บทที่ 5 สตาร์คอินดัสตรี้ส์ เวิลด์เอ็กซ์โป
ตอนที่ลุคและบัคกี้ออกมาจากบ้านของโรเจอร์ ตะวันกำลังเลื่อนคล้อยใกล้ตกดินแล้ว
แสงยามเย็นอาบไล้ทั่วเมืองนิวยอร์ก ย้อมตึกระฟ้ารอบด้านไว้ด้วยแสงสีทองเรื่อ
“ในอนาคตนายต้องดูแลตัวเองให้ดี ฉันกับลุคอาจอยู่ช่วยตรงนั้นไม่ได้ทุกครั้งไปนะ” บัคกี้ตบไหล่ของโรเจอร์ส ขณะที่ชายหนุ่มร่างบางรู้สึกทำตัวไม่ถูก เลยยืนเงียบกริบไป
รอยแผลบนใบหน้าของเขาไม่ได้หนักมาก พอเช็ดทำความสะอาดแล้วเหลือเพียงรอยฟกช้ำจางๆเท่านั้น
ทั้งสามคนสวมเสื้อผ้าดีๆ และมุ่งหน้าไปที่งานเวิลด์เอ็กซ์โปของสตาร์คอินดัสตรี้ส์
ระหว่างทาง สตีฟขมวดคิ้วขณะพูดว่า
“ฉันเองก็อยากเข้าร่วมกองทหารราบที่ 107 เหมือนกับนาย นายก็รู้ พ่อเคยสังกัดกองร้อยนั้นมาก่อนนี่นา” เขายังคงไม่เต็มใจที่จะอยู่ข้างหลัง
พอโดนโฆษณาปลุกใจเข้าทุกทางอย่างในช่วงนี้ ทำให้วัยรุ่นมากมายหลงใหลใฝ่ฝัน อยากไปออกศึกเพื่อคว้าตราเกียรติยศกันยกใหญ่
โรเจอร์สและบัคกี้เป็นหนึ่งในนั้น
เมื่อเทียบกับบัคกี้ที่มีรูปร่างปกติ โรเจอร์สนั้นผอมหนักไม่ถึงร้อยปอนด์ และมีอาการหอบหืดเล็กน้อย
ดังนั้นแม้ว่าเขาจะได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมกองทัพ เขาวิ่งแตค่ไม่กี่กิโลก็หมดแรง นี้อาจจะทำให้เขาตายได้เพราะร่างกายที่อ่อนแอของเขา
ร่างกายของเขาทำให้เขาไม่สามารถเข้าร่วมกองทัพ แม้ว่าโรเจอร์สจะเปลี่ยนที่อยู่และปลอมแปลงตัวตนของเขาทุกครั้งที่ไปที่สถานีเกณฑ์ทหารเพื่อหาโอกาสในการเข้าร่วมกองทัพ
การประเมินทางการแพทย์ของเขากลับกลายเป็น 4F ซึ่งเป็นคะแนนที่แย่ที่สุด
ลุคที่เดินตามหลัง เอามือล้วงกระเป๋า ยิ้มพร้อมกับพูดว่า
"โอกาสนะเกิดขึ้นเสมอ"
ในใจคิดแค่ว่าจะหาทางหยิบฉวยเซรุ่มซูเปอร์โซลเจอร์นั้นมาเป็นของตัวเองได้ยังไงก็เท่านั้น
การออกกำลังกายเป็นประจำของเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้แถบความคืบหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 99% และอยู่ห่างจากความสำเร็จอีกแค่เสี้ยวเดียวเท่านั้น
สัญชาตญาณบอกลุคว่าเขาต้องการแรงกระตุ้นพิเศษที่แข็งแกร่งเพื่อให้แถบความคืบหน้าเป็น 100%
ในปัจจุบัน สิ่งที่ง่ายที่สุดและน่าจะได้ผลที่สุดสำหรับเขาคือเซรุ่มซูเปอร์โซลเจอร์
ในฐานะคนข้ามมิติที่เข้าใจทิศทางของโครงเรื่องคร่าวๆ ลุครู้ว่าคืนนี้จะต้องเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของสตีฟ โรเจอร์ส
ชายร่างเล็กคนนี้กำลังจะไปพบกับดร.อับราฮัม เออร์สกิน นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันผู้พยายามลี้ภัยในพันธมิตรและเป็นผู้ประดิษฐ์เซรุ่มซุปเปอร์โซลเยอร์
เขาประทับใจคำพูดจากใจจริงของสตีฟ โรเจอร์และเจตจำนงอันแรงกล้า และให้โอกาสเขาเข้าร่วมกองทัพ
ต่อมาที่ฐานทัพทหาร โรเจอร์สได้รับเลือกให้เป็นผู้รับเซรุ่มซุปเปอร์โซลเยอร์
'ฉันควรจะเอามันดีหรือเปล่า?' ลุคที่เดินอยู่ข้างหลังยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
ถ้าเขาสามารถเติบโตแข็งแกร่งขึ้นอย่างเงียบๆ เขาคงไม่มีความคิดเช่นนั้น และเขาจะไม่มีทางเข้าร่วมกองทัพแน่นอน
หลังจากที่ทุกสนามรบเต็มไปด้วยกระสุนและอันตรายอย่างต่อเนื่อง
แม้แต่กัปตันอเมริกาและวินเทอร์โซลเยอร์ก็ไม่ปลอดภัยทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ความล่าช้าของสูตรโกงของเขาทำให้ลุคปวดหัว
ไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ เขาต้องเดิมพันครั้งนี้
ขณะที่ลุคฟุ้งซ่าน เขาเดินตามโรเจอร์สและบัคกี้ไปที่บาร์ตรงหัวมุมโดยไม่รู้ตัว
ผู้คนมากมายอยู่ที่บาร์ สั่งเบียร์และของว่าง พูดคุยกันไม่หยุด รอเฝ้าเวลาเข้าชมงานเวิลด์เอ็กโปโดยสตาร์คอินดัสตรี้ส์
โรเจอร์สยังคงดูบูดบึ้งเล็กน้อยและยังไม่ได้ปัดเป่าความคิดที่จะเข้าร่วมกองทัพ
บัคกี้ไม่ได้สังเกต เขากระตือรือร้นที่จะเอาชนะชาวเยอรมันและนำชัยชนะมาสู่ฝ่ายสัมพันธมิตร
"ไปกันเถอะ ฉันรู้จักสาวสุดฮอต!”
หลังจากดูเวลาแล้วบัคกี้และโรเจอร์สก็ออกจากบาร์
ท้องถนนด้านนอกมืดสนิท และมีเพียงสถานที่จัดงานเวิลด์เอ็กซ์โปเท่านั้นที่แสงสีไสวระยิบระยับเป็นพิเศษ
ยุคนี้ถือว่าสงครามโลกครั้งที่สองกำลังเข้มข้นสุดๆ
เช่นเดียวกับประเทศในแถบยุโรป สหรัฐเองก็ไม่พ้นเงามืดที่แผ่ขยายของสงคราม ต้องประกาศนโยบายจำกัดการใช้ไฟฟ้าอย่างเคร่งครัด เพื่อนำกระแสไฟฟ้าไปรองรับกิจการอื่นสำคัญกว่า
แสงสียามราตรีตามป้ายหลากสีสันต่างๆ ถูกสั่งยับไม่ให้เปิดช่วงกลางคืนเลย เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน
ทุกคืนเมืองจะตัดกระแสไฟฟ้าเป็นครั้งคราวเพื่อจัดลำดับความสำคัญและจัดหาไฟฟ้าให้กับฐานทัพทหารและหน่วยงานของรัฐ
แม้แต่นิวยอร์กก็ไม่มีข้อยกเว้น
อย่างไรก็ตาม ในคืนนี้เนื่องจากงานเวิลด์เอ็กซ์โปของสตาร์คอินดัสตรี้ส์กองทัพได้ผ่อนคลายข้อจำกัดอย่างมาก มิฉะนั้น ชาวนิวยอร์กจะไม่เห็นฉากที่สว่างไสวเช่นนี้
"มีชีวิตชีวาดีแฮะ" บัคกี้ยิ้มเมื่อเข้าไปในสถานที่จัดงาน
ถ้าชอบล่ะก็ไปกดติดตามที่เพจหน่อยนะฮับ Thebigcattrans แมวหยิบมาแปล
คอมเม้นกันเยอะๆหน่อยน้า~~