บทที่ 1 พรที่ฉันขอจากระบบ ศัตรูจะได้รับเป็นสองเท่า!
บทที่ 1 พรที่ฉันขอจากระบบ ศัตรูจะได้รับเป็นสองเท่า!
“ย้อนกลับมาอีกแล้ว!”
ในสำนักงานหรูหรา ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งถอนหายใจ
เขาชื่อว่าหลินเป่ยฝาน ปีนี้อายุ 20 ปี เป็นผู้ทะลุมิติมายังโลกนิยายประเภทยุคปัจจุบันที่มีอยู่กลาดเกลื่อนในช่องทางออนไลน์ กลายเป็นนายน้อยวายร้ายที่มักพ่ายแพ้ มีค่าแค่ให้พวกตัวเอกตบหน้า
วายร้ายที่ทำได้แค่ขอเงินจากพ่อแม่ ทำอะไรดีๆไม่เป็นซักอย่าง ตลอดทั้งวันเอาแต่ดื่มเหล้าสร้างปัญหา
และเมื่อเขาหมายปองนางเอกคนแรกอย่างซ่งหยูฉิง ก็เกิดการเผชิญหน้ากับพระเอกคนแรกเช่นกัน สุดท้ายถูกทุบตียับเยิน
ในช่วงแรกๆเขาก็ยังมีสติดีอยู่หรอก แต่พอล้มเหลวมากขึ้นๆ ยิ่งนานก็ยิ่งสูญเสียสติปัญญาและความนึกคิดไป ทำหลายสิ่งที่ทำให้ผู้คนโกรธแค้น สุดท้ายตระกูลถูกทำลาย แม้จุดจบจะรอดชีวิตมาได้ แต่ก็กลายเป็นบ้า โดนจับโยนเข้าโรงพยาบาลโรคจิต!
ช่างเป็นพล็อตที่ล้าสมัยและเชยมาก!
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ถือกำเนิดใหม่ในรอบที่สอง เขาผู้ที่รู้ทิศทางของโครงเรื่องไหนเลยจะยอมเดินตามเส้นทางเดิมอีก?
ไม่มีทางซะล่ะ!
และโชคดี ที่ตอนเกิดใหม่รอบสองเขาได้เชื่อมต่อกับระบบ มันชื่อว่าระบบขอพร เป็นระบบที่ช่วยให้เขาสามารถบรรลุความปรารถนาของตัวเองได้
เป็นไง? ฟังดูดีแถมยังทรงพลังมากเลยใช่ไหม ทว่าระบบนี้มีข้อเสียสามประการ
ประการแรก สามารถขอพรได้วันละ 1 ครั้งเท่านั้น
ประการที่สอง พรที่ว่าต้องขอให้ตัวเอง ความปรารถนาจะเป็นจริงได้ก็เฉพาะเมื่อขอให้กับตัวเองเท่านั้น ไม่สามารถขอพรให้ผู้อื่นได้
ตัวอย่างเช่น หากขอให้พ่อแม่มีสุขภาพแข็งแรง นั่นทำไม่ได้ แต่ถ้าขอให้ตัวเองมีสุขภาพดี สามารถทำได้
ประการที่สาม พรที่ขอต้องสอดคล้องกับกฏพื้นฐาน ไม่สามารถล้ำเส้นหรือโอเวอร์เกินกว่านิยายประเภทยุคปัจุบันในเรื่องอื่นๆ และสามารถคงอยู่ได้เพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น
หากคิดขอพรให้เป็นอมตะ อายุยืนตราบชั่วฟ้าดินสลาย นั่นไม่อาจสัมฤทธิ์ผล ...
ได้โปรดเถอะ! นี่คือนิยายประเภทยุคปัจจุบัน ไม่ใช่นิยายประเภทเทพเซียน พรที่เกินจริงไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้!
