ทดสอบความอดทน แรงโน้มถ่วงแปดเท่า! (อ่านฟรี 06/05/2567)
“คุณคริสกุซ เซอวัลใช่ไหมครับ ผลการทดสอบพลังของคุณน่าทึ่งมากเลยครับ ผมขอจับมือด้วยจะได้ไหม” ในตอนที่คริสกำลังรอเวลาเพื่อให้ระบบเปิดใช้งานเครื่องแรงโน้มถ่วง ก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องแล้วกล่าวทักทายเขาอย่างเป็นมิตร
เด็กคนนั้นดูแล้วอายุประมาณสิบห้าปี ตัวเตี้ยกว่าคริสเล็กน้อย เขาสะพายธนูคันใหญ่ไว้ที่ด้านหลัง คงจะเป็นอาชีพนักธนูหรืออะไรแบบนั้น เด็กหนุ่มที่เห็นว่าอีกฝ่ายหันกลับมามองก็ยิ้มให้ด้วยความดีใจเหมือนได้พบไอดอลก็ไม่ผิด
“ได้สิ” ชายหนุ่มตอบกลับไปก่อนจะยื่นมือไปจับกับมือที่อีกฝ่ายยื่นมา ถึงแม้ว่าใบหน้าของเขาจะราบเรียบไม่แสดงสีหน้าอะไร แต่อีกฝ่ายก็รู้สึกดีใจมากแล้วที่ไอดอลของเขายอมจับมือด้วย
“ขอบคุณมากครับ!” เด็กหนุ่มกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น
นี่เป็นถึงผู้ปลุกพลังคนแรกที่ได้แรงค์ D ตั้งแต่การทดสอบครั้งแรกเลยนะ!
“อีก 5 นาทีเครื่องจะพร้อมใช้งานแล้วนะครับ ขอเชิญผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกมาจากภายในห้องด้วยนะครับ” เสียงของผู้คุมสอบดังขึ้นขัดจังหวะทำให้เด็กหนุ่มต้องผละมือออกเพื่อเตรียมที่จะออกไปจากห้องแรงโน้มถ่วง
“โชคดีนะครับ ขอให้คุณได้ระดับสูง ๆ นะครับ” เด็กหนุ่มโบกมือลาพร้อมกล่าวให้กำลังใจไอดอลของเขา ซึ่งอีกฝ่ายก็เพียงยกมือโบกเป็นเชิงรับรู้เท่านั้น
“เครื่องสแตนบายเรียบร้อยแล้ว ขอเชิญผู้ทดสอบทุกท่าน เริ่มการทดสอบได้เลย ใครที่ไม่สามารถทนต่อไปได้ไหวให้ตบปุ่มหยุดฉุกเฉินที่นาฬิกาบนข้อมือขวานะครับ” เสียงของผู้คุมสอบดังผ่านลำโพงของทุกห้องเพื่อแจ้งเตือนให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบได้รับทราบ
ผู้เข้าร่วมการทดสอบทุกคนจะได้รับนาฬิกาข้อมือที่มีปุ่มสีแดงอยู่บนหน้าปัด เพียงตบลงไปบนปุ่มนั้น เครื่องแรงโน้มถ่วงก็จะหยุดการทำงาน ทำให้ห้องกลับสู่สภาพปกติอีกครั้ง
“ดูนั่นดิ คนที่ได้อาชีพนักบุญก่อนหน้านี้นิ” มีผู้ปลุกพลังคนหนึ่งสังเกตเห็นเด็กหนุ่มผมสีขาวที่อยู่ในห้องทดสอบหมายเลข 3 ก่อนจะกล่าวออกมา
“เออว่ะ แต่คงได้แค่ระดับ F นั่นแหละ ดีไม่ดีอาจได้ผ่านเกณฑ์ด้วยซ้ำ ยังไงอาชีพนักบุญก็ไม่ได้มีร่างกายที่แข็งแกร่งอะไรมากนัก” ผู้ปลุกพลังอีกคนที่สังเกตเห็นก็กล่าวออกมา
“เฮ้ย นั่นมันคนที่ได้อาชีพกรอบสีรุ้ง!” มีเสียงฮือฮาด้วยความตกใจดังขึ้นมาจากอีกทาง ดูเหมือนต้นเสียงจะมาจากทางห้องทดสอบหมายเลข 10
“จริงด้วย! แถมยังไม่เริ่มจากแรงโน้มถ่วงสองเท่า แต่ไปเริ่มสี่เท่าเลย! น่าสนใจจริง ๆ ว่าจะทนได้กี่นาที” ผู้ปลุกพลังคนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น
“เอ๊ะ! นั่นมันคนที่ผ่านการทดสอบพลังทำลายด้วยแรงค์ D นี่หว่า แต่มันแปลก ๆ แหะ” จนในที่สุดก็มีผู้สังเกตเห็นคริสเข้าจนได้ ด้วยชื่อเสียงที่ดังกระฉ่อนไปทั่วในเวลาอันสั้น ทำให้ทุกคนต่างพากันไปมึงดูยังห้องทดสอบที่ชายหนุ่มกำลังใช้งานอยู่
...
“เริ่มจากสองเท่าก่อนก็แล้วกัน” คริสเดินไปยังหน้าจอที่ใช้สำหรับเพิ่มแรงโน้มถ่วงก่อนจะปรับระดับของแรงโน้มถ่วงไปที่สองเท่า
ครืดดดดดดด ตึง!
เมื่อเครื่องจักรเริ่มทำงาน พวกมันก็ดึงพลังจากวงเวทย์ที่ถูกติดตั้งไว้โดยนักจารึกอาคมแรงค์ S ออกมาทันที อาคมนี้จะทำการดึงพลังจากแก่นเวทย์ที่ถูกบรรจุไว้ให้เปลี่ยนเป็นแรงโน้มถ่วงในอาณาเขตทีจำกัด
แรงโน้มถ่วงที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง เครื่องจักรพวกนี้แสดงผลได้ดีกว่าที่โลกก่อนของเขาเสียอีก
นี่สินะพลังของเวทมนต์... วิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียวเทียบไม่ติดเลยสักนิด
ครึ่งหลัง
“ดูสิ นั่นมันคนที่ผ่านการทดสอบด้วยแรงค์ D นี่นา” มีชายคนหนึ่งสังเกตเห็นคริสในห้องทดสอบ เขาจึงชี้บอกให้เพื่อนของเขาหันไปดู
“จริงด้วย! ไม่รู้ว่าการทดสอบความอดทนเขาจะทำได้ถึงแรงค์ D ด้วยไหม” ชายอีกคนกล่าวออกมาด้วยใบหน้าตื่นเต้น
ถ้าชายคนนั้นได้แรงค์ D อีกก็นับได้ว่าเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ผู้ปลุกพลังที่ได้แรงค์ D ในห้องแรงโน้มถ่วงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทดสอบเช่นกัน
การได้เป็นพยานในการถือกำเนิดสุดยอดผู้ปลุกพลังเช่นนี้ จะพลาดได้ยังไง!
“ไปดูกันเถอะ!” ไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนพูดคำนี้ออกมา ทำให้บรรดาผู้ปลุกพลังทั้งหลายต่างพากันไปยืนอออยู่ที่ห้องทดสอบของคริสกันหมด
แต่ด้วยในตอนแรกก็มีคนเยอะอยู่แล้ว ทำให้ไม่อาจแทรกตัวเข้าไปได้อีกจนต้องยืนมองไกล ๆ แทน
...
“สบายมาก ดูเหมือนจะแทบไม่ส่งผลกระทบอะไรกับตัวข้าเท่าไหร่” คริสกล่าวออกมาหลังจากที่เดินวนรอบห้องไปมาด้วยแรงโน้มถ่วงสองเท่า
มันแทบไม่ต่างจากปกติเลยสำหรับตัวเขา เขาทดลองขยับร่างกาย ต่อยอากาศ วิ่งรอบห้องอยู่ห้านาที ก่อนที่จะตัดสินใจเปลี่ยนแรงโน้มถ่วงเป็นสามเท่าแทน
“อืม ลำบากขึ้นไม่น้อย เหมือนมีทุ่นน้ำหนักติดตามตัว” ชายหนุ่มทดลองขยับตัวไปมาก่อนจะกล่าวออกมา
เขาพบว่าไม่อาจวิ่งได้เร็วเท่ากับตอนแรก การกระทำใด ๆ ก็ตามล้วนได้รับผลกระทบนิดหน่อย แต่เขาก็ยังสามารถอยู่ในแรงโน้มถ่วงระดับนี้ได้อย่างสบาย ๆ เมื่อเห็นว่าสามเท่ายังไม่ใช่ปัญหาของตัวเขา ชายหนุ่มจึงปรับแรงโน้มถ่วงไปที่สี่เท่าทันที!
“อึก หนักหนากว่าที่คาดไว้” ชายหนุ่มกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
คริสพบว่าร่างกายของเขาในตอนนี้ไม่สามารถวิ่ง กระโดด เตะต่อยได้อย่างเคย เขาทำได้เพียงเดินไปมาหรือนั่งกับพื้นเท่านั้น ร่างกายทุกส่วนเหมือนถูกกดทับลงกับพื้น จากการคาดเดาของตัวเขาคาดว่าสามารถทนอยู่ในสภาวะแรงโนมถ้วงสี่เท่าได้สิบชั่วโมงก่อนที่จะหมดพลังลง
‘ตอนนี้ข้าสามารถผ่านระดับ D ได้อย่างไม่ยากเย็นแล้ว ข้าต้องทดลองทำให้ถึงที่สุด ถึงยังไงก็ยังสามารถหยุดการทดสอบได้ทุกเมื่อ’ ชายหนุ่มประเมินตนเองในใจก่อนที่เขาจะลุกขึ้นไปปรับแรงโน้มถ่วงเป็นห้าเท่า!
ภายนอกห้องทดสอบ
“เฮ้ย! ดูดิ ขนาดแรงโน้มถ่วงสี่เท่ายังดูไม่ลำบากอะไรเลย แบบนี้แรงค์ D ในห้องแรงโน้มถ่วงคงหนีไม่พ้นเป็นของเขาแล้วแหละ” ผู้ปลุกพลังคำหนึ่งตะโกนออกมาก่อนจะกล่าวเสียงดังด้วยความตกใจ
“นั่นเขายังจะเพิ่มแรงโน้มถ่วงอีกเหรอ!” แต่เหมือนนั่นยังไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจที่สุด เพราะชายในห้องทดสอบเดินไปปรับระดับแรงโน้มถ่วงอีกครั้งนั่นเอง!
แต่พวกเขาไม่รู้หรอกว่าเรื่องน่าตกใจมันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นเอง!
…
‘นี่มันหนักกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก แต่ดูเหมือนว่านาโนแมชชีนจะเอาอยู่’ ชายหนุ่มคิดทบทวนอยู่ในใจ ร่างกายของเขาดูเหมือนว่าจะถึงขีดจำกัดแล้ว แรงโน้มถ่วงกดทับจนร่างของเขาต้องนั่งนิ่งอยู่กับพื้น บางจุดถึงกับกระดูกหักเลยก็มี สมกับเป็นแรงโน้มถ่วงห้าเท่าเสียจริง
แต่ก็นับว่ายังโชคดี ที่นาโนแมชชีนซึ่งกลายสภาพเป็นเซลล์เอกภพไปแล้วนั้น มีความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะได้ได้รวดเร็วทันใจนัก แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มสามารถยืนหยัดอดทนได้จนจบการทดสอบแน่นอน
‘ด้วยนาโนแมชชีนในร่างกายข้า ข้าน่าจะสามารถคว้าแรงค์ A ในการทดสอบนี้มาได้ เผื่อว่าจะทำให้อนาคตของข้าไม่ต้องลำบากมากนัก คงต้องลองดู’ ชายหนุ่มครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นยืนไปยังเครื่องปรับแรงโน้มถ่วงท่ามกลางสายตาหลายร้อยคู่ที่จ้องมองอยู่
“นั่นเขาจะทำอะไร? ปรับแรงโน้มถ่วงลงใช่ไหม?” มีชายคนหนึ่งพูดขึ้นมา ซึ่งหลาย ๆ คนก็เห็นด้วยกับความคิดนี้
เพราะร่างกายของชายหนุ่มตอนนี้ก็เหมือนจะทนไม่ไหวแล้ว ถ้าฝืนต่อไปอาจทำการทดสอบไม่ผ่านได้ สู้ลดแรงโน้มถ่วงลงเพื่อเอาระดับ D ยังจะดีเสียกว่าไม่ได้อะไรเลย
“เฮ้ย! ไม่จริงใช่ไหม??” มีเสียงตะโกนด้วยความตะใจดังขึ้นมาจากปากของผู้เฝ้ามองหลายคน
พวกเขาเห็นว่า ชายในห้องปรับแรงโน้มถ่วงทีเดียวจาก ห้าเท่า ไปเป็น แปดเท่า!