ว่าที่ผู้ผลิตอนาคตไกลคนใหม่! (อ่านฟรี 24/04/2567)
“อืม” ชายหนุ่มกล่าวออกมาสั้น ๆ หลังจากที่ตรวจเช็ค สเตตัชของตนเอง
“เป็นยังไงบ้าง ?” หญิงสาวถามขึ้นทันทีด้วยความอยากรู้
“เลเวล 1 ส่วนที่เหลือข้าก็ไม่เข้าใจเช่นกัน” ชายหนุ่มตอบกลับไปสั้น ๆ เขายังไม่แน่ใจว่าตัวเลขค่าสเตตัชในตอนนี้ของเขามันอยู่ในระดับไหน การพูดออกไปคงมีผลเสียมากกว่าผลดี จึงเลือกบอกแค่เลเวลอย่างเดียว
“แปลกแหะ ช่างเถอะ นายต้องรีบไปทำการทดสอบแล้วนะ เดี๋ยวจะตกรอบเอา” หญิงสาวกล่าวออกมาด้วยความมึนงงในตอนแรก ก่อนจะเปลี่ยนท่าทีเป็นร้อนลนเพราะเห็นว่าถึงคิวของชายหนุ่มต้องเข้ารับการทดสอบแล้ว
ถ้าพลาดการทดสอบหลังปลุกพลังไป จะต้องไปเข้าคิวใหม่อีกเกือบหนึ่งเดือนเลย มันเสียเวลามากทีเดียว เพราะระหว่างนั้นจะไม่สามารถเข้าสู่หอหอยหรือดันเจี้ยนไหน ๆ ได้ทั้งนั้นถ้าไม่เคยลงทะเบียนนักผจญภัยมาก่อน
แต่ก็มีบางพวกที่ไม่ได้ลงทะเบียนนักผจญภัยเช่นกัน พวกนั้นก็คือเหล่าองค์กรมืดต่าง ๆ ที่ใช้ช่องทางลับลักลอบหาผมประโยชน์เข้าองค์กรตัวเอง ถึงจะมีการตั้งค่าหัวหรือพยายามกำจัดยังไงก็ทำไม่ได้เสียที
“งั้นข้าขอตัวก่อน” ชายหนุ่มกล่าวลาเสร็จเขาก็เดินไปยังห้องที่มีคนกำลังเข้าแถวรอรับการทดสอบอยู่
“คริสกุซ เซอวัล! คริสกุซ เซอวัล!! อยู่ไหนเนี่ย จะทดสองไหม!!” มีเสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นด้วยความหงุดหงิด เพราะเขาเรียกหาชื่อนี้อยู่เป็นนาทีแล้ว
ผู้ปลุกพลังหน้าใหม่เกือบทุกคนล้วนเกรงใจพวกเขากันทั้งนั้น เพราะถ้าไม่ได้เข้ารับการทดสอบแล้วลงทะเบียนกับทางสมาคม ก็ไม่สามารถเข้าร่วมกิลด์หรือรับงานใด ๆ ได้ ดังนั้นเมื่อถึงคิวเข้ารับการทดสอบทุกคนล้วนกระตือรือร้นมารอกันทั้งนั้น
แต่นี่อะไร! หายหัวไปเป็นนาทีไม่ยอมตอบรับเลยสักนิด ทุกคนในห้องเข้ารับการทดสอบต่างพากันนิ่งเงียบกันหมด แต่ในใจพวกเขาล้วนรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย ถ้าไม่ได้มีเบื้องหลังใหญ่โตหรือพลังที่มากล้น ล้วนไม่มีใครกล้าทำตัวไร้มารยาทกับพวกผู้ทดสอบ เพราะอาจโดนกลั่นแกล้งได้!
“ข้าเอง” มีเสียงเรียบนิ่งดังขึ้น ทำให้ทุกสายตาพากันหันไปมองหน้าของคนที่ใจกล้าปล่อยให้ผู้ทดสอบรอคนนั้น
“นายเองเหรอ? ไปไหนมาทำไมชักช้าแบบนี้!” ผู้ขานชื่อคนนั้นกล่างออกมาอย่างหงุดหงิด
“พอดีข้าหลงทางนิดหน่อย ขอโทษด้วย” ชายหนุ่มกล่าวขอโทษออกมา เมื่อเขาผิดพลาดเขาก็พร้อมยอมรับผิดอย่างไร้ข้อแม้ ถ้ามันมีเหตุผลมากพอ
“เฮอะ! พวกบ้านนอกก็เป็นซะแบบนี้!” ชายคนที่เรียกชายหนุ่มมาสบถออกมาเบา ๆ
“ก่อนอื่นก็ยืนยันข้อมูลกันก่อน ชื่อ คริสกุซ เซอวัล อายุ 18 ปี อาชีพผู้กลืนกินสรรพสิ่ง กรอบสีขาว-สีเทา เพิ่งเคยเข้ารับการทดสอบปลุกพลังและมาทดสอบร่างกายครั้งแรก ถูกต้องไหม ?” ชายคนเดิมกล่าวออกมาแล้วถามชายหนุ่มกลับไป
“ถูกต้องตามนั้น” ชายหนุ่มตอบกลับไปสั้น ๆ
ถึงแม้เขาจะไม่เห็นว่าอาชีพเขาจะมีสีกรอบอะไรก็เถอะ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายลงทะเบียนให้ว่ากรอบสีขาว-สีเทาก็คงดีเหมือนกัน มันจะได้ไม่เป็นจุดเด่นเท่าไหร่
ดูเหมือนจะต้องทดสอบเกี่ยวกับอาชีพของเขาซะก่อนว่าเป็นสายต่อสู้หรือสายผลิต ค่อยลงทะเบียนสีกรอบให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
“ได้รับทักษะอะไรมาบ้างไหม ? ช่วยบอกชื่อทักษะกับระดับทักษะมาหน่อย” ชายคนเดิมถามต่อ เพราะปกติผู้ปลุกพลังส่วนใหญ่จะได้ทักษะติดตัวมาด้วยเมื่อปลุกพลังสำเร็จ
ครึ่งหลัง
“ได้มาหนึ่งทักษะ ชื่อมหาธาตุจำนนระดับ F” ชายหนุ่มตอบกลับไปอย่างไม่ปิดบัง เขายังไม่ทราบเหมือนกันว่าทักษะนี้มันดีหรือไม่ เพราะตอนนี้มันก็แค่ทักษะระดับ F เท่านั้น
“ชื่อฟังดูยิ่งใหญ่ดีนะ แล้วมันทำอะไรได้บ้างล่ะ ?” ชายที่เรียกชื่อชายหนุ่มในตอนแรกถามต่อ
“ช่วยให้ข้าสามารถควบคุมแร่ธาตุ สสาร ทุกอย่างที่ไร้ชีวิตได้” ชายหนุ่มตอบกลับไปตามความเข้าใจของตน
หลังจากที่เขาได้รับทักษะมาก็ดูเหมือนว่าความรู้และวิธีการใช้งานทักษะนั้น ๆ จะถูกถ่ายทอดให้กับตัวเขาโดยตรง ซึ่งทักษะนี้ก็เป็นดั่งที่เขากล่าวไป แต่ความจริงนอกจากควบคุมแน่ธาตุและสสารแล้ว เขายังสามารถใช้พลังเวทย์ได้ทุกธาตุถ้ามีทักษะพลังเวทย์ธาตุนั้นในครอบครอง ซึ่งในตอนนี้ชายหนุ่มมีเพียงทักษะเพลิงทมิฬระดับ D ทำให้เขาสามารถควบคุมได้แค่ธาตุไฟจากเพลิงทมิฬเท่านั้น
แต่นอกจากจะควบคุมแร่ธาตุได้ง่ายขึ้นแล้ว ทักษะมหาธาตุจำนนยังทำให้พลังเวทย์ของธาตุนั้น ๆ เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย รวมถึงตัวเขาสามารถดูดซับพลังเวทย์จากธาตุนั้น ๆ ของผู้อื่นหรือมอนสเตอร์ได้โดยไม่มีเงื่อนไข เพียงแต่ตอนนี้มันสามารถดูดซับได้เล็กน้อยเพราะยังเป็นทักษะระดับ F
นอกจากนี้เขายังสามารถควบคุมสสารและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วให้หลอมรวม เปลี่ยนแปลง เพิ่มลด ได้ตามใจนึก เพียงแต่ตอนนี้ยังสามารถควบคุมได้ในปริมาณที่น้อยมากเท่านั้น ให้ยกตัวอย่างก็ สามารถควบคุมช้อนให้เปลี่ยนรูปร่างเป็นส้อม หรือมีดตัดสเต็กได้
“เหมือนจะเป็นสายผลิตนะ ทักษะนี้มีประโยชน์ในการผลิตมากทีเดียว ถ้านายผันตัวไปเป็นนักประดิษฐ์หรือผู้สร้างคงสร้างชื่อได้ไม่ยากเลยล่ะ!” ผู้ขานชื่อกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น
แม้ผู้ปลุกพลังสายผลิตจะไม่ได้มีชื่อเสียงและหน้าตาแบบนักผจญภัยที่คอยออกหน้า แต่ก็ล้วนเป็นที่นับถือของเหล่าผู้คนไม่แพ้กัน เพราะทั้งผู้ปลุกพลังและผู้คนทั่วไปถ้าอยากได้สิ่งของที่ดี ระดับสูง ก็ต้องพึ่งพาผู้ปลุกพลังสายผลิตกันทั้งนั้น!
ดูเหมือนจะเจอผู้ผลิตอนาคตไกลอีกคนแล้วสิ!
“นายสนใจเข้าร่วมสมาคมนักประดิษฐ์ไหม มันถูกจัดตั้งโดยรัฐบาล ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินทุน เงินเดือน ชื่อเสียง วัตถุดิบ พวกเรามีให้นายทั้งหมด!” ผู้ขานชื่อกล่าวเสนอเงื่อนไขแสนหอมหวานทันที นี่ก็เป็นหนึ่งในข้อได้เปลี่ยนของรัฐบาลที่สามารถเสนอเงื่อนไขและดึงตัวผู้ปลุกพลังได้ก่อน เพราะพวกเขาเป็นคนควบคุมแท่นปลุกพลังนั่นเอง
ส่วนบรรดากิลด์อื่น ๆ ก็ต้องรอผู้ปลุกพลังลงทะเบียนเสร็จเสียก่อนถึงจะมีโอกาสในการดึงตัวในภายหลัง
แต่บรรดาผู้ปลุกพลังส่วนใหญ่ก็ล้วนเข้าร่วมกับกิลด์ต่าง ๆ มากกว่า เพราะกิลด์ต่าง ๆ นั้นมีชื่อเสียงและข้อเสนอที่ดีกว่าทางรัฐบาลมากนัก
“ข้าก็ไม่แน่ใจ แต่ข้าอยากเป็นนักผจญภัยมากกว่า” ชายหนุ่มตอบกลับไป เพราะเขาไม่มีความคิดจะอยู่แนวหลังแล้วสร้างสิ่งของไปวัน ๆ เลยสักนิด
“เฮ้อ! น่าเสียดาย แต่นั่นก็เป็นการตัดสินใจของนาย เอาเป็นว่าถ้าผ่านการทดสอบได้ นายก็สามารถเป็นนักผจญภัยได้ แต่ถ้าไม่ผ่าน ประตูแห่งผู้สร้างสรรค์ก็ยังรอนายอยู่เสมอ” ผู้ขานชื่อถอนหายใจด้วยความเสียดาย ก่อนจะกล่าวออกมาอย่างไม่ยอมแพ้
“ข้าจะจำเอาไว้ ขอบใจเจ้ามาก” ชายหนุ่มตอบกลับไป
“เอาล่ะ นายเดินเข้าห้องทางด้านขวามือนะ มีทั้งหมด สิบห้อง เข้าไปทีละห้องเพื่อทดสอบร่างกาย” ผู้ขานชื่อกล่าวออกมา ชายหนุ่มก็พยักหน้ารับก่อนจะเดินไปยังห้องหมายเลข 1
ด้านในห้องแห่งนี้มีเป้าซ้อมอยู่ทั้งหมด สิบเป้า ซึ่งแต่ละเป้าจะเชื่อมกับเครื่องวัดพลังที่อยู่ด้านหลัง แต่ละเป้าก็มีแถวของบรรดาผู้ปลุกพลังที่มาเข้ารับการทดสอบยืนรออยู่
ตู้ม! เปรี้ยง!
ผู้ปลุกพลังแต่ละคนล้วนใช้มือเปล่าซัดเข้าใส่เป้าเพื่อวัดพลังของตัวเอง หลังจากตัวเลขวิ่งขึ้นไปจนหยุดนิ่ง ผู้จดคะแนนก็จะส่งใบคะแนนให้กับผู้ปลุกพลังเหล่านั้นเพื่อไปยังห้องถัดไป
ดูเหมือนห้องแห่งนี้คือห้องวัดพลังนั่นเอง!