ตอนที่แล้วตอนที่ 83 สองพี่น้องลอบเข้าเมือง (อ่านฟรี 27/08/2567)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 85 การพบหน้ากันอีกครั้งของตระกูลฉู่ (อ่านฟรี 03/09/2567)

ตอนที่ 84 พบเจอคนรู้จัก ความตั้งใจอันแรงกล้า (อ่านฟรี 30/08/2567)


ภายในห้องรับรองขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง

“งั้นที่ท่านฟิชเดินทางมาคนเดียวก็เพราะได้รับมอบหมายมาจากเถ้าแก่รึ ?” ซูไห่กล่าวถามขึ้นมาพลางจิบชาในถ้วยกระเบื้องไปด้วย

กลิ่นชาหอมฟุ้งไปทั้งห้องรับรองที่มีหลายชีวิตกำลังนั่งอยู่ มนุษย์ปลาสวมกางเกงหนังกำลังนั่งกินขนมที่อีกฝ่ายจัดหามาให้ ด้านขวามือของมันมีปลาทองตัวอ้วนกลมในโหลแก้วกำลังว่ายน้ำไปมา

“ใช่แล้ว เถ้าแก่ให้ศิลาตามตัวที่เจ้ามอบให้ไว้มาด้วย ข้าเลยมาหาเจ้าที่นี่ได้ยังไงล่ะ” ฟิชกล่าวตอบพลางส่งหินแบน ๆ คืนให้อีกฝ่ายไป

“แล้วปลาสีทองตัวนั้น ?” ซูไห่ปลายตาไปมองโหลแก้วที่วางไว้ด้านข้างมนุษย์ปลา

“เป็นลูกน้องของข้าเอง แค่พามาเที่ยวเล่นน่ะ” ปลาปากเสียตอบกลับไปทันที ทำให้อีกฝ่ายไม่ได้สนใจมากนัก

“แล้วไม่ทราบว่าท่านฟิชมีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่ ? ถ้ามีสิ่งใดที่ข้าสามารถช่วยได้โปรดบอกกล่าวออกมาได้เลย” ซูไห่กล่าวออกมาพลางเติมชาให้อีกฝ่าย

“ก็ไม่มีหรอก ข้าแค่แวะมาเยี่ยมเจ้าก็เท่านั้น เสร็จนี่ข้าก็ต้องรีบไปแล้ว ยังต้องรีบกลับไปให้ทันร้านเถ้าแก่เปิดอีก” ปลาปากเสียตอบกลับไปก่อนจะยื่นมือไปรับชาจากอีกฝ่ายมาดื่ม

มันโยนอาหารปลาลงในโหลแก้วให้ปลาทองฉู่กินเป็นระยะ ตอนนี้ปลาทองฉู่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ปลาแบบมันได้แล้ว เพียงแต่ตัวเล็กกว่ามันก็เท่านั้น

“เถ้าแก่จะเปิดร้านรึ ? ที่เมืองหลวงใช่หรือไม่” ซูไห่ที่ได้ยินก็กล่าวถามออกมา เพราะเขาไม่ได้ข่าวคราวของเถ้าแก่นานแล้ว ตั้งแต่กลับมาจากในป่าได้เขาก็วุ่นวายเรื่องภายในตระกูลไม่ได้หยุด

แต่มันก็อีกไม่นานแล้ว ทีนี้ตระกูลซูจะได้กลายเป็นหนึ่งเสียที!

“ใช่แล้ว เจ้าไม่ทราบรึ ?” ปลาปากเสียตอบกลับไป เรื่องนี้ไม่ได้เป็นความลับอะไร บอกไปก็ไม่ได้มีผลเสีย

“อีกนานหรือไม่กว่าร้านของเถ้าแก่จะเปิด ? ข้าจะต้องเดินทางไปเยี่ยมอย่างแน่นอน” ซูไห่กล่าวถามออกมา

“ถ้านับจากเวลาที่ข้าเดินทางมา ก็คงอีกราวสี่วันสี่คืนน่าจะแล้วเสร็จ” ปลาปากเสียนับนิ้วคำนวณก่อนจะตอบกลับไป มันคิดว่าไม่น่าจะนับพลาดนะ

ซูไห่ทำท่าทางครุ่นคิดเล็กน้อย เขากำลังประเมินว่าจะเร่งเวลาของแผนการให้เร็วขึ้นดีหรือไม่ ? ในเมื่อมีมนุษย์ปล

าตรงหน้ามาในเวลานี้พอดี แถมเถ้าแก่ก็กำลังจะเปิดร้าน อาจเป็นเวลาที่ดีที่เขาจะลงมือสินะ ?

“ถ้าเช่นนั้น ท่านมีสินค้าอะไรมาขายด้วยหรือไม่ ?” ซูไห่ลองโยนหินถามทางดู

ถ้าเกิดอีกฝ่ายนำสินค้ามาด้วยเขาก็จะได้ซื้อเสียเลย แม้จะมีบางขุมกำลังที่ได้สินค้าจากเถ้าแก่ไปบ้างแต่ก็ยังมีจำนวนไม่มากนัก สินค้าเหล่านั้นสามารถนำไปขายต่อได้เกือบพันผลึกต่อชิ้นเลยด้วยซ้ำ เขาวางแผนที่จะขายมันบางส่วนเพื่อเป็นทุนสำหรับแผนการของตน

“เอามาสิ! เจ้าสนใจอะไรล่ะ แต่ก็กฎเดิมนะ ส่วนราคาปรับเปลี่ยนเล็กน้อย สินค้าทุกชิ้น ชิ้นละสามร้อยห้าสิบผลึก” มนุษย์ปลาหยิบสินค้าทุกชนิดขึ้นมาวางบนโต๊ะให้อีกฝ่ายดู

“อืม แล้วอาหารปลาล่ะ ?” ซูไห่ดูจะไม่ได้ตกใจอะไรกับราคาที่เพิ่มมาขึ้นเป็นสิบเท่า แต่เขากลับสงสัยที่ว่าทำไมไม่มีอาหารปลาอัดเม็ดในบรรดาสิ่งของที่นำมาขายด้วย

“มีสิ ข้าแค่เห็นว่ามันไม่มีใครซื้อเลยไม่ได้เอาออกมาให้ดู” ปลาปากเสียทำหน้าเรียบเฉยก่อนจะหยิบขวดแก้วที่ใส่อาหารปลาเอาไว้ออกมา

ตามจริงมันวางแผนไว้ว่าจะไม่ขายอาหารปลาเด็ดขาด! เพราะมันจะเก็บไว้กินเอง รวมถึงให้ลูกน้องของมัน น่าเสียดายที่อีกฝ่ายดันต้องการเสียอย่างนั้น...

ครึ่งหลัง

“เวลาฉุกละหุกเกินไป ข้าคงรวมตัวผู้คนได้ไม่มากนัก ท่านรอข้าสักครู่ก็แล้วกัน” ซูไห่กล่าวออกมาก่อนจะเรียกชายชรามาสั่งการอะไรบางอย่าง เมื่อสั่งการเสร็จแล้วชายชราก็รีบจากไป

ผ่านไปสองก้านธูป

ในเวลานี้ซูไห่ได้พามนุษย์ปลามายังห้องลับแห่งหนึ่ง ภายในห้องนี้มีทางเข้าออกเพียงทางเดียว มีผู้คนอยู่ในห้องประมาณหนึ่งร้อยห้าสิบชีวิต ทั่วทั้งห้องถูกจารึกด้วยอักขระของวิชาบางอย่าง ทำให้สามารถป้องกันการมองเห็นและการสอดแนมจากคนภายนอกได้

“แค่จะซื้อขายกันต้องทำให้มันลึกลับขนาดนี้เลยรึไง ?” มนุษย์ปลากล่าวถามออกมา สำหรับมันแล้วการจะพังข่ายอาคมนี้ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย

“แค่ป้องกันไว้ก่อนก็เท่านั้น มาทำการข้ากันเถอะ” ซูไห่กล่าวออกมาก่อนที่ทุกคนในห้องจะทำการซื้อขายกับมนุษย์ปลาที่นั่งกระดิกเท้าอยู่บนเก้าอี้นั่ง

...

“ขอให้ท่านโชคดีขอรับ ท่านฟิช!” ซูไห่และตระกูลซูได้มายืนกล่าวคำลาให้แก่มนุษย์ปลาที่กำลังจากไป ซึ่งฝั่งมนุษย์ปลาก็ยิ้มให้ก่อนจะรีบเดินทางต่อ

มันคงต้องใช้เวลาประมาณครึ่งวันในการไปยังกระท่อมที่นายท่านสร้างเอาไว้ ถ้ารีบเดินทางก็คงจะกลับไปถึงร้านของเถ้าแก่ทันพอดีกับเวลาที่ร้านจะสร้างเสร็จ

“ไว้ข้าจะมาใหม่” มนุษย์ปลากล่าวลาเล็กน้อยก่อนจะรีบจากไป

ซูไห่ที่ในตอนแรกยิ้มแย้มอยู่ ก็พลันหุบยิ้มกลายเป็นชายหนุ่มใบหน้าเรียบนิ่งทันที แม้เมื่อก่อนเขาจะไม่ค่อยแสดงอารมณ์อะไรอยู่แล้ว แต่ก็ยังพอจะมีการยิ้มแย้มบ้าง แต่หลังจากเหตุการณ์ลอบสังหารที่เกิดขึ้น ตัวเขาก็ได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน

‘ข้าจะต้องทำให้ตระกูลซูกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเขตนี้ให้ได้!’ ซูไห่กล่าวสาบานในใจ ก่อนจะเดินหันหลังกลับเข้าอาคารของตระกูลซูอย่างเงียบงัน

“อีกหนึ่งชั่วยามก็คงถึงกระท่อมที่นายท่านสร้างเอาไว้แล้ว” ฟิชกล่าวออกมาพลางวิ่งไปด้วยความเร็วสูง ด้านข้างของมันมีมนุษย์ปลาทองตัวเท่าเอววิ่งตามมาด้วยไม่ห่าง

“ลูกพี่ แล้วเราจะไม่ต้องแอบเข้าเมืองอีกรอบใช่ไหม ?” ปลาทองฉู่กล่าวออกมาด้วยความกังวล

เขาไม่อยากจะต้องไปคลุกอยู่ในลังปลาแบบนั้นอีกแล้ว มันอึดอัดเหลือเกิน

“ไม่ต้องห่วง! ข้าขอบัตรรับรองมาจากซูไห่แล้ว แค่แสดงให้พวกทหารเฝ้าประตูดูก็ผ่านได้สบาย” มันกล่าวจบก็เรียกบัตรที่ทำจากกระดาษแข็งซึ่งเขียนว่าตระกูลซูเอาไว้ออกมาให้ดู

แม้จะดูเหมือนของปลอมแต่ก็ใช้ได้ผลกว่าที่คิด เพราะมันลองเอาให้ทหารเฝ้าประตูดูก่อนจะออกมานอกเมืองแล้ว

“ตรงไป เลี้ยวขวา อีกสิบลี้ก็น่าจะถึงแล้วนะ” มนุษย์ปลาตัวใหญ่ทบทวนความทรงจำเล็กน้อยก่อนจะเร่งความเร็วขึ้นไปอีก มันอยากรีบไปเก็บกระท่อมไม้ให้เสร็จจะได้รีบไปเจอนายท่านแล้ว!

“นั่นใช่กระท่อมไม้ที่ลูกพี่ว่ารึเปล่า ?” มนุษย์ปลาทองตัวเล็กกล่าวออกมา มันมองเห็นบ้านไม้ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างประณีต บริเวณใกล้เคียงมีบ่อน้ำขุดขนาดใหญ่อยู่

“ใช่แล้ว! แต่เหมือนจะมีบางอย่างที่ไม่ถูกต้องอยู่นะ...” มนุษย์ปลาตัวใหญ่กล่าวออกมาพลางเงียบลง เหมือนจะมีบางอย่างแปลก ๆ ไปจากที่เคยเป็น

เพราะพวกมันเห็นว่ามีผู้ฝึกตนที่ไม่คุ้นเคย เดินเข้าออกกระท่อมแห่งนั้น รวมถึงเดินเฝ้าลาดตระเวนอยู่โดยรอบอีกด้วย

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?

“เอ๊ะ! ลูกพี่.. นั่นมันเหมือนจะเป็นคนของตระกูลฉู่” มนุษย์ปลาทองกล่าวออกมาด้วยความตกใจ

“เจ้ารู้จักรึ ?” ฟิชกล่าวถามด้วยความแปลกใจ ดูเหมือนมันจะลืมไปแล้วว่าลูกน้องของมันเป็นคนของตระกูลฉู่

“ข้าเป็นคนของตระกูลฉู่ขอรับ...”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด