ตอนที่แล้วตอนที่   38
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 40

ตอนที่   39


ตอนที่   39

คอนเส็ปของชั้นสองก็คือ ― ความอ่อนล้าทางร่างกาย

เมื่อพวกนั้นย่างเท้าเข้ามาที่ชั้นสอง ก็จะเห็นห้องขนาด 2 ตารางกิโลเมตรอยู่ตรงหน้าของผู้บุกรุก

เหล่าลูกน้องที่ผมปล่อยให้อยู่กันในช่องว่างขนาดใหญ่ นั้นก็คือ ฝูงของกูลมากมาย ที่ให้ประสิทธิภาพคุ้มค่ากับราคา  แถมด้วยความโดดเด่นในแง่อึดถึกทนและยังมีพลกำลังที่เยอะ แต่ก็แลกมากับการที่สติปัญญาต่ำเตี้ย ,  ฝูงหมาป่าที่นำทัพโดยหมาป่าดำที่มักจะหยอกล้อกับศัตรูในขณะที่เคลื่อนที่อย่างว่องไวและทำงานร่วมกันเป็นทีมได้เป็นอย่างดี ,ก็อบลินนักธนูที่ตั้งสายธนูรออยู่แนวหลังแล้ว

คบไฟขนาดใหญ่ที่ส่องสว่างฉายอยู่ด้านหลังกองทัพลูกน้องของผม หน้าทางขึ้นบันไดไปยังชั้นสาม

การจัดวางแบบนี้เป็นเหมือนกับข้อความจากผมเองที่บอกกับผู้บุกรุกทั้งหลายว่า

―― “อะไรอย่างการจัดแผนผัง มันไม่จำเป็น ไม่ต้องยั้งมใส่เข้ามาได้เลย  ”

การบุกโดเมนแห่งเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก แล้วก็ทำการสำรวจทำแผนที่ในพื้นที่นั้นกลายเป็นมาตรฐานที่ต้องทำกันสำหรับพวกมนุษย์ที่คิดจะปลดปล่อยโดเมน

ซึ่งปาร์ตี้ผู้กล้ากลุ่มนี้ที่ได้ปลดปล่อยโดเมนไปสี่แห่งก็ใช้วิธีการเดียวกัน นี้แหละ

วิธีการนี้สมเหตุสมผลพอตัวเลย

หากแต่มันเป็นอะไรที่เลวร้ายสุดๆเลยล่ะในมุมมองของฝ่ายจอมมาร

เนื่องจากเน้นที่ความปลอดภัย จึงมีการบุกรุกซ้ำแล้วซ้ำอีกทำให้ผู้บุกรุกนั้นเลเวลอัพจากการกำจัดมอนสเตอร์

การที่เข้ามาอย่างปลอดภัยนั้นไม่ได้ให้ค่าประสบการณ์ใดๆกับจอมมารเลย

การที่ผู้รุกรานกำจัดมอนสเตอรืไปเรื่อยๆก็เท่ากับ ค่า CP ของจอมมารถูกผลาญไปเปล่าๆโดยไร้ประโยชน์ นี่มันเป็นสถานการณ์ที่มีแต่ดิ่งลงเรื่อยๆของแท้เลยล่ะ

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำให้ผมถึงต้องแสดงให้พวกนั้นรู้ว่า “เข้ามาเลย ไม่ต้องยั้ง”

ในกรณีที่ถ้าหากปาร์ตี้ผู้กล้านั้นไม่ตอบรับคำเชิญ หรือเตรียมถอยหลังกลับ ผมก็เปลี่ยนไปใช้แผน B เพื่อรับมือแทน

แผน B ก็คือ หนามยอกเอาหนามบ่งด้วยการสู้แบบยืดเยื้อแทน

ก็ในเมื่อศัตรูนั้นจะผลาญค่า  CP ของผมด้วยการบุกเข้ามาแล้วกำจัดลูกน้องผม

ในทางกลับกันผมเองก็ตั้งใจที่จะทอนกำลังรบอีกฝ่ายด้วยการบดขยี้สมาชิกของพวกเขาเช่นกัน

ยิ่งการต่อสู้ยืดยาวออกไปนานเท่าไหร่ ค่าประสบการณ์ที่ได้รับก็จะลดน้อยลงเรื่อยๆตรงกันข้ามกับค่า CP

แล้วเพื่อเป็นการปรับความเร็วในการเติบโตของศัตรูและตัวผมเองนั้น จึงจำต้องสั่งให้พวกผู้สืบสายเลือดของผม เดินทางมาจากโดเมนที่สองมาเพื่อรับค่าประสบการณ์ที่นี่

“ถึงอย่างนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่ ข้าจะกำจัดพวกนั้นเองโยไม่ต้องเสียอะไรเลย หาก ข้าออกไปสู้ในแนวหน้าแบบจอมมารสายที่เน้นค่า 【ร่างกาย】 แบบโอนิ แต่ทว่า…มันเสี่ยงมากเกินไป ” (ชิออน)

ผมถอนใจขณะที่เฝ้าดูปาร์ตี้ผู้กล้าที่กำลังนั่งพักตรงบันไดก่อนไปยังชั้นสอง

“แต่คุณ ชิออนคะ ถ้าเป็นคุณเนี่ย ก็สามารถที่เอาค่า BP ที่มีเนี่ยไปลงกับค่า  【ร่างกาย】 หรือ 【มานา】  ได้ไม่ใช่หรือไงคะ ?” (คาน่อน)

คาน่อน ถามผม

“มันก็ใช่ แต่ถ้าหากเป็นไปได้ข้าก็อยากที่จะเก็บ BP นั้นไว้เพิ่มค่า การสร้างให้ถึง แร๊ง B  เพราะมันดีกว่าถูกไหม?” (ชิออน)

ผมเก็บค่า BP ไว้ตอนที่ผมขึ้นเลเวล 4 เหตุผลก็เพื่อการยกระดับค่าการสร้างจาก C เป็น  B นี่แหละ

“มันก็แล้วแต่สถานการณ์ หากจำเป็นจริงๆข้าจะเพิ่มไปที่ค่า 【ร่างกาย】…” (ชิออน)

ผมหยุดคุยเล่น แล้วหันมาจดจ่อกับฉากไล้ฟ์สดของพวกผู้กล้าที่ฉายจากสมาร์ทโฟน

และทางเลือกที่ปาร์ตี้ผู้กล้าอย่างเป็นทางการจากคานาซาว่าเลือกนั่นก็คือ ――

– มุมมองของ ซายามะ รินะ –

หลังจากที่พวกเราพักกันสักครู่ พวกเรก็เดินลงบันไดไปสู่ชั้นสอง

“―หา ?”

ยูยะเป็นนำหน้าสุดได้หลุดร้องเสียงหลงออกมา เมื่อเห็นชั้นสอง

ฉันเป็นคนถัดไป

――!?

ภาพตรงหน้าสร้างความตะลึงให้กับฉัน

มันเป็นห้องที่กว้างขวางมาก จนฉันถึงกับสงสัยขึ้นมาว่ามันกว้างแค่ไหนกันแน่ ?

และเมื่อฉันมองไปทางฝั่งซ้ายก็เห็นกำแพงอยู่ไกลๆ

ฉันคิดว่า รวมแล้วก็น่าจะเป็นระยะประมาณ 1 กิโลเมตร

และถึงจะมองกลับมาทางขวามันก็ไม่ต่างกัน

ความยาวของห้องนี่มันประมาณ …2 กิโลเมตรอย่างนั้นเหรอ ? ไม่สิ มันอาจจะน้อยกว่านั้นหน่อยล่ะมั้ง ?

มอนสเตอร์จำนวนนับไม่ถ้วนห้อมล้อมเราจนแทบไม่มีที่ว่างเหลือและไม่มีเครื่องกีดขวางหรือทางเดินใดๆ

ในชั้นแรกนั้นมีโครงสร้างเหมือนกับเขาวงกต ที่มักจะมีทางตัน มีทางแยกเต็มไปหมด ควบคู่กันกับฝูงหนูและค้างคาว ที่ไม่ทำอะไรอย่างอื่นนอกจากมาก่อกวนพวกเรา

แถมยังมีกับดักกวนใจจำนวนมากติดเต็มไปหมด

มันเป็นเหมือนเขาวังกตที่ราวกับสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์เดียว คือ ทำให้พวกเราเป็นบ้า

จากคำพูดของจอมมารคนก่อนหน้าที่พูดไว้ 『โดเมนถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำมือจอมมาร 』

มันไม่ใช่ทฤษฏีสมมุติฐานแต่เป็นสิ่งที่เราได้รู้มาจากจอมมารที่กำลังจะตาย

ถ้าเป็นอย่างนี้ก็แสดงว่า เขาวงกตชั้นแรกมีไว้เพื่อปั่นประสาทพวกเรา และชั้นสองที่เราอยู่กันตอนนี้

คาดหวังให้เราใช้กำลังบุกลุยเข้าไปอย่างป่าเถื่อนนั้นสร้างมาจากจอมมารคนเดียวกัน

โดเมนแห่งนี้ประกอบด้วยคอนเส็ปที่ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง

ฉันสงสัยเหลือเกินว่า จอมมารที่ปกครองโดเมนนี้เป็นจอมมารแบบใดกันแน่

“เย้ ฮ่าฮ่า , นี่มันอะไรกันน่ะ ? รังมอนสเตอร์งั้นเหรอ !?” (มาซาคาโดะ)

มาซาคาโดะที่ยืนอยู่ข้างๆฉันเปล่งเสียงออกมาด้วยความงุนงง

“แล้วทีนี้...ฮิเดยะ, เราจะทำยังไงกันต่อ ?” (ยูยะ)

ยูยะถามรุ่นพี่อันโด

เป็นที่รู้กันทั่วว่า ในการยึดโดเมนได้นั้นต้องมีการทำแผนที่ บันทึกองค์ประกอบต่างๆที่มีอยู่ในชั้นรวมถึงมอนสเตอร์ที่ปรากฏตัวด้วย

ตามปรกติแล้วก็มักจะตรวจสอบชั้นต่อไปหลังจากเคลียร์ชั้นก่อนหน้าได้แล้ว จากนั้นก็กลับ

“เย้ฮ่าฮ่า นายแว่น ? นายเห็นไอ้นั่นปะ ?” (มาซาคาโดะ)

สิ่งที่ มาซาคาโดะชี้ก็คือบันไดทางไปชั้น 3  ― ซึ่งมีคบไฟขนาดใหญ่เผาไหม้ส่องสว่างอยู่

การมีอยู่ของบันไดตรงนั้นราวกับต้องการจะเชื้อเชิญพวกเรา

“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ก็ไม่จำเป็นต้องสำรวจพื้นที่นี้แล้วนี่หน่านี่มันใช่โดเมนแห่งเดียวกันกับชั้นเมื่อกี้หรือเปล่านะ?

ถ้าเอาตามหลักการแล้ว พวกเราควรถอยกลับไป แล้วทบทวนแผนกันใหม่ แต่ว่า …” (ฮิเดยะ)

“เย้ ฮ่าฮ่าอะไรของนายน่ะนายแว่น? พูดเป็นเล่นน่า ?

ฉันน่ะไม่อยากวนไปวนมาในชั้นแรกอีกแล้วนะ  ?” (มาซาคาโดะ)

“ฮิเดยะ, ฉันคิดว่าเราควรจะเดินหน้าต่อ

ตอนนี้ถือว่า ยังดีอยู่ที่ไม่มีใครบาดเจ็บอะไรแม้จะผ่านชั้นแรกมาได้แล้ว ในเมื่อเป็นแบบนี้ไปต่อก็คงไม่มีปัญหาหรอก ” (ยูยะ)

“รุ่นพี่อันโดคะ … หนูไม่ชอบที่จะต้องผ่านชั้นแรกหลายๆชั้นซ้ำแล้วซ้ำอีกค่ะ ” (ซาโอริ)

มาซาคาโดะ, ยูยะ, รวมถึงซาโอริแนะนำให้เดินหน้าต่อ

รุ่นพี่อันโดห่อไหล่ราวกับเจอปัญหาอยู่

“อันที่จริง … ตามปรกติแล้วเราจะทำการสำรวจแผนที่หลายๆครั้งก่อน , แต่เนื่องจากการเคลียร์ชั้นไปแล้ว เรายังสามารถพักฟื้นฟูร่างกายได้

แถมตอนนี้พวกเรายังพอมีแรงเหลือที่จะสู่ชั้นต่อไป

ดังนั้น  ― ในเมื่อผู้คนต่างอยากให้พวกเราปลดปล่อยโดเมนให้เร็วที่สุด เพื่อผลประโยชน์ของพวกเราเอง เราก็จะเดินหน้าต่อ !” (ฮิเดยะ)

“เย้ ฮ่าฮ่า” (มาซาคาโดะ)

“ยอดไปเลย !” (ยูยะ)

“เยส!”

“เข้าใจแล้ว ”

“รับทราบ”

พอได้ยินรุ่นพี่อันโดพูด สมาชิกทุกคนก็เห็นด้วยกับเรื่องนั้น

ส่วนตัวฉันก็ไหลตามกระแสและร่วมมือในการเคลียร์ชั้น

3 ชั่วโมงผ่านไปหลังจากที่พวกเราเริ่มการเคลียร์ชั้นสอง

แม้กูลจะขยับทื่อไม่มีลูกเล่นแต่มันแรงเยอะและอึดมาก

หมาป่าเองก็สู้เป็นกลุ่มอย่างคล่องแคล่ว แม้จะโดนโจมตีทีเดียวจอด อีกทั้งยังมีฝูงธนูยิงมาจากแนวหลัง พวกเราค่อยๆอ่อนล้า และบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ

ฉันคิดว่าน่าจะเหลืออีก 1 กิโลเมตรกว่าจะไปถึงชั้นสาม แต่มันก็เป็นหนทางที่ยาวไกล

6 ชั่วโมงต่อมาหลังจากที่เริ่มเคลียร์ชั้นสอง

หนึ่งในคนแบกของของพวกเราตายระหว่างทาง

ฉันชักสงสัย นี่พวกมอนสเตอร์ทำตามคำสั่งอะไรอยู่หรือเปล่า ?  เพราะหากมุ่งเป้าไปที่ทีมปาร์ตี้และคนแบกของที่อยู่แนวหลัง พวกนั้นจะสามารถโจมตีเราได้จากด้านหลัง รวมถึงซ้ายและขวาด้วย

ตอนนี้พวกเรามาอยู่กึ่งกลางทางไปยังชั้น สามแล้ว มั้ง

เพราะระยะทางจากที่พวกเราเริ่มเคลียร์ โดยขนาดของคบไฟ กับตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่ามันเท่าเดิมเลย

หากยังคืบหน้าไปด้วยความเร็วเท่านี้ต่อไปมีอันตรายแน่ๆ แต่พอมองย้อนกลับไปทางเดิมที่เราผ่านมา แม้แต่ตรงบันไดชั้นสองขึ้นชั้นหนึ่งก็เต็มไปด้วยมอนสเตอร์

เดินไปข้างหน้าก็มีแต่นรก หันหลังกลับก็ไม่ต่างกัน

พวกเราอาจตัดสินใจผิดก็ได้ ที่พวกเราเลือกที่จะไม่ยอมถอย

“ฮิเดยะ! เราควรทำไงดีล่ะ? กลับดีไหม ?” (ยูยะ)

“อ่า …สถานการณ์แบบนี้น่ะ…” (ฮิเดยะ)

“เย้ฮ่าฮ่า , เลิกเสียเวลากับตรงนี้เหอะน่า ! ไปต่อ จะได้ไปยังพื้นที่พักผ่อนเหอะ !” (มาซาคาโดะ)

ยูยะที่กำลังรอคำตอบ กับรุ่นพี่อันโดที่ลังเลจะตอบออกมา

สุดท้ายแล้วพวกเราก็มุ่งต่อไปตามคำพูดของ มาซาคาโดะ

10 ชั่วโมงผ่านไปนับตั้งแต่ที่พวกเราเคลียร์ชั้นสอง

คนแบกของ ของพวกเราสองคนตาย

“นี่แหละทำไมฉันถึงได้บอกว่าเราควรจะกลับยังไงล่ะ !” (ยูยะ)

“หาาาา? แกไม่เคยพูดแบบนั้นด้วยซ้ำไม่ใช่รึไงวะ !?” (มาซาคาโดะ)

ยูยะ กับ  มาซาคาโดะเริ่มทะเลาะกันท่ามกลางฝูงกูล

มาซาคาโดะเสียมาดนิ่งสงบสุดคูล

“กรี๊ดดด !?  นี่ รินะ! ปกป้องฉันหน่อยสิ !?” (ซาโอริ)

ซาโอริ, ที่โดนหมาป่ากัดกลับมาโมโหใส่ฉัน

“ฉันพูดเว้ย ! ฉันแน่ใจว่า ฉันพูดแน่ๆ !” (ยูยะ)

“หา ? แกเองไม่ใช่รึไง ที่ตอนแรกก็พูดว่า ถ้าเป็นแบบนี้พวกเราหนีเมื่อไหร่ก็ได้ !? แล้วดูรอบตัวแกตอนนี้สิ !” (มาซาคาโดะ)

“ใจเย็นน่า ทั้งคู่เลย !” (ฮิเดยะ)

“หา ? มันก็เริ่มมาจากนายไม่ใช่รึไง นายแว่น มันเป็นความผิดของนายที่ทำตัวโลเลเหลาะแหละนั่นแหละ!?” (ยูยะ & มาซาคาโดะ)

การทะเลาะของ ยูยะกับมาซาคาโดะลุกลามไปยังรุ่นพี่อันโดที่พยายามจะห้ามทั้งคู่

พอความเหนื่อยล้าตึงเครียดมาถึงจุดสูงสุด

พวกเราก็เริ่มพูดจาแย่ๆใส่กันหนักขึ้น

นี่มันแย่ที่สุดเลย … พวกเราที่ถูกยกยอให้เป็นดั่ง 『ฮีโร่ 』 บ้างล่ะ 『ผู้กล้า 』 บ้างล่ะ จากคนรอบข้าง แต่ในความเป็นจริง…พวกเรามันก็แค่เด็กน้อยที่หลงมัวเมาไปกับภาพฝันที่ปั้นแต่งให้เป็นผู้กล้าผู้ปลดปล่อย

เหลืออีก 500 เมตรที่จะไปถึง บันไดชั้น สาม

สิ่งที่เฝ้ารอพวกเราอยู่ข้างหน้าต่อจากนี้คือ ความหวัง หรือ ว่า ――

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด