ตอนที่แล้วบทที่ 127 อาณาจักรลับวิกฤต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 129 อาร์คบิชอปโอเวนมาแล้ว

บทที่ 128 ปรากฎตัว


เดโบราห์ยกแขนสองข้างขึ้นมาป้องกันแสงสีเงินขาวสว่างจ้าเอาไว้ พลังแห่งแสงกลุ่มนี้ไม่เพียงทำร้ายเดโบราห์ได้เท่านั้น กาโลเวย์เองก็ถูกทำให้ชะงักไปเช่นกัน

“กรรร”

บลังโกไซราแกรนด์คำรามออกมาพร้อมกันทั้งเก้าหัว มันใช้หัวที่อยู่ใกล้กับกาโลเวย์มากที่สุดงับลงไปที่ท่อนแขนของบรรพชนวอร์ล็อคผู้ใช้ดาบสั้นทันที

“บัดซบ”

กาโลเวย์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แขนของมันทั้งท่อนถูกกัดขาดในคมเขี้ยวเดียว

ฟิ้ว!

ดาบสั้นระดับตำนานอันทรงพลังหลุดจากพันธนาการของลำแสงพิฆาตทั้งเก้าสาย มันสั่นโงนเงนทีหนึ่งก่อนจะลอยกลับไปหากาโลเวย์ตามเดิม

“ท่านพี่! ทำอะไรสักอย่าง”

“ข้าก็พยายามอยู่”

เดโบราห์เองก็ไม่ได้อยู่เฉย แต่พลังแห่งแสงเป็นจุดตายของอันเดดทุกตน และคาถาบทนี้ก็ทรงพลังเหลือเกิน

“อัคมาร์อยู่ไหน?”

กาโลเวย์มองขึ้นไปบนท้องฟ้าตรงทิศทางที่รถม้าหายไป


ไกลออกมาทางทิศเหนือ พาเวลที่กำลังบังคับทิศทางรถม้าเอาไว้สุดกำลัง คอยมองกลับไปยังด้านหลังอยู่เป็นระยะ กลุ่มดวงไฟคล้ายดาวตกสีเขียวยังคงตามเขาเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ

“หยุดให้ข้า!”

อัคมาร์ตะโกนเสียงดังพร้อมกับชี้นิ้วไปที่พาเวล คำสาป! พาเวลอยู่ในระยะของคำสาปแล้ว

ฉับพรันร่างของสายลับเฒ่าก็ฟุบลงไปกับพื้นของรถม้า เมื่อขาดคนบังคับทิศทาง รถม้าก็เอนเอียงเจียนจะหล่นไปไปด้านล่าง

พาเวลไม่ใช่ระดับสูงหรือระดับตำนาน พลังจิตของเขาไม่อาจบังคับรถม้าเอาไว้ได้หากไม่ได้บังคับด้วยมือ

โคร้ม!

รถม้าที่ลอยเรี่ยกิ่งไม้มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่อาจไปต่อได้อีก มันหล่นลงใส่ต้นไม้ที่สูงใหญ่ต้นหนึ่ง ล้อรถม้าไปติดรั้งกับกิ่งของต้นไม่ยักษ์สามกิ่งทำให้ห้อนต่องแต่งกลายเป็นของเล่นประดับต้นคริสต์มาส

“อ่าาา”

พาเวลที่ยังถูกผลของคำสาประดับตำนานเล่นงานกำลังหมดหวังในอีกไม่นาน ตอนนี้ร่างของเขาครึ่งหนึ่งเต็มไปด้วยรอยแผลเน่าเปี่อยเหมือนซากศพกำลังถูกย่อย

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว

ทันใดนั้นร่างสามร่างก็พุ่งออกมาจากตัวรถม้าด้วยความรวดเร็วราวกับลูกธนู ท่านหญิงแอนน์รีบตรงไปทางพาเวลที่กำลงทุกข์ทรมาน นางอุ้มร่างของสายลับเฒ่าขึ้นมาจากรถม้าและรีบตรงไปยังด้านหลังกระท่อมของออสบอร์น

“กรีมัวร์อยู่ที่ไหน?”

อัคมาร์ไม่ยอมให้พาเวลหนีไป

ฉับ!

คมดาบพลังธาตุสีขาวขุ่นพุ่งผ่านหน้าของอัคมาร์ไปเพียงเสี้ยววินาที สายลมรอบทิศทางดูเหมือนจะดุดันขึ้นแทบจะในทันที

เขตแดนพลังธาตุ!

“น่ารำคาญ”

อัคมาร์สบถเสียงดัง มันไม่รอให้การโจมตีครั้งถัดไปของไวเคานต์แห่งเฟรนกอสมาถึง เปลวไฟสีเขียวแสบตาราวกับกลุ่มอัญมณีขนาดยักษืก็พุ่งออกจากฝ่ามือของมันเป็นเส้นตรง หมายจะเผาไหม้ไวเคานต์ผู้นี้ให้ตายในพริบตา

เมื่อเปรวไฟมาถึงร่างที่อยู่ตรงทิศทางของการโจมตีกลับไม่ใช่มันดังกัส

โอเพอทิสกางปีกค้างคาวบนหลังของมันจนสุด พร้อมกับยกมือขึ้นไปเหนือศรีษะ ใบหน้านั้นราวกับยกของที่หนักกว่าตนเองหลายร้อยเท่า คาถาที่มันใช้คงทรงพลังมาก

ครึ่งลมหายใจต่อมาลูกไฟขนาดยักษ์กว่าสิบเมตรก็ปรากฎขึ้นเหนือศรีษะของโอเพอทิส ลูกไฟดวงนั้นทั้งใหญ่ทั้งร้อนแรง มันผสมปนเปกันระหว่างสีดำของพลังงานแห่งความมืดและสีแดงของโลหิตสดๆ

“พวกเจ้าจะทนดูข้าตายจริงๆ?”

โอเพอทิสที่ควรเงียบนิ่งโง่งมเหมือนคนปัญยาอ่อน ตอนนี้กลับพูดขึ้นมาแล้ว

“เจ้าสู้ได้แน่โอเพอทิส ข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้า”

เสียงอ่อนหวานดังมาจากทิศทางของท้องฟ้าสีทึมทึบไร้ดวงดาว

“มาเสแสร้งกันเวลานี้เนี่ยนะ?”

โอเพอทิสไม่สนใจเสียงที่ตอบกลับมาเสียงนั้นอีกมันเร่งเร้าพลังทั้งร่างกายออกมาจนหมด ลูกไฟยักษย์ขยายเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าจนแทบจะกลืนกินรถม้าของกรีมัวร์ลงไป

“ไอ้ปีศาจเอ้ย! เอานี่ไปกินสะ”

แวมไพน์หนุ่มเหวี้ยงลูกไฟบนร่างออกไปสุดแรง เปลวไฟสีเขียวของอัคมาร์ปะทะกับลูกไฟยักษ์เข้าอย่างจัง เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว แรงกระแทกของมันส่งออกไปหลายกิโลเมตร

“ให้ตายเถอะ!”

โอเพอทิสถูกซัดออกไปด้านหลังด้วยผลจากแรงระเบิด แต่สิ่งนั้นยังไม่ใช่สิ่งที่ร้ายแรงที่สุด ลำแสงเปลวไฟสีเขียวยังไม่หายไป

“สมกับเป็นระดับตำนานอันแข็งแกร่ง”

เสียงอ่อนหวานเสียงเดิมดังขึ้นเป็นครั้งที่สอง คราวนี้ไม่ใช่แค่เสียงที่ปรากฎออกมาแต่ยังมีร่างคนทั้งคนยืนคู่กันตรงจุดที่โอเพอทิสถูกซัดกลับไป

เกลเลิร์ตและนิโคลัส

อัคมาร์มองไปยังสิ่งมีชีวิตสองตนที่ปรากฎขึ้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว พวกมันหลบรอดจากจิตสัมผัสของเขาได้อย่างไร?

“ก็แค่ของเล่น”

นิโคลัสก้าวลงมาจากท้องฟ้าและช่วยประคองร่างที่ลอยมาของโอเพอทิสเอาไว้ เมื่อเปรวไฟสีเขียวจะทะลวงมาถึงพวกเขาทั้งสองคน นิโคลัสก็เป่าลมออกมาจากปากเบาๆ จากลมเล็กน้อยกลับมีโลหิตสดๆพวยพุ่งออกมาตามกัน ก้อนโลหิตม้วนตัวกลายเป็นลูกแก้วกลมๆสีแดงเท่ากำปั้น จากนั้นลูกแก้วโลหิตก็แตกตัวออกเป็นลูกแก้วขนาดเล็กนับไม่ถ้วน พวกมันพากันกระจายหายไปแต่ละทิศทาง

พรึบ!

ร่างของนิโคลัสที่ประคองโอเพอทิสเอาไว้หายไปในพริบตา เปลวไฟสีเขียวที่หลุดจากเป้าหมายพุ่งปะทะกับต้นไม้ต้นหนึ่งจนไหม้เป็นจุณ

“พวกผีดูดเลือด?”

อัคมาร์สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ทันที

“ผีดูดเลือดถือว่าเป็นถ้อยคำที่รุนแรงและไม่ให้เกียรติกันอย่างมากนะ ท่านมุขมนตรี”

เกลเลิร์ตก้าวเดินลงมาจากท้องฟ้า ร่างของนิโคลัสและโอเพอทิสหายตัวมาปรากฎอยู่ที่ด้านหลังของเขา

“พวกเจ้าควรสิ้นเผ่าพันธุ์ไปแล้ว พวกเราวอร์ล็อคตามหาพวกเจ้ามาตลอดหลายพันปีนี้”

“อันที่จริงเราไม่อยากเปิดเผยการดำรงอยู่ของเราก่อนเวลาอันควร แต่นายท่านของเรามาถึงมหาทวีปแล้ว ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่เราต้องกังวลอีก”

เกลเลิร์ตไม่ได้โกหก ข่าวล่าสุดที่มันได้รับคือพระเมสสิยาห์เดินทางมาถึงทะเลปีศาจแล้ว

“วอร์ล็อคไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับพวกเจ้า”

อัคมาร์ประเมินระดับขั้นของเกลเลิร์ตไม่ได้ แต่ชายที่เสกลูกแก้วโลหิตออกมานั้นควรเป็นระดับตำนานขั้นแรก

“น่าเสียดาย เจ้าทำให้ข้าสนใจเหลือเกินท่านมุขมนตรี เรากำลังต้องการผู้ที่ฝึกปรือระบบพ่อมดเพื่อมาทดลองอะไรบางอย่างอยู่พอดี”

“เจ้ารู้?”

เรื่องที่อัคมาร์ฝึกสองระบบนั้นควรมีเพียงมันและอาจารย์เท่านั้นที่รู้

“ดวงจันทร์บอกเรา”

เกลเลิร์ตกล่าวยิ้มๆ

อัคมาร์มองขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยอัตโนมัติ ภาพที่มันเห็นคือดวงจันทร์ขนาดใหญ่โตมโหฬารดุจอยู่แนบชิดกับโลกใบนี้มาเนิ่นนาน

“อ่าาาา”

มุขมนตรีผู้ชั่วร้ายกรีดร้องออกมาราวกับคนเสียสติ มันกำลังจ้องมองสิ่งใดอยู่กันแน่!


ออสบอร์นที่กำลังกังวลกับพลังเวทย์ของตนเองที่กำลังหมดลงอย่างรวดเร็ว มองไปทางทิศเหนืออยู่ตลอดเวลา มือที่ถือหินวิเศษและไม้เท้าแห่งเทลเพริออนเอาไว้สั่นเทาเจียนจะหมดแรง

สังขารของเขาถดถอยลงมากแล้ว

ในตอนนั้นเองภาพของแอนน์ที่แบกพาเวลเอาไว้ก้ปรากฎขึ้นในสายตาของเขา สภาพของพาเวลไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เห็นได้ชัดเจนว่าอัคมารืเล่นงานเขาหนักมาก พ่อมดเฒ่ารีบโยนไม้เท้าแห่งเทลเพริออนมาทางพาเวลและรักษาคำสาปให้เขาอีกครั้ง

“ขอบคุณนายท่าน”

พาเวลพูดออกมาเบาๆ

“รีบไปสะ!”

ตอนนี้พลังเวทย์หนึ่งพันหน่วยกำลังจะหมดลง และออสบอร์นเองก็ยืนหยัดต่อไปได้อีกไม่นาน

เมื่อแอนน์แบกพาเวลหายไปด้านหลังกระท่อม พ่อมดเฒ่าก็รีบปักไม้เท้าระดับตำนานลงพื้นอย่างแรง หินวิเศษภายในมือเองถูกบังคับให้ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยตนเอง

เขาจำเป็นต้องทิ้งของวิเศษรักษาชีวิตไว้ที่นี่

“กลับไปเมอร์คิวรี่!”

เมื่อเพกาซัสตนนี้ได้รับคำสั่ง มันก็รีบบินพาออสบอร์นไปยังทิศทางที่แอนน์หายไป

ในป่าอันมืดมิด ต้นไม้ใบหญ่าขึ้นรกชัฏ ปกคลุมเนินหินแห่งหนึ่งเอาไว้อย่างมิดชิด หากไม่สังเกตจะไม่มีทางรู้เลยว่าที่แห่งนี้มีปากถ้ำซ่อนอยู่

แสงเทียนเล่มเล็กถูกจุดขึ้นด้านในเพื่อขับไล่ความมืดออกไป เด็กชายสองคนนั่งอยู่บนตักของมารดาด้วยความหวาดกลัว

“ไม่ต้องห่วง ท่านพ่อมดต้องเอาชนะศัตรูได้แน่”

เด็นนิสเอ่ยปรอบบุตรชายขณะที่กำลังลูบศรีษะของพวกเขาไปด้วย

“ท่านพ่อมดแข็งแกร่งมาก สมเด็จพระสันตะปาปายังต้องเกรงใจเขา”

ชายชราเพาล์กล่าวเสริม

“นั่นอะไร?”

จู่ๆภรรยาของเด็นนิสก็เห็นท่านหญิงแอนน์ที่แบกร่างของพาเวลตรงเข้ามาด้านใน

“ท่านพ่อมดให้พวกเราไปได้แล้ว เตรียมตัวให้พร้อม”

พาเวลหายใจหนักหน่วง หน้าอกของเขากระเพื่อมไหวราวกับจะระเบิดออกมา การโดนคำสาปของระดับตำนานสองครั้งในวันเดียวสร้างภาระให้เขาจนเกินไป

สายลับเฒ่ารีพพาสมาชิกครอบครัวของกรีมัวร์เดินเข้าไปในถ้ำลึกมากขึ้น ตรงจุดที่ออสบอร์นเคยพาเขาเข้ามา ตอนนี้มีหินวงกลมสีขาวเรียงรายเอาไว้เป็นสัญลักษณ์

“เข้าไปด้านใน เร็วเข้า!”

เสียงของออสบอร์นดังขึ้นไล่หลัง ได้เวลาใช้วงแหวนเคลื่อนย้ายแล้ว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด