอาย ๆ โทรศัพท์ของเขามันเป็นแค่รุ่นปุ่มกดอยู่เลย! จะไปเล่นแอพอะไรได้ไงเล่า
“คือ... นี่มือถือฉัน มันเล่นวีแชทไม่ได้หรอก” ชายหนุ่มยื่นมือถือของเขาให้หญิงสาวดู
“ฮ่าฮ่าฮ่า นายพูดจริงไหมเนี่ย ไอ้นี่มันเรียกมือถือได้ด้วยรึไง?” หญิงสาวที่เห็นก็หัวเราะออกมาจนน้ำตาไหล ไอ้โทรศัพท์ปาหัวหมาแตกแบบนี้ยังมีวัยรุ่นใช้อยู่อีกเหรอ เธอนึกว่ามันถูกเก็บเข้าพิพิธภัณฑ์หมดแล้วเสียอีก
“....” ชายหนุ่มหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้โกรธอะไรเพราะในน้ำเสียงของหญิงสาวไม่ได้มีโทนของการดูถูกแฝงเอาไว้ มันเป็นแค่การหยอกล้อธรรมดา ๆ
“เดี๋ยวฉันซื้อให้นายใหม่แล้วกัน ไหน ๆ ก็ไปซื้อของกันแล้วนี่” หญิงสาวปาดน้ำตาที่ไหลอยู่ตรงหางตา ก่อนจะกล่าวออกมา
“ขอบคุณนะ” ชายหนุ่มกล่าวออกมา พลางแอบยิ้มในใจ
ความจริงเขาจะซื้อเองก็ได้
แต่มีคนซื้อให้มันก็ประหยัดเงินนี่นา ! จะปฎิเสธทำไม