ผู้จัดการ ปะทะ พนักงานส่งอาหาร แข่งความร่ำรวย! (อ่านฟรี 12/04/2567)
“แกเป็นใคร ? มีสิทธิอะไรมาคิดจะแตะต้องฉัน” ฮวาหวู่หลิงกล่าวออกมาด้วยเสียงอันเย็นชา มือของเธอยังยกค้างเอาไว้ เมื่อสักครู่เธอปัดมือของชายตรงหน้าออกอย่างแรง
“แก! นังตัวดี กล้าดียังไงมาปัดมือฉัน !” เหอจุนกล่าวออกมาด้วยความโกรธ ตั้งแต่นั่งตำแหน่งผู้จัดการมาเขายังไม่เคยถูกทำให้ขายหน้าขนาดนี้มาก่อน
“ใช่ เธอกล้าดียังไงมาทำร้ายที่รักของฉัน ฉันจะตีแกให้ตาย!” หญิงสาวแต่งตัวเซ็กซี่ซึ่งมาด้วยกันกับเหอจุนกล่าวออกมาเสียงแหลม ก่อนจะเดินเข้าไปหาฮวาหวู่หลิงอย่างเอาเรื่อง
แต่ก็มีร่างของชายหนุ่มในชุดเก่า ๆ เดินเข้ามาขวางทางเอาไว้ ชายคนนั้นยืนนิ่งไม่ยอมให้อีกฝ่ายเดินไปต่อ ต้องยอมรับว่าเมื่อกี้ตอนเหอจุนเอื้อมมือออกมามันฉุกละหุกจริง ๆ ไม่มีใครคิดว่าชายคนนั้นจะกล้าทำเรื่องโง่ ๆ ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ได้ พวกบอดี้การ์ดที่ทำท่าจะวิ่งเข้ามาหลังจากเห็นภาพตรงหน้าก็ต้องหยุดลงอีกครั้ง เพราะคุณหนูส่งสัญญาณว่ายังไม่ต้องเข้ามา
“เธอไม่ควรจะทำร้ายเพื่อนของนะ มีอะไรก็พูดคุยกันดี ๆ เถอะ” ชายหนุ่มกล่าวออกมาเสียงเรียบ
ในตอนที่หญิงสาวจะเถียงออกมาก็ได้มีพนักงานสาวเดินเข้ามาเสียก่อน เธอมายืนกั้นระหว่างทั้งสองฝ่ายเอาไว้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้
“คุณลูกค้าคะ ทางร้านไม่อนุญาตให้ใช้ความรุนแรงทุกกรณีภายในร้านนะคะ ไม่อย่างนั้นทางร้านจะต้องเชิญตำรวจมาค่ะ” พนักงานสาวกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม
“โถ่ คุณพนักงาน พวกเราเป็นเพื่อนกันครับ แค่หยอกล้อกันเท่านั้นเอง” เหอจุนกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มปลอม ๆ บนใบหน้า
“จริงเหรอคะ ?” พนักงานสาวหันมาหาเย่เซวียนก่อนจะถามออกมา
“ใช่ครับ แต่ก็แค่เพื่อนเก่าน่ะ” ชายหนุ่มตอบกลับไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ถ้าอย่างนั้น มีอะไรให้รับใช้เรียกฉันได้ตลอดเวลาเลยนะคะ” พนักงานสาวกล่าวออกมาก่อนจะเดินจากไป เพราะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นถ้าเธอยังยืนอยู่ต่อจะเป็นการเสียมารยาทเอาซะเปล่า ๆ
“เฮอะ! ดีนะพนักงานมาห้ามไว้ แต่ถามหน่อยเหอะ ว่าไอ้บ้านนอกยากจนแบบแกเข้ามาทำอะไรในร้านหรูแบบนี้ ? จะขโมยของรึไง ?” เหอจุนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงดูถูก เขารังเกียจคนยากจนที่ไม่รู้ฐานะตัวเองแบบชายตรงหน้าเอามาก ๆ มันทำให้อารมณ์ของเขามันเสียไปหมดเวลาเจอคนพวกนี้
“หุบปาก! คำก็บ้านนอก คำก็ยากจน แกไปรวยมาจากไหน ? เทียบกับฉันแล้วหน้าอย่างแกจะไปเรียกว่ารวยได้ยังไง !” ฮวาหวู่หลิงกล่าวขึ้นมาเสียงดังอย่างไม่ไว้หน้า เธอไม่ชอบท่าทางของชายตรงหน้าแม้แต่น้อย
“แกนั่นแหละนั่งบ้า! หุบปากไปซะ! พี่เหอจุนเป็นถึงผู้จัดการของบริษัทฟงเหว่ยเทียนเลยนะ เงินเดือนสองแสนหยวน! พวกเธอสองคนมีปัญญาหาเงินได้แบบเขาหรือไง ?” หญิงสาวแต่งตัวเซ็กซี่ชี้หน้าฮวาหวู่หลิงกับเย่เซวียนก่อนจะกล่าวออกมา
ถ้าไม่ใช่เพราะเหอจุนให้เงินเธอใช้เดือนละหลายหมื่นหยวนเธอคงไม่ทนคบกับเขามาจนถึงตอนนี้หรอก แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ คนทั่วไปใครมันจะไปหาเงินได้เดือนละสองแสนหยวนแบบเหอจุนกัน เพราะเหตุนั้นเธอจะต้องเกาะเขาเอาไว้ให้ดีที่สุด!
“นายได้เป็นถึงผู้จัดการบริษัทเลยเหรอ แถมเงินเดือนตั้งสองแสนหยวน!” เย่เซวียนที่ได้ยินสิ่งที่หญิงสาวพูดก็กล่าวออกมาด้วยความตกใจ
เขาไม่ได้แกล้งทำ แต่เขาตกใจจริง ๆ ที่เพื่อนซึ่งเรียนประถมมาด้วยกันที่ชนบทกลับหางานในเมืองซึ่งเงินเดือนมากถึงสองแสนหยวนได้แบบนี้
“เฮอะ! เงินมันก็ตามความสามารถนั่นแหละ ว่าแต่นายทำงานอะไรล่ะ ? ขอทานรึเปล่า ?” เหอจุนถามกลับมา ด้านฝ่ายที่ถูกถามก็เริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาเหมือนกัน แต่เขายังนิ่งไว้ก่อน รอให้สถานการณ์สุกงอมแล้วเก็บเกี่ยวทีเดียว
“ฉันทำงานเป็นพนักงานส่งอาหาร กับส่งของน่ะ เงินเดือนราว ๆ แปดพันหยวนเลยนะ” ชายหนุ่มตอบกลับไป
“แค่นั้นอะนะ ?!” เหอจุนได้ยินก็แกล้งถามด้วยความตกใจ เยาะเย้ยอีกฝ่าย
“ไม่ใช่แค่นั้นหรอก ฉันยังเปิดร้านขายของเก่า ของหายากด้วย ถึงมันจะขายไม่ค่อยได้ก็เถอะ” ชายหนุ่มกล่าวเสริมต่อ
“ฮ่าฮ่าฮ่า นายนี้ตลกจริง ๆ เอาเงินนี่ไปสิ เห็นแก่เป็นเพื่อนเก่ากัน ฉันให้ไว้กินข้าวก็แล้วกัน” เหอจุนปาเงินใส่หน้าเย่เซวียนที่ยืนอยู่แล้วหัวเราะออกมา
ครึ่งหลัง
“นายจะทำอะไรน่ะ!” ฮวาหวู่หลิงกล่าวออกมาเสียงดัง เธอเห็นชายหนุ่มย่อตัวลงไปเก็บแบงค์ร้อยหยวนที่กระจายอยู่ตามพื้น
นี่อย่าบอกนะว่าเขาไม่มีศักดิ์ศรีเหลืออยู่เลย ทำไมต้องไปเก็บเศษเงินแบบนั้นกัน ? ถึงเขาจะเดือดร้อนเรื่องเงินมากแค่ไหนแต่ก็ไม่ควรจะทำแบบนั้น ! อีกอย่างบัตรธนาคารที่คุณยายของเธอให้มามันก็ใช้จ่ายได้ไปอีกนานด้วยซ้ำ เธอไม่เข้าใจเลยจริง ๆ
“ฮ่าฮ่า นั่นแหละ เก็บเข้า นายมันยากจนมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้วนี่นา ฉันให้เงินไม่กี่หยวนเพื่อให้นายคอยทำนั่นนี่ให้ นายก็ทำโดยไม่บ่นเลย” เหอจุนหัวเราะเยาะออกมาอีกครั้ง เขาคิดเอาไว้แล้วว่าไอ้บ้านจนตรงหน้ามันต้องเก็บเงินที่เขาปาใส่แน่ ๆ
ก็ขนาดตอนเรียนเขาให้มันสิบหยวนเพื่อให้มันทำเวรให้มันก็ทำ หรือให้ห้าหยวนเพื่อให้มันไปต่อแถวซื้อของกินให้มันก็ไม่บ่น ช่างใช้งานสะดวกเสียจริง
พวกบ้านจนไม่มีเงินทองก็ลำบากแบบนี้แหละนะ!
“เงินมันก็คือเงินนี่นา มันไม่มีความผิดอะไรสักหน่อย” เย่เซวียนกล่าวออกมาหลังจากที่เก็บเงินเสร็จ เขานับคร่าว ๆ แล้วมีแบงค์ร้อยหยวนอยู่ประมาณหนึ่งร้อยใบ ได้เงินมาปึกนึง
“แต่ว่า...ถ้ามันมาจากขยะแบบแก ฉันก็ไม่ต้องการหรอก!” ชายหนุ่มกล่าวเสียงดังก่อนจะจับเงินทั้งปึก ฟาดหน้าอีกฝ่ายพร้อมกับฝ่ามือของเขาที่ตามเงินปักนั้นไปด้วยอย่างแรง ด้วยการทำแบบนี้ก็เหมือนเอามือฟาดหน้าแต่มีปึกเงินบังฝ่ามืออยู่เท่านั้นแหละ ทำให้อีกฝ่ายล้มไปกองกับพื้นในทันที
ถุย! แปะ!
หลังอีกฝ่ายลงไปกองกับพื้นเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็ถุยน้ำลายใส่หน้าอีกฝ่ายไปทีนึง ถึงเขาจะไม่ค่อยฉลาดนัก ยากจน ร่างกายก็ธรรมดา แต่ศักดิ์ศรีเขาก็ยังพอมีอยู่บ้าง จะให้ทนโดนดูถูกนาน ๆ มันก็ไม่ไหวเหมือนกัน!
“ตบได้ดี! นี่สิลูกผู้ชาย” ฮวาหวู่หลิงกล่าวชื่นชนออกมา นี่สิค่อยน่าสนุกหน่อย คุ้มกับการที่เธอยังไม่ให้พวกบอดี้การ์ดเข้ามา
“แก! แกตบฉัน! ฉันจะแจ้งความ!!” เหอจุนกล่าวออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวพลางเอาผ้าเช็ดหน้าจากหญิงใส่ชุดเซ็กซี่ข้างกายมาเช็ดน้ำลายออกไป แม้จะไม่ได้บาดเจ็บอะไรนัก แต่เขาเสียหน้าเป็นอย่างมาก
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ? คุณลูกค้า” พนักงานสาวได้ยินเสียงโวยวายเลยเดินเข้ามาดูอีกหน คราวนี้เหมือนจะเกิดเรื่องขึ้นแล้วจริง ๆ
“ผู้ชายคนนั้นมันตบหน้าผม!” เหอจุนกล่าวออกมาทันที
“ใช่ค่ะ ฉันเป็นพยานให้ได้” แฟนสาวของเขาก็รีบกล่าวเสริมออกมา
“เฮอะ! ก็แกดูถูกเขา แถมยังเอาเงินปาใส่หน้าเขาก่อนเองนี่ เขาก็แค่ปาคืนเท่านั้นเอง อีกอย่างไอ้สวะอย่างแก มันไม่มีค่าพอมาทำให้เขาเสียอารมณ์ด้วยซ้ำ” ฮวาหวู่หลิงกล่าวออกมาอย่างไม่ไว้หน้า
“น้ำหน้าอย่างมันเนี่ยนะ! เธอหลงมันจนฝันไปแล้วรึไง ?” เหอจุนชี้หน้าเย่เซวียนก่อนจะถามออกมา
“หุบปาก! คำก็ดูถูก สองคำก็ดูถูก แกรวยมาก ฉันจนมาก งั้นมาแข่งกันหน่อยเป็นไง ?” เย่เซวียนกล่าวออกมาเสียงดังอย่างหมดความอดทน
“ถ้าไม่กล้ารับคำท้าก็ไม่ต้องมาปากดีอีก แล้วยอมรับซะว่าแกมันก็แค่ไอ้ขี้ขลาดที่กลัวคนบ้านนอก ยากจนแบบฉัน” เย่เซวียนกล่าวเสริมต่อโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับ เขาต้องการยั่วยุให้ถึงขีดสุด !