ตอนที่ 151 รับช่วงต่อร้านกาแฟ
“พรุ่งนี้เถอะ พรุ่งนี้ผมจะเข้าไป..”
ซูเหวิน พูดคุยกับเจ้าของร้านกาแฟอยู่พักหนึ่ง และจากนั้นจึงบอกเวลาที่จะเข้าไปรับช่วงต่อกิจการร้านกาแฟ
หลังจากพูดคุยจบ ซูเหวิน ก็ได้วางสายไป…
พริบตาเดียวก็ผ่านไปอีกหนึ่งวัน
วันนี้เป็นวันที่ ซูเหวิน จะเข้าไปรับช่วงต่อร้านกาแฟ
ก่อนหน้านี้เขาได้พูดไว้ว่าจะพา เซี่ย ซินเหยา ไปดื่มกาแฟด้วย
แต่เมื่อพิจารณาแล้ว การดื่มกาแฟในตอนเช้าดูจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก
ดังนั้นหลังจากพักเที่ยง ซูเหวิน จึงได้ส่งข้อความถามว่าเธออยากไปดื่มกาแฟหรือไม่
และแน่นอนว่า เซี่ย ซินเหยา ตอบรับโดยไม่ลังเลใดๆ
เพราะท้ายที่สุดแล้ว การไปดื่มกาแฟกับ ซูเหวิน ที่ร้านกาแฟของเขาครั้งนี้จะทําให้ ซูเหวิน บีบไหล่ นวดหลังให้กับเธอ ..ทุกวัน~
แถมยังสามารถให้ ซูเหวิน ร้องเพลงกล่อมเธอได้อีกด้วย ดีมากๆ เลยใช่ไหมล่ะ~!
หลังตอบข้อความเรียบร้อย
และหลังจาก เซี่ย ซินเหยา ทานอาหารกลางวันที่โรงอาหารเรียบร้อยแล้ว เธอก็รีบกลับไปที่หอพักทันที
ต่อมาก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัว เมื่อเตรียมพร้อมทั้งหมดแล้ว ก็ทักทายเพื่อนสนิทแล้วเดินออกไป
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังที่กำลังจากไปของ เซี่ย ซินเหยา จี้หยวี่ และวัง ซิ่วซิ่ว ต่างก็ตกตะลึงพลันอมยิ้มขึ้นมาน้อยๆ
“ว้าวว! ดูสิ~ คนเรานี่พอมีความรักมันแตกต่างจริงๆ นะว่ามั้ย?”
“นางเมื่อก่อนกับนางตอนนี้ เปลี่ยนไปอย่างคนละคนเลยดูสดใส และดูมีชีวิตชีวาขึ้นมามาก”
จี้หยวี่ ถอนหายใจ
“ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อก่อนเธอไม่ค่อยชอบแต่งหน้าเท่าไหร่ ตั้งแต่คบหาดูใจกับ ..ซูเหวิน เธอก็เริ่มแต่งหน้าแล้ว”
วัง ซิ่วซิ่ว เองอดจะถอนหายใจไม่ได้เช่นกัน
โดยไม่รู้ตัว ทั้งสองรู้สึกว่าภาพลักษณ์ที่เคยมีก่อนหน้านี้ของ ดอกไม้งาม เซี่ย ..ดูเหมือนจะไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว
สิ่งที่เธอได้รับการเปลี่ยนแปลงไปคือ เธอกลายเป็นสาวน้อยที่กระตือรือร้น เปี่ยมไปด้วยความสุข และความสดใส ดูมีชีวิตชีวามาก ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้ไปอย่างลิบลับ..
ซึ่งดูเหมือนว่า พลังแห่งความรักนั้นจะยิ่งใหญ่มากจริงๆ!
ขณะที่พวกเธอกำลังคุยกันอยู่ จี้หยวี่ และวัง ซิ่วซิ่ว ก็เต็มไปด้วยความอิจฉา
มันทำให้ทั้งสองคนอยากตกหลุมรัก(ตกอยู่ในห้วงความรัก)กับเขาบ้าง แอบปิ๊ง, แอบชอบ ขอเถอะฉันเหนื่อยแล้ว~
ในขณะทั้งสองกำลังคุยกัน..
อีกด้านหนึ่ง เซี่ย ซินเหยา ที่เดินถือกระเป๋าออกจากอาคารหอพักหญิง เธอก็ตรงไปที่ลานจอดรถ
ไม่กี่นาทีต่อมา มีผู้เห็น Koenigsegg ขับออกจากมหาวิทยาลัยเทียนเวย โดยมุ่งหน้าไปในทิศทางหนึ่ง...
ที่ย่านถนนการค้าเหม่ยเจีย..
สถานที่แห่งนี้ถือเป็นแหล่งช็อปปิ้งแห่งหนึ่งในเมืองม่อ จึงทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยความวุ่นวายพอสมควร
ไม่นานนัก ก็เห็นรถ Koenigsegg สุดหรูขับเข้ามาอย่างช้าๆ ไปตามถนนย่านการค้า และจอดอยู่หน้าร้าน หมี่จือเลี่ยน คอฟฟี่ช็อป
“ร้านกาแฟนี้ดูเหมือนจะค่อนข้างใหญ่เลยนะ”
เมื่อทั้งสองลงมาจากรถ และมองไปที่ร้านกาแฟที่กินพื้นที่ยาวสามห้องตรงหน้า เซี่ย ซินเหยา ที่เห็นแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน
“อืมม.. มันใหญ่มาก” ซูเหวิน ก็ชื่นชม และตอบอย่างเห็นด้วยเช่นกัน
พูดตามตรง เขาไม่เคยมาแถวย่านนี้มาก่อน
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นร้านกาแฟนี้..
เขาเคยคิดว่าจะเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ธรรมดาๆ ปกติ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เล็กแล้ว เมื่อเทียบกับร้านอาหารทั่วไป
ทันใดนั้น ซูเหวิน ก็ค่อนข้างรู้สึกประหลาดใจในใจมากเลยทีเดียว
ต้องถามก่อนว่า ใครบ้างล่ะที่ไม่อยากให้ร้านของตัวใหญ่ขึ้น และดีขึ้น?
ระหว่างพูดคุย ทั้งสองได้เดินเข้าไปในร้านกาแฟ หมี่จือเลี่ยน เคียงข้างกัน
เนื่องจากเป็นเวลากลางวัน ลูกค้าที่มาที่ร้านกาแฟในขณะนี้จึงมีจำนวนมาก
ทันทีที่ทั้งสองเดินเข้าไปก็พบว่ามีคนนั่งอยู่ในร้านไม่น้อย
“ยินดีต้อนรับค่ะ ทั้งสองท่านเชิญทางด้านนี้”
ทันใดนั้นก็มีพนักงานเสิร์ฟหญิงคนหนึ่งเข้ามา และกำลังจะพาพวกเขาไปที่โต๊ะ
ซูเหวิน ยกมือขึ้นเพื่อหยุดเธอ ก่อนพูดว่า : “กาแฟเราจะดื่มในภายหลัง เจ้าของร้านอยู่ที่นี่หรือเปล่า ผมมาที่นี่เพื่อรับช่วงต่อร้านกาแฟนี้ ผมชื่อ ซูเหวิน”
ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา
พนักงานเสิร์ฟหญิง ตกตะลึงไปในตอนแรก แล้วจากนั้นดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้จึงรีบพูดว่า : “โอ๊ะ สวัสดีคะ คุณ..คุณคือ บอสซู เราจะรีบเรียกเจ้าของร้านออกมาทันทีค่ะ”
เมื่อพูดเช่นนั้น หญิงสาวคนนั้นรีบเดินไปที่เคาน์เตอร์ และบอกพนักงานที่หน้าเคาน์เตอร์ถึงสถานการณ์ของเธอ
ดูเหมือนจะได้รับแจ้งล่วงหน้ามาก่อนแล้วว่าร้านกาแฟแห่งนี้ได้ถูกซื้อไปโดยใครบางคน
พนักงานหน้าเคาน์เตอร์กระทำอย่างรวดเร็วมากเช่นกัน
หลังจากรู้เรื่องนี้แล้ว ก็รีบโทรหาเจ้านายทันที
ไม่นานหลังจากนั้น..
ชายคนหนึ่งสวมเสื้อเชิ้ตลายดอกปลดกระดุมสองเม็ดบน พับแขนเสื้อสุดอยู่บริเวณข้อศอกรีบเดินออกมาจากด้านข้าง ดูเหมือนเขาจะเป็นอดีตเจ้าของร้านแห่งนี้
เพียงแต่การแต่งตัวของเจ้านายคนนี้ดูไม่ค่อยทำให้ผู้คนอยากเข้าไปคุยด้วยสักเท่าไหร่นัก
เขาดูไม่เหมือนกับเจ้านายเลย แต่เหมือนกับพวกอันธพาลน้อยข้างถนนที่อยู่เฉยๆ เกียจคร้านไม่ได้ทำงานทำการอะไรมากกว่า
“ไอ๊หยา บอสซู คุณมาแล้ว.. ผมเองได้รอคุณมานาน ยินดีที่ได้พบ ยินดีที่ได้พบคุณ!”
เมื่อเขาเข้ามาทันทีก็เริ่มด้วยการทักทายอย่างสุภาพ
จากนั้นเขาก็ค้นพบการมีอยู่ของ เซี่ย ซินเหยา ทันที
ทันใดนั้น อดีตเจ้าของร้านกาแฟคนนี้ ดูเหมือนจะไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีสาวสวยเช่นนี้อยู่ตรงหน้า เขารีบพูดอย่างประหลาดใจว่า : “ไอ๊หยา ไอ๊หยา.. นี่ที่รัก ไม่สิ คุณผู้หญิงคนนี้ คุณสวยเกินไปหรือเปล่า?”
“ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ผมเองคงสงสัยแล้วว่าตาของผมมีอะไรผิดปกติหรือไม่กัน..”
เมื่อฟังคำพูดของอีกฝ่าย ซูเหวิน อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น
ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่แต่งตัวเหมือนอันธพาลน้อยเท่านั้น แม้แต่วิธีการพูดก็ยังเหมือนกันอีก
แต่คำพูดมันก็แค่คำพูด
ซูเหวิน ยิ้มกว้าง แล้วตอบกลับว่า : “บอสโจว เรามาเซ็นสัญญากันก่อนเถอะ!”
“โอ้.. โอเค บอสซู งั้นเชิญทางนี้”
พูดถึงสัญญา อีกฝ่ายก็ตอบสนองทันที
จากนั้นทันทีเขาก็ได้นําพา ซูเหวิน และเซี่ย ซินเหยา เดินไปที่ห้องทํางานที่อยู่ด้านข้างของล็อบบี้
หลังจากที่ ซูเหวิน และคนอื่นๆ ออกไป พนักงานหลายคนที่เคาน์เตอร์ก็รู้สึกตัว
เพียงชั่วครู่หนึ่งหลังจากพวกเขารู้สึกตัวก็พลันตกตะลึงไปพลางแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา
“ว้าว.. ให้ตายเถอะ เมื่อกี้เห็นมั้ย ชายหนุ่มคนนั้นคือเจ้าของร้านกาแฟคนใหม่ของเราจริงๆ เขายังดูเด็กมาก!”
“เฮ้เฮ้.. เดี๋ยวสิ นั่นมันประเด็นที่ไหน ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ผู้หญิงคนนั้นที่ยืนอยู่ข้างเจ้านายใหม่ของเรา เธอสวยเกินไปหรือเปล่า!?”
“ใช่.. ผู้หญิงคนนั้นเธอสวยราวกับนางฟ้า ขนาดฉันเองเป็นผู้หญิงยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่นไหวตั้งแต่แรกเห็น~”
“เธอเป็นใครนะ หรือเธอเป็นภรรยาของเจ้านายใหม่ของเรา?”
ชั่วขณะหนึ่ง พวกพนักงานต่างพูดคุยกัน และพากันชื่นชมรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดใจของ เซี่ย ซินเหยา
และในขณะที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่ ฝั่งของ ซูเหวิน ก็ได้เซ็นสัญญาแล้ว
ไม่กี่นาทีต่อมา เมื่อพวกเขาออกมาข้างนอก
ร้านกาแฟแห่งนี้ก็ได้กลายเป็นร้านของ ซูเหวิน อย่างเป็นทางการแล้ว
ต่อมา อดีตเจ้าของร้านได้พา ซูเหวิน มาที่เคาน์เตอร์
กล่าวแนะนำ ซูเหวิน บอสคนใหม่ให้กับ พนักงานเสิร์ฟ พนักงานแคชเชียร์ บาริสต้า รวมถึงเชฟ และพนักงานในห้องครัวด้วย
หลังจากทักทาย ซูเหวิน อีกครั้ง เขาก็ออกจากร้านกาแฟไปอย่างมีความสุข
ไม่รู้ว่าเขาได้รับเงินไปเท่าใดจากการขายร้านกาแฟของเขาที่ทำให้เขามีความสุขมากขนาดนี้
“สวัสดีค่ะ บอส”
“สวัสดีครับ บอส”
“สวัสดีค่ะ คุณผู้หญิง...”
พอเห็นอดีตเจ้านายเดินออกไป
ทันใดนั้น พนักงานแคชเชียร์ และพนักงานเสิร์ฟก็มองไปที่ ซูเหวิน และเซี่ย ซินเหยา ทันที พร้อมกับกล่าวทักทาย
พวกเขาดูกระตือรือร้นกันมาก
ไม่มีทาง คนงานระดับล่างอย่างพวกเขาบางครั้งก็ต้องก้มหน้าเอาใจเพื่อความโปรดปรานของเจ้านาย เพื่ออาชีพการงาน และเพื่อชีวิตที่ดี
คราวนี้เปลี่ยนเจ้านายคนใหม่แล้ว ทุกคนก็แค่หวังว่าอีกฝ่ายจะไม่เข้มงวดเกินไป ไม่บีบคั้นพวกเขามากเกินไป
แต่การตะโกนของพวกเขาทําให้ เซี่ย ซินเหยา หน้าแดงก่ำไปด้วยความเขินอายทันที
ซูเหวิน ที่เห็นเขายิ้มแล้วพูดว่า : “เอาล่ะ โอเค ทุกคน อย่าเป็นทางการมากนัก”
“ผมเพียงเห็นว่าร้านกาแฟนี้มีแนวโน้มที่ดีผมก็เลยซื้อมันมา ส่วนรูปแบบการทำงาน และวิธีการทำงานของพวกคุณก็ควรคงเดิม”
“อีกอย่าง หลังเลิกงานแล้วช่วยบอกกับพนักงานทุกคนว่าตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ทุกคนจะได้รับค่าแรงเพิ่มขึ้นอีกคนละ 50 หยวนต่อวัน”
ซูเหวิน คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดออกไปทันที
พอคําพูดนี้หลุดออกไป ผู้คนทั้งหมดก็ตกตะลึง
“ซู... บอสซู เมื่อกี้คุณพูดอะไรนะ คุณจะเพิ่มเงินเดือนให้กับพวกเราคนละ 50 หยวนต่อวัน?”
“โอ้วว.. พระเจ้า บอส สิ่งที่คุณพูดมัน.. จริงไม่จริง ถ้าคุณให้เงินเดือนเราเพิ่มวันละ 50 หยวนต่อวัน เดือนหนึ่งนั่นไม่ใช่ 1,500 หยวนเหรอ?”
เวลานี้พนักงานต่างพากันมีสีหน้าอึ้ง และอดจะตื่นเต้นไม่ได้
พวกเขามองไปที่ ซูเหวิน และแทบไม่อยากจะเชื่อเลย พลางสงสัยว่าหูของพวกเขาเองได้ยินผิดไปหรือเปล่า
หลังจากทํางานที่นี่มาเป็นเวลานาน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเจ้านายขึ้นเงินให้กับพนักงานอย่างแข็งขัน
“อืม.. แน่นอนว่าจริง”
“และเรื่องแบบนี้ผมจะหลอกพวกคุณไปทำไม?”
เมื่อเผชิญกับข้อสงสัย ซูเหวิน ก็ยิ้มตอบกลับไปอย่างใจเย็น
ด้วยสถานะปัจจุบันของเขา การเพิ่มเงินเดือน 1,500 หยวนต่อเดือนให้กับพนักงานเหล่านี้ไม่นับว่าเป็นอะไรเลย
แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็สามารถทำให้พนักงานรู้สึกกระตือรือร้น และมีความสุขตลอดวัน หรือดีสุดอาจหลายวันได้ด้วยซ้ำ
ซูเหวิน คิดว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
ท้ายที่สุดแล้วเขาเองเคยเป็นคนงานระดับล่าง และเคยมาทำงานพาร์ทไทม์พิเศษด้วย
และเขาเองก็รู้ดีว่าคนที่อยู่ด้านล่างจะมีความสุขมาก ถ้าเงินเดือนของพวกเขาเพิ่มขึ้นมาอย่างกะทันหัน…