ตอนที่ 11 การช่วยเหลือของดีแคน
นักเรียนยังคงพูดคุยกันถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพิธีเปิดด้วยความตื่นเต้น แม้จะกลับถึงห้องเรียนกันแล้วก็ตาม
เมื่อเทียบกับการแสดงดนตรีแล้ว พวกเขาตื่นเต้นกับละครเวทีมากกว่า
ละครเวทีเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากการจู่โจมของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาเมื่อปีที่แล้วที่โลกแห่งเงาระดับ 6
มีการหักมุมและเปลี่ยนเรื่องราวมากมาย ในท้ายที่สุด เมื่อมีผู้บุกรุกหลายคนร่วมมือกัน ในที่สุดพวกเขาก็จัดการเคลียร์โลกแห่งเงาได้สำเร็จ มันเป็นตอนจบที่น่าสะเทือนใจ
เห็นได้ชัดว่าละครเวทีปลุกเร้าจิตวิญญาณการต่อสู้อันแข็งแกร่งในหัวใจของน้องใหม่ที่เข้ามา
พวกเขาต่างตั้งตารอถึงวันที่พวกเขาจะสามารถโจมตีโลกแห่งเงาระดับสูงได้
ห้องเรียนมีเสียงอึกทึกครึกโครมมากกว่าตอนที่นักเรียนมาถึงครั้งแรกในตอนเช้า
ดูเหมือนว่านักเรียนทุกคนจะละสายตาจากการมองกันและกัน และเริ่มพูดคุยกัน
นอกจากนี้ยังมีนักเรียนที่พยายามคุยกับดีแคนและคอร์เนเลีย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกเขาจะเข้าใจดีแคน แต่พวกเขาไม่สามารถเข้าใจคอร์เนเลียได้
ดูเหมือนว่าดีแคนจะต้องแปลคำพูดของคอร์เนเลียให้พวกเขาฟังทุกครั้ง
ในท้ายที่สุด นักเรียนยืนยันว่าดีแคนและคอร์เนเลียเข้าถึงได้ง่ายกว่าที่พวกเขาจินตนาการไว้มาก
หากใครเพิกเฉยต่อไพ่ประเภทที่ดีแคนใช้ เขาก็คงเป็นชายหนุ่มธรรมดาๆ
สำหรับคอร์เนเลีย แม้ว่าเธอจะดูค่อนข้างเย็นชา แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่จะไม่น่าคบ
"ขอบคุณนะ"
คอร์เนเลียพูดกับดีแคน
"ไม่มีปัญหา"
ดีแคนยิ้มให้
คอร์เนเลียมีความสุขมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอสามารถสนทนากับคนจำนวนมากได้นับตั้งแต่เธอมาถึงเมืองหลวง
พวกเขาทั้งสองยังคงนั่งอยู่ที่ด้านหลังห้อง อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า 'ขอบเขต' ระหว่างพวกเขากับนักเรียนคนอื่นๆ จะไม่แตกต่างกันอีกต่อไป
แม้ว่านักเรียนทั้งหมดจะอยู่ในคลาส A แต่พวกเขาทั้งหมดเป็นนักเรียนของสาขาอัศวิน และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ชอบอ่านหนังสือ
สำหรับพวกเขา ห้องเรียนก็ไม่ต่างจากกรง
อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องประหลาดใจที่ดีแคนผู้ทำคะแนนอันดับหนึ่งกำลังอ่านหนังสืออย่างจริงจัง
สำหรับผู้ทำคะแนนอันดับสอง คอร์เนเลีย เธอนั่งเงียบๆ อยู่ตรงนั้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ดูเหมือนเธอจะพยายามอ่านเอกสารที่สาขาแจกให้ แต่ไม่นานเธอก็ปิดมัน
ด้วยเหตุผลที่ไม่ทราบสาเหตุ นักเรียนคนอื่นๆ ก็เริ่มเลียนแบบพวกเขา
ห้องเรียนค่อยๆ เงียบลงอีกครั้ง ดูเหมือนว่าความตื่นเต้นในใจของนักเรียนจะสงบลง
นี่คือวิถีของNo1
พวกเขาต้องทำตาม
เมื่อศาสตราจารย์อาร์โนลด์กลับมาที่ห้องเรียน เขาก็ต้องตกใจกับเหตุการณ์ประหลาดนี้
เขาเดินผ่านอีกสามชั้นเรียนระหว่างทางมา ทั้งหมดเสียงดังมาก อย่างไรก็ตามเมื่อมาถึงที่นี่ ดูเหมือนว่าเขาอยู่ห้องสมุดอย่างไงอย่างงั้น
ศาสตราจารย์อาร์โนลด์สูดลมหายใจเข้าลึก เดินขึ้นไปบนแท่นและเริ่มอธิบายกฎและบทเรียนต่างๆ ของสาขา
ที่จริงแล้วสาขาได้ออกเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร เราสามารถอ่านทั้งหมดจากเนื้อหาได้
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าจะมีคนโง่ที่ไม่ยอมอ่านเนื้อหาเหล่านั้นทุกปี ในฐานะอาจารย์ประจำชั้น อาร์โนลด์ต้องเน้นทุกอย่างให้นักเรียนฟังอีกครั้ง
สำหรับนักศึกษาใหม่ของสาขาอัศวิน พวกเขาจำเป็นต้องเรียนหลักสูตรบังคับสี่หลักสูตรสำหรับภาคการศึกษาแรก
การต่อสู้ การคำนวน ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโลกแห่งเงา ทฤษฎีพื้นฐานเกี่ยวกับการ์ดเวทมนตร์
นักเรียนห้อง A ต้องเรียนทั้ง 4 หลักสูตรด้วยกัน ทั้งหมดจะถูกลงทะเบียนให้โดยอัตโนมัติ
สำหรับหลักสูตรอื่นๆ นักเรียนทุกคนได้รับอนุญาตให้ทำทุกอย่างที่พวกเขาต้องการ พวกเขายังสามารถเรียนหลักสูตรของสาขาอีกสามหลักสูตรได้หากพวกเขาสนใจมันมากพอ
หลักสูตรที่สาขานักเล่นแร่แปรธาตุเปิดสอนนั้นค่อนข้างหลากหลายเป็นพิเศษ มีกระทั่งหลักสูตรเกี่ยวกับจิตวิทยา เศรษฐกิจ การแพทย์ สมุนไพร ฯลฯ
สำหรับนักเรียนจากสาขาการเล่นแร่แปรธาตุ หลักสูตรเหล่านั้นอาจเป็นฝันร้ายเพราะพวกเขาทุกคนจะต้องเรียนและจบหลักสูตรทั้งหมเเหล่านั้น
ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาไม่จำเป็นต้องเข้าไปในโลกแห่งเงา
สำหรับนักเรียนจากสาขาอัศวิน ส่วนใหญ่ไม่สนใจที่จะเรียนหลักสูตรวิชาการมากเกินไป
พวกเขาจะออกล่าสัตว์ในพื้นที่ผจญภัยหรือบุกโลกแห่งเงาเพื่อรับเครดิตหลักสูตรแทน
วิชาเลือกจะต้องไปเรียนรวมกับนักเรียนจากคลาสอื่น นอกจากนี้นักศึกษาจะต้องตัดสินใจเลือกวิชาเลือกให้เสร็จสิ้นภายในสองสัปดาห์
ในช่วงสองสัปดาห์แรกจะให้นักศึกษาฟังบรรยายเพื่อเลือกวิชาเลือก พวกเขายังได้รับอนุญาตให้ลงทะเบียนและยกเลิกวิชาเลือกเองได้ด้วย
ดีแคนสนใจหลักสูตรเศรษฐศาสตร์และวิศวกรรมเวทมนตร์
แต่เขาไม่คิดที่จะเลือกวิชาเลือกมากเกินไป เขาวางแผนที่จะมุ่งความสนใจไปที่การสร้างการ์ดมากกว่า
ถ้าเขามีหน่วยกิตวิชาไม่เพียงพอ เขาก็แค่ต้องไปจู่โจมโลกแห่งเงาสองแห่งเพื่อชดเชย
มันจะง่ายมากตราบเท่าที่เขาหาของยากและเล่นเป็นผู้สนับสนุน
สำหรับทีมที่เขาอย่างรวมด้วย...
ดีแคนมองไปที่คอร์เนเลีย
แม้ว่าคอร์เนเลียจะเป็นแค่ระดับ 3 แต่ความแข็งแกร่งของเธอก็เทียบได้กับระดับ 4
หากเขาร่วมทีมกับเธอ พวกเขาน่าจะอยู่ในโลกแห่งเงาระดับ 2 หรือ 3 ได้สบายๆ
ทีมของพวกเขาอาจกล่าวได้ว่าไม่มีใครหยุดยั้งได้อย่างสมบูรณ์
ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ
“อย่าลืมศึกษาเอกสารที่แจกให้อย่างละเอียด เป็นเรื่องดีที่จะพิจารณาว่าจะเรียนวิชาเลือกวิชาใด ถ้าอย่างนั้น นี่คงเป็นบทเรียนของวันนี้!”
หลังจากพูดสิ่งสำคัญทั้งหมดแล้ว ศาสตราจารย์อาร์โนลด์ก็ออกจากห้องเรียนไปทันที
ดีแคนเก็บหนังสือและเอกสารของเขาและกำลังที่จะออกไปเช่นกัน
ตอนนั้นเองที่เขาพบว่าคอร์เนเลียดูเหมือนจะดูค่อนข้างลำบากใจ เอกสารในมือของเธอถูกขย้ำ
หากเธอเพิ่มแรงกว่านี้ กระดาษนั้นก็อาจจะแหลกเป็นฝุ่น
“มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?” ดีแคนถาม
"การคำนวณ..."
คอร์เนเลียไม่เก่งคณิตศาสตร์
คณิตศาสตร์เป็นพื้นฐานในการบุกโจมตีโลกแห่งเงาและการใช้การ์ดเวทมนตร์
แต่คอร์เนเลียไม่รู้ว่าจะคำนวณอย่างไร
เธอเกือบสอบข้อเขียนไม่ผ่านในการสอบเข้า
นอกจากนั้นเธอยังไม่รู้ว่าเธอควรจะเลือกวิชาประเภทไหน
เธอคิดที่จะไม่เลือกวิชาเลือกใดๆ และเพียงแต่รับเครดิตจากการจู่โจมโลกแห่งเงาเพียวๆ
สิ่งเดียวที่เธอต้องทำคือหาเพื่อนร่วมทีมที่เก่ง
ท้ายที่สุดแล้วโลกแห่งเงาส่วนใหญ่ไม่สามารถเคลียร์ได้ด้วยการใช้กำลังเพียงอย่างเดียว
โดยทั่วไปแล้วคนฉลาดจะมีอายุยืนยาวกว่าเมื่อเทียบกับสัตว์เดรัจฉาน
อนิจจา นักเรียนของสาขาอัศวิน ต่างก็เป็นนักสู้และเรียนไม่เก่ง เธอไม่รู้จักใครจากอีกสามสาขาด้วย
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงรู้สึกทุกข์ใจมาก
ดีแคน: “เดี๋ยวฉันสอน”
คอร์เนเลีย: “หืม?”
ดีแคน: “คิดค่าจ้างนะ”
คอร์เนเลีย: “เลี้ยงข้าวได้ไหม?”
ดีแคน: “ไปสิ”
อารมณ์ของคอร์เนเลียดีขึ้น
คุยกับคนฉลาดนี่มันง่ายจริงๆ
คอร์เนเลียและดีแคนออกจากห้องเรียนไปพร้อมกัน
พวกเขาดึงดูดความสนใจของนักเรียนคนอื่นๆ มากมายขณะเดินผ่านอาคาร
พวกเขาประหลาดใจที่รู้ว่าทั้งสองคนไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนร่วมชั้นที่นั่งด้วยกันเท่านั้น พวกเขายังอยู่ด้วยกันหลังเลิกเรียนอีก
หากพวกเขาอยู่ในสาขาอื่น พวกเขาจะถูกมองว่าเป็นคู่รักในอุดมคติอย่างแน่นอน
พวกเขาจะเป็นหัวข้อซุบซิบที่ดีที่สุดสำหรับปีการศึกษาใหม่
แต่...
สองคนนี้...
พวกเขาเป็นคนสองคนที่อันตรายที่สุดในสาขาอัศวิน
ภาพลักษณ์ของพวกเขา... ให้ความรู้สึกเหมือนคู่อาชญากรมากกว่า
เมื่อเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกัน ก็รู้สึกได้เพียงแค่ความกลัว
ดีแคนและคอร์เนเลียเจอร้านอาหาร เป็นร้านบุฟเฟ่ต์สไตล์ตะวันตก
เนื่องจากทั้งสองคนไม่แน่ใจถึงระดับความหิวและความชอบด้านอาหารของฝ่ายตรงข้าม พวกเขาจึงตัดสินใจเลือกร้านนี้
โดยทั่วไปแล้วใครๆ ก็มักจะลงเอยด้วยการทานอาหารมากเกินไปในร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ดังนั้นดีแคนจึงไม่ตักอาหารมากเกินไปในจานของเขา
คอร์เนเลียก็เช่นกัน ทั้งสองกินกันเงียบๆ
ทั้งสองคนไม่ใช่ประเภทที่ชอบพูดคุยขณะกินข้าว
ไม่นานดีแคนก็รู้สึกอิ่ม
เขาเหลือบมองคอร์เนเลียที่อยู่ตรงข้ามเขา ดูเหมือนเธอจะทานอาหารเสร็จแล้ว และกำลังรอเขาอยู่ “เธอกินเสร็จแล้ว?”
“อืม”
“เธอคิดจะเลือกวิชาเลือกอะไร?”
“การจู่โจมทั้งหมด”
"ด้วยกันไหม?"
“โอเค”
แม้ว่าคอร์เนเลียจะไม่รู้ว่าดีแคนฉลาดแค่ไหน แต่เธอก็รู้ว่าเขาต้องฉลาดกว่าเธอ
เธอมั่นใจว่าเขาเป็นคนฉลาด
และที่สำคัญที่สุด เธอยอมรับความแข็งแกร่งของเขา
คอร์เนเลีย: “ไปไหนกันต่อดี?”
ดีแคน: “ห้องสมุด”
คอร์เนเลีย: “ด้วยกัน?”
ดีแคน: “ใช่สิ”