บทที่ 404 : อย่าตีฉันด้วยดอกไม้ (6)
บทที่ 404 : อย่าตีฉันด้วยดอกไม้ (6)
เราจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก
ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาพอสมควรในการไตร่ตรองคำพูด
ไรก็ได้คงกำลังพิมพ์ข้อความแล้วลบอยู่แน่ ๆ เช่น
'หากคุณมอบทรัพยากรให้ฉัน ฉันจะตอบแทนคุณอย่างแน่นอนหลังจากเคลียร์ชั้นที่ 50 แล้ว'
โชรง > เงียบไปแบบนี้คงจะคำนวณทรัพยากรที่ต้องการใช่่ไหม ㅠ.ㅠ ?
โชรง > ไม่เป็นไร! ฉันจะคุยกับสมาชิกกิลด์ให้ พวกเขาล้วนแต่เป็นคนดีและไม่โลภมาก
โชรง > แต่มีคนจองคิวไว้เยอะมากนะ! แต่ถ้าเป็นไรก็ได้แล้วล่ะก็...!!!
['โชรง' หัวหน้ากิลด์ 'ดวงดาวสีเงิน' เชิญคุณเข้าร่วมกิลด์! คุณต้องการที่จะยอมรับมันหรือไม่?]
[คำแนะนำ : หากคุณพบผู้ใช้ที่มีแนวโน้มคล้ายกันกับตัวคุณเองและได้เข้าร่วมกิลด์ คุณจะสนุกกับการเล่นมากขึ้นแน่นอน!]
สิ่งต่าง ๆ จะผ่านไปได้อย่างง่ายดาย ถ้ายอมได้เท่าที่ยอมได้ก็ไม่ต้องทะเลาะกันใหญ่โต
[ใช่ (เลือก) / ไม่ใช่]
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไรก็ได้ก็ตัดสินใจ
[สวรรค์ของผู้เล่นที่ชื่นชอบแสงสว่างที่เต็มไปด้วยการรักษาร่างกาย จิตวิญญาณ และเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้!]
[ยินดีต้อนรับสู่กิลด์ดวงดาวสีเงิน!]
[ผู้ใช้ปัจจุบัน - 17 คน]
[เพิ่มไอเทมกิลด์ในแท็บ]
[คุณสามารถค้นหาสถานะของกิลด์ได้โดยคลิกที่ไอคอน]
[แชทกิลด์พร้อมใช้งานแล้ว]
[โปรดใช้ความช่วยเหลือสำหรับฟังก์ชั่นที่มีรายละเอียดเพิ่มเติม]
ไรก็ได้ตัดสินใจเข้าร่วมกิลด์
กิลด์ดวงดาวสีเงิน
[ช่องแชทกิลด์]
ไรก็ได้ > สวัสดี! ฉันเป็นสมาชิกกิลด์ชั่วคราว แต่ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ
โชรง > นี่คือ ไรก็ได้ เด็กใหม่ของเรา! ฉันจะขอบคุณมากถ้าทุกคนกล่าวต้อนรับเขาอย่างอบอุ่น~
นูร์ฮา > ยินดีที่ได้รู้จัก!
คิตตี้ด๊อกกี้ > วู้วๆๆๆ~ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย~
บลูโรส > ยินดีต้อนรับ
ถ้านายท่านตัดสินใจแบบนี้ก็ไม่ต้องรออีกต่อไป
ฉันลบหน้าจอแชทออกไปและจิบชาเงียบ ๆ
“โอ้ นี่…”
เจนน่าและเวคิสน่าจะกำลังอ่านข้อความอยู่แน่ๆ พวกนั้นก็ดูเหมือนจะเข้าใจสถานการณ์แล้วเช่นกัน
ฉันจิบชาและครุ่นคิดกระบวนการต่าง ๆ ที่ฉันต้องทำ
แกร๊ก!!
เมื่อประตูหอพักเปิดออกอดิลันก็เดินเข้ามา เขามีรอยยิ้มที่อบอุ่นประดับอยู่บนใบหน้าของเขา
“ทุกคน...ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวของเรา!”
“แม้มันยังน่าอึดอัดใจอยู่นิดหน่อย แต่พวกเราคงไม่ได้อยู่ที่นี่นาน…”
“ใช่ ๆ เราอยู่ไม่นาน”
เจนน่าพูดและพยักหน้ารัว ๆ
"ผมเข้าใจ แต่ไม่เป็นไร! เวลาที่อยู่ที่นี่ก็ตามสบายเลยนะ ขาดเหลืออะไรให้บอกเราได้เลย”
อดิลันวางถาดที่มีแซนด์วิชและนมไว้ตรงหน้าเรา จากนั้นเขาก็โค้งคำนับและหายตัวไป
ดูเหมือนว่าเขาจะเข้ามาเสิร์ฟอาหารให้เราด้วยตัวเอง เจนน่ามองสลับไปมาระหว่างฉันกับเวคิส
“ถึงแม้ว่าเราจะไม่ต่อสู้กับพวกเขา…นั่นก็ไม่เป็นไรใช่ไหม ภารกิจเรียบร้อยแล้วเหรอ?”
“เราต้องรอดูกันต่อไปก่อน เราจะรู้ได้อย่างไรว่าจะไม่มีการซุ่มโจมตี?”
“ถ้าพวกเขาจะโจมตีเรา พวกเขาก็ทำไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันคิดว่ามันก็ดีนะที่จะเชื่อใจพวกเขา ในโลกนี้ไม่ได้มีแค่คนเลว ๆ เท่านั้นนะ”
"เหอะ!! ที่เธอพูดมานั่นมันไม่ตลกเลยด้วยซ้ำ”
เวคิสตะคอก
“อย่างที่นายเห็น ดูเหมือนว่านายท่านจะตัดสินใจแล้ว”
“หมายถึงการประนีประนอมแบบเนี่ยน่ะเหรอ?”
“มันไม่ใช่การประนีประนอม เรียกว่าเป็นการกระทำที่ดีต่างหาก! เราก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าพวกเขาโดยไม่จำเป็นอีกต่อไป”
“ดีแล้วที่เราไม่ต้องต่อสู้ ฉันบอกแล้วว่าฉันต้องการเวลา เพราะงั้นยังไงเราก็รอได้”
จากการพูดคุยระหว่างไรก็ได้และโชรง ดูเหมือนมีคำสั่งให้แจกจ่ายสิ่งของในซากปรักหักพัง
แน่นอนว่าไรก็ได้เข้ามารวมกิลด์ทีหลัง ดังนั้นทรัพยากรที่รวบรวมจากซากปรักหักพังจะถูกแจกจ่ายในทุก ๆ สองสามวัน ดังนั้นถ้านับวันรอแบบเรียลไทม์อย่างน้อยหนึ่งเดือน
หนึ่งเดือน
'นั่นคือทางเลือกของไรก็ได้เหรอ?' ฉันตัดสินใจที่จะไม่เสนอความคิดเห็นใด ๆ
อดิลันเสนอให้เราพักที่นี่ เพราะในระหว่างนี้มันคงจะเหมาะมากที่จะใช้เวลาฝึกฝนที่ลานฝึก
ไม่ว่าเราจะได้สัมปทานทรัพยากรมากเพียงใดก็ยังไม่เพียงพอ
เพื่อที่จะเพิ่มจำนวนฮีโร่ 100 คนและสร้างเรือเหาะลำใหม่ เราจะต้องนำทรัพยากรของซากปรักหักพังกลับไปทั้งหมด
ดูเหมือนหนทางจะเริ่มยากลำบากเป็นเพราะภารกิจบนชั้นที่ 50
พอเช้าวันรุ่งขึ้น ฉันกำลังดื่มชาอยู่ที่ชั้นหนึ่งของวิลล่า ด้านนอกหน้าต่างเหล่าฮีโร่คนอื่น ๆ กำลังรวบรวมทรัพยากรต่าง ๆ
'ฉันไม่ต้องการของพวกนั้น'
สิ่งเหล่านี้เป็นวัสดุที่สามารถหาได้จากดันเจี้ยนรายวัน
ไอเทมหายากที่สำคัญสามารถหาได้จากคริสตัลที่อยู่ตรงโน่นเท่านั้น
ฉันดื่มชาเขียวไปครึ่งหนึ่งแล้วมองไปข้างหน้า อดิลันนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์กำลังสัมภาษณ์ชายวัยกลางคน
“ตอนนี้ถึงตาเราแล้ว เราจะขอบคุณมากถ้าคุณสามารถตรวจสอบบัญชีแยกประเภทอีกครั้ง”
“ขอโทษนะครับ พอดีเราได้ทำการยืนยันแล้วครับ”
แกร๊ก! ปัง! ประตูเปิดออกอย่างรุนแรง และมีคนเข้ามา
"เฮ้!!!"
เป็นผู้หญิงที่มีผิวสีน้ำตาล ผมสีฟ้าของเธอมัดเป็นหางม้า รูปร่างดี และมีดาบห้อยลงมาจากเอวด้วย
“เราจำเป็นต้องได้รับสัมปทานในครั้งนี้” หลังจากนั้น ก็มีผู้ชายติดอาวุธเดินเข้ามาตามเธอ
"อะไรกัน? ครั้งที่แล้วพวกคุณก็ได้รับมันไปแล้วนี่ครับ!”
“ก็นายท่านของฉันบอกว่าเขาต้องการมันมากกว่านี่ แล้วฉันควรทำอย่างไรล่ะ?”
“พวกเรารอมาสามเดือนแล้วนะ…!”
“พวกคุณ ช่วยเงียบสักครู่หนึ่งได้ไหม?”
ผู้หญิงคนนั้นวางแขนของเธอบนเคาน์เตอร์
"นี่นาย พวกเราเป็น 'กลุ่มสมาพันธ์ดวงดาวสีเงิน' เรามาที่นี่เพื่อที่จะรักษาสันติภาพนะ จะเป็นยังไงกันเล่าถ้าเราอ่อนแอและศัตรูบุกเข้ามา? มีนายท่าน 24 คน ไม่ใช่สิ ตอนนี้มี 25 คนแล้วใช่ไหม? เราไม่ควรปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลังจริงไหม?”
"จริงตามที่พูด……"
“คิวของพวกคุณจะมาถึงในไม่ช้านี้ พวกคุณเพียงแค่ต้องยอมรอก่อนเข้าใจไหมครับ?”
"...ก็ได้" ชายวัยกลางคนก้มศีรษะลง
“แต่เราต้องได้รับสัมปทานมากกว่าเดิมนะ นายแสตมป์รายชื่อในบัญชีแยกประเภทไว้เลยนะเข้าใจไหม?”
"ครับ……."
“นี่ ๆ ๆ หวังแค่จะครอบครองทรัพยากรงั้นเหรอ คงไม่ลืมหรอกนะว่าเลือดส่วนใหญ่หลั่งมาจากไหนในช่วงสงครามในการปลดปล่อยครั้งนั้น? นายท่านของนายคนนั้นเอาแต่นั่งดูดนิ้วในขณะที่เรากำลังต่อสู้กันไม่ใช่เหรอ? แต่ตอนนี้…การกระทำแบบนี้คืออะไร?”
ริมฝีปากของผู้หญิงเม้มเข้าหากันเล็กน้อย เธอไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ฉันก็พอเข้าใจได้
ฉันดื่มชาจนหมดถ้วยและมองภาพตรงหน้าต่อไป ไหล่ของชายวัยกลางคนลู่ต่ำลง
“เอ่อ เรา…เราไม่ได้ทำอะไรเลยจริง…งั้นเรารอก่อนดีกว่า” ชายคนนั้นออกจากวิลล่าไปเงียบ ๆ
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มอย่างขมขื่น ยื่นรายละเอียดบัญชีแยกประเภทให้อดิลันแล้วหรี่ตาลงมองเขา
“ครั้งต่อไปเป็นคิวของใคร?!” ขณะที่ผู้หญิงกำลังจะออกจากประตู เธอก็หันมามองเราที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ
“ผู้ชายคนนั้นสินะ...”
“ครับ...นี่คือสมาชิกใหม่ที่ผมเล่าให้ฟังเมื่อวานนี้”
“ครอบครัวเรากำลังวุ่นวายสินะ”
“พูดดี ๆ หน่อยครับ!”
“ฮึ! ฉันไม่สนใจหรอกนะ ว่าแต่…ฮะ?”
ผู้หญิงคนนั้นกระพริบตาและจ้องมาที่ฉัน
“ฉันคิดว่าฉันเคยเห็นผู้ชายคนนั้นมาก่อนจากที่ไหนสักแห่ง บางทีมันอาจเป็นงานเทศกาลที่เมืองมิติ...แต่ฉันเดาว่าฉันคงเข้าใจอะไรผิดไป”
ผู้หญิงคนนั้นและเพื่อน ๆ ของเธอรีบวิ่งออกจากวิลล่าไป อดิลันมองกลับมาที่ฉันด้วยสีหน้าขมขื่น
"ผมขอโทษครับ...เราเพิ่งแสดงสิ่งที่ไม่เหมาะสมออกไป เมื่อก่อนมันไม่ใช่แบบนี้เลยนะครับ”
“ทุก ๆ สิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลง”
"นั่นก็จริงครับ…แต่ถึงกระนั้น เราก็ไม่สามารถปกป้องซากปรักหักพังเหล่านี้ได้หากไม่มีพวกเขา พวกเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งและมีความภักดีต่อกิลด์มาก”
'พวกเขาเป็นคนที่เราต้องขอบคุณสินะ'
ฉันหัวเราะเบา ๆ
ใช่แล้ว แต่แบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ดีนักหรอก ว่าแต่ทำไมกิลด์ที่ปกครองที่นี่ก่อนหน้านี้ถึงล่มสลายได้นะ?