บทที่ 10 ทำไมเกิดใหม่แล้วถึงเลวร้ายกว่าเดิม?
บทที่ 10 ทำไมเกิดใหม่แล้วถึงเลวร้ายกว่าเดิม?
เป็นแบบนี้อีกแล้ว! ทำไมมันเป็นแบบนี้อีกแล้ว!
ในชีวิตก่อน ศิษย์พี่ของเขาตกงาน สุดท้ายกลายเป็นคนไร้จุดหมายตลอดชีวิต!
แต่พอเกิดใหม่ สภาพดูจะแย่กว่าเดิมซะอีก! เพราะไม่ถึงสองวัน ศิษย์พี่ก็ถูกส่งเข้าห้องขัง!
ส่วนตัวเอกเซียวเฉินที่เกิดใหม่มาได้สองวัน เขายังไม่ทันทำอะไรเลย ก็ถูกส่งมานอนโรงพยาบาลแล้ว
ทำไมกันนะ! ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าโลกใบนี้กำลังอาฆาตแค้นเขา!
นี่สรุปแล้วพระเจ้ากำลังคิดช่วยเหลือเขา? หรือช่วยเหลือปีศาจร้ายหลินเป่ยฝานกันแน่!?
หรือว่าฉันจะต้องพ่ายแพ้อีกครั้ง?
ไม่!
ฉันจะไม่มีวันยอมรับความพ่ายแพ้!
เซียวเฉินคำรามในใจ ‘พระเจ้าให้โอกาสฉันแล้ว เพื่อล้างความเสียใจทั้งหมดที่เคยได้รับ ฉันต้องโค่นปีศาจร้ายหลินเป่ยฝานให้จงได้! นี่มันเพิ่งแค่เริ่มต้น รอฉันก่อนเถอะหลินเป่ยฝาน!’
“ฉันจะเอาคืนในสิ่งที่แกทำเป็นสิบเท่าร้อยเท่า!”
อีกด้านหนึ่ง
หลินเป่ยฝานก็กำลังคิดคล้ายๆกัน เขารู้ดีว่าต่อให้แขนทั้งสองข้างของเซียวเฉินถูกตัด ก็ยังไม่สามารถประมาทได้
เพราะอีกฝ่ายเป็นลูกรักของพระเจ้า ฉะนั้นไม่มีทางล้มเหลวง่ายๆ มันก็เหมือนนิยายทุกเรื่อง ตัวเอกพลาดท่าก็ยังไม่ตาย แต่ตัวร้ายพลาดทีเดียวก็จบ!
ถ้าปล่อยให้เซียวเฉินมีเวลาพักหายใจ อีกฝ่ายต้องโต้กลับเขา!
แต่หลินเป่ยฝานไม่อาจสนใจแค่เซียวเฉินคนเดียว ... เพราะในโลกใบนี้ยังมีตัวเอกอีกหลายคน!
และไม่ใช่แค่ตัวเอกเท่านั้น แต่ยังมีตัวร้ายรายใหญ่อีกมากมาย!
คนพวกนี้ล้วนมีทักษะขั้นสูง และได้รับการปกป้องคุ้มครองจากวิถีสวรรค์ ตราบใดที่เขาเปิดเผยจุดอ่อนเพียงเล็กน้อย อาจโดนอีกฝ่ายจับได้ แล้วถูกทุบตีแสนสาหัส!
ศัตรูสามารถล้มเหลวเสียทีหลายครั้งหลายคราได้ แต่หลินเป่ยฝานหากล้มเหลวซักครั้ง มันคือจุดจบ!
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าเขาจะไม่ใจอ่อนกับตัวเอก! แต่ทุกการลงมือต้องกระทำโดยไม่เปิดเผยร่องรอยใดๆ ทุกอย่างต้องหมดจด!
ส่วนเรื่องที่ตัวเขาเองทำไม่ได้? ก็ไม่ต้องทำ! แค่ยืมมือคนอื่นก็พอ!
หลินเป่ยฝานไม่กล้าพูดว่าตัวเองไร้เทียมทาน แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่แพ้ใครง่ายๆ!
แล้วอีกอย่าง เขารู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองเพิ่งทำไป มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ! ยังไม่ถึงขั้นมาตรฐานวายร้ายตัวเป้งเลย!
ในชีวิตก่อน เขาอาศัยวิธีการต่างๆนาๆ เล่นงานพวกตัวเอกจนรู้สึกว่ามีชีวิตอยู่ไม่สู้ยอมตาย ทุกคนล้วนหวาดกลัวเมื่อพบเขา!
ทุกคนต่างขนานนามเขาว่าราชาปีศาจจุติ!