แม้จะมีข้อเสียหลายประการ แต่ก็ไม่ได้ลดทอนอานุภาพของมัน
ดังนั้นในชีวิตที่สอง หลินเป่ยฝานจึงอาศัยความสามารถของระบบ ทำลายพล็อตเดิมทั้งหมด ตบคว่ำพวกตัวเอก กลายเป็นสุดยอดวายร้ายขั้นเทพ สร้างความปั่นป่วนไปทั้งโลก
แต่แล้วในการกลับมาเกิดใหม่ครั้งที่สามของเขา สวรรค์คล้ายไม่ต้องการให้เกิดพล็อตเรื่องแบบเดิม รอบนี้จึงส่งเขามาเกิดใหม่พร้อมคำสาป
นั่นคือพรใดที่เขาขอ ศัตรูจะได้รับมันสองเท่า!
สั้นๆง่ายๆก็คือ ความปรารถนาใดที่ได้รับจากระบบ พวกตัวเอกจะได้มันเป็นสองเท่า!
เจ้ามีชีวิตที่ดีอย่างไร ศัตรูของเจ้าจะมีชีวิตที่ดีกว่า! และสุดท้ายพวกเขาจะผงาดขึ้น และกลับมาตบหน้าเจ้า!
หลินเป่ยฝาน! ชะตาของเจ้าถูกกำหนดให้เป็นตัวร้ายที่ต้องพบจุดจบไม่ดีเท่านั้น!
หลินเป่ยฝานพอทราบก็ผุดยิ้ม “คิดว่าคำสาปแค่นี้จะทำให้ฉันพลาดท่าเรอะ? เหอะ เหอะ”
ในตอนนั้นเอง ประตูห้องถูกเปิดออก สาวแว่นหน้าตาดีคนหนึ่งเดินเข้ามา
“คุณชายหลิน คุณหนูซ่งจากบริษัทซ่งขอนัดคุณไปทานอาหารเย็น สถานที่คือภัตตาคารไห่หยาง เวลาสองทุ่มตรง ... จะให้ฉันปฏิเสธหรือเปล่าคะ?”
คุณหนูซ่งจากบริษัทซ่งไม่ใช่ใครอื่น จริงๆแล้วเธอก็คือนางเอกคนแรก ซ่งหยูฉิง เป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยและเก่ง ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสองบุปผางามแห่งเมืองโม่ไห่
ครอบครัวของเธอทำธุรกิจโรงพยาบาล ตอนนี้มีอุปกรณ์ขนาดใหญ่จำนวนหนึ่งเก่าเกินอายุการใช้งานแล้ว จึงจำเป็นต้องหาซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ชุดใหม่
ยังไงก็ตาม การซื้อของใหม่จำเป็นต้องใช้เงินมาก และบังเอิญครอบครัวของหลินเป่ยฝานอยู่ในธุรกิจสายนี้พอดี
เพราะเหตุนี้เอง อีกฝ่ายจึงเอ่ยปากขอนัดหลินเป่ยฝานออกไปรับประทานอาหารร่วมกัน จะได้เชื่อมความสัมพันธ์และติดต่อขอซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์
ซึ่งในช่วงเย็นของวันนี้ ในพล็อตเดิมมันคือวันแรกที่หลินเป่ยฝานได้พบกับซ่งหยูฉิง และตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ ต้องการให้อีกฝ่ายกลายเป็นผู้หญิงของตน!
แต่แล้วราวกับสวรรค์ขัดขวาง พระเอกคนแรกปรากฏตัวขึ้น แล้วสร้างสถานการณ์ตบหน้าเขา
และนับตั้งแต่วันนั้น ทั้งสองฝ่ายก็เริ่มต่อสู้กัน เรื่องราวดำเนินไป
ซึ่งแน่นอน ในชีวิตใหม่นี้หลินเป่ยฝานย่อมไม่เดินตามพล็อคเดิม ไม่งั้นเขาก็ถูกพระเอกเล่นงาน พบจุดจบน่าสังเวชอะดิ
เมื่อได้รับโอกาสเกิดใหม่อีกครั้งในรอบที่สาม เขาก็ตั้งใจจะว่าจะเล่นงานพวกพระเอกให้เจ็บแสบยิ่งกว่าในชีวิตที่สอง!
หลินเป่ยฝานพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “ไม่ต้อง ตอบตกลงไป บอกเธอว่าฉันจะไปตามนัด”
“รับทราบค่ะคุณชายหลิน”
...
ถึงเวลา 20.00 น. หลินเป่ยฝานมายังภัตตาคารไห่หยางตรงเวลา และได้พบกับนางเอกคนแรกซ่งหยูฉิง
ว่ากันตามจริง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลินเป่ยฝานได้พบเธอ แต่เมื่อได้เจอหน้ากันอีกครั้ง มันก็ยังน่าตื่นตาตื่นใจเสมอ
ซ่งหยูฉิงสูง 1.72 เมตร รูปร่างสง่างามและเพรียวบาง ผิวขาว หน้าตาวิจิตรบรรจง ผมดำยาวประบ่า สวมชุดสูทของผู้หญิง สีขาวดูเรียบง่าย ขับกล่อมให้เห็นถึงความงามจากภายในสู่ภายนอก
ขณะเดียวกัน ซ่งหยูฉิงก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน
อีกฝ่ายมีใบหน้าที่แม้แต่ผู้หญิงยังอิจฉา ผิวขาวสะอาด ฉ่ำวาวไม่เหนียวเหนอะหนะ แววตาอ่อนโยนไม่ก้าวร้าว ช่างไม่สอดคล้องกับข่าวลือว่าเป็นคุณชายแกะดำเอาซะเลย!
นี่ใช่เพราะข่าวลือนั้นผิดไป หรือเป็นเพราะหลินเป่ยฝานซ่อนตัวตนไว้ได้อย่างลึกล้ำแนบเนียนกันแน่นะ?
แต่เธอไม่ได้คิดมาก ทั้งสองทักทายกัน หลินเป่ยฝานเอ่ยปากขอโทษก่อนเป็นอย่างแรก “คุณหนูซ่ง ขอโทษจริงๆที่ผมมาสาย”
ซ่งหยูฉิงยิ้มเล็กน้อย “ฉันก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน ยังไม่ได้สั่งอาหารเลย พวกเรากินอะไรกันดี?”
“ได้ยินว่าคนที่ทำอาชีพหมอจะมีความรู้ว่าควรสั่งอาหารอะไรกิน วันนี้ผมให้คุณตัดสินใจ”
“คุณหลินเข้าใจพูดจริงๆ แต่ในเมื่อฉันเป็นคนนัด ฉะนั้นวันนี้ขอตามใจคุณ เชิญเลือกอาหารที่อยากกินได้เลย”
เห็นท่าทีหนักแน่นของอีกฝ่าย หลินเป่ยฝานปฏิเสธไม่ได้ หยิบเมนูอาหารขึ้นมา พูดกับเด็กเสิร์ฟว่า “สวัสดี ขอสเต็กเนื้อฟิเล่แบบปรุงสุก 7 ส่วน ฟัวกราส์อีกจานหนึ่ง ... กับชาดำแบบร้อนอีกสองแก้ว ขอบคุณ”
ซ่งหยูฉิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามตกใจมาก “คุณหลิน ที่คุณสั่งไป มีแต่อาหารที่ฉันชอบทั้งนั้นเลย! คุณรู้ได้ยังไง?”
หลินเป่ยฝานแอบพูดในใจ ‘ฉันต้องรู้อยู่แล้ว! ในชีวิตก่อนเธอคือภรรยาของฉัน! ฉันรู้กระทั่งว่าบนตัวเธอมีไฝกี่เม็ด!’
แต่ตอนนี้เขาได้มาเกิดใหม่ในรอบที่สามแล้ว พล็อตเรื่องในชีวิตนี้ ทั้งสองฝ่ายยังไม่เคยพบกัน ฉะนั้นไม่มีทางพูดสิ่งที่คิดในใจออกไป
หลินเป่ยฝานยิ้มเล็กน้อย “ผมก็แค่เดา! แต่ไม่คิดว่าจะเดาถูก”
ซ่งหยูฉิงหัวเราะคิกคัก “คุณน่าทึ่งมากจริงๆ แต่มีอย่างนึงที่เดาผิด .. ฉันชอบชาดำแบบเย็น!”
หลินเป่ยฝานพอได้ฟังก็ยิ้ม “ช่วงนี้คุณท้องไส้ไม่ดี เปลี่ยนมาดื่มชาร้อนจะดีกว่านะ”
ดวงตาของซ่งหยูฉิงสั่นไหวเล็กน้อย “คุณรู้ได้ยังไงว่าท้องไส้ฉันไม่ดี? อย่าบอกนะว่าเดาอีกแล้ว?”
“คราวนี้ไม่ใช่ แต่สังเกตจากสีหน้าของคุณ” หลินเป่ยฝานพูดอย่างไม่เร่งรีบ “ขอบตาของคุณค่อนข้างคล้ำ ริมฝีปากแห้งกว่าปกติ และในร้านเปิดแอร์อุณหภูมิ 25 องศาแต่คุณกลับสวมชุดคลุมทับอีกตัวหนึ่ง คาดว่าคงเพราะรู้สึกหนาว”
“แถมเมื่อกี้คุณยังลูบหน้าท้องตัวเองบ่อยๆ ชัดเจนว่ากำลังรู้สึกท้องอืด ...”
หลินเป่ยฝานอธิบายยาวเหยียด สุดท้ายสรุปว่า “ดังนั้น เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน มันบ่งบอกว่าคุณมีอาการไม่สบายท้องเพราะเกิดจากการรับประทานอาหารผิดประเภทและนอนดึกบ่อย!”
ดวงตาของซ่งหยูฉิงยิ่งฟังยิ่งสะท้อนถึงความตกใจมากขึ้น “นี่คุณมองออกทั้งหมดเลย? น่าทึ่งจัง! อย่าบอกนะว่าคุณเคยเรียนแพทย์แผนจีนมาก่อน?”
“ไม่เคยเรียน แค่พอเข้าใจนิดหน่อย” หลินเป่ยฝานพูดอย่างถ่อมตน
จากนั้น ทั้งสองก็คุยกันระหว่างรับประทานอาหาร
และยิ่งคุยกันมากเท่าไหร่ ซ่งหยูฉิงก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นเท่านั้น
ในข่าวลือไม่ได้บอกว่าหลินเป่ยฝานเป็นคนโง่เขลาที่เอาแต่ดื่มกินหรอกเหรอ? ทำไมวันนี้เขาดูไม่เหมือนกับในข่าวเลย?
ฉันถามอะไรเขาก็ตอบได้! มีความรอบรู้ในทุกเรื่อง! ไม่ใช่แค่หัวข้อด้านการแพทย์ แต่ในด้านเศรษฐกิจ สังคมศาสตร์ อุตุนิยมวิทยา ความบันเทิง กระทั่งแง่ปรัชญาที่ไม่เกี่ยวข้อง เขาก็ยังตอบได้อย่างฉะฉาน!
มีความรอบรู้ยิ่งกว่าเธอที่จบปริญญาโททั้งสองใบเสียอีก!
สำหรับสีหน้าสับสนของอีกฝ่าย หลินเป่ยฝานเพียงยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้แปลกใจอะไร
เพราะในชีวิตก่อน เขาเคยขอพรให้ตัวเองมีพลังในการเรียนรู้ขั้นสุดยอด จากนั้นก็ใช้เวลาศึกษาตำราต่างๆไม่น้อย ศึกษาถึงขั้นไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะพูดว่าตัวเขานั้นเป็นสารานุกรมแบบเดินได้
และแม้ว่าจะเกิดใหม่ แต่ความทรงจำเดิมยังคงอยู่