ทดสอบพลัง รัฐบาล
“นายปล่อยฉันลงก่อนดีกว่านะ” หญิงสาวที่เห็นว่าใกล้ถึงกำแพงเมืองแล้วเธอเลยบอกชายหนุ่มให้วางเธอลง มันคงน่าอายที่ถูกอุ้มแล้วมีคนจำนวนมากมาเห็น
“ตกลง” ชายหนุ่มกล่าวออกมาก่อนจะปล่อยมือจากขาของหญิงสาวที่เขาประคองไว้ ทำให้เธอหล่นลงพื้นดับ ตุบ!
“โอ๊ย มันเจ็บนะ ทำไมไม่บอกกันก่อนจะปล่อยมือล่ะ” เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บก้น เนื่องจากต้องเกาะหลังชายหนุ่มเป็นเวลานาน แถมการเคลื่อนที่ก็รวดเร็วมากทำให้ร่างกายเธออ่อนล้าไม่น้อย
“ก็เจ้าบอกให้ปล่อย ข้าก็ปล่อย” ชายหนุ่มตอบกลับไปอย่างไม่เข้าใจว่าหญิงสาวตรงหน้าโวยวายอะไร
“เฮ้อ ช่างมันเถอะ พวกเรารีบเข้าเมืองกันดีกว่า” เซรีนถอนหายใจอย่างปลงตก เธอลืมไปว่าคนตรงหน้าของเธอแทบจะด้านชาไร้ความรู้สึก
...
หลังจากที่ทั้งสองเดินมาถึงหน้าประตูทางเข้าเมืองซึ่งมีทหารและผู้ปลุกพลังยืนออกันอยู่ ก็ไปต่อแถวเพื่อรอเข้าเมืองทันที
แต่ด้วยการที่ลากสิ่งของมากองใหญ่ทำให้ชายหนุ่มยากที่จะหลีกเลี่ยงสายตาของผู้คนได้ แทบทุกคนล้วนหันมามองเขาด้วยความสนใจ
“พี่ชาย ลากอะไรมาด้วยน่ะ” มีชายคนหนึ่งสวมชุดหนังสะพายดาบไว้ด้านหลัง เดินเข้ามาถาม
“ข้าไม่ใช่พี่ชายเจ้า พวกเราไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงเรียบ ทำให้อีกฝ่ายหน้าเจื่อนไปทันที
“เอ่อ ผมขอถามหน่อยได้ไหมว่าคุณลากอะไรมาด้วยเหรอครับ” ชายหนุ่มพยายามตื๊ออีกครั้ง เขาเป็นนักผจญภัยแรงค์ F คนหนึ่ง เพิ่งไปลงทะเบียนมาได้ไม่นาน เลยพยายามจะหาเพื่อนร่วมปาร์ตี้อยู่
“เป็นเศษซากมอนสเตอร์ ข้าตอบคำถามของเจ้าแล้ว รบกวนขอทางจะได้หรือไม่ ?” ชายหนุ่มกล่าวจบก็เดินไปต่อ ทำให้ผู้ที่อยากจะเดินเข้ามาสอบถามต่างพากันนิ่งค้างไปหมด
ที่พวกเขาสนใจชายตรงหน้าส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะสัมผัสได้ถึงพลังเวทย์ที่ตกค้างอยู่ในเศษซากเหล่านั้น ซึ่งมันแข็งแกร่งกว่าพวกเขาส่วนใหญ่ที่เป็นระดับ E-F แถวนี้เสียอีก
อีกส่วนหนึ่งก็เพราะต้องการทำความรู้จักกับชายที่สามารถลากสิ่งเหล่านี้ไปมาได้ เพราะถ้ามีตาก็จะรู้ว่าชายคนนี้ตรงมาจากทางป่าที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ การจะรอดมาได้พร้อมเศษซากมอนสเตอร์ระดับนี้ ย่อมไม่ใช่นักผจญภัยทั่วไปเป็นแน่
ผ่านไปห้านาทีก็ถึงคิวของทั้งคู่
“ท่านนักผจญภัย พวกเรารบกวนขอตรวจสอบสิ่งที่ท่านนำมาจะได้หรือไม่ ?” กลุ่มทหารซึ่งทำหน้าที่เฝ้าประตูเมืองอยู่ กล่าวถามออกมาด้วยความเกรงใจ ถึงแม้ผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นทหารได้จะต้องเป็นผู้ปลุกพลังได้แล้วก็ตาม แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพียงแรงค์ F เท่านั้น
เพราะค่าตอบแทนที่ประเทศให้แม้จะไม่มากเท่ากันออกไปเสี่ยงภัย แต่ก็นับว่ามั่นคงกว่า แถมยังเป็นการทำเพื่อประเทศชาติอีกด้วย
“เชิญ” ชายหนุ่มกล่าวจบเขาก็ปลดเชือกตรงเอวออก ทำให้แผ่นหนังซึ่งหุ้มซากหมูป่าขนเหล็กเอาไว้ด้านในถูกกางออกมา
“นั่นมัน มอนสเตอร์หมูป่าขนเหล็กเหรอ!” มีเสียงของนักผจญภัยแรงค์ E คนหนึ่งดังขึ้นด้วยความตกใจ
ทำให้ทุกคนได้รู้ว่าสิ่งที่กองอยู่ตรงนั้นคืออะไร
ที่แท้มันก็เป็นหมูป่าขนเหล็ก มอนสเตอร์ระดับ 3 ที่ต้องใช้นักผจญภัยแรงค์ E 3 คนขึ้นไปในการจัดการสักหนึ่งตัว แต่ชายตรงหน้ากับมีซากของมันมากขนาดนี้ แสดงว่าเขาจะต้องเป็นนักผจญภัยแรงค์ D อย่างแน่นอน
ครึ่งหลัง
“ทะ ท่านนักผจญภัย สิ่งเหล่านี้ท่านได้มาอย่างไรกัน ?” ทหารนายหนึ่งกล่าวออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ
ตอนแรกเขาก็ไม่รู้หรอกว่ามันคือมอนสเตอร์อะไรเพราะเขาเพิ่งเป็นผู้ปลุกพลังแรงค์ F เท่านั้น แต่เมื่อได้ยินเสียงจากรอบข้างก็ทำให้รู้ว่า เศษซากตรงหน้าเป็นของมอนสเตอร์ระดับ 3 !
“ข้าฆ่าพวกมัน แล้วชำแหละมาตามที่ผู้หญิงคนนี้บอกกล่าว แต่ก็เอามาแค่พวกส่วนที่น่าจะมีประโยชน์ เนื้อของมันแทบทั้งหมดจึงไม่ได้เอามาด้วย” ชายหนุ่มตอบตามตรง เขาไม่เห็นจะเข้าใจว่ามันน่าแปลกใจตรงไหน
“แล้วท่านวางแผนจะทำยังไงกับเนื้อเหล่านี้เหรอครับ” ทหารเหล่านั้นถามชายหนุ่มด้วยความตื่นเต้น
“ข้าวางแผนที่จะขายทั้งหมด”
“ถ้าอย่างนั้น ท่านสนใจขายให้กับทางรัฐบาลไหมครับ ทางเรามีสมาคมกลางรับรอบว่าให้ราคาที่สูงกว่าราคาตลาดได้แน่นอน” ทหารเหล่านั้นกล่าวออกมาอย่างกระตือรือร้น
“เจ้าคือว่ายังไง ?” ชายหนุ่มหันไปถามหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านข้าง
“ก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะ เพราะถ้าเราจะไปเร่ขายเองก็คงยากแน่ ๆ ยังไงก็ต้องหานายหน้าหรือคนจัดการให้อยู่ดี สู้ขายให้ทางรัฐบาลไปเลยดีกว่า อย่างน้อยก็ได้ราคาตลาด” หญิงสาวแนะนำตามที่เธอทราบข้อมูลมา เธอค่อนข้างจะศึกษามาหลายอย่างก่อนที่จะตัดสินใจเป็นนักผจญภัย
“นอกจากนั้นท่านยังจะได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ด้วยนะ ว่าแต่ท่านเป็นนักผจญภัยแรงค์อะไรเหรอครับ” เมื่อได้ยินหญิงสาวกล่าวดังนั้น ทหารคนหนึ่งจึงรีบเสริมขึ้นทันที
ถ้าพวกเขาสามารถแนะนำคนมีความสามารถแบบนี้ให้กับทางรัฐบาลได้ พวกเขาก็จะได้ค่าคอมในการแนะนำถึง 10% เลยทีเดียว
“ข้าเป็น คนธรรมดา ไม่ใช่นักผจญภัย” ชายหนุ่มตอบกลับไป พลางคิดในใจว่าคงต้องไปทดลองปลุกพลัง ลงทะเบียนเป็นนักผจญภัยเพื่อความสะดวกหลังจากนี้เสียแล้ว
“โกหกน่า!” ทุกคนที่อยู่โดยรอบพากันอุทานเป็นเสียงเดียวกัน คนธรรมดาที่ไหนจะมีพละกำลังขนาดลากของหนักแบบนั้นมาได้ แถมยังล่ามอนสเตอร์ระดับ 3 ได้อีก
“ผมขอเสียมารยาทตรวจสอบหน่อยนะครับ” ทหารคนเดิมกล่าวขออนุญาต ชายหนุ่มก็พยักหน้าให้
ติ๊ด! ไม่พบข้อมูลในทะเบียนผู้ปลุกพลัง
เสียงดังกล่าวดังขึ้นมาจากเครื่องมือบางอย่างที่ทหารคนหนึ่งใช้สแกนร่างของชายตรงหน้า ทำให้ทุกคนได้รู้ว่าเขาไม่ได้โกหก
ณ ปัจจุบันการจะปลุกพลังได้จะต้องทำที่เครื่องปลุกพลังในหอคอยชั้นแรกเท่านั้น ซึ่งทุกคนที่สามารถปลุกพลังได้ ไม่ว่าจะมาจากประเทศไหน เมื่อคุณปลุกพลังที่ใด คุณก็จะถูกนับว่าเป็นพลเมืองของประเทศนั้นอยู่กึ่งหนึ่ง และถูกลงทะเบียนในเครือข่ายโลกเพื่อความสะดวกในการใช้ข้อมูลร่วมกันของทุกประเทศ
“เป็นเรื่องจริงเหรอเนี่ย! เอ่อ ไม่ทราบว่าท่านต้องการความช่วยเหลืออะไรไหมครับ” ทหารคนเดิมกล่าวออกมาด้วยความสุภาพ เขาไม่อยากเชื่อสายตาจริง ๆ ว่าชายตรงหน้ายังไม่ได้รับการปลุกพลังด้วยซ้ำ
“เขาต้องการทดสอบร่างกาย ทดลองปลุกพลัง แล้วก็สมัครเป็นนักผจญภัยน่ะ พวกคุณช่วยเขาหน่อยได้ไหมคะ ?” เซรีนตอบกลับแทนชายหนุ่ม เพราะชายหนุ่มคงไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้างเธอจึงช่วยพูดให้
“ได้เลยครับ รบกวนคุณทั้งสองคนตามผมมาทางด้านในหน่อยนะครับ ส่วนของพวกนั้นวางเอาไว้ตรงนั้นได้เลย ไม่มีใครกล้าขโมยแน่นอน” ทหารคนหนึ่งเดินนำทางทั้งสองคนเข้าไปยังห้องรับรองที่อยู่ด้านในกำแพง ข้างในห้องมีขนาดใหญ่ราว ๆ 3 ตารางเมตร มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
“ผมเรียกคนประเมินราคามาให้แล้ว อีกประมาณ 30นาทีจะมาถึงที่นี่ หลังจากซื้อขายซากมอนสเตอร์เสร็จผมจะพาคุณไปเข้ารับการทดสอบพลังนะครับ” ทหารคนที่เดินนำมากล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร เหมือนว่าเขาเป็นหัวหน้าของกลุ่มทหารเมื่อสักครู่ ดูจากที่ทหารคนอื่นต่างพากันเกรงใจในตัวเขา
“อืม” ชายหนุ่มตอบรับสั้น ๆ ก่อนจะนั่งลง เขามองไปยังโทรทัศน์ที่เปิดอยู่ด้วยความสนใจ