และยิ่งเขาได้เกิดใหม่รอบที่สาม ก็ยิ่งมีความสามารถมากขึ้น ขนาดนี้แล้วยังจะสู้พวกตัวเอกไม่ได้อีกเหรอ!
“ค่อยๆเล่นกันไป ไม่ต้องรีบร้อน!”
หลินเป่ยฝานเดินทางไปโรงพยาบาลซ่งต่อด้วยอารมณ์ดี
ขณะนี้ ซ่งหยูฉิงกำลังวุ่นจนหัวหมุนอยู่กับการจัดการเรื่องของจ้าวซือหมิง
เมื่อเห็นหลินเป่ยฝานเข้ามาเธอก็ถามว่า “ฉันได้ยินว่าคุณก็อยู่ในเหตุการณ์ เป็นพยานคนหนึ่ง สถานการณ์มันเป็นยังไง?”
“ตอนนั้นฉันบังเอิญไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมเซียวเฉิน แต่เพิ่งถึงหน้าประตูหอผู้ป่วย ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนดังมาจากข้างใน! เสียงนั้นน่าสังเวชมาก สะเทือนไปทั่วตัวอาคาร!”
“เพราะงั้นก็เลยบุกเข้าไปพร้อมพวกหมอกับพยาบาล แล้วก็เห็นว่าจ้าวซือหมิงกำลังถือเข็มเงินเล่มหนาแทงเข้าอกเซียวเฉิน! ได้ยินว่าจุดที่แทงอยู่ใกล้หัวใจ ทั้งยังลึก 7 - 8 เซนติเมตร มันน่ากลัวมาก”
“หลังจากนั้น จ้าวซือหมิงก็ถูกพวกเราที่บุกเข้าไปคุมตัวไว้ ไม่นานตำรวจก็มา สถานการณ์คร่าวๆก็จะประมาณนี้!”
หลินเป่ยฝานอธิบายอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการพูดเกินจริงใดๆ
ซ่งหยูฉิงพอฟังก็ขมวดคิ้ว “แต่ทำไมหมอจ้าวถึงอยากฆ่าคน? แถมฉันได้ยินว่าคนๆนั้นยังเป็นศิษย์น้องของเขา มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน นี่มันไม่มีเหตุผลเลย!”
“ในระหว่างกระบวนการจับกุม อีกฝ่ายยืนกรานว่าเขาแค่กำลังฝังเข็ม แต่นั่นไม่ใช่การช่วยคน มันเหมือนฆ่าคนมากกว่า! คนบ้าที่ไหนใช้เข็มยาวและหนาขนาดนั้นช่วยคน? แถมยังแทงแถวๆบริเวณหัวใจ”
ซ่งหยูฉิงถอนหายใจ เธอยังไม่อยากเชื่อว่าอีกฝ่ายจะทำแบบนี้!
แต่ไม่เชื่อแล้วไง? ในเมื่อทุกอย่างมีหลักฐาน อีกทั้งยังมีผู้เห็นเหตุการณ์ด้วย
แค่ไม่ทราบแรงจูงใจเท่านัน!
แล้วอีกอย่าง อีกฝ่ายเป็นหมอ กล้าก่อเหตุฆาตกรรมในโรงพยาบาล ผลลัพธ์ยิ่งเลวร้าย!
พวกตำรวจเอาจริงแน่!
หลินเป่ยฝานถามว่า “เรื่องนี้คุณจะจัดการยังไง?”
“ฉันจะจัดการยังไงได้อีก” ซ่งหยูฉิงพูดอย่างหมดหนทาง “ไม่ว่าจะบริสุทธิ์หรือไม่ก็ตาม เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อโรงพยาบาลของเรา ใครจะกล้ามารักษากับหมอแบบนี้? เราจ้างเขาไม่ได้แล้ว! ตอนนี้ก็พักงานเขาชั่วคราว เอาไว้พิสูจน์ว่าบริสุทธิ์เมื่อไหร่ ค่อยหาเหตุผลไล่เขาออก!”
“เอาล่ะๆ หยุดพูดเรื่องเลวร้ายกันเถอะ ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว พวกเราไปหาอะไรกินกัน! ฉันเจอร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ ได้ยินมาว่ารสชาติดี ไปลองด้วยกันเถอะ!” หลินเป่ยฝานพูดด้วยความคาดหวัง
“กินอีกแล้ว! นายก็รู้จักแต่หาของกิน!” ซ่งหยูฉิงบ่นด้วยความโกรธ
“แล้วจะไปมั้ย?”
“ไปอยู่แล้ว! เพราะท้องอิ่มเท่านั้นถึงจะลดน้ำหนักได้!”