ตอนที่แล้วความตายคือเรื่องปกติของชีวิต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปดูดกลืนเซลล์ ผสานร่าง

สุนัขเพลิงทมิฬ กับมังกรที่ซ่อนอยู่


“เป็นทีมที่น่าชื่นชม แต่ยังอ่อนด้อยนัก”

“หลังจากจัดการมอนสเตอร์ตัวแรกได้ ควรจะรีบหนีทันที”

“แถมการไม่รู้สึกตัวถึงสุนัขตัวนั้นที่ซุ่มติดตามมาตั้งแต่แรกก็เป็นสิ่งที่ผิดพลาดที่สุด”

“จากการวิเคราะห์ดูแล้ว มอนสเตอร์เหล่านี้คล้ายคลึงกับโลกของเรามากจริง ๆ”

ในเงามืดบนยอดไม้ที่สูงที่สุด ซึ่งอยู่ห่างไกลจากสถานที่ต่อสู้เกือบหนึ่งกิโลเมตร มีร่างของชายหนุ่มผมสีขาวในชุดเกราะทันสมัยที่เหลือแต่เศษซาก กำลังซุ่มดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว!

[ติ๊ง! ฟื้นฟูจิตวิญญาณ...5%] เสียงปริศนาดังขึ้นภายในหัวของเขา

“เสียงนั่นอีกแล้ว มันคืออะไรกันแน่” ชายหนุ่มกล่าวออกมา เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเท่าไหร่นัก มันไม่เหมือนโลกที่เขาเคยอยู่เลยสักนิด

“ดูท่า ข้าจะต้องช่วยผู้หญิงคนนั้น” หลังกล่าวจบร่างของชายหนุ่มที่อยู่บนยอดไม้ก็ได้หายไป

...

อ๊ากกกก

“คุณวอล!” หญิงสาวที่ได้ยินเสียงร้องจึงหันกลับไปมอง ก็พบว่าวอลได้ถูกมอนสเตอร์สุนัขเพลิงทมิฬกลืนลงท้องไปแล้ว!

“ฉัน ฉันมันไร้ประโยชน์จริง ๆ!” หญิงสาวกล่าวออกมาทั้งน้ำตา แต่เธอก็ยังคงวิ่งต่อไป

บรู๊วววว  ตุบ ตุบ ตุบ

เจ้ามอนสเตอร์ส่งเสียงออกมาด้วยความสนุก มันมองไปยังเหยื่อที่วิ่งหนีไปก่อนจะค่อย ๆ วิ่งไล่ตาม ด้วยความเร็วของมัน การจะไล่ให้ทันในทีเดียวเป็นเรื่องง่ายมาก แต่มันกลับชะลอฝีเท้าเพื่อเล่นกับเหยื่อของมันให้หายอยากเสียก่อน ค่อยฆ่าทิ้ง

พลั่ก!

“ไม่นะ!” ด้วยความลนลานและไร้สติ หญิงสาวจึงเผลอสะดุดรากไม้จนล้มกลิ้งเข้าให้

“ฉัน ฉันขอโทษนะทุกคน” หญิงสาวกล่าวออกมาด้วยความเสียใจ ครอบครัวของเธอ พ่อแม่ น้องชาย ล้วนยากจน มีเพียงเธอที่ได้กลายเป็นความหวังของครอบครัวจากการที่ปลุกพลังขึ้นมาได้

เดินทีเธอคิดว่าชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวจะดีขึ้น แต่การเป็นนักผจญภัยนั้นยากลำบากกว่าที่วาดฝันไว้ อย่างเช่นตอนนี้เมื่อหันกลับไปก็เห็นว่าสุนัขเพลิงทมิฬกำลังกระโจนเข้ามาพร้อมอ้าปากออกกว้างพร้อมจะกลืนเธอเข้าไปทั้งตัว

หญิงสาวได้แต่หลับตาลงพร้อมรับชะตาที่ต้องเผชิญ ดูเหมือนเธอจะไม่สามารถทำตามความคาดหวังของทุกคนได้เสียแล้ว ขอโทษนะทุกคน พวกเขาอุตส่าห์สละชีวิตเพื่อช่วยเธอหนีแท้ ๆ แต่เวลานี้เธอทำได้แค่นั่งรอความตาย

เปรี้ยง ! ตู้ม!

มีเสียงดังสนั่นดังขึ้นที่ด้านหน้าทำให้หญิงสาวที่รู้สึกตัวว่าตัวเองยังไม่ตายได้ลืมตาขึ้น เธอมองเห็นร่างของชายหนุ่มผมสีขาว ดวงตาสีฟ้า ใบหน้าไร้อารมณ์เย็นชาปราศจากความรู้สึก เขายืนชูกำปั้นที่เพิ่งจะซัดใส่สุนัขเพลิงทมิฬจนลงไปนอนกองกับพื้นค้างเอาไว้

“มอนสเตอร์พวกนี้ดูเหมือนจะอ่อนด้อยกว่าพวกที่ข้าคิด” เสียงพึมพำดังขึ้น แต่หญิงสาวไม่ค่อยจะได้ยินเท่าไหร่ เพราะตอนนี้เธอกำลังสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่

แฮ่ พรึ่บ!

สุนัขเพลิงทมิฬที่ตั้งหลักได้มันก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะแยกเขี้ยวส่งเสียงขู่ออกมา เปลวเพลิงทมิฬลุกท่วมร่างของมันด้วยความร้อนแรง

“คุณรีบหนีไป! มันเป็นมอนสเตอร์ระดับสามเลยนะ!!” เซรีนรีบกล่าวออกมา เธอไม่อยากให้มีคนมาตายเพิ่มอีกแล้ว ด้วยความขาดสติทำให้เธอลืมคิดไปด้วยซ้ำว่าเมื่อครู่ชายตรงหน้าของเธอเพิ่งซัดมอนสเตอร์ตัวดังกล่าวล้มคว่ำในหมัดเดียว

“ซอร์ด!” ชายหนุ่มยื่นมือไปข้างหน้าก่อนจะเปล่งเสียงออกมา แต่กลับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

“ดูเหมือนจะไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว” ชายหนุ่มพึมพำออกมา

ซอร์ดคือการเรียกดาบเลเซอร์ออกมาจากช่องเก็บของของชุดเกราะที่สวมอยู่ เขาไม่แน่ใจว่าที่ไม่สามารถเรียกออกมาได้เป็นเพราะชุดเกราะเสียหายหรือเป็นเพราะความแตกต่างในเรื่องการใช้พลังของโลกนี้กันแน่

“ระวัง!” หญิงสาวส่งเสียงเตือนเมื่อเห็นว่าสุนัขเพลิงทมิฬโจมตีเข้ามาแล้ว แต่ชายหนุ่มตรงหน้าของเธอยังยืนเหม่ออยู่

“คงต้องออกแรงเพิ่มสักหน่อยสินะ” ชายหนุ่มกล่าวจบก็พุ่งตัวไปด้านหน้า

สองมือของเขาซัดเข้าที่ขาหน้าทั้งสองข้างของเจ้าสุนัขที่ตะปบเข้ามา ดูเหมือนพละกำลังของชายหนุ่มจะมากกว่าทำให้ขาของเจ้าสุนัขกระเด็นกลับไป แต่เปลวเพลิงทมิฬกลับน่ากลัวกว่าที่คิด มันสามารถเผาไหม้ร่างของชายหนุ่มได้

“น่าสนใจ เปลวเพลิงปกติไม่สามารถทำอันตรายข้าได้ แต่เหมือนของมอนสเตอร์ตัวนี้จะพิเศษขึ้นมาสักหน่อย” เขามองไปยังผิวชุดเกราะที่กำลังถูกเผาไหม้ รวมถึงผิวหนังที่ค่อย ๆ มีรอยผุพองปรากฎออกมาเล็กน้อย ใบหน้าของเขาปราศจากความรู้สึกเหมือนกับว่าการถูกไฟค่อย ๆ เผาไหม้จะทำอะไรเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

ถ้าเป็นนักผจญภัยทั่วไปที่ไม่ได้ระดับสูงนักคงถูกเผาตายไปแล้ว แต่ชายหนุ่มกลับมีแค่รอยผุพองค่อยๆปรากฎขึ้น

พรึ่บ ตุบ!

ชายหนุ่มถอดชุดเกราะที่ถูกเผาไหม้โยนทิ้งไป ทำให้ตอนนี้เขาเหลือแต่ร่างเปลือยเปล่าไร้ซึ่งเสื้อผ้าใด ๆ เรือนร่างกำยำงดงามเหมือนสวรรค์สร้างปรากฏแก่สายตาของหญิงสาวและสุนัขเพลิงทมิฬ สายตาที่มองไปเห็นท่อนยักษ์ตรงหว่างขาทำให้หญิงสาวเขินอายเล็กน้อยแม้จะอยู่ในสถานการณ์เป็นตายเช่นนี้ก็ตาม

คนเราดูจากภายนอกไม่ได้จริง ๆ! เหมือนดั่งมังกรที่ซ่อนอยู่!

ขนาดมันจะผิดมนุษย์เกินไปไหม !

“อะ... ระวังเปลวเพลิงของมันด้วยนะ รีบดับเร็วเข้า!” หญิงสาวส่งเสียงเตือนออกไป ถึงมันจะสายไปหน่อยก็ตาม

“อืม” ชายหนุ่มได้ยินก็เพียงตอบกลับสั้น ๆ เท่านั้น

แล้วหนึ่งมนุษย์หนึ่งมอนสเตอร์ก็เข้าต่อสู้กันอีกครั้ง ชายหนุ่มใช้หมัดเปล่า ๆ ไล่อัดทั่วร่างของเจ้าสุนัข มันโจมตีด้วยทุกอย่างที่มันมีทั้งเขี้ยว เล็บ กระดูกหนาม ซึ่งก็สมกับเป็นมอนสเตอร์ระดับสามที่เกือบจะกลายเป็นระดับสี่ได้แล้ว เพราะมันสร้างบาดแผลให้กับชายหนุ่มได้ไม่น้อย ตอนนี้ทั่วร่างของชายหนุ่มเต็มไปด้วยรอยแผลจากเขี้ยวเล็บ และรอยผุพองจากไฟไหม้

“ทำ...ทำไม ร่างกายเขาถึงเป็นแบบนั้น?!” หญิงสาวอุทานออกมาเมื่อเห็นว่าชายตรงหน้าถึงจะได้รับบาดแผลมากมาย แต่พวกมันก็ค่อย ๆจางหายไป ยิ่งนานเข้าเจ้าสุนัขเพลิงทมิฬก็ยิ่งสร้างความเสียหายให้ร่างกายของชายหนุ่มได้น้อยลง

“ข้าพอเข้าใจบ้างแล้ว ขอบคุณเจ้ามาก” ชายหนุ่มกล่าวออกมาก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปจากการมองเห็นของเจ้าสุนัขเพลิงทมิฬ

หมับ! ตู้ม!!

ร่างของชายหนุ่มเปลือยเปล่าปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของมอนสเตอร์ตัวนั้น ก่อนที่เขาจะคว้าหางของมันเอาไว้และออกแรงเหวี่ยงร่างขนาดใหญ่ของมันทุ่มลงสู่พื้นดินอย่างแรง

สุนัขเพลิงทมิฬที่ร่างของมันถูกจับทุ่มยังไม่ทันจะตอบสนองอะไรก็พบว่าชายหนุ่มมาโผล่ที่ด้านหน้าของมันอีกครั้ง!

ตู้ม! โพล๊ะ!!

ชายหนุ่มเหวี่ยงหมัดขวาซัดเข้ากลางศีรษะของสุนัขเพลิงทมิฬอย่างแรง แรงอัดกระแทกทำให้สมองของมันระเบิดอยู่ภายในศีรษะ สิ้นใจตายทันที

“อะ..อะ...นาย เป็นใครกันแน่” หญิงสาวเพียงคนเดียวที่ยังเหลือรอดอยู่กล่าวออกมาด้วยสายตาเหม่อลอย ภาพตรงหน้าของเธอมันน่าเหลือเชื่อเกินไปจริง ๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